ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3 ... 15, 16, 17
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
แบบสำรวจ
...
A
???
B
???
C
???
D
???
E
???
คะแนนทั้งหมด: 978
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 Jan 2011
ตอบ: 2898
ที่อยู่: CMU-ChiangMai
โพสเมื่อ: Fri Jul 01, 2022 11:04
[RE: คิดยังไงกับเพศที่ 3]
ก็มีเรื่องกีฬา กับเรื่องคำนำหน้าชื่อแหละ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Apr 2009
ตอบ: 8297
ที่อยู่: Stamford Bridge
โพสเมื่อ: Fri Jul 01, 2022 11:27
[RE: คิดยังไงกับเพศที่ 3]
BLIИK พิมพ์ว่า:
VincenzE พิมพ์ว่า:
BLIИK พิมพ์ว่า:
VincenzE พิมพ์ว่า:
Spoil
BLIИK พิมพ์ว่า:
VincenzE พิมพ์ว่า:
BLIИK พิมพ์ว่า:
VincenzE พิมพ์ว่า:
BLIИK พิมพ์ว่า:
VincenzE พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
VincenzE พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
VincenzE พิมพ์ว่า:
Spoil
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
VincenzE พิมพ์ว่า:
duckover พิมพ์ว่า:
โหวต A อ่ะมันเสียประโยชน์ยังไงต่อชายแท้หญิงแท้อ่ะครับ  


ลองสมมติดูครับ ถ้าคุณเจอคนที่ชอบมีคำนำหน้าว่า นางสาว คุณแต่งงานกับเขาแล้วอยากมีลูก

แต่เขาไม่มีมดลูก คิดว่าจะรับได้ไหม  


แล้วสมมติ ท่านเจอคนที่ชอบมีคำนำหน้าว่า นางสาว ท่านแต่งงานกับเขาแล้วอยากมีลูก

เขามีมดลูกปกติ แต่เค้ามีปัญหาร่างกายทางอื่นทำให้มีลูกไม่ได้ ท่านรับได้ไหมฮะ  
 


ได้ครับ มันปกติทาง Chromosome ไง แต่ร่างกายไม่พร้อมมี

แต่กรณี XY แต่คำนำหน้าเป็นนางสาวมันไม่เหมือนกัน

ผมเห็นด้วยทุกอย่างกับการสมรสของเพศที่สาม แต่ไม่ใช่การเปลี่ยนคำนำหน้า

มั่นใจเหรอครับว่าผู้หญิงข้ามเพศที่เป็นผู้ชายมาก่อนแล้วเปลี่ยนคำนำหน้าเขาจะเปิดเผยว่าไม่ใช่ผู้หญิงแท้ตาม Chromosome ถ้ามารู้ทีหลัง บางคนเขาเสียความรู้สึกเหมือนโดนหลอกไง  


คือประเด็นเรื่องการโดนหลอก (และเกี่ยวพันกับเรื่องความสามารถในการมีลูก) ที่ท่าน refer ถึง..

สมมติ ญ เอง(เป็น ญ แท้ๆ)ก็รู้ตัวว่าตัวเองมีลูกไม่ได้ แต่ไม่ยอมบอกท่าน จนท่านมารู้เองทีหลัง..แล้วท่านจะไม่เสียความรู้สึกหรอฮะ

มันก็ไม่ต่างกันป่ะฮะ กับการโดนเรื่องคำนำหน้าหลอก..ในเมื่อเราซีเรียสเรื่องการมีลูก แต่กลับไม่ตรวจร่างกายก่อนแต่งงานใช้ชีวิตคู่กัน

ไม่ว่าจะ ญ แท้ หรือ ญ ข้ามเพศที่มีคำนำหน้าเป็นนางสาว..ถ้าจะหลอกท่าน ก็หลอกได้ทั้งคู่อยุู่ดีไม่ใช่หรอฮะ

 


ต่างสิครับ มันเป็นความปกติทางร่างกายที่ไม่ได้ต้องการให้เกิดขึ้น มันก็เหมือนกับที่ผู้ชายมีโอกาสเป็นหมันนั่นแหละ ไม่ตรวจมันไม่รู้หรอก แล้วต่อให้ตั้งครรภ์ไม่ได้ มันมีวิธีทำให้มีลูกแบบที่เป็นลูกแท้ ๆ ของทั้งสองฝ่ายอยู่หลายวิธี

แยกเพศสภาพที่เป็นทางเลือกกับ XX XY ให้ออกครับ

สมมติคุณคบมา 4 ปี วางแผนแต่งงาน พอไปตรวจก่อนแต่งงานไปเจอ XY ที่เป็นนางสาวแต่เขาไม่บอกเพราะคิดว่าคุณรักเขาจริง แต่คุณเกิดอยากมีลูกแท้ ๆ ของตัวเองขึ้นมาล่ะ รับได้จริงรึเปล่า

แต่งงานกันไม่ได้มีข้อบังคับว่าต้องตรวจ DNA ทุกคนนี่ครับ กฎหมายบังคับเหรอครับ หรือผมเข้าใจผิดจุดนี้

การตรวจส่วนใหญ่คือเรื่องความปลอดภัยของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กับความสามารถในการมีบุตรครับ

ไม่เกี่ยวกับการข้ามเพศ

มันมีหลายอย่างไม่ใช่แค่นี้ อย่าง Gay ที่เขาชอบ ชxช ด้วยกัน มาเจอผู้ชายข้ามเพศที่ผ่าตัดอวัยวะเพศเทียมก็เหมือนกัน

ที่เห็นจากต่างประเทศคือจะแต่งก็แต่งได้ครับ เขาไม่ได้ต้องมาเปลี่ยนคำนำหน้า

นาย นางสาว Mr. Ms. Mrs. มันดูที่ XX XY ไม่ใช่เพศที่เลือก
 


แต่งงานกันไม่ได้มีข้อบังคับครับ แต่ถ้าซีเรียสเรื่องการมีลูกก็ควรต้องตรวจสุขภาพก่อนแต่ง

การตรวจสุขภาพไม่ได้ตรวจเรื่องเพศจริง แต่หมอก็จะเป็นคนบอกเองว่า คนๆนี้มีลูกไม่ได้เพราะอะไร (ถ้าไม่มีมดลูกก็รู้ตรงนั้น)

คบมา 4 ปีถ้ามารู้วันนั้นว่าเค้ามีลูกไม่ได้...ไม่ว่าจะเพราะเค้าเป็น ญ ข้ามเพศ หรือร่างกายเค้ามีปัญหา(แต่เค้าไม่ยอมบอก)

ผมก็มองว่ามันไม่ต่างกันอยู่ดี ..การผสมเทียมก็ไม่ใช่คำตอบ 100% ผมมีคนรู้จักเยอะแยะที่เสียเป็นล้านสุดท้ายก็ไม่ติดลูก

นอกเหนือจากนั้นมีอีกตั้งเยอะตั้งแยะ ถ้าคนมันจะหลอกกันได้ อย่างโรคร้ายแรงอื่นๆ เช่น เค้าเป็นเอดส์ เค้าไม่ยอมบอกคุณ..

ถ้าคุณไม่คิดจะตรวจโรคก่อนแต่ง..ไม่ว่าจะคบมากี่ปี จะนั่งส่องบัตรประชาชน คุณก็ไม่รู้อยู่ดีรึเปล่า..ไม่เกี่ยวกับเรื่อง XX XY ด้วยซ้ำ

ผมเลยงงว่าจะไปกังวลอะไรกับเรื่องแค่คำนำหน้า..เรากลัวแค่โดนบัตรประชาชนหลอก ทั้งๆที่เรื่องอื่นถ้าคนมันจะหลอกมีอีกเป็นร้อย

สำหรับผมคือ ถ้าใครไม่อยากเปลี่ยน เค้าอยากจะใช้"นาย"นำหน้าเหมือนเดิมก็สิทธิ์เค้า หรือใครใคร่จะเปลี่ยนก็เปลี่ยนไป

แค่ไม่อยากไปข้ามสิทธิ์ไปชี้คนอื่นห้ามทำโน่นนี่ ทั้งๆที่ไม่ใช่คำนำหน้าผมเอง..เค้าจะเปลี่ยนของเค้า ไม่ได้จะมาเปลี่ยนของผมหนิ

(เออ ถ้ามันกระเทือนมาที่เราเองต้องเดือดร้อนไปอำเภอ เพื่อไปเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น อันนั้นเห็นด้วยว่ามันมาก้าวก่ายสิทธิ์เรา)

 


ความผิดปกติที่ไม่สามารถมีบุตรได้ตามธรรมชาติกับการเป็นผู้หญิงข้ามเพศมันต่างกันครับ
ผมยังไม่เข้าใจนะว่าคุณมองตรงไหนว่ามันเหมือนกัน บางคนไม่รู้หรอกครับว่าเป็นหมันถ้าไม่ได้ตรวจ เอาง่าย ๆ ตอนนี้คุณรู้ไหมว่าตัวเองเป็นหมันหรือไม่เป็น แล้วคู่สมรสที่เขาไปตรวจก่อนเนี่ย เขาวางแผนเรื่องมีครอบครัว แสดงว่าต้องอยากมีลูกสิครับ ตรวจก่อนตรวจหลังมันก็แล้วแต่เขา

ซึ่งมันต่างกันกับผู้หญิงข้ามเพศที่จงใจปกปิดว่าตัวเองมีบุตรไม่ได้อยู่ การเปลี่ยนคำนำหน้ามันติดตรงนี้ไง

ดารา ศิลปินในประเทศที่เขาสมรสเพศเดียวกันได้ ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนคำนำหน้านะ บางกลุ่มไม่ใช้ She He แต่ใช้ They แทน บางคู่ก็มีลูกด้วยซ้ำ ใช้การบริจาคไข่ สเปิร์มแทน

คุณมั่นใจตัวเองใช่ไหมครับว่าถ้าจู่ ๆ คนที่คบกันมา วางแผนแต่งงานมาโป๊ะแตกว่าเป็นข้ามเพศ

