ถ้างั้น พวกนักบอลโรงเรียนก็ต้องเกรดเกิน 3.5 ด้วยสิ แต่ดันมีโควต้านักบอลที่ผลการเรียนไม่ค่อยดี งงป่ะ

เห็นด้วยว่ามีเกณฑ์เกรดหน่อยก็ดี แต่ 3.5 มันโหดเกิน ซัก 2-2.5 มันยังพอไหวอยู่

เห็นด้วยเรื่องเกรด แต่ 3.5 มันเวอร์ไปหน่อย

การให้โอกาสเด็กได้ลอง e-sport ดีก็จริง แต่จะมีสักกี่เปอร์เซ็นที่ยึดเป้นอาชีพหลักได้จริงๆ
เด็กคนที่ไม่สามารถไปถึงจุดนั้นได้ ถ้าเขาทิ้งการเรียนไปเลย ทางเลือกก็จะน้อยลงไปเยอะมาก

เห็นด้วย แต่3.5เยอะไป

ก้เหมือนกับสแลมดั๊ง ไม่ผ่านสอบ ไม่ได้แข่งบาส แต่อันนีั้นคงไม่ตั้งเกรดสูงขนาดนี้

ไม่เห็นด้วย คือคนตั้งกฎนี้ผมว่าสับสนนะ เหมือนเขายังไม่แยกระหว่างเล่นเกมส์เพื่อบันเทิง กับ อีสปอร์ต

อย่างหลังเนี่ย มันเหมือน "นักกีฬา" แล้วด้วยซ้ำ ต้องมีการแข่งขัน มีตารางฝึก มีวินัย แน่นอนว่ามีความเครียดแน่ๆ ไม่ได้มาเล่นเอามันส์

ถ้ากำหนดอีสปอร์ต ถามว่าแบบนี้ต้องกำหนดให้นักกีฬาทีมชาติกีฬาอื่นๆ ต้องเกรด 3.50 ด้วยมั้ย?

คือโอเคแหละ การกำหนดเกรดมันก็เป็นอะไรที่ไม่ได้แย่มากนักหรอก แต่ควรจะลดลงมาหน่อย ซัก 2.75 ก็ได้ หรือไม่ก็แค่ไม่ให้การเรียนเสียก็พอ

ถ้าผู้ใหญ่หรือใครก็ตามที่ตั้งกฎยังไม่เปลี่ยนมายเซทตรงนี้ แนวทางอีสปอร์ตบ้านเราก็จะประหลาดๆแบบนี้ไปเรื่อยๆเนี่ยแหละ

มากไป เอาแบบอเมริกาอ่ะ คือผ่านทุกวิชาพอ ถ้ามีF ไม่ส่งงานแข่งไม่ได้ แบบนี้ดีกว่าคือเอ็งไม่ต้องเรียนเก่ง
แต่ต้องทำงานส่งทุกงานให้ครบ สอบตกก็สอบซ่อมเอา วิธีนี้ต่อให้คุณโง่ที่สุดในโรงเรียนเกรดคุณก็2ครับ

ยุคผมเป็นยุคที่พึ่งเปลี่ยนให้คะแนนส่งงานมันเยอะกว่าสอบ ส่งงานทุกชิ้นสอบซ่อมทุกวิชายังไงก็ได้เกรด2

ไม่แฟร์ ถ้างั้นนักกีฬาก็ต้องจำกัด E-sports ก็เป็นกีฬาอย่างนึงเหมือนกัน

ตอนผมเรียน กิจกรรมต่างๆมันก็มีการกำหนดคุณสมบัติผู้เข้าร่วมอยู่เป็นปกตินี่ครับ ไม่ใช่เป็นฟรี open ทุกอย่าง เช่นการตอบปัญหาวิชาการ ผู้เข้าร่วมก็ต้องมีความเก่งผ่านเกณฑ์เฉพาะในเรื่องนั้นๆ การแข่งขันร้องเพลง การแข่งขันกีฬาต่างๆ

เรื่องแข่งอีสปอร์ตก็เช่นกัน มันก็ไม่แปลกที่จะมีการกำหนดคุณสมบัติผู้เข้าร่วม แต่การใช้เรื่องเกรดเฉลี่ยอาจจะไม่ตรงจุดเท่าไหร่นัก

อาจจะจำเป็นนะ ถ้า ดาเมจเวทที่ลงไป มันเป็นสมการกำลัง 2 แล้วเรามีบัพจากของในตัวอีกเป็นสมการไฮเปอร์โบลิก พาราโบลอย พอคลิกใส่ต้องไปหักกันเวทย์ของเขาอีกเท่ากับรูท 5 ถ้าฝั่งตรงข้ามเป็นพวกธาตุทรานสิชันที่แข็งแรงมากก็จะหน่วงเวลาทำให้อาจหนีออกตัวการวินวอคหรือบลิ๊งค์ได้

