กำเนิดดาวรุ่ง
Status:

: 0 ใบ

: 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Aug 2021
ตอบ: 143
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Aug 06, 2022 02:03
[RE: ขอถามเรื่องลิขสิทธิ์ที่บาร์ซ่าขายหน่อยครับ]
#ขอยกบทความเรื่องคันโยกของบาซ่า จากพี่เจมส์ ลาลิกา มาให้อ่านละกันนะครับ
เจาะลึกคันโยกเศรษฐกิจบาร์ซ่า และที่มาของความต้องการขาย เดยอง
บาร์เซโลน่า บรรลุข้อตกลงขายหุ้นลิขสิทธิ์ทีวีอีก 15% เป็นระยะเวลา 25 ปีให้กับบริษัทการลงทุนยักษ์ใหญ่ Sixth Street เรียบร้อยแล้ว
นับเป็นการขายหุ้นลอตที่ 2 ในรอบ 22 วัน หลังจากปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สโมสรตัดขาย 10% แรกให้กับ Sixth Street เช่นกัน
การขายหุ้นครั้งนี้ทำให้ บาร์เซโลน่า มีเงินสดเข้ามาอีก 400 ล้านยูโร ซึ่งเมื่อรวมกับเงินขายหุ้นลอตแรก เบ็ดเสร็จสโมสรรับไปทั้งสิ้น 607.4 ล้านยูโร
การขายหุ้นทั้ง 2 ลอตนี้ แม้ บาร์เซโลน่า จะได้เงินก้อนใหญ่เข้ามา หากแต่ก็ต้องแลกกับการสูญเสียผลประโยชน์ของตัวเองอย่างมหาศาลในอนาคต
ข้อแรก
มีการคำนวนออกมาว่าการขายหุ้นลิขสิทธิ์ทีวีลอตแรก 10 % ซึ่งได้เงินมาจำนวน 207.4 ล้านยูโรนั้น แท้จริงแล้วมูลค่าของหุ้นในตลาดปัจจุบันอยู่ที่ 267 ล้านยูโร ซึ่งหมายความว่า บาร์เซโลน่า ขายหุ้นในราคาที่ต่ำกว่าราคาประเมิน 59.6 ล้านยูโรเลยทีเดียว ส่วนลอตที่ 2 จำนวน 15% นั้น หากเทียบกับลอตแรก บาร์เซโลน่า ขายได้ตามมูลค่าในตลาดปัจจุบัน
ข้อสอง
บาร์เซโลน่า จะต้องเสียรายได้ 25 % จากลิขสิทธิ์ทีวีนับจากนี้ไปอีก 25 ปี ซึ่งถือว่าเป็นเม็ดมหาศาลทีเดียว
บาร์เซโลน่า มีรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ทีวีปีละ 165 ล้านยูโร หายไป 25% คิดเป็น 41.2 ล้านยูโรต่อปี สัญญาระยะ 25 ปี เท่ากับ 1,037.5 ล้านยูโร หักลบจากที่ขายได้ 607.4 ล้านแล้วขาดทุน 430 ล้านยูโร !!
ตรงส่วนนี้ทางบอร์ดบริหารเตรียมหาวิธีการแก้ปัญหาด้วยการพยายามสร้างรายได้จากส่วนอื่นเพื่อมาทดแทน
ทว่าตรงนั้นเป็นเรื่องของอนาคต เรามาว่ากันถึงปัจจุบันดีกว่า หลังการขายหุ้นลิขสิทธิ์ทีวี 2 ลอตรวม 25 % แล้ว สถานการณ์ของ บาร์เซโลน่า ดีขึ้นแค่ไหน ?
………………………………
กับ palanca (ปาลานกา) หรือที่บ้านเรานิยามว่า “คันโยกทางเศรษฐกิจ" ทั้ง 2 ครั้ง ทำให้ บาร์เซโลน่า ปรับบัญชีค่าใช้จ่ายของตัวเองจากติดลบ 550 ล้านยูโรกลับมาเป็นบวก ช่วยให้ทีมก้าวข้ามจากกฏ 4 ต่อ 1 (ลด 4 ส่วน อนุญาตใช้ได้ 1 ส่วน) มาเป็น 1 ต่อ 1 ในส่วนที่เกี่ยวกับการลงทะเบียนนักฟุตบอล
เล่ามาถึงตรงนี้ แฟนบาร์ซ่าหรือแฟนบอลทีมอื่นๆที่ตามข่าวคงแอบงงว่า “แล้วทำไม บาร์เซโลน่า ไม่ขายหุ้นทีเดียว 25 % ไปเลยล่ะ ? เพราะผู้ซื้อก็รายเดิม”
ขายขยักขย่อนแบบนี้ทำให้เสียเวลากันไปหมด โดยเฉพาะการเสียโอกาสในการดีลกับนักเตะที่หมายตาเอาไว้เพราะต้องรอเงิน อีกทั้งทีแรกบอร์ดบริหารก็ประกาศว่าจะขายหุ้นทีวี 25% อยู่แล้ว
ทีแรก ผมก็งงแบบนี้ล่ะครับ แต่พอเข้าไปหาข้อมูล ก็ได้ความว่าที่ต้องแบ่งขายเป็นลอต และลอตแรกขายแค่ 10% นั้นมันมีเหตุผลบังคับอยู่
เหตุเกิดจากเมื่อครั้งที่ ลาปอร์ต้า ชนะการเลือกตั้งเข้ามาทำงานใหม่ๆ ประมาณช่วงต้นเดือนมีนาคม 2021 สโมสรได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้ไม่มีเงินสดเลย แต่ต้องหาเงินมาจ่ายค่าเหนื่อยนักเตะที่ติดค้างไว้ในงวดแรกตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020
(หมายเหตุ : บาร์เซโลน่า จ่ายค่าเหนื่อยนักเตะปีละ 2 ครั้ง รอบแรกเดือนธันวาคม รอบสองเดือนกรกฏาคม เหมือนกับ เรอัล มาดริด ต่างจากสโมสรอื่นๆในสเปนที่จะจ่ายเป็นรายเดือน)
เพื่อแก้ปัญหา ลาปอร์ต้า จึงไปกู้เงินมาจากสถาบันการเงิน Goldman Sachs จำนวน 595 ล้านยูโรเพื่อนำมาจ่ายค่าจ้างและค่าใช้จ่ายอื่นๆ แต่การจะไปกู้เงินก็ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทำให้ ลาปอร์ต้า ตัดสินใจนำหุ้นทีวีจำนวน 90% ไปค้ำเอาไว้
เท่ากับว่า บาร์เซโลน่า เหลือหุ้นทีวีที่เป็นอิสระ 10% นั่นเองจึงเป็นเหตุให้สโมสรจำต้องแบ่งขายหุ้นเป็นลอต โดยขายลอตแรกจำนวน 10% ก่อนเพราะไม่ต้องขออนุญาตใคร สามารถทำได้เลย
ส่วนลอตที่ 2 นั้น ลาปอร์ต้า ต้องเจราจากับ Goldman Sachs เจ้าหนี้ให้ยอมลดจำนวนหุ้นที่เอาไปค้ำประกันเงินกู้ลง 15% ซึ่งก็ต้องใช้เวลา จนเมื่อได้รับไฟเขียวจึงขายลอต 2 รวมเป็น 25 % ซึ่งเป็นจำนวนที่บอร์ดบริหารมองว่าเหมาะสมที่สุด
……………………………
ดึงไป 2 คันโยกแล้ว เพียงพอหรือไม่ ?