หรือถ้าคุณเทียบกันว่าถ้าคุณกับแฟนอยากมีลูก แต่เป็นคุณเองที่เป็นหมัน คุณคิดว่าสองกรณีนี้มันเหมือนกันจริงเหรอ

มีบุตรไม่ได้ตามธรรมชาติของโรค กับมีบุตรไม่ได้เพราะไม่มีอวัยวะสืบพันธุ์มันเหมือนกันเหรอครับ  


นั่นก็เป็นปัญหาที่คู่เค้าต้องไปแก้กันนะผมว่า ทรานส์มีลูกไม่ได้แต่สุดท้ายปิดบังความจริงจนโป๊ะแตกมา ก็อยู่ที่ว่าจะคุยกันยังไง จะเลิก หรือว่าจะไปต่อ เพราะว่าการมีลูกถ้าเค้าโอเคที่ DNA ฝั่งแม่จะไม่ใช่คู่ของเค้า คู่เค้าตกลงกันได้มันก็จบ เข้าใจแหละว่ามันเป็นปัญหา แต่ปัญหามันก็เกิดมาจากที่สังคมยังไม่ยอมรับคนข้ามเพศได้เต็มที่ เค้าก็เลยต้องปิดบังความจริง ใช่มั้ยล่ะครับ

ส่วนฝั่ง ช แท้ หรือ ญ แท้ เองถ้าเกิดก่อนมีลูกไปตรวจแล้วใครคนใดคนนึงเป็นหมันขึ้นมา สุดท้ายแล้วก็น่าจะจบลงไม่ต่างกันนะ ถ้าเหตุผลเรื่องลูกมาเป็นหลักจริงๆ มันก็ไม่ต่างกัน เรื่องคู่ที่ว่าคู่นั้นไม่สามารถมีลุกด้วยกันได้ แต่จะต่างกันแค่ที่มาคืออีกคนปิดบัง อีกคนเป็นเพราะสมรรถภาพในการมีลูก

ปล. แปะ Podcast อันนี้ครับ เปิดโลกเหมือนกัน ถ้าคู่ Trans อยากมีลูกต้องทำยังไงบ้าง

 


คือคุณคิดว่าการผิดปกติทางร้างกายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจนเป็นเหตุให้เป็นหมัน
กับการไม่มีอวัยวะสืบพันธุ์เพศตรงข้าม ทำให้ไม่มีบุตรได้ มันเหมือนกันเหรอครับ

เรื่องอุ้มบุญ ผสมเทียม หรือแม้แต่บริจาค ไข่ สเปริ์ม ผมพูดถึงไปแล้วนี่ ว่ามันทำได้ ตามความสมัครใจของทั้งคู่ ต่างประเทศมีหลายคู่ที่เขาเป็นคู่เพศเดียวกันแล้วมีลูกได้แล้ว มันไม่ได้ใหม่เลยเรื่องนี้ คนดังที่เป็น ชxช รักร่วมเพศแล้วมีลูกแบบรับบริจาคไข่ก็มีให้เห็น แต่ที่ใหม่คือในไทยกับการเปลี่ยนคำนำหน้า

เห็นข่าวดาราข้ามเพศที่เปิดตัวคบกันแฟนผู้ชายไปไหมครับ นั่นเขารับได้เพราะรู้ตั้งแต่เริ่มไง มันต่างกันนะ รู้ก่อนรู้หลัง

เทียบกันก็ได้ ถ้าคู่คุณมีคนใดคนหนึ่งเป็นหมัน คุณจะโกรธเขาไหม หรือเขาจะโกรธคุณไหม คิดว่าโดนหลอกไหมครับ

กับอีกกรณีที่เป็นหญิงข้ามเพศแล้วคุณมารู้ตอนตรวจก่อนแต่งว่าเป็น XY คุณพูดได้เต็มปากไหมว่าไม่เป็นไร ฉันรับได้ 100%

นี่ผมพูดถึงแค่เรื่องมีบุตรนะ เห็นคนอื่นเขาถกประเด็นการแข่งกีฬาด้วย ที่มีออกข่าวว่าหญิงข้ามเพศลงแข่งกับหญิงแท้  


คือคุณคิดว่าการผิดปกติทางร้างกายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจนเป็นเหตุให้เป็นหมัน
กับการไม่มีอวัยวะสืบพันธุ์เพศตรงข้าม ทำให้ไม่มีบุตรได้ มันเหมือนกันเหรอครับ


ที่ผมสื่อคือการที่ทั้งคู่มีบุตรไม่ได้เหมือนกัน แล้วหลังจากนั้นจะทำยังไงกันต่อ เพราะผลลัพท์มันก็เหมือนๆกัน ว่าต้องหาทางออกทางอื่นถ้าจะมีลูก ซึ่งอันนี้มันเป็นเรื่องของคนสองคนล้วนๆ คำนำหน้าชื่อแทบจะมีส่วนอะไรกับเรื่องพวกนี้เลย

กับอีกกรณีที่เป็นหญิงข้ามเพศแล้วคุณมารู้ตอนตรวจก่อนแต่งว่าเป็น XY คุณพูดได้เต็มปากไหมว่าไม่เป็นไร ฉันรับได้ 100%

ถ้าถามผมว่าผิดหวังมั้ย ใช่ผมผิดหวัง แต่ว่าคุยกันมาจนถึงจะแต่งงาน ละวางแผนมีลูกกันแล้ว ผมว่ามันมีทางเลือกอื่นอีก ที่ทำให้คู่ไปต่อได้ ผมไม่ซีเรียสว่าลูกผมต้องเป็นลูกที่เกิดจากภรรยาผมเท่านั้น

เรื่องคนมารู้ทีหลังนั่นมันก็เรื่องทั่วๆไปอ่ะ หลายๆคู่ก็มีบางอย่างมารู้ทีหลังเหมือนกัน ที่ทำให้เสียความรู้สึกแล้วเลิกกันไป บางคู่อีกฝ่ายเคยขายบริการมาก่อนหรือเป็นเด็กเสี่ยมาก่อน บางคู่อีกฝ่ายเคยมีลุกติดมาก่อน บางคู่อีกฝ่ายไปทำศัลยกรรมมาจนเปลี่ยนเป็นอีกคน อันนี้ก็อยู่ที่คู่นั้นแล้วว่าจะยังไงกันต่อ มันต่างอะไรกันกับที่มารู้ทีหลังว่าคนๆนี้เป็นคนขามเพศอ่ะครับ

ส่วนเรื่องกีฬาผมมองออกทางเดียวที่เป็นไปได้คือ ประเภทเฉพาะเพศที่เป็นทรานส์เท่านั้นครับ ทรานส์ต้องไม่ไปแข่งกับ เพศดั้งเดิม  


ต่างสิครับ เพราะถ้าเขาทั้งคู่สมัครใจเรื่องมีลูกแบบที่คู่รักร่วมเพศตกลงกันแล้วรับบริจาคไข่ มันจะไม่เป็นปัญหา

คุณมองว่าโอเค มันมีวิธีมีลูก ใช่ครับมันมี มันไม่ใช่เรื่องใหม่ที่ต้องเปิดโลก ต่างประเทศเขามีแล้วหลายเคส

แต่ถ้าไม่รู้อะไรเลย แล้วมาเจอว่าอ้าว เธอเป็น Trans กับคนที่เขาคิดว่าเขาคบผู้หญิงแท้มาตลอด มันเป็นยังไง

คุณเองยังบอกว่าคุณผิดหวัง คิดว่าหลายคนที่เขาคิดว่าคบหญิงแท้แล้วเจอแบบนี้คงไปไม่เป็น

ถ้าจะให้เท่าเทียม ฝ่ายชายก็ควรได้รับความเท่าเทียมด้วยสิครับ ไม่ได้พูดถึงประเด็นการปกปิดความจริงนะ แต่ความเท่าเทียมที่ฝ่ายชายควรจะได้รู้ว่าเขาคบกับ trans หรือ หญิงแท้มันไปไหน

แต่เหมือนที่ตอบอีกคนไปแหละครับ ถ้าคุณมองว่าเหมือนกัน ก็ตามนั้น ผมแค่คิดต่างกับคุณตรงนี้  


ประเด็นอื่นตัดจบเลยนะฮะ น่าจะคิดต่างกันแล้ว

ถ้าจะให้เท่าเทียม ฝ่ายชายก็ควรได้รับความเท่าเทียมด้วยสิครับ ไม่ได้พูดถึงประเด็นการปกปิดความจริงนะ แต่ความเท่าเทียมที่ฝ่ายชายควรจะได้รู้ว่าเขาคบกับ trans หรือ หญิงแท้มันไปไหน

แต่ผมติดที่ตรงนี้นิดหน่อยว่าทำไมฝ่ายชายต้องได้รับความเท่าเทียมด้วยคำนำหน้าชื่อ จริงอยู่ถ้ามีบอกมันอาจจะรู้ได้เลยว่าคนๆนั้นเป็นเพศไหนมาก่อนแต่แรก

แต่ประเด็นการไปบล็อคการเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อเค้าเพียงเพราะฝ่ายชายต้องการรู้เพศสภาพเดิมของเค้าผมว่ามันไม่ใช่ความเท่าเทียมอ่ะ เพียงแค่ทำเพื่อให้ฝ่ายชายรู้เพศเดิมของเค้าเฉยๆ แต่สิทธิที่เค้าควรจะเปลี่ยนสถานะเพศทางสังคมของเค้าก็ต้องหายไปผมว่ามันเทียบกันไม่ได้อ่ะ
 
 


มันก็วกกลับไปประเด็นเดิมเรื่องการที่ผู้ชายเขาอยากคบ แต่งงานกับผู้หญิงแท้ไงครับ

รสนิยมทางเพศมันเป็นเรื่องความสมัครใจไม่ใช่เหรอครับ Trans หญิงชอบผู้ชายเขาอยากแต่งกับผู้ชาย ก็ต้องเป็นผู้ชายที่รับได้ แบบที่ของดารา trans ท่านนั้นไง ฝ่ายชายเขารับได้ ชายรักชายเขาก็รักกันได้ ไปแต่งงานที่ประเทศก็มี เขาก็ไม่ได้เปลี่ยนคำนำหน้าคนใดคนหนึ่งเป็นเพศตรงข้ามนี่