ในความจริงคิดเป็นแค่เปอร์เซ็นต์ ไม่ก็เลขตายตัว เรียนเอาแค่คิดพวกนี้ได้ก็พอแล้ว

แต่ส่วนหนึ่งต้องเข้าใจว่าแข่งกับเล่นไม่เหมือนกัน ถ้าแข่งมันก็ต้องจริงจัง ต้องเข้าถึงโลจิคกลยุทธ์ของเกมส์ การเรียนก็ได้เปรียบกับการเอามาวิเคราะห์ และความเข้าใจเกมส์ สถิติ โอกาสต่างๆ อย่าลืมว่าเกมส์ มันต้องใช้คณิตเสมอ

ไม่เห็นด้วย สมมุติผมเกรด 2.00 แต่เล่นโคตรเก่ง ชนะใอตัวเกรด 4.00 ตลอด แต่ผมไม่ได้สิทธิ์ เพราะเกรดไม่ถึง 3.50

ถามว่า ผมผิดอะไร การเรียนผมตกเหรอ? ถึงผมจะการเรีบนตก แต่มันก็ไม่ควรเอามาปนกับสิทธิ์ที่เด็กพึงได้ไหม แค่ผมไม่เก่งวิชาการเท่าใอเด็กเกรด 4.00

ถ้าเปรียบเป็นนักฟุตบอล โรนัลดินโญ่กลับชาติมาเกิดที่เมืองไทย พาสกิลฟุตบอลกลับชาติมาเกิดด้วย ได้เกรด 1.5 ตกเกือบทุกวิชา อดได้ไปคัดตัว เพราะผู้บริหารบอกแบ่งเวลาเรียนไม่เป็น โควต้านั้นได้ ติอาโก้ เบเบ้ ไปแทน เพราะเรียนเก่ง เกรด 4.00

พอเข้าใจเหตุผล แต่3.5นี่ก็เยอะไป๊ มันเกรดของเด็กที่ต้องทุ่มทุกอย่างให้การเรียนแล้ว อันนี้มันแค่จะออดิชั่นเพื่อผ่านไปความถนัดที่เฉพาะทางมากๆอีกทางนึงเลย ตัดที่เกรดสูงขนาดนี้เหมือนตั้งใจไม่ให้ไปอะ 2.5 ไรงี้พอแล้ว

เห็นด้วยกับการมีเงื่อนไขบางอย่าง จริงๆมันคือการสอนเด็กเรื่องกระจายความเสี่ยงนะ ทุ่มเวลาไม่เอาการเรียนเพื่อเป็นนักกีฬา ถ้าไม่biasedก็คงเห็นว่ายากชนาดไหน แต่3.5ก็แอบเยอะไปนะ จริงๆสำหรับผมคือห้ามเด็กติด0แข่งก็น่าจะเพียงพอ ติด0สมัยเรียนนี่คือไม่เอาอะไรเลยจริงๆ

เรียนดีคือ ตั้งใจเรียน
เล่นเกมส์เก่งคือ ตั้งใจเล่นเกมส์ไง
ความตั้งใจมันก็ดีทั้งคู่ ดีซะอีกอาจจะได้เสริมความมั่นใจให้เด็กที่เรียนไม่ดีว่าเออชั้นก็มีอีกเรื่องมีทำได้ดีนะ
เรียนไม่ดี กีฬาดี โดนชื่นชม ดนตรีดี โดนชื่นชม กิจกรรมดีก็ชื่นชม พอเล่นเกมส์จ้องจะด่ากันละ

สมมุติลูกผมมานั่งเครียดอะไรแบบนี้คงบอกเค้าว่าให้เลิกเรียนได้

อยากไปทางไหนก็ลองไปให้มันสุด

อย่าเอาอย่างพ่อ ก๊งเหล้ากับเพื่อนทีไรก็บ่นเรื่องไม่ทำตามความฝันทุกครั้ง

เล่นคัดแต่พวกเรียนเก่งดีๆมาทางนี้ ก็กลายเป็นว่าวงการวิชาการขาดบุคลากรอีก แล้วไปแย่งงานกะคนที่เค้าถนัดทางนี้แต่ไม่ถนัดเรียนอีก

จริงๆก็ไม่เห็นต้องทำอะไรให้แปลก ทรีทมันแบบงานอดิเรกด้านอื่นๆก็จบ ไม่ต้องสะดิ้งมาก

การที่โลกเราสนับสนุนกิจกรรมโน่นนี่นั่น ให้เกิดขึ้นมาเป็นอาชีพได้

ก็เพื่อสร้างโอกาสให้คนที่มีความสามารถหลากหลาย มีอาชีพ มีงาน มีรายได้ ไม่ใช่หรอ

ถ้าคุณจำกัดเกรด 3.5 ถึงแข่ง eSport ได้ ผมว่ามันเข้าข่าย Winners take all อะ

ถ้าเรียนเกรดถึง 3.5 จะแข่งeSportก็ได้ แข่งโอลิมปิกวิชาการก็ได้ เอาผลงานไปยื่นเข้าคณะแพทย์ก็ได้

สุดท้ายก็ไม่ได้พัฒนาบุคลากรของประเทศอะไรเลย แค่เพิ่มทางเลือกในชีวิตให้คนที่เรียนเก่งอยู่แล้ว แค่นั้น


ควรคิดว่าจะทำยังไงถึงทำให้คนทุกคนไม่ว่าจะเรียนเก่งหรือไม่เก่ง มีที่ยืน มีทางเดินที่สวยงาม มากกว่า