ไม่ใช่แค่มีบัตรนักข่าวแล้วเข้าไปถามได้เลย มันไม่ใช่ พวกนี้มันมีฝ่ายกรองคำถามก่อนถาม โดยเฉพาะแถลงอย่างเป็นทางการ ต้องส่งคำถามมาให้ดูก่อนว่าเขาจะอนุญาตให้ถามไหม ไหนถ้าเกิดถามนอกกรอบคำถามที่ส่งไป เขาก็ไล่ตะเพิดไม่ให้ถามครั้งถัดไปทันที มันมีเหตุการณ์แล้วนะครับ ที่ประยุทธไล่นักข่าวที่อนุญาตให้สัมภาษณ์ในทำเนียบออกมา เพียงแค่เพราะนั่งไขว้ห้างต่อหน้า แล้วถ้านักข่าวคนใดโดนไล่ตะเพิด มันก็เสี่ยงที่จะโดนต้นสังกัดไล่ออกซ้ำอีกที เพราะ นักข่าวที่เข้าไปสัมภาษณ์ในสถานที่ราชการ คงไม่ใช่นักข่าวอิสระตาม facebook นะครับที่ไม่ต้องแคร์ใคร

ผมเห็นใจนักข่าวภาคสนามพวกนี้ บางทีก็ไม่ได้อยากมา แต่มีตำแหน่งว่างแค่ตรงนี้ก็เลยต้องมาทำ บางทีอยากจะไล่บี้ แต่ต้องเก็บอาการไว้เพื่อปากท้องตัวเองและครอบครัว อันนี้ต้องนึกถึงใจเขาหน่อย เขาไม่ใช่นักต่อสู้อย่างเราๆ เป็น เขาประกอบอาชีพ

ถ้าถามระหว่างเดินทาง อันนั้นเราลักไก่ถามได้ แต่ก็เสี่ยงเหมือนกันถ้าพวกหัวหน้าบริษัทข่าวเขาไม่ปลื้ม ถ้าพวกนี้มีอารมณ์ฉุนเฉียว แล้วทำคำสั่งลงมา

ด้วยเหตุผลนี้เอง ประเทศไทยจึงไม่มีข่าวเชิง "สืบสวนสอบสวน" มานานมากแล้ว
ไม่ต้องไปเทียบกับต่างประเทศให้เสียเวลา

เอาแค่เทียบกับคนยุคก่อนอย่าง กุหลาย สายประดิษฐ์ สุภา ศิริมานนท์
หรือ เจ๊ยุ ผู้ล่วงลับ แค่นี้นักข่าวยุคนั้นกับยุคนี้ก็ต่างกันมาแล้ว

แต่ข้อจำกัดที่คุณยกมาทั้งเรื่องระเบียบของทำเนียบ ปากท้อง ตกงาน
ไม่ใช่แค่นักข่าวหรอก มันก็ทุกอาชีพทั้งนั้นที่มันต้องต่อสู้กับความอยุติธรรม

แต่นักข่าว โดยอาชีพมันก็บอกอยู่แล้วว่าคือ การเปิดเผยความจริงสู่สาธารณะ

ถ้ารับความเสี่ยงนี้ไม่ได้ก็ควรไปทำอาชีพอื่น

และอย่าแปลกใจที่ตอนนี้ สำนักข่าวใหญ่จำนวนมาก
พึ่งพาคลิปข่าวจาก สื่อออนไลน์ที่คุณหมายถึงก็คือ นักข่าวอิสระตาม Facebook
พวกนั้นมีจรรยาบรรณมากกว่านักข่าวสื่อใหญ่เสียอีก

ย้ำอีกทีเราเข้าใจที่คุณสื่อเลยว่า นักข่าวสมัยนี้ติดเงื่อนไขเยอะในการนำเสนอความจริง
แต่ไม่ควรเป็นข้ออ้างให้เรา "ทรยศ" ต่อวิชาชีพ

อันนี้ต้นเรื่องมาจากไหนครับ แล้วประเด็นที่นะสื่อคืออะไร ผมอ่านแล้วงง

ถ้าถามอะไรไม่ได้ ก็ไม่ต้องไปทำข่าวมัน ปล่อยช่องที่อวยมันเข้าไปเลียกันให้เต็มที่ไปเลย อยากเขียนข่าวอวยยังไงก็ตามสบาย ข้อเท็จจริงมันเห็นกันตำตาอยู่แล้ว คนไม่คิดจะเบิกตาดูหรือแหกสมองคิด ให้จริงยังไงมันก็ไม่เชื่ออยู่ดี