คำตอบคือ “ยังไม่พอ” จากข้อมูล ประเมินกันว่า บาร์เซโลน่า ยังต้องการเงินอีกราว 100 ล้านยูโร ก่อนที่ ลา ลีกา ฤดูกาลใหม่จะเริ่มขึ้นเพื่อให้สามารถลงทะเบียนนักเตะใหม่อย่าง ฟร็องค์ เกสซิเยร์,อันเดรส คริสเตนเซ่น,โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้,ราฟินญ่า รวมถึงนักเตะที่เพิ่งต่อสัญญากับทีมออกไปอย่าง เซร์จี้ โรเบร์โต้ และ อุสมาน เดมเบเล่
เหตุผลเพราะ บาร์ซ่า ยังมีปัญหาเรื่องเพดานค่าเหนื่อยที่ยังเกินกฏ limite salarial (กฏเพดานการเงิน)ของ ลา ลีกา อยู่ อีกทั้งยังต้องนำเงินมาจ่ายค่าตัวของ เลวานดอฟสกี้ และ ราฟินญ่า ให้กับ บาเยิร์น มิวนิค และ ลีดส์ รวมทั้งเคลียร์เพดานค่าเหนื่อยเตรียมไว้ให้กับแข้งที่หมายตาอย่าง เซซาร์ อัซปิลิก้วยต้า,มาร์กอส อลอนโซ่ รวมถึง ฌูลส์ กูงเด้ (แต่รายนี้น่าจะไป เชลซี แน่นอนแล้ว)
ปัญหานี้ แก้ไขได้ 2 วิธี
วิธีแรกก็คือขายหุ้นอีก ซึ่งคราวนี้จะเป็นหุ้น Barça Studios จำนวน 49 %
ส่วนวิธีที่ 2 ก็คือการขายนักเตะ ซึ่งในเวลานี้นักเตะที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ ชาบี เอร์นานเดซ ส่วนใหญ่มีมูลค่าไม่มากนัก ไม่ว่าจะเป็น ริกิ ปุช,มาร์ติน เบรทเวต,ออสการ์ มินเกซ่า หรือกระทั่ง เมมฟิส เดปาย
จะมีก็แค่รายของ แฟร้งกี้ เดยอง เท่านั้นที่ขายได้ราคาดี ซึ่งสโมสรมีการตกลงราคากับ แมนฯยูไนเต็ด ไปแล้วที่ 75 ล้านยูโรบวก แอดออนอีก 10 ล้านยูโร
การขาย เดยอง นอกจากจะทำให้สโมสรได้เงินก้อนใหญ่เข้ามาแล้ว ยังเป็นการลดเพดานค่าเหนื่อยลงมาซึ่งประเมินว่าเพียงพอต่อการลงทะเบียนนักเตะใหม่และแข้งที่เพิ่งต่อสัญญาไป
เหตุนี้ จึงนำมาซึ่งเหตุผลที่ว่าทำไม บาร์เซโลน่า จึงต้องการขาย เดยอง เพราะหากขายได้ พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องขายหุ้นลอตที่ 3
มองในแง่ของธุรกิจแล้ว หุ้น Barça Studios นับวันก็จะมีแต่มูลค่าที่เพิ่มขึ้น แต่กับ asset อย่างนักเตะ ยิ่งเวลาผ่านไปก็จะยิ่งลดมูลค่าลง แถมยังมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าเหนื่อยในแต่ละปีด้วย
เรื่องจึงดำเนินมาถึงจุดที่ว่าวิธีไหนที่ บาร์เซโลน่า จะได้เงินมาก่อนฤดูกาลใหม่จะเปิดฉากขึ้น
กรณีที่ เดยอง ยังคงยืนกรานไม่ย้ายทีม สุดท้ายแล้ว ด้วยเวลาที่บีบเข้ามา บาร์เซโลน่า ก็คงไม่มีทางเลือกที่จะต้องดึงคันโยกที่ 3 แม้ว่าพวกเขาจะไม่อยากทำก็ตาม
#เจมส์ลาลีกา