มันต้องไล่ทุกแปลง ที่รุกล้ำ ถ้าไม่มีเอกสารสิทธิ์ หรือ ปลอมแปลงมา

ผิดก็คือผิดแหละ จะไปอ้างคนอื่นทำไม่โดนไม่ได้หรอก
เพราะผิดเหมือนกัน บางคนตำรวจเห็นก็โดน ตำรวจไม่เห็นก็ไม่โดน
เอาง่ายไม่ใส่หมวกกันน็อค ขับรถย้อนศร ตำรวจเจอก็จับ ปรับ
ตำรวจไม่เจอก็ผ่านฉลุย อย่างตั้งวงไฮโล ตำรวจไม่มาจับ มันก็ไม่มีปัญหา แต่ตำรวจมาก็ตัวใครตัวมัน
แค่คุณทำผิดก็ต้องยอมรับว่ามันผิด
ถ้าไม่อยากโดนก็อย่าทำผิด แค่นั้นเอง
"สิ่งที่ถูกต้องคือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดคือสิ่งที่ผิด แม้ทุกคนทำสิ่งนั้น" เป็นเช่นนั้น

เลือกปฎิบัติไงอะ งง

คนรวยกำลังจะสร้าง ไม่ถูกกฎหมายก็รีบระงับ
คนข้างๆ ก็กำลังโดนไล่ออกจากพื้นที่ เพราะไม่ถูกกฎหมาย (แต่รัฐดันหน้าบางเอง ไม่เข็มงวดกับกฎหมาย)

ก็เห็นว่ามีการระดับแล้ว ให้ออกจากพื้นที่เหมือนกัน
ที่บอกว่าเลือกปฎิบัติ มันแค่ละครบีบน้ำตาของเจ้าของรีสอร์ทนิ (ได้ผล ก็ยิ้ม ไม่ได้ผลก็ถือว่าลองแล้ว)


คนเราเหลื่อมล้ำกันทุกวินาที ตั้งแต่ยังไม่ทันเกิด แค่ประเทศนี้เหลื่อมมากหน่อย

ผมไม่รู้หรอกนะว่าที่ดินตรงนั้นมันกำหนดให้เป็นพื้นที่แบบไหน เค้าอาจกำหนดให้เป็นพื้นที่ทำเกษตร ไม่ให้สร้างสิ่งปลูกสร้างถาวร คือถ้ารัฐจะยึดคืนเมื่อไหร่มันก็ได้ไง แต่สิ่งปลูกสร้างถาวรจริงๆมันต้องไปขออนุญาตก่อนถึงสร้างได้ แล้วมันต้องมีโฉนดถูกต้อง เค้าถึงจะให้สร้าง ตอนนี้อาจจะยังไม่ได้ อนาคตก็อาจทำได้ ตัวเค้าเองอ่ะที่ใจร้อน แล้วที่ทำอยู่มันก็ไม่ถูกต้อง ก็ต้องยอมรับกันไป อย่าเอาเรื่องตัวเองไปเทียบกับคนอื่นดีกว่า เอาแค่ถูกหรือผิดตามกฏหมายแค่นั้นพอ

ผมคิดว่าเป็นไปได้สูงเลยครับ

จะเอาผิดในแง่ไหนละครับ

ถ้าเอาแบบรัฐไทย กฎหมายไทย เทคนิคทางกฎหมายไทย ก็คงมีสิทธิผิดสูงแหละครับ

ถ้าเอาตามกฎหมายระหว่างประเทศ ตามสังคมโลกที่ประเทศไทยไปขยัน ratify ยังไงพื้นที่ตรงส่วนนั้นก็ได้รับความคุ้มครองตามหลักการคุ้มครองชนเผ่าพื้นเมือง เคสแบบนี้ประเทศไทยไม่ได้มีที่แรก หลายประเทศก็มี แต่ประเทศที่รัฐธรรมนูญศักดิ์สิทธิ กับ ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ UN พื้นที่ของชนเผ่าพื้นเมืองได้รับความคุ้มครองในฐานะ ancestral domain

