3 กรกฎาคม 2565 เมื่อเวลา 01.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ชุมพล ทรงงาม สารวัตรเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งชนอัดท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตติดภายในเป็นชาย 1 ราย เหตุเกิดบริเวณถนนพหลโยธินขาเข้า หลักกิโลเมตรที่ 43 + 500 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ภายหลังรับแจ้ง จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูพร้อมด้วยอาสาจุดหงสกุลร่วมตรวจสอบในจุดเกิดเหตุและให้การช่วยเหลือ

ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบ รถสิบล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว หมายเลขทะเบียน 72-5198 นครปฐม จอดชิดขอบทางด้านซ้ายอยู่ในช่องทางด่วน ที่ถูกรถเก๋งยี่ห้อ honda city สีขาวหมายเลขทะเบียน 1 ขผ-516 กทม. ชนอัดอยู่ที่ท้ายรถ สภาพด้านหน้าพังยับเยิน และพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ขับขี่ ทางเจ้าหน้าที่จึงให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างออกมาทราบชื่อต่อมาคือ นายฤทธิพงษ์ เหล็กแก้ว อายุ 31 ปี พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 51/177 หมู่ที่ 5 ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยมีนายเอกรินทร์ อินทรา อายุ 44 ปีชาวจังหวัดลพบุรี ผู้ขับขี่รถสิบล้อยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในจุดเกิดเหตุ

จากการสอบถามนายเอกรินทร์ อินทรา อายุ 44 ปี คนขับรถสิบล้อให้การว่า ตนเองขับรถมาจากนวนคร ย่านคลองหลวง เพื่อจะไปส่งแบบบ้านจัดสรรที่หมู่บ้านภัสสร 80 ตนเองก็ขับรถมาตามปกติ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงเหมือนของตกด้านท้ายรถ จึงได้ชะลอจอดชิดข้างทาง และมองกระจกด้านหลัง ก็พบว่ามีรถเก๋งชนท้ายตนเอง จากนั้นจึงได้ลงมาดูก็พบว่าเป็นรถเก๋งชนท้าย และมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในรถ จึงได้โทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและประกันทราบ

ด้าน พ.ต.ท.ชุมพล ทรงงาม สารวัตรเวรสอบสวน สภ.คลองหลวงจึงได้บันทึกภาพในจุดเกิดเหตุ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวผู้ขับขี่รถสิบล้อ ไปสอบสวนที่โรงพัก เพื่อทำการสอบสวนถึงสาเหตุ ของอุบัติเหตุในครั้งนี้แล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตมอบให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ (เฉลิมพระเกียรติ) เพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้ง และให้ญาติไปรับศพนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ออกกฏหมายให้รถบรรทุกมีที่กั้นท้องรถได้แล้ว

มีประโยชน์กว่าผ้ายางกันหินดีดเยอะ

มุดซ้ายมาเจอสิบแปดล้อแบบนี้หรอ

Rip ครับ

ออกกฏหมายให้รถบรรทุกมีที่กั้นท้องรถได้แล้ว

มีประโยชน์กว่าผ้ายางกันหินดีดเยอะ

กำ
ผมช่วงหลังขับช้าลงเยอะ บางจังหวะ ขับซ้ายยาวๆ
จะเจอพวกแซงขวาไม่ได้ แล้วเคยตัวมาแซงซ้าย จี้ตูดผม สุดท้ายไปไม่ได้
ก็กลับเข้าเลนกลาง แล้วกลับเข้าขวา

โดยส่วนตัวผมมองว่า ออกกฎหมายอะไรก็ไม่ช่วยครับ ถ้าคนยังแช่ขวา แซงซ้ายอยู่

ทำไมผมคิดว่าสิบล้อมาจอดรถทิ้งไว้ตรงที่ไม่ควรจอด
แล้วเก๋งน่าจะขับมาเร็วแล้วมองไม่เห็นเพราะมืด

จุดชนรถสิบล้อมีปัญหามาช้านาน ไม่คิดแก้ เพื่อนผมก็มีเคสนี้ รถพ่วงคายูเทิร์นรอกลับรถ ทีนี้ไฟพ่วงมันหันออกขับมาดึกๆมุดเข้าไปเลย

ไม่รู้ซิ .. ผมมองอีกมุมด้วยนะ เพราะเท่าที่เจอบนท้องถนนคือนิสัยการขับรถของคนเดี๋ยวนี้ แบบจะเปลี่ยนเลนก็เปลี่ยนเลย จะแซงออกก็ออกเลย ไม่มีการดูท่าทีเลยว่าเลนที่จะเปลี่ยนมีรถขวางอยู่หรือเปล่า เห็นบ่อยมากๆ

อย่างผมจะเปลี่ยนเลนทีก็ดูซ้ายดูขวาดูหน้าดูหลัง ถ้ารถหน้าบังก็ขอแย๊ปๆดูว่ามีรถข้างหน้าในเลนที่จะเปลี่ยนก่อนเปล่าค่อยเปลี่ยนเลน ค่อยๆขับเลียเปลี่ยนเลน

ขับอยู่หรือจอดอยู่ อันตรายจริงๆ ขับเร็ว กับ รถพ่วงตอนกลางคืน RIP

มาด้วยความเร็วเลนขวาสุดแล้วปาดเข้ากลางแล้วปาดออกเลนซ้ายสุดแบบชิดตูดคันหน้า ออกไปเจอรถจอดอยู่ ตายลูกเดียว เพราะชิดตูดวิสัยทัศน์เป็นศูนย์

ฝากไว้ให้มือใหม่ด้วย อย่าปาดชิดตูดคันหน้า มันมองไม่เห็นอีกเลน ให้ทิ้งระยะหน่อย ดูก่อนว่าว่างมั้ย

ว่าจะเบสิกก็เบสิก แต่ไม่รู้ตายกันกี่ร้อยกี่พันละ

* ผมขี่มอเตอร์ไซค์ยังเคยเลยนะ แบบจังหวะขึ้นสะพานสูงๆ แล้วทำความเร็วมาพอดี แสงแดดส่องตา เผลอแว่บเดียวเห็นน่าจะรถบรรทุกของรัฐตรงหน้า แบบขึ้นมาจอดทำอะไรไม่รู้ ไม่งั้นน่าจะสภาพไม่ต่างกัน จากนั้นคือขี่ระวังขึ้นเยอะครับ

ประเด็นมันอยู่ที่ขับมาเร็วแหล่ะ

คือสิบล้อจอดอยู่ไหล่ทาง แล้วเก๋งแซงซ้ายมาชนงี้ปะครับ

คนขับรถบ้านเราทั้งเห็นแก่ตัวและมักง่าย ไม่สนใจกฎจราจร
ขับรถเหมือนกำลังแข่งรถ ต้องไปถึงที่หมายให้เร็วที่สุด ยอมเสี่ยงไม่ยอมรอ
ถนนบางทีก็ไม่ดี ไฟไม่สว่าง
เบาได้ก็เบาเถอะ จะถูกหรือผิด เกิดเหตุขึ้นมาถึงตายไม่มีสิทธิ์แก้ตัว

แซงซ้ายล่ะสิ ขับเร็วซะด้วย แต่ส่วนนึงคงจะมาจากไอพวกชอบขับรถแช่ขวานี่แหละ

ขับช้าแช่ขวาคือ Root cause ครับ