แต่เปลี่ยนมาแล้วเป็นนางสาว แต่ผู้ชายเขาอยากได้คู่ครองแบบผู้หญิงแท้ เขาไม่มีสิทธิ์เหรอครับที่จะต้องรู้ว่าเป็น Trans หญิง จะหลอก ปกปิด หรือยังไงมันก็เหมือนกัน จะบอกว่าเออ เปลี่ยนไปก่อน แล้วถ้าไปเจอเหตุการณ์สมมติแบบนี้ขึ้นมาจะทำยังไงต่อ เสียใจกันทั้งสองฝ่ายแหละ ไม่ใช่แค่คนใดคนหนึ่ง

ถ้าจะให้ยอมรับว่าการที่เขาเป็น XY แต่อยากเป็นหญิง ตัวเขาก็ต้องยอมรับด้วยสิว่าผู้ชายที่เขามองหาคู่ XX แท้มันก็มี ถ้าอยากเปลี่ยนก็เปลี่ยนไปอ่ะ เปลี่ยนเลย แล้วผู้ชายเขาจะรู้ได้จากไหนว่าไม่ใช่ XX แท้ ถ้าไม่ตามสืบ แบบนี้มันเรียกว่าความรักเหรอครับ ผมไม่พูดเรื่องนอกใจ หลอกเงินนะ อันนั้นคนละประเด็นไม่เกี่ยว

ผมไม่ได้มีปัญหาที่เขาจะเรียกร้องสิทธิ์การแต่งงาน การสืบทอดมรดกนี่

แล้วไม่คิดถึงเรื่องเดินทางไปต่างประเทศที่เขาไม่ได้มีกฎหมายแบบที่ไทยเรียกร้องบ้างเหรอครับ  


ถ้าเรื่องเปลี่ยนคำนำหน้าแล้วมันกระทบเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศที่กฏหมายไม่รองรับก็ควรจะยกประเด็นนี้มาแต่แรกสิครับ โควทยืดยาวมามันก็วนอยู่แค่ว่าชายแท้จะแยกเพศว่าเป็น ญ แท้แต่กำเนิดหรือเปล่าทั้งนั้นไม่ใช่หรอ

คุณก็บอกแล้วว่าเห็นต่างกับผม ไม่ต้องยกประเด็นยาวเหยียดเรื่องเลือกคู่มาหรอก ไม่จบแน่ๆ ที่ผมต่อตอนแรกก็แค่ติดใจกับคำว่าความเท่าเทียมของคุณที่มองเพียงแค่จะได้รับรู้ว่าเพศสภาพเก่าเค้าเป็นอะไรจะได้เลือกคู่ครองง่ายๆตามสเปคในใจ มันดูเท่าเทียมกว่าการที่คนข้ามเพศเค้าจะได้มีหน้ามีตาในสังคมด้วยเพศที่เค้าอยากจะเป็นมากกว่าเท่านั้นเองครับ  


มีหน้ามีตาในสังคมคือยังไงครับ คำนำหน้ามันบอกถึงความสำคัญของการเป็นคนถึงระดับไหนในสังคม
มันต้องแยกประเด็นออกไปสิครับ ไม่ใช่เอามาเทียบกันว่าอันไหนมากกว่า เพราะมันคนละเรื่องครับ
อยากให้สังคมยอมรับ ผมว่าสังคมไทยนี่ให้เสรีและยอมรับเรื่องนี้กันไปไกลแล้วนะ

เพศทางเลือกควรภูมิใจในตัวเองไม่ใช่เหรอครับ แล้วก็ต้องรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นด้วยสิครับ ทำไมต่างชาติที่เขานำหน้าเราไปแล้วเรื่องนี้ไม่เห็นต้องมาสนใจตรงนี้ เขาเรียกร้องกันส่วนอื่นครับ พวก They เขาก็ภูมิใจในความเป็น They ของเขา ไม่เห็นต้องมาร้องขอให้ไปเป็น Ms. Mrs.

ผมบอกชัดเจนนะว่าคำว่าเท่าเทียมของผมเป็นประเด็นไหน แต่งงาน ทายาท หรือแม้การเซ็นเอกสารทางการแพทย์ สมรสได้เท่าเทียม อยากแต่งกับเพศไหนก็ตามแต่รสนิยมทางเพศไปเลย ตรงนี้ไม่ใช่เหรอที่เป็นหลักใหญ่ ๆ ของ พรบ. ที่โหวตผ่านรัฐสภาไป
ถ้าจะเรียกร้องสิทธิ์ก็เรียกร้องไปครับ ไม่ได้ผิด คนสนับสนุนน่าจะเยอะด้วย แต่คำนำหน้ามันส่งผลกระทบกับคนอื่น

 


ก็รูปร่างภายนอกเค้าเป็นผู้หญิง ไปเรียกเค้าว่าเป็นนาย อะไรแบบนี้มันก็ดูแปลกป่ะครับ มันก็คือการไม่ยอมรับความเป็นหญิง/ชาย ของเค้าหรือเปล่า ถึงแม้ว่าเค้าจะข้ามเพศมา อย่างที่ยกตัวอย่างจากเม้นก่อนๆไป สังคมไทยเอาจริงๆมันยอมรับกันแค่เปลือกอ่ะ ลึกๆในใจก็ยังไม่ได้ยอมรับกันขนาดนั้น

เพศทางเลือกควรภูมิใจในตัวเอง ใช่ครับ เค้าควรภูมิใจ แต่การที่เค้าแปลงเพศมาขนาดนี้แล้ว แต่คนก็ยังมองเค้า เรียกเค้าเหมือนเค้ายังเป็นเพศดั้งเดิมแบบนี้คุณไม่คิดว่ามันไปลดความมั่นใจหรือความภูมิใจเค้าบ้างหรอ ต่างชาติที่เค้าไม่มากังวลประเด็นนี้ก็เพราะเค้าไม่ได้สนปัญหาการแยกเพศเพราะคำนำหน้าอย่างพวกคุณเลยสักนิด เค้าห่วงแค่ว่าเพศของคนคนนั้นคืออะไร เป็นทรานส์ก็บอกทรานส์ จะใช้ Mr. Mrs. ก็เรื่องของเค้า

อ้างอิงจาก:
If you want to change your title to one of the opposite gender, for example from Mr to Mrs or vice versa, you wouldn’t normally need a deed poll. In general, you’re free to use any social title, and — assuming the new title is part of a change of gender — you simply need to inform record holders of the new title. The important matter for most organisations is your change of gender.  


อันนี้ของ UK

https://deedpolloffice.com/advice/transgender

อ้างอิงจาก:
a person has the right to be referred to by their new gender title - namely “Mr” instead of “Ms/Mrs” or vice-versa. Same also, if he/she changes only the name and not the gender.  


อันนี้ของเยอรมัน

https://www.regenbogenportal.de/english/changing-name-or-gender-status-with-the-transsexual-lawtsg

ถ้าจะแก้ปัญหาพวกนี้ที่เถียงกันมายาวเหยียด ก็แค่ระบุเพศไปตรงบัตรประชาชนไปมันก็จบแล้วไม่ใช่หรอครับ? นาง/นางสาว A เพศ หญิงข้ามเพศ หรืออะไรพวกนี้อ่ะ หรือว่ายังไม่โอเคกันอีก

ปล. They ที่เค้าใช้กันคือคนที่เป็น non-binary (คนไม่ระบุเพศ) ครับ แต่ว่าคนที่เป็นทรานส์เค้ามักจะใช้ He, She, Him, Her เรียกกันเหมือน ช กับ ญ มากกว่า  


ลองไปไล่อ่านที่ผมตอบไปนะครับ ผมพิมพ์ไปแล้วว่า อยากเปลี่ยน เปลี่ยนเลย เปลี่ยนแล้วต้องบอกด้วยว่าไม่ใช่สภาพเพศแท้ เรื่องมีลูก รสนิยมทางเพศมันแค่ส่วนหนึ่ง จะตัดออกไม่มีคำนำหน้าก็ได้

คุณก็บอกว่าเองว่ามันหลอกกันได้ทุกเรื่องไม่ใช่แค่เพศ แค่นี้ในไทยยังมีเคสโดนหลอกไปเยอะแล้ว ประเด็นของผมคือเปลี่ยนแล้วคนที่คบด้วยไม่รู้ จะให้ทำยังไง ในเมื่อคุณยกของ UK มา ต้องเอามาทั้งหมดสิครับ

People who are transgender but don’t have a Gender Recognition Certificate are free to use titles of the opposite gender, but bear in mind that you should not deceive anybody as to your birth gender for financial gain — this would be considered fraud.

อยากใช้ ใช้ได้ แต่มีเงื่อนไข

ในเมื่อเถียงกันว่าการมีคู่ที่เป็น นางสาวแบบ XX มันมีผลกระทบอะไรมาบ้าง มันก็ต้องมีการยอมรับให้ได้ว่าเพศสภาพโดยกำเนิดกับเพศสภาพทางเลือกมันเป็น Fact

ก่อนคบไม่สืบ ก่อนแต่งไม่สืบ พวกคำเหล่านี้จะไม่จำเป็นถ้าไม่มีการปกปิดเพศตาม Chromosome หรือตอนจะคบใครจะมีคนไปถามเหรอครับว่า เธอ ๆ เป็น XX หรือ XY หรือต้องไปขอดูบัตรประชาชน

จากการที่เขาเสนอคำนำหน้า คือจะเอาออกไปเลย ไม่ใช้นาย ใช้นางสาวแทน ไม่มีระบุ เขาอยากเป็นหญิงเต็มตัว

ไม่คิดเหรอครับว่าไประบุในบัตรว่า "หญิงข้ามเพศ" เป็นการตีตราให้เขาไม่ต่างกับการตีเลขไพร่

ผมแค่มองว่า ถ้าเป็น Trans ต้องยอมรับในตัวเองที่เป็น Trans ให้ได้ด้วย หลายคนยินดียอมรับในตัวเขา แต่ตัวเขาเลือกปกปิดสถานะทางเพศจริงเพราะ "อาย" มันคงไม่ใช่
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 529
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 01, 2022 11:37
[RE: คิดยังไงกับเพศที่ 3]
อันธพาน พิมพ์ว่า:
กดCไป แต่พออ่านๆ

เสียดาย กดเปลี่ยนไม่ได้  


จะเปลี่ยนใจไปกด A?
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้จัดการทีม
Status: c h i c h o o ♥
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Apr 2009
ตอบ: 28011
ที่อยู่: KIM JISOO
โพสเมื่อ: Fri Jul 01, 2022 11:56
[RE: คิดยังไงกับเพศที่ 3]
VincenzE พิมพ์ว่า:
BLIИK พิมพ์ว่า:
VincenzE พิมพ์ว่า:
BLIИK พิมพ์ว่า:
VincenzE พิมพ์ว่า:
Spoil
BLIИK พิมพ์ว่า:
VincenzE พิมพ์ว่า:
BLIИK พิมพ์ว่า:
VincenzE พิมพ์ว่า:
BLIИK พิมพ์ว่า:
VincenzE พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
VincenzE พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
VincenzE พิมพ์ว่า:
Spoil
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
VincenzE พิมพ์ว่า:
duckover พิมพ์ว่า:
โหวต A อ่ะมันเสียประโยชน์ยังไงต่อชายแท้หญิงแท้อ่ะครับ  


ลองสมมติดูครับ ถ้าคุณเจอคนที่ชอบมีคำนำหน้าว่า นางสาว คุณแต่งงานกับเขาแล้วอยากมีลูก

แต่เขาไม่มีมดลูก คิดว่าจะรับได้ไหม  


แล้วสมมติ ท่านเจอคนที่ชอบมีคำนำหน้าว่า นางสาว ท่านแต่งงานกับเขาแล้วอยากมีลูก

เขามีมดลูกปกติ แต่เค้ามีปัญหาร่างกายทางอื่นทำให้มีลูกไม่ได้ ท่านรับได้ไหมฮะ  
 


ได้ครับ มันปกติทาง Chromosome ไง แต่ร่างกายไม่พร้อมมี

แต่กรณี XY แต่คำนำหน้าเป็นนางสาวมันไม่เหมือนกัน

ผมเห็นด้วยทุกอย่างกับการสมรสของเพศที่สาม แต่ไม่ใช่การเปลี่ยนคำนำหน้า

มั่นใจเหรอครับว่าผู้หญิงข้ามเพศที่เป็นผู้ชายมาก่อนแล้วเปลี่ยนคำนำหน้าเขาจะเปิดเผยว่าไม่ใช่ผู้หญิงแท้ตาม Chromosome ถ้ามารู้ทีหลัง บางคนเขาเสียความรู้สึกเหมือนโดนหลอกไง  


คือประเด็นเรื่องการโดนหลอก (และเกี่ยวพันกับเรื่องความสามารถในการมีลูก) ที่ท่าน refer ถึง..

สมมติ ญ เอง(เป็น ญ แท้ๆ)ก็รู้ตัวว่าตัวเองมีลูกไม่ได้ แต่ไม่ยอมบอกท่าน จนท่านมารู้เองทีหลัง..แล้วท่านจะไม่เสียความรู้สึกหรอฮะ

มันก็ไม่ต่างกันป่ะฮะ กับการโดนเรื่องคำนำหน้าหลอก..ในเมื่อเราซีเรียสเรื่องการมีลูก แต่กลับไม่ตรวจร่างกายก่อนแต่งงานใช้ชีวิตคู่กัน

ไม่ว่าจะ ญ แท้ หรือ ญ ข้ามเพศที่มีคำนำหน้าเป็นนางสาว..ถ้าจะหลอกท่าน ก็หลอกได้ทั้งคู่อยุู่ดีไม่ใช่หรอฮะ

 


ต่างสิครับ มันเป็นความปกติทางร่างกายที่ไม่ได้ต้องการให้เกิดขึ้น มันก็เหมือนกับที่ผู้ชายมีโอกาสเป็นหมันนั่นแหละ ไม่ตรวจมันไม่รู้หรอก แล้วต่อให้ตั้งครรภ์ไม่ได้ มันมีวิธีทำให้มีลูกแบบที่เป็นลูกแท้ ๆ ของทั้งสองฝ่ายอยู่หลายวิธี

แยกเพศสภาพที่เป็นทางเลือกกับ XX XY ให้ออกครับ

สมมติคุณคบมา 4 ปี วางแผนแต่งงาน พอไปตรวจก่อนแต่งงานไปเจอ XY ที่เป็นนางสาวแต่เขาไม่บอกเพราะคิดว่าคุณรักเขาจริง แต่คุณเกิดอยากมีลูกแท้ ๆ ของตัวเองขึ้นมาล่ะ รับได้จริงรึเปล่า

แต่งงานกันไม่ได้มีข้อบังคับว่าต้องตรวจ DNA ทุกคนนี่ครับ กฎหมายบังคับเหรอครับ หรือผมเข้าใจผิดจุดนี้

การตรวจส่วนใหญ่คือเรื่องความปลอดภัยของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กับความสามารถในการมีบุตรครับ

ไม่เกี่ยวกับการข้ามเพศ

มันมีหลายอย่างไม่ใช่แค่นี้ อย่าง Gay ที่เขาชอบ ชxช ด้วยกัน มาเจอผู้ชายข้ามเพศที่ผ่าตัดอวัยวะเพศเทียมก็เหมือนกัน

ที่เห็นจากต่างประเทศคือจะแต่งก็แต่งได้ครับ เขาไม่ได้ต้องมาเปลี่ยนคำนำหน้า

นาย นางสาว Mr. Ms. Mrs. มันดูที่ XX XY ไม่ใช่เพศที่เลือก
 


แต่งงานกันไม่ได้มีข้อบังคับครับ แต่ถ้าซีเรียสเรื่องการมีลูกก็ควรต้องตรวจสุขภาพก่อนแต่ง

การตรวจสุขภาพไม่ได้ตรวจเรื่องเพศจริง แต่หมอก็จะเป็นคนบอกเองว่า คนๆนี้มีลูกไม่ได้เพราะอะไร (ถ้าไม่มีมดลูกก็รู้ตรงนั้น)

คบมา 4 ปีถ้ามารู้วันนั้นว่าเค้ามีลูกไม่ได้...ไม่ว่าจะเพราะเค้าเป็น ญ ข้ามเพศ หรือร่างกายเค้ามีปัญหา(แต่เค้าไม่ยอมบอก)

ผมก็มองว่ามันไม่ต่างกันอยู่ดี ..การผสมเทียมก็ไม่ใช่คำตอบ 100% ผมมีคนรู้จักเยอะแยะที่เสียเป็นล้านสุดท้ายก็ไม่ติดลูก

นอกเหนือจากนั้นมีอีกตั้งเยอะตั้งแยะ ถ้าคนมันจะหลอกกันได้ อย่างโรคร้ายแรงอื่นๆ เช่น เค้าเป็นเอดส์ เค้าไม่ยอมบอกคุณ..

ถ้าคุณไม่คิดจะตรวจโรคก่อนแต่ง..ไม่ว่าจะคบมากี่ปี จะนั่งส่องบัตรประชาชน คุณก็ไม่รู้อยู่ดีรึเปล่า..ไม่เกี่ยวกับเรื่อง XX XY ด้วยซ้ำ

ผมเลยงงว่าจะไปกังวลอะไรกับเรื่องแค่คำนำหน้า..เรากลัวแค่โดนบัตรประชาชนหลอก ทั้งๆที่เรื่องอื่นถ้าคนมันจะหลอกมีอีกเป็นร้อย

สำหรับผมคือ ถ้าใครไม่อยากเปลี่ยน เค้าอยากจะใช้"นาย"นำหน้าเหมือนเดิมก็สิทธิ์เค้า หรือใครใคร่จะเปลี่ยนก็เปลี่ยนไป

แค่ไม่อยากไปข้ามสิทธิ์ไปชี้คนอื่นห้ามทำโน่นนี่ ทั้งๆที่ไม่ใช่คำนำหน้าผมเอง..เค้าจะเปลี่ยนของเค้า ไม่ได้จะมาเปลี่ยนของผมหนิ

(เออ ถ้ามันกระเทือนมาที่เราเองต้องเดือดร้อนไปอำเภอ เพื่อไปเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น อันนั้นเห็นด้วยว่ามันมาก้าวก่ายสิทธิ์เรา)

 


ความผิดปกติที่ไม่สามารถมีบุตรได้ตามธรรมชาติกับการเป็นผู้หญิงข้ามเพศมันต่างกันครับ
ผมยังไม่เข้าใจนะว่าคุณมองตรงไหนว่ามันเหมือนกัน บางคนไม่รู้หรอกครับว่าเป็นหมันถ้าไม่ได้ตรวจ เอาง่าย ๆ ตอนนี้คุณรู้ไหมว่าตัวเองเป็นหมันหรือไม่เป็น แล้วคู่สมรสที่เขาไปตรวจก่อนเนี่ย เขาวางแผนเรื่องมีครอบครัว แสดงว่าต้องอยากมีลูกสิครับ ตรวจก่อนตรวจหลังมันก็แล้วแต่เขา

ซึ่งมันต่างกันกับผู้หญิงข้ามเพศที่จงใจปกปิดว่าตัวเองมีบุตรไม่ได้อยู่ การเปลี่ยนคำนำหน้ามันติดตรงนี้ไง

ดารา ศิลปินในประเทศที่เขาสมรสเพศเดียวกันได้ ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนคำนำหน้านะ บางกลุ่มไม่ใช้ She He แต่ใช้ They แทน บางคู่ก็มีลูกด้วยซ้ำ ใช้การบริจาคไข่ สเปิร์มแทน

คุณมั่นใจตัวเองใช่ไหมครับว่าถ้าจู่ ๆ คนที่คบกันมา วางแผนแต่งงานมาโป๊ะแตกว่าเป็นข้ามเพศ

หรือถ้าคุณเทียบกันว่าถ้าคุณกับแฟนอยากมีลูก แต่เป็นคุณเองที่เป็นหมัน คุณคิดว่าสองกรณีนี้มันเหมือนกันจริงเหรอ

มีบุตรไม่ได้ตามธรรมชาติของโรค กับมีบุตรไม่ได้เพราะไม่มีอวัยวะสืบพันธุ์มันเหมือนกันเหรอครับ  


นั่นก็เป็นปัญหาที่คู่เค้าต้องไปแก้กันนะผมว่า ทรานส์มีลูกไม่ได้แต่สุดท้ายปิดบังความจริงจนโป๊ะแตกมา ก็อยู่ที่ว่าจะคุยกันยังไง จะเลิก หรือว่าจะไปต่อ เพราะว่าการมีลูกถ้าเค้าโอเคที่ DNA ฝั่งแม่จะไม่ใช่คู่ของเค้า คู่เค้าตกลงกันได้มันก็จบ เข้าใจแหละว่ามันเป็นปัญหา แต่ปัญหามันก็เกิดมาจากที่สังคมยังไม่ยอมรับคนข้ามเพศได้เต็มที่ เค้าก็เลยต้องปิดบังความจริง ใช่มั้ยล่ะครับ

ส่วนฝั่ง ช แท้ หรือ ญ แท้ เองถ้าเกิดก่อนมีลูกไปตรวจแล้วใครคนใดคนนึงเป็นหมันขึ้นมา สุดท้ายแล้วก็น่าจะจบลงไม่ต่างกันนะ ถ้าเหตุผลเรื่องลูกมาเป็นหลักจริงๆ มันก็ไม่ต่างกัน เรื่องคู่ที่ว่าคู่นั้นไม่สามารถมีลุกด้วยกันได้ แต่จะต่างกันแค่ที่มาคืออีกคนปิดบัง อีกคนเป็นเพราะสมรรถภาพในการมีลูก

ปล. แปะ Podcast อันนี้ครับ เปิดโลกเหมือนกัน ถ้าคู่ Trans อยากมีลูกต้องทำยังไงบ้าง

 


คือคุณคิดว่าการผิดปกติทางร้างกายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจนเป็นเหตุให้เป็นหมัน
กับการไม่มีอวัยวะสืบพันธุ์เพศตรงข้าม ทำให้ไม่มีบุตรได้ มันเหมือนกันเหรอครับ

เรื่องอุ้มบุญ ผสมเทียม หรือแม้แต่บริจาค ไข่ สเปริ์ม ผมพูดถึงไปแล้วนี่ ว่ามันทำได้ ตามความสมัครใจของทั้งคู่ ต่างประเทศมีหลายคู่ที่เขาเป็นคู่เพศเดียวกันแล้วมีลูกได้แล้ว มันไม่ได้ใหม่เลยเรื่องนี้ คนดังที่เป็น ชxช รักร่วมเพศแล้วมีลูกแบบรับบริจาคไข่ก็มีให้เห็น แต่ที่ใหม่คือในไทยกับการเปลี่ยนคำนำหน้า

เห็นข่าวดาราข้ามเพศที่เปิดตัวคบกันแฟนผู้ชายไปไหมครับ นั่นเขารับได้เพราะรู้ตั้งแต่เริ่มไง มันต่างกันนะ รู้ก่อนรู้หลัง

เทียบกันก็ได้ ถ้าคู่คุณมีคนใดคนหนึ่งเป็นหมัน คุณจะโกรธเขาไหม หรือเขาจะโกรธคุณไหม คิดว่าโดนหลอกไหมครับ

กับอีกกรณีที่เป็นหญิงข้ามเพศแล้วคุณมารู้ตอนตรวจก่อนแต่งว่าเป็น XY คุณพูดได้เต็มปากไหมว่าไม่เป็นไร ฉันรับได้ 100%

นี่ผมพูดถึงแค่เรื่องมีบุตรนะ เห็นคนอื่นเขาถกประเด็นการแข่งกีฬาด้วย ที่มีออกข่าวว่าหญิงข้ามเพศลงแข่งกับหญิงแท้  


คือคุณคิดว่าการผิดปกติทางร้างกายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจนเป็นเหตุให้เป็นหมัน
กับการไม่มีอวัยวะสืบพันธุ์เพศตรงข้าม ทำให้ไม่มีบุตรได้ มันเหมือนกันเหรอครับ


ที่ผมสื่อคือการที่ทั้งคู่มีบุตรไม่ได้เหมือนกัน แล้วหลังจากนั้นจะทำยังไงกันต่อ เพราะผลลัพท์มันก็เหมือนๆกัน ว่าต้องหาทางออกทางอื่นถ้าจะมีลูก ซึ่งอันนี้มันเป็นเรื่องของคนสองคนล้วนๆ คำนำหน้าชื่อแทบจะมีส่วนอะไรกับเรื่องพวกนี้เลย

กับอีกกรณีที่เป็นหญิงข้ามเพศแล้วคุณมารู้ตอนตรวจก่อนแต่งว่าเป็น XY คุณพูดได้เต็มปากไหมว่าไม่เป็นไร ฉันรับได้ 100%

ถ้าถามผมว่าผิดหวังมั้ย ใช่ผมผิดหวัง แต่ว่าคุยกันมาจนถึงจะแต่งงาน ละวางแผนมีลูกกันแล้ว ผมว่ามันมีทางเลือกอื่นอีก ที่ทำให้คู่ไปต่อได้ ผมไม่ซีเรียสว่าลูกผมต้องเป็นลูกที่เกิดจากภรรยาผมเท่านั้น

เรื่องคนมารู้ทีหลังนั่นมันก็เรื่องทั่วๆไปอ่ะ หลายๆคู่ก็มีบางอย่างมารู้ทีหลังเหมือนกัน ที่ทำให้เสียความรู้สึกแล้วเลิกกันไป บางคู่อีกฝ่ายเคยขายบริการมาก่อนหรือเป็นเด็กเสี่ยมาก่อน บางคู่อีกฝ่ายเคยมีลุกติดมาก่อน บางคู่อีกฝ่ายไปทำศัลยกรรมมาจนเปลี่ยนเป็นอีกคน อันนี้ก็อยู่ที่คู่นั้นแล้วว่าจะยังไงกันต่อ มันต่างอะไรกันกับที่มารู้ทีหลังว่าคนๆนี้เป็นคนขามเพศอ่ะครับ

ส่วนเรื่องกีฬาผมมองออกทางเดียวที่เป็นไปได้คือ ประเภทเฉพาะเพศที่เป็นทรานส์เท่านั้นครับ ทรานส์ต้องไม่ไปแข่งกับ เพศดั้งเดิม  


ต่างสิครับ เพราะถ้าเขาทั้งคู่สมัครใจเรื่องมีลูกแบบที่คู่รักร่วมเพศตกลงกันแล้วรับบริจาคไข่ มันจะไม่เป็นปัญหา

คุณมองว่าโอเค มันมีวิธีมีลูก ใช่ครับมันมี มันไม่ใช่เรื่องใหม่ที่ต้องเปิดโลก ต่างประเทศเขามีแล้วหลายเคส

แต่ถ้าไม่รู้อะไรเลย แล้วมาเจอว่าอ้าว เธอเป็น Trans กับคนที่เขาคิดว่าเขาคบผู้หญิงแท้มาตลอด มันเป็นยังไง

คุณเองยังบอกว่าคุณผิดหวัง คิดว่าหลายคนที่เขาคิดว่าคบหญิงแท้แล้วเจอแบบนี้คงไปไม่เป็น

ถ้าจะให้เท่าเทียม ฝ่ายชายก็ควรได้รับความเท่าเทียมด้วยสิครับ ไม่ได้พูดถึงประเด็นการปกปิดความจริงนะ แต่ความเท่าเทียมที่ฝ่ายชายควรจะได้รู้ว่าเขาคบกับ trans หรือ หญิงแท้มันไปไหน

แต่เหมือนที่ตอบอีกคนไปแหละครับ ถ้าคุณมองว่าเหมือนกัน ก็ตามนั้น ผมแค่คิดต่างกับคุณตรงนี้  


ประเด็นอื่นตัดจบเลยนะฮะ น่าจะคิดต่างกันแล้ว

ถ้าจะให้เท่าเทียม ฝ่ายชายก็ควรได้รับความเท่าเทียมด้วยสิครับ ไม่ได้พูดถึงประเด็นการปกปิดความจริงนะ แต่ความเท่าเทียมที่ฝ่ายชายควรจะได้รู้ว่าเขาคบกับ trans หรือ หญิงแท้มันไปไหน

แต่ผมติดที่ตรงนี้นิดหน่อยว่าทำไมฝ่ายชายต้องได้รับความเท่าเทียมด้วยคำนำหน้าชื่อ จริงอยู่ถ้ามีบอกมันอาจจะรู้ได้เลยว่าคนๆนั้นเป็นเพศไหนมาก่อนแต่แรก

แต่ประเด็นการไปบล็อคการเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อเค้าเพียงเพราะฝ่ายชายต้องการรู้เพศสภาพเดิมของเค้าผมว่ามันไม่ใช่ความเท่าเทียมอ่ะ เพียงแค่ทำเพื่อให้ฝ่ายชายรู้เพศเดิมของเค้าเฉยๆ แต่สิทธิที่เค้าควรจะเปลี่ยนสถานะเพศทางสังคมของเค้าก็ต้องหายไปผมว่ามันเทียบกันไม่ได้อ่ะ
 
 


มันก็วกกลับไปประเด็นเดิมเรื่องการที่ผู้ชายเขาอยากคบ แต่งงานกับผู้หญิงแท้ไงครับ

รสนิยมทางเพศมันเป็นเรื่องความสมัครใจไม่ใช่เหรอครับ Trans หญิงชอบผู้ชายเขาอยากแต่งกับผู้ชาย ก็ต้องเป็นผู้ชายที่รับได้ แบบที่ของดารา trans ท่านนั้นไง ฝ่ายชายเขารับได้ ชายรักชายเขาก็รักกันได้ ไปแต่งงานที่ประเทศก็มี เขาก็ไม่ได้เปลี่ยนคำนำหน้าคนใดคนหนึ่งเป็นเพศตรงข้ามนี่

แต่เปลี่ยนมาแล้วเป็นนางสาว แต่ผู้ชายเขาอยากได้คู่ครองแบบผู้หญิงแท้ เขาไม่มีสิทธิ์เหรอครับที่จะต้องรู้ว่าเป็น Trans หญิง จะหลอก ปกปิด หรือยังไงมันก็เหมือนกัน จะบอกว่าเออ เปลี่ยนไปก่อน แล้วถ้าไปเจอเหตุการณ์สมมติแบบนี้ขึ้นมาจะทำยังไงต่อ เสียใจกันทั้งสองฝ่ายแหละ ไม่ใช่แค่คนใดคนหนึ่ง

ถ้าจะให้ยอมรับว่าการที่เขาเป็น XY แต่อยากเป็นหญิง ตัวเขาก็ต้องยอมรับด้วยสิว่าผู้ชายที่เขามองหาคู่ XX แท้มันก็มี ถ้าอยากเปลี่ยนก็เปลี่ยนไปอ่ะ เปลี่ยนเลย แล้วผู้ชายเขาจะรู้ได้จากไหนว่าไม่ใช่ XX แท้ ถ้าไม่ตามสืบ แบบนี้มันเรียกว่าความรักเหรอครับ ผมไม่พูดเรื่องนอกใจ หลอกเงินนะ อันนั้นคนละประเด็นไม่เกี่ยว

ผมไม่ได้มีปัญหาที่เขาจะเรียกร้องสิทธิ์การแต่งงาน การสืบทอดมรดกนี่

แล้วไม่คิดถึงเรื่องเดินทางไปต่างประเทศที่เขาไม่ได้มีกฎหมายแบบที่ไทยเรียกร้องบ้างเหรอครับ  


ถ้าเรื่องเปลี่ยนคำนำหน้าแล้วมันกระทบเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศที่กฏหมายไม่รองรับก็ควรจะยกประเด็นนี้มาแต่แรกสิครับ โควทยืดยาวมามันก็วนอยู่แค่ว่าชายแท้จะแยกเพศว่าเป็น ญ แท้แต่กำเนิดหรือเปล่าทั้งนั้นไม่ใช่หรอ

คุณก็บอกแล้วว่าเห็นต่างกับผม ไม่ต้องยกประเด็นยาวเหยียดเรื่องเลือกคู่มาหรอก ไม่จบแน่ๆ ที่ผมต่อตอนแรกก็แค่ติดใจกับคำว่าความเท่าเทียมของคุณที่มองเพียงแค่จะได้รับรู้ว่าเพศสภาพเก่าเค้าเป็นอะไรจะได้เลือกคู่ครองง่ายๆตามสเปคในใจ มันดูเท่าเทียมกว่าการที่คนข้ามเพศเค้าจะได้มีหน้ามีตาในสังคมด้วยเพศที่เค้าอยากจะเป็นมากกว่าเท่านั้นเองครับ  


มีหน้ามีตาในสังคมคือยังไงครับ คำนำหน้ามันบอกถึงความสำคัญของการเป็นคนถึงระดับไหนในสังคม
มันต้องแยกประเด็นออกไปสิครับ ไม่ใช่เอามาเทียบกันว่าอันไหนมากกว่า เพราะมันคนละเรื่องครับ
อยากให้สังคมยอมรับ ผมว่าสังคมไทยนี่ให้เสรีและยอมรับเรื่องนี้กันไปไกลแล้วนะ

เพศทางเลือกควรภูมิใจในตัวเองไม่ใช่เหรอครับ แล้วก็ต้องรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นด้วยสิครับ ทำไมต่างชาติที่เขานำหน้าเราไปแล้วเรื่องนี้ไม่เห็นต้องมาสนใจตรงนี้ เขาเรียกร้องกันส่วนอื่นครับ พวก They เขาก็ภูมิใจในความเป็น They ของเขา ไม่เห็นต้องมาร้องขอให้ไปเป็น Ms. Mrs.

ผมบอกชัดเจนนะว่าคำว่าเท่าเทียมของผมเป็นประเด็นไหน แต่งงาน ทายาท หรือแม้การเซ็นเอกสารทางการแพทย์ สมรสได้เท่าเทียม อยากแต่งกับเพศไหนก็ตามแต่รสนิยมทางเพศไปเลย ตรงนี้ไม่ใช่เหรอที่เป็นหลักใหญ่ ๆ ของ พรบ. ที่โหวตผ่านรัฐสภาไป
ถ้าจะเรียกร้องสิทธิ์ก็เรียกร้องไปครับ ไม่ได้ผิด คนสนับสนุนน่าจะเยอะด้วย แต่คำนำหน้ามันส่งผลกระทบกับคนอื่น

 


ก็รูปร่างภายนอกเค้าเป็นผู้หญิง ไปเรียกเค้าว่าเป็นนาย อะไรแบบนี้มันก็ดูแปลกป่ะครับ มันก็คือการไม่ยอมรับความเป็นหญิง/ชาย ของเค้าหรือเปล่า ถึงแม้ว่าเค้าจะข้ามเพศมา อย่างที่ยกตัวอย่างจากเม้นก่อนๆไป สังคมไทยเอาจริงๆมันยอมรับกันแค่เปลือกอ่ะ ลึกๆในใจก็ยังไม่ได้ยอมรับกันขนาดนั้น

เพศทางเลือกควรภูมิใจในตัวเอง ใช่ครับ เค้าควรภูมิใจ แต่การที่เค้าแปลงเพศมาขนาดนี้แล้ว แต่คนก็ยังมองเค้า เรียกเค้าเหมือนเค้ายังเป็นเพศดั้งเดิมแบบนี้คุณไม่คิดว่ามันไปลดความมั่นใจหรือความภูมิใจเค้าบ้างหรอ ต่างชาติที่เค้าไม่มากังวลประเด็นนี้ก็เพราะเค้าไม่ได้สนปัญหาการแยกเพศเพราะคำนำหน้าอย่างพวกคุณเลยสักนิด เค้าห่วงแค่ว่าเพศของคนคนนั้นคืออะไร เป็นทรานส์ก็บอกทรานส์ จะใช้ Mr. Mrs. ก็เรื่องของเค้า

อ้างอิงจาก:
If you want to change your title to one of the opposite gender, for example from Mr to Mrs or vice versa, you wouldn’t normally need a deed poll. In general, you’re free to use any social title, and — assuming the new title is part of a change of gender — you simply need to inform record holders of the new title. The important matter for most organisations is your change of gender.  


อันนี้ของ UK

https://deedpolloffice.com/advice/transgender

อ้างอิงจาก:
a person has the right to be referred to by their new gender title - namely “Mr” instead of “Ms/Mrs” or vice-versa. Same also, if he/she changes only the name and not the gender.  


อันนี้ของเยอรมัน

https://www.regenbogenportal.de/english/changing-name-or-gender-status-with-the-transsexual-lawtsg

ถ้าจะแก้ปัญหาพวกนี้ที่เถียงกันมายาวเหยียด ก็แค่ระบุเพศไปตรงบัตรประชาชนไปมันก็จบแล้วไม่ใช่หรอครับ? นาง/นางสาว A เพศ หญิงข้ามเพศ หรืออะไรพวกนี้อ่ะ หรือว่ายังไม่โอเคกันอีก

ปล. They ที่เค้าใช้กันคือคนที่เป็น non-binary (คนไม่ระบุเพศ) ครับ แต่ว่าคนที่เป็นทรานส์เค้ามักจะใช้ He, She, Him, Her เรียกกันเหมือน ช กับ ญ มากกว่า  


ลองไปไล่อ่านที่ผมตอบไปนะครับ ผมพิมพ์ไปแล้วว่า อยากเปลี่ยน เปลี่ยนเลย เปลี่ยนแล้วต้องบอกด้วยว่าไม่ใช่สภาพเพศแท้ เรื่องมีลูก รสนิยมทางเพศมันแค่ส่วนหนึ่ง จะตัดออกไม่มีคำนำหน้าก็ได้

คุณก็บอกว่าเองว่ามันหลอกกันได้ทุกเรื่องไม่ใช่แค่เพศ แค่นี้ในไทยยังมีเคสโดนหลอกไปเยอะแล้ว ประเด็นของผมคือเปลี่ยนแล้วคนที่คบด้วยไม่รู้ จะให้ทำยังไง ในเมื่อคุณยกของ UK มา ต้องเอามาทั้งหมดสิครับ

People who are transgender but don’t have a Gender Recognition Certificate are free to use titles of the opposite gender, but bear in mind that you should not deceive anybody as to your birth gender for financial gain — this would be considered fraud.

อยากใช้ ใช้ได้ แต่มีเงื่อนไข

ในเมื่อเถียงกันว่าการมีคู่ที่เป็น นางสาวแบบ XX มันมีผลกระทบอะไรมาบ้าง มันก็ต้องมีการยอมรับให้ได้ว่าเพศสภาพโดยกำเนิดกับเพศสภาพทางเลือกมันเป็น Fact

ก่อนคบไม่สืบ ก่อนแต่งไม่สืบ พวกคำเหล่านี้จะไม่จำเป็นถ้าไม่มีการปกปิดเพศตาม Chromosome หรือตอนจะคบใครจะมีคนไปถามเหรอครับว่า เธอ ๆ เป็น XX หรือ XY หรือต้องไปขอดูบัตรประชาชน

จากการที่เขาเสนอคำนำหน้า คือจะเอาออกไปเลย ไม่ใช้นาย ใช้นางสาวแทน ไม่มีระบุ เขาอยากเป็นหญิงเต็มตัว

ไม่คิดเหรอครับว่าไประบุในบัตรว่า "หญิงข้ามเพศ" เป็นการตีตราให้เขาไม่ต่างกับการตีเลขไพร่

ผมแค่มองว่า ถ้าเป็น Trans ต้องยอมรับในตัวเองที่เป็น Trans ให้ได้ด้วย หลายคนยินดียอมรับในตัวเขา แต่ตัวเขาเลือกปกปิดสถานะทางเพศจริงเพราะ "อาย" มันคงไม่ใช่  


ประเด็นของผมคือเปลี่ยนแล้วคนที่คบด้วยไม่รู้ จะให้ทำยังไง ในเมื่อคุณยกของ UK มา ต้องเอามาทั้งหมดสิครับ

People who are transgender but don’t have a Gender Recognition Certificate are free to use titles of the opposite gender, but bear in mind that you should not deceive anybody as to your birth gender for financial gain — this would be considered fraud.

ผมไม่เห็นประโยคไหนมันเกี่ยวกับคำนำหน้าชื่อเลยนะ เค้าก็แค่บอกว่าห้ามปกปิดไม่ใช่หรอครับ?

เพราะผมก็บอกแต่แรกแล้วผมติดแค่เรื่องที่คุณบอกว่าความเท่าเทียมของชายแท้ที่มีสิทธิจะรู้ได้จากคำนำหน้าชื่อมันไม่เมคเซนส์ มันเรียกว่าการเอาเปรียบของฝ่ายชายด้วยซ้ำ ฝ่ายชายแค่มีสิทธิที่จะรู้ว่าเพศๆนั้นเป็นเพศที่ผ่านการแปลงมาหรือเปล่า ซึ่งไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ เพราะไม่ใช่เรื่องของฝ่ายชายจนกระทั่งฝ่ายชายเองจะไปคบกับคนข้ามเพศ

กลับกันคนข้ามเพศมีผลกระทบโดยตรง ไม่ต้องไปหาคบกับ ผช ก็ได้คำนำหน้าเค้าก็ยังเป็นนายอยู่เหมือนเดิม จะทำอะไร จะเกิดมาหรือตายไป คำนำหน้ามันก็เป็นนายอยู่เหมือนเดิม อันนี้คือสิ่งที่เค้าต้องเจอ มันไม่ใช่ปัญหาของฝ่ายชายสักนิดเดียว

แล้วสองประโยคท้ายของคุณก็ขัดแย้งกันเองในตัวนะครับการมีเพศปรากฏบนบัตรประชาชนคุณดันไปคิดว่ามันไม่ต่างกับการตีเลขไพร่ แต่อีกประโยคคุณกลับบอกว่าคนข้ามเพศควรจะภูมิใจในตัวเอง จริงไหม? สรุปคือเค้าทำอะไรได้บ้างครับ? ถ้าเค้าภูมิใจในการเป็นคนข้ามเพศเค้าก็ควรจะรับตรงนี้ได้หรือเปล่าครับ หรือว่าคุณยังมองว่าการมีเพศในบัตรประชาชนมันเป็นเรื่องน่าอายอยู่ล่ะ

อ้างอิงจาก:
ถ้าจะให้เท่าเทียม ฝ่ายชายก็ควรได้รับความเท่าเทียมด้วยสิครับ ไม่ได้พูดถึงประเด็นการปกปิดความจริงนะ แต่ความเท่าเทียมที่ฝ่ายชายควรจะได้รู้ว่าเขาคบกับ trans หรือ หญิงแท้มันไปไหน  


อ้างอิงจาก:
ผมบอกชัดเจนนะว่าคำว่าเท่าเทียมของผมเป็นประเด็นไหน แต่งงาน ทายาท หรือแม้การเซ็นเอกสารทางการแพทย์ สมรสได้เท่าเทียม อยากแต่งกับเพศไหนก็ตามแต่รสนิยมทางเพศไปเลย ตรงนี้ไม่ใช่เหรอที่เป็นหลักใหญ่ ๆ ของ พรบ. ที่โหวตผ่านรัฐสภาไป
ถ้าจะเรียกร้องสิทธิ์ก็เรียกร้องไปครับ ไม่ได้ผิด คนสนับสนุนน่าจะเยอะด้วย แต่คำนำหน้ามันส่งผลกระทบกับคนอื่น  


ถ้าสองมาร์คแดงที่คุณสื่อมันไม่ได้หมายถึงว่าสิ่งที่คุณสามารถแยกเพศของคนข้ามเพศได้มาจากคำนำหน้าชื่อ ดังนั้นไม่ควรจะเปลี่ยน ผมว่าก็จบแค่โพสต์นี้เถอะครับ เพราะประเด็นของผมมันมีแค่คำนำหน้าชื่อเฉยๆ ซึ่งมันไม่ควรจะเป็นปัญหาแก่ใครใดใดทั้งนั้น แค่ระบุเพศให้ชัดเจนว่าคุณเป็นเพศอะไร ทุกอย่างก็เคลียร์ ทั้งเรื่องของต่างชาติไม่ว่าจะ UK หรือ เยอรมัน เค้าก็บอกเหมือนกับที่ผมจะสื่อหรือที่คุณกังวลเหมือนกันว่าคำนำหน้ามันไม่มีปัญหาอะไรใดใดทั้งสิ้น ถ้าอยากจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน แต่เรื่องเพศสภาพมันไม่ควรที่จะปกปิด
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Jul 2020
ตอบ: 4414
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 01, 2022 12:19
[RE: คิดยังไงกับเพศที่ 3]
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
BLIИK พิมพ์ว่า:

ตอนนี้มีสักกี่ % กันเชียวตอนนี้ที่โดนทรานส์หลอกว่าเป็น ญ แท้กันอ่ะ แล้วเราจะไปกันเพราะคนแค่ไม่กี่ % ตรงนั้นหรอเพื่อคนอีกมากมายหรอครับ แค่คำนำหน้าชื่อเองนะ
 


อันนี้ตรงใจผมมากเลยฮะท่าน

สรุปที่คุยกันมาหลายๆความเห็น กลายเป็นว่าแค่กลัวโดนหลอก ในการใช้ชีวิตคู่..ทั้งๆที่เรื่องที่จะหลอกมีอีกเป็นพันเรื่อง

ไม่ว่าจะเรื่องเป็นโรคร้าย, บ้านมีหนี้สิน, มีลูกติด, เคยทำงานผิดกฏหมาย, เคยมีสามีหลายคน ฯลฯ

(และเราจะสะเพร่าขนาดคบคนๆนึงถึงขั้นใช้ชีวิตคู่ โดยไม่คิดอยากรู้ประวัติอะไรเค้าเลย..จะพึ่งพาคำนำหน้าชื่ออย่างเดียว)

แต่ในมุมของคนที่เป็นทรานส์ คำนำหน้าชื่อโคตรมีความหมายกับเค้าเลยนะฮะ..คนๆนึงตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ นี่คือต้อง deep จริงๆ

แปลว่าเค้าไม่ต้องการสภาพทุกอย่างของการเป็นเพศนั้นแล้ว (ใครมันจะอยากเจ็บตัว เสียเงินมหาศาล เพื่อแค่จะหลอก ช คนเดียว)

แต่ทุกครั้งที่หยิบบัตรประชาชนขึ้นมาคำๆนั้นก็ตอกย้ำฟ้องตัวเองอยู่ตลอด ท้งๆที่แม่มไม่ได้เป็นปัญหา เดือดร้อนใครเลย บัตรตัวเองแท้ๆ

ทุกครั้งที่ไปสถานที่ราชการ (หรือเอกชน) ร.พ. อะไรก็ตาม..อุตส่าห์เปลี่ยนชื่อมาซะสวย แต่คนตะโกนเรียก "นาย อุรัสยา"

ต้องทนมองสายตาชาวบ้านกลั้นขำ กลายเป็นตัวตลกสังคม..เพราะ ผู้ชายกลัวโดนหลอก เสียความรู้สึก


หลายๆคนที่บอกว่าไม่ได้รังเกียจ มีเพื่อนเป็น ญ ข้ามเพศหลายคน กล้ามองตาเค้าแล้วพูดตรงๆมั๊ยว่า..

"กูไม่อยากให้พวกมึงใช้คำว่านางสาวนะ เพราะกลัวโดนคนแบบพวกมึงหลอกว่าเป็น ญ แท้ แล้วมันเสียเวลา เสียความรู้สึกกู"

 


ถ้าอยากรู้ประวัติแล้วต้องทำยังไงครับ ต้องพาไปตรวจเท่านั้นหรอครับก่อนจะเริ่มจีบใครสักคน หรือมีวิธีอื่นไหมผมยังนึกไม่ออกถ้าภายนอกเหมือนผู้หญิงมากๆ

เรื่องอื่นเข้าใจได้นะ เรื่องอื่นก็หลอกได้เหมือนกันแค่มีเรื่องให้ถูกหลอกเพิ่มมาอีกเรื่องนึง ถ้าคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องเพศขนาดนั้นก็คงโอเค แต่บางคนคงคิดว่าเรื่องใหญ่เพราะเรื่องรสนิยมและเรื่องลูกด้วย

ถ้าทำหน้าอะไรมาเหมือนผู้หญิงแล้วจริงๆเห็นด้วยนะว่าอยากให้เปลี่ยนได้  


การอยากรู้ประวัติมีอีกเป็นร้อยวิธีอ่ะครับ โดยไม่ต้องไปนั่งขอดูบัตรประชาชน..เราคบใครซักคนเราไม่ต้องคุยเรื่องอดีตกับเค้า

ไม่ต้องรู้จักเพื่อนเค้า ครอบครัวเค้าเลยหรอฮะ ผมว่าพวกนี้มันพื้นฐานยิ่งกว่าการไปขอใครดูบัตรอีกนะ..

(อยากเปิดโหวตเหมือนกันว่า แต่ละคนที่คบกับแฟนอยู่เห็นบัตรประชาชนแฟนครั้งแรกตอนคบกันกี่วัน ผมว่าบางคนเป็นปีๆไม่ดูด้วยซ้ำ)

ผมคิดเหมือนท่านข้างบนแหละฮะ ทุกวันนี้มันมีเคสที่ ญ ข้ามเพศไปหลอก ช ซักกี่คน แล้วหลอกสำเร็จซักกี่คน

แล้วที่โดนจับได้เพราะไปดูบัตรประชาชนเห็น"นาย"จะมีซักกี่เคส..นี่เล่นเหมาเอาหมดว่าคนเปลี่ยนคำนำหน้าทุกคนเพื่อจะมาหลอก ช

 


ผมไปบอกตอนไหนว่าเหมาหมด ผมบอกอยู่ว่าไม่ได้คิดว่าเยอะมากแค่บอกว่าเป็นข้อเสียที่จะมี แล้วก็แค่มองว่าขอดูบัตรมันง่ายกว่าไปให้หมอตรวจเยอะเท่านั้น

ถ้าให้โหวตว่าขอดูบัตรประชาชนก่อนหรือพาไปตรวจก่อน การขอดูบัตรก็น่าจะง่ายกว่า แล้วเปลี่ยนคำนำหน้าก็มีโอกาสทำให้หลอกง่ายขึ้นด้วยเพราะตอนนี้ยังไม่ได้เปลี่ยนไง

ประเด็นไม่ใช่การคุยถาม แต่ประเด็นคือคุยแล้วโดนหลอก ไม่งั้นใส่ในบัตรประชาชนให้รู้ว่าเคยเป็นนายมาก่อนก็ได้ถ้าห่วงเรื่องอายเวลาโดนเรียก เรื่องอื่นไม่ติดเลย
แก้ไขล่าสุดโดย JansBlu เมื่อ Fri Jul 01, 2022 12:24, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Mar 2021
ตอบ: 2923
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 01, 2022 12:21
ถูกแบนแล้ว
[RE: คิดยังไงกับเพศที่ 3]
...
แก้ไขล่าสุดโดย :ดีใจจังขนมปังขึ้นรา: เมื่อ Fri Jul 01, 2022 12:22, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้จัดการทีม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Oct 2005
ตอบ: 38448
ที่อยู่: Kanagawa, Japan
โพสเมื่อ: Fri Jul 01, 2022 12:26
[RE: คิดยังไงกับเพศที่ 3]
JansBlu พิมพ์ว่า:
Spoil
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
BLIИK พิมพ์ว่า:

ตอนนี้มีสักกี่ % กันเชียวตอนนี้ที่โดนทรานส์หลอกว่าเป็น ญ แท้กันอ่ะ แล้วเราจะไปกันเพราะคนแค่ไม่กี่ % ตรงนั้นหรอเพื่อคนอีกมากมายหรอครับ แค่คำนำหน้าชื่อเองนะ
 


อันนี้ตรงใจผมมากเลยฮะท่าน

สรุปที่คุยกันมาหลายๆความเห็น กลายเป็นว่าแค่กลัวโดนหลอก ในการใช้ชีวิตคู่..ทั้งๆที่เรื่องที่จะหลอกมีอีกเป็นพันเรื่อง

ไม่ว่าจะเรื่องเป็นโรคร้าย, บ้านมีหนี้สิน, มีลูกติด, เคยทำงานผิดกฏหมาย, เคยมีสามีหลายคน ฯลฯ

(และเราจะสะเพร่าขนาดคบคนๆนึงถึงขั้นใช้ชีวิตคู่ โดยไม่คิดอยากรู้ประวัติอะไรเค้าเลย..จะพึ่งพาคำนำหน้าชื่ออย่างเดียว)

แต่ในมุมของคนที่เป็นทรานส์ คำนำหน้าชื่อโคตรมีความหมายกับเค้าเลยนะฮะ..คนๆนึงตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ นี่คือต้อง deep จริงๆ

แปลว่าเค้าไม่ต้องการสภาพทุกอย่างของการเป็นเพศนั้นแล้ว (ใครมันจะอยากเจ็บตัว เสียเงินมหาศาล เพื่อแค่จะหลอก ช คนเดียว)

แต่ทุกครั้งที่หยิบบัตรประชาชนขึ้นมาคำๆนั้นก็ตอกย้ำฟ้องตัวเองอยู่ตลอด ท้งๆที่แม่มไม่ได้เป็นปัญหา เดือดร้อนใครเลย บัตรตัวเองแท้ๆ

ทุกครั้งที่ไปสถานที่ราชการ (หรือเอกชน) ร.พ. อะไรก็ตาม..อุตส่าห์เปลี่ยนชื่อมาซะสวย แต่คนตะโกนเรียก "นาย อุรัสยา"

ต้องทนมองสายตาชาวบ้านกลั้นขำ กลายเป็นตัวตลกสังคม..เพราะ ผู้ชายกลัวโดนหลอก เสียความรู้สึก


หลายๆคนที่บอกว่าไม่ได้รังเกียจ มีเพื่อนเป็น ญ ข้ามเพศหลายคน กล้ามองตาเค้าแล้วพูดตรงๆมั๊ยว่า..

"กูไม่อยากให้พวกมึงใช้คำว่านางสาวนะ เพราะกลัวโดนคนแบบพวกมึงหลอกว่าเป็น ญ แท้ แล้วมันเสียเวลา เสียความรู้สึกกู"

 


ถ้าอยากรู้ประวัติแล้วต้องทำยังไงครับ ต้องพาไปตรวจเท่านั้นหรอครับก่อนจะเริ่มจีบใครสักคน หรือมีวิธีอื่นไหมผมยังนึกไม่ออกถ้าภายนอกเหมือนผู้หญิงมากๆ

เรื่องอื่นเข้าใจได้นะ เรื่องอื่นก็หลอกได้เหมือนกันแค่มีเรื่องให้ถูกหลอกเพิ่มมาอีกเรื่องนึง ถ้าคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องเพศขนาดนั้นก็คงโอเค แต่บางคนคงคิดว่าเรื่องใหญ่เพราะเรื่องรสนิยมและเรื่องลูกด้วย

ถ้าทำหน้าอะไรมาเหมือนผู้หญิงแล้วจริงๆเห็นด้วยนะว่าอยากให้เปลี่ยนได้  


การอยากรู้ประวัติมีอีกเป็นร้อยวิธีอ่ะครับ โดยไม่ต้องไปนั่งขอดูบัตรประชาชน..เราคบใครซักคนเราไม่ต้องคุยเรื่องอดีตกับเค้า

ไม่ต้องรู้จักเพื่อนเค้า ครอบครัวเค้าเลยหรอฮะ ผมว่าพวกนี้มันพื้นฐานยิ่งกว่าการไปขอใครดูบัตรอีกนะ..

(อยากเปิดโหวตเหมือนกันว่า แต่ละคนที่คบกับแฟนอยู่เห็นบัตรประชาชนแฟนครั้งแรกตอนคบกันกี่วัน ผมว่าบางคนเป็นปีๆไม่ดูด้วยซ้ำ)

ผมคิดเหมือนท่านข้างบนแหละฮะ ทุกวันนี้มันมีเคสที่ ญ ข้ามเพศไปหลอก ช ซักกี่คน แล้วหลอกสำเร็จซักกี่คน

แล้วที่โดนจับได้เพราะไปดูบัตรประชาชนเห็น"นาย"จะมีซักกี่เคส..นี่เล่นเหมาเอาหมดว่าคนเปลี่ยนคำนำหน้าทุกคนเพื่อจะมาหลอก ช

 

 

ผมไปบอกตอนไหนว่าเหมาหมด ผมบอกอยู่ว่าไม่ได้คิดว่าเยอะมากแค่บอกว่าเป็นข้อเสียที่จะมี แล้วก็แค่มองว่าขอดูบัตรมันง่ายกว่าไปให้หมอตรวจเยอะเท่านั้น

ถ้าให้โหวตว่าขอดูบัตรประชาชนก่อนหรือพาไปตรวจก่อน การขอดูบัตรก็น่าจะง่ายกว่า

ประเด็นไม่ใช่การคุยถาม แต่ประเด็นคือคุยแล้วโดนหลอก ไม่งั้นใส่ในบัตรประชาชนให้รู้ว่าเคยเป็นนายมาก่อนก็ได้ถ้าห่วงเรื่องอายเวลาโดนเรียก เรื่องอื่นไม่ติดเลย  


ท่านก็บอกเองว่าไม่คิดว่าจะเยอะมาก..แล้วทำไมกลับไปอยากจำกัดสิทธิ์ให้เค้าทั้งหมดห้ามใช้คำว่านางสาวอ่ะฮะ?

สำหรับผมอย่างที่พิมพ์ตลอดแหละฮะ..มีอีกเป็นพันวิธี ถ้าเราอยากจะคบใครจริงจัง โดยไม่ต้องไปดูบัตร หรือไปตรวจร่างกาย

แต่เหมือนกับส่วนใหญ่มักง่ายไปหน่อย เลยอยากใช้วิธีขีดเส้นจำกัดไว้บนบัตรไปเลยไม่ต้องสนใจคนอื่นๆที่เค้าไม่ได้คิดจะหลอกใครด้วย

(ถ้าลองเข้าใจถึงความรู้สึกของคนที่เค้าอยากเปลี่ยนว่าเค้าต้องการจริงๆ และมันมีเหตุผลอะไรบ้าง จะรู้ว่ามันเทียบไม่ได้เลยกับเหตุผลฝั่งที่ไม่อยากให้เปลี่ยน แค่ว่าจะได้จำแนกเพศง่ายดี ไม่อยากโดนหลอก ไม่อยากลองหาวิธีอื่นด้วย แค่เนี๊ยะ)


0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Jul 2020
ตอบ: 4414
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 01, 2022 12:37
[RE: คิดยังไงