ปปช.ฟันคุก2เดือน! อดีตสส.เพื่อไทย
โดนคดีที่ 4! ศาลฎีกาฯ คุกจริง 2 เดือน ‘เกษม’อดีต ส.ส.เชียงใหม่ ยื่นบัญชีฯเท็จ ป.ป.ช.
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2565 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาว่า
นายเกษม นิมมลรัตน์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จปกปิดข้อเท็จจริงที่ต้องแจ้งให้ทราบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) กรณีพ้นจากตำแหน่งเลขานุการนายก อบจ.เชียงใหม่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ประกอบพระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 114 ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2559 ซึ่งเป็นวันพ้นตำแหน่งเลขานุการนายก อบจ.เชียงใหม่ กับมีความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 และ พระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 167 แต่ให้ลงโทษ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะกระทำความผิด องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากเห็นควรลงโทษ จำคุก 2 เดือน ( คดีหมายเลขแดงที่ อม.10 /2565 วันที่ 30 พ.ค.2565)
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า คดีนี้ ป.ป.ช.ตรวจสอบพบว่า นายเกษมไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ประกอบด้วยหุ้นบริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) กว่า 20 ล้านหุ้น มูลค่า 74.2 ล้าน , ที่ดิน 7 แปลง มูลค่า 14 ล้านเศษ, สิ่งปลูกสร้าง 2 หลัง และรถยนต์ 2 คัน กับ
ทรัพย์สินที่ดิน 3 แปลง มูลค่า 1 ล้านบาท และเงินลงทุน ในชื่อนางดวงสุดา นิมมลรัตน์ คู่สมรส โดยมีการโอนทรัพย์สินให้พี่น้องหลายรายการเพื่อปิดบังซ่อนเร้นไม่ให้ถูกบังคับคดีในคดีที่นายเกษมถูกชี้มูลร่ำรวยผิดปกติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล นายเกษม จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จปกปิดข้อเท็จจริงที่ต้องแจ้งให้ทราบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. และส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาโดยศาลฎีกาฯรับคำร้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ 9/2562
ก่อนหน้า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลนายเกษม แล้ว 3 คดี เป็นคดียื่นบัญชีฯเท็จ 1 คดี และร่ำรวยผิดปกติ 2 คดี กล่าวคือ 1. เมื่อปี 2559 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด จงใจแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ โดยแจ้งในส่วนของหนี้สินเท็จกว่า 72 ล้านบาท และ 2 .ร่ำรวยผิดปกติ วงเงินกว่า 168 ล้านบาท
อ่านต่อ
https://www.isranews.org/article/isranews/110116-inves09-206.html
Credit: Isaranew