ถ้าเอาแบบ common sense โทษนะครับ อยู่ตรงนั้นมาตั้งนาน แค่ชนเผ่าที่ไม่ค่อยยุ่งกับโลกภายนอกไม่ไปทำเรื่องออกโฉนดกับราชการที่โดนไล่ที่เลยหรอครับ ไม่งั้นพวกคนจีนอพยพโดนหมดแล้วครับ สมัยอพยพมาใหม่ๆ ถางป่าเอาที่กัน แล้วค่อยไปให้ภาครัฐออกโฉนด นส.4 ให้ ลูกหลานนี่รวยที่กันกระจายเลยครับ

เห้อ

มันก็คนละมักกะโรนีนะ คือสิ่งปลูกสร้างถาวร กับทำการเกษตร ยังไงสิ่งปลูกสร้างมันสร้างความเสียหายกับธรรมชาติมากกว่าอยู่แล้ว ยังไงเป็นผมก็ต้องห้ามพวกสิ่งปลูกสร้างถาวรก่อน จากนั้นค่อยไปไล่เบี้ยกับเกษตรกร เพราะยังไงเกษตรกรก็ผิดแหละ แต่กระบวนการและการเจรจามันง่ายกว่า ถ้าพืชล้มลุกก็รอเก็บเกี่ยวแล้วห้ามปลูกใหม่อีก พวกพืชอย่างอื่นก็อาจจะต้องโค่น หรือถ้ามันอยู่กับธรรมชาติได้ก็ปล่อยมันไปแต่ห้ามเก็บเกี่ยว ซักพักเดี๋ยวธรรมชาติมันก็กลับมา แต่อย่างสิ่งปลูกสร้างนี่เอาง่ายๆ แค่ถมที่ไปก็เสียหายเยอะแล้ว ธรรมชาติกลับมายากแล้ว

ก็ต้องทำให้เหมือนกันทุกแปลง ปต่แค่ตอนนี้มันคือแปลงของคุณ

งั้นต้องให้สภาออกกฎหมายใหม่ ให้สอดคล้องกับสากลแล้วล่ะครับ
ถ้าใช้กฎหมายปัจจุบันมันก็ผิด

ที่ดินประเภทอะไรอะ
ภ.บ.ท.5 หรอ
ถ้าเป็นอันนี้มันทำเกษตรได้หนิ ก่อสร้างบ้านเรือนไม่ได้อยู่แล้ว
เลือกปฏิบัติตรงไหน ถ้าเป็นอันนี้ก็บอกเขา ว่าปลูกผักปลูกหญ้าเหมือนที่ดินข้างๆสิ

ประเภทอื่น แค่เอกสารการแจ้งเฉยๆ แม้จะเป็น ภบท 5 ก็ไม่ได้ครับ
อันนั้นแค่เอกสารการเสียภาษีเฉยๆ

มันจะผิดยังไง
เค้าอยู่มาก่อนประกาศเป็นเขตป่าสงวน

วันดีคืนดีมีคนมาเวนคืนที่ดินบ้านคุณ แล้วเอาไปทำสวนสาธารณะ คุณจะยอมไหมหละ แล้วที่ตรงนั้น ก็ฝั่งเกล่าบรรพบุรุษของท่านมาหลายรุ่นแล้ว

มันก็เหมือนกับ112แหละ มันมีส่วนที่ไม่เป็นธรรม แต่คนตัวเล็กมันก็ไม่มีปัญญาไปแก้

ถ้าบังคับใช้กฎหมายเหมือนๆกัน ปัญหาพวกนี้ไม่มีได้เกิด

อ่านเม้นแล้วกระตุกนิดๆแฮะ ต้องถามก่อนเลยมั้ยว่า กฏหมายข้อนั้นๆที่บัญญัติขึ้นมาคือเพื่ออะไร (หรือเพื่อใคร)

การเวนคืนชนกลุ่มน้อยที่อยู่มานานนี่ ได้ประโยชน์อะไร ถ้าไม่ทำจะมีผลอะไร

เข้าใจว่าจขกท.อยู่ในบทบาทเป็นผู้บังคับใช้กม.(ปัจจุบัน) แต่ก็อยากให้นึกถึงผลกระทบหลังการใช้กม.ด้วยอะ

ไม่งั้นจะเหมือนกับการเป็นคฝ หลับหูหลับตาทำตามสั่ง ไม่เหลือความเป็นมนุษย์เลย