ด้วยเหตุผลนี้เอง ประเทศไทยจึงไม่มีข่าวเชิง "สืบสวนสอบสวน" มานานมากแล้ว
ไม่ต้องไปเทียบกับต่างประเทศให้เสียเวลา

เอาแค่เทียบกับคนยุคก่อนอย่าง กุหลาย สายประดิษฐ์ สุภา ศิริมานนท์
หรือ เจ๊ยุ ผู้ล่วงลับ แค่นี้นักข่าวยุคนั้นกับยุคนี้ก็ต่างกันมาแล้ว

แต่ข้อจำกัดที่คุณยกมาทั้งเรื่องระเบียบของทำเนียบ ปากท้อง ตกงาน
ไม่ใช่แค่นักข่าวหรอก มันก็ทุกอาชีพทั้งนั้นที่มันต้องต่อสู้กับความอยุติธรรม

แต่นักข่าว โดยอาชีพมันก็บอกอยู่แล้วว่าคือ การเปิดเผยความจริงสู่สาธารณะ

ถ้ารับความเสี่ยงนี้ไม่ได้ก็ควรไปทำอาชีพอื่น

และอย่าแปลกใจที่ตอนนี้ สำนักข่าวใหญ่จำนวนมาก
พึ่งพาคลิปข่าวจาก สื่อออนไลน์ที่คุณหมายถึงก็คือ นักข่าวอิสระตาม Facebook
พวกนั้นมีจรรยาบรรณมากกว่านักข่าวสื่อใหญ่เสียอีก

ย้ำอีกทีเราเข้าใจที่คุณสื่อเลยว่า นักข่าวสมัยนี้ติดเงื่อนไขเยอะในการนำเสนอความจริง
แต่ไม่ควรเป็นข้ออ้างให้เรา "ทรยศ" ต่อวิชาชีพ

อย่างที่คุณช่อเคยพูดไว้ เดี๋ยวนี้ทหารไม่ต้องมีควบคุมอะไรแล้ว สื่อมันเซนเซอร์ตัวเองให้เรียบร้อย

http://www.soccersuck.com/boards/topic/2190228 ตามนี้ครับ แต่ผมกล่าวโดยทั่วไปไม่ใช่เรื่องนี้ นักข่าวที่ถามจี้เก่งๆ เขาก็ไม่ให้เข้ามาสัมภาษณ์ได้หรอกครับ ถ้าเขาสามารถกรองก่อนได้ ยิ่งเป็นทางการ มีเวลาคัดเลือกคนมาร่วมงาน เขากรองแล้วกรองอีกแน่นอน

ทำข่าวในทำเนียบ
นอกจากมีบัตรขององค์กรแล้ว
ยังต้องมีบัตรทำเนียบด้วยครับ

ส่วนใหญ่คำถามกว้างๆที่เป็นประเด็นก็ถามได้นะ
ยกเว้นจะไปขยี้ให้ตู่สตั้นก็จะโดน...บลาๆ

แล้วที่ท่านจะสื่อคืออะไรครับ
ให้ประชาชนเข้าใจนักข่าวที่ถามเจาะลึกไม่ได้?

เข้าใจถึง " ใจเขาใจเรา " ไงครับ เข้าใจที่เขาทำไมไม่ถามจี้ เห็นความจริงที่เกิดขึ้น ความคิดเห็นก่อนคุณตอบโควท นั่นก็หลักฐานยืนยันที่ผมพูด เพราะ เขาเป็นนักข่าว

สรุปคือนักข่าว หรือนัก PR ครับ จะถามอะไรก้ต้องผ่าน script ประเทศมันเลยไม่ไปไหนสักที หน้าที่นักข่าวมันคือการตีแพร่ เรื่องราวต่างๆ นักข่าวก็จะถามคำถาม แทน ปชช นะแหละ แต่ประเทศเรามันเพี้ยน แต่อย่างว่า ประเทศเรามันเคยชินกับการรับข้อมูลด้านเดียว สวยๆ ทุกอย่าง สุดยอดตลอด ทั้งๆที่มันกลวง

อย่างน้อยก็อยากให้สื่อถามเก่งถามย้ำเหมือนสมัยจี้จำนำข้าวจนคนตอบใบ้แดกอะ อยากได้เอนเนอจี้นั้น

ก็เปลี่ยนหมวด ข่าวการเมือง ไปอยู่ในข่าวบันเทิงแทน คนติดตามจะได้ไม่คาดหวังว่าจะได้สาระอะไรจากสำนักนั้นๆ

ทุกวันนี้สำนักข่าวใหญ่ๆ ไม่ค่อยหาข่าวเองหรอก ไปเอามาจากเจ้าอื่น คนอื่นในโซเชียลนี่แหละ แล้วก็มาต่อยอดเอา ยังกับดูพวก YouTuber ทำ รีแอค อันนี้นักข่าวหรือนักรีแอค

ผมเข้าใจว่าคำถามที่เค้าจะไม่อนุญาตให้ถาม น่าจะเป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวกับประเด็นในแถลงการณ์มากกว่านะครับ
เช่นแถลงการณ์น้ำท่วม จะไปบี้ปมถวายสัตย์ไม่ครบ แบบนี้มันก็ไม่มีกาลเทศะเท่าไหร่
แต่ถ้าเกี่ยวกับประเด็นน้ำท่วม เข้าใจว่านักข่าวก็มีสิทธิถามจี้ได้ทุกมุมแหละ

ส่วนประเด็นที่นักข่าวจะโดนเล่น อันนี้ก็ทำได้ยากมากขึ้นทุกวันนะครับ
ถ้ามีนักข่าวไปถามจี้ แต่ไม่ได้เกินเลย แล้วโดนเล่น โดนคำสั่งที่ไม่เป็นธรรม
สำนักข่าวต้นสังกัดสามารถเลือกเล่นข่าวนี้เองก็ได้เพื่อปกป้องความเป็นธรรม

หรือหากโดนไล่ออกจริงๆ เดี๋ยวนี้ก็มีทางเลือกมากมาย ตั้งแต่ Facebook ส่วนตัว ไปยันโหนกระแส
หรือให้ช่องที่กล้าชนก็ได้ เช่น Voice TV ซึ่งพร้อมชนให้อยู่แล้ว
ถ้าเป็นข่าวมาจริง คนไล่ออกรับผิดชอบไหวไหม ถ้ามีข่าว ช่องXไล่นักข่าวออกเพราะไปถามจี้นายก
หากเป็นการไล่จี้ที่ปกติดูแล้วไม่ได้เกินเลย รับรองช่องXโดนทัวร์ลงหนัก นักข่าวกลายเป็นคนดังแน่ๆ
เผลอๆไอ่คนที่ไปไล่เค้าออกจะโดนไล่ออกเองด้วยซ้ำ

แถมกระแสจะตีกลับไปที่นักการเมือง โดนจี้หนักไปอีกว่ามีคำสั่งให้ช่องXไล่ออกรึเปล่า
มีจริงไม่มีจริง นักข่าวก็เล่นข่าวกันได้สนุกมือสนุกปากเลยหละ
ไหนจะโดนขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆอีก ทีนี้คนที่โดนอะไรมา อาจจะมีตามมาอีกเป็นดอกเห็ด
มันจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดี๋ยว ชิบหายกันหมดวุ่นวายกันหมดได้

เพราะงั้นผมว่านักการเมืองสติดีดี หรือไม่ก็เหล่าที่ปรึกษาทั้งหลายคงมีปรามกันข้างหลังอยู่แล้ว
จังหวะนี้ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ไม่มีใครกล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแบบนั้นหรอก
เต็มที่ก็ส่งนักเลงไปรุมทำร้าย แล้วกล้องวงจรปิดดันเสียพอดี แต่เคสแบบนั้นผมว่ามันก็ต้องสุดจริงๆ
เท่าที่เห็นทุกวันนี้ ผมว่าคนก็รุมจี้กันทั้งนั้น มันไม่ใช่แค่คน2คนที่แหลมขึ้นมาโดดๆล่อเป้า

แต่มันคือความจริงที่ตลกร้าย ที่เราปฏิเสธไม่ได้ เพราะพวกเกี่ยวข้องกับเบื้องหลัง เขาอยากให้เราฟัง ไม่ได้ให้เราถาม ตามความคิดศักดินาที่ คนใหญ่คนโตทำอะไรไม่ผิด สงสัยได้แต่ห้ามพูด ห้ามแสดงกิริยา

ตรงกันข้ามที่คุณพูดเลย ตามที่ผมยกตัวอย่าง นักข่าวที่ไขว่ห้างต่อหน้าประยุทธ ผมไม่เห็นสำนักข่าวช่วยเหลือเธอเลยครับ ส่วนเรื่องขุดคุ้ย! มีใครขุดคุ้ยเรื่องนี้บ้าง เห็นลงข่าวไม่กี่วันก็เงียบจริงๆ



แต่ผมเห็นด้วยตามที่คุณบอก มันช่วยป้องกันให้นักข่าวพวกนี้ไม่ละทิ้งอุดมการณ์ ถ้ามีนักข่าวแบบนี้มากพอ ต่อให้เข้าไปสัมภาษณ์ไม่ได้ ก็ช่วยประโคมข่าวที่มีให้ประชาชนรับทราบ[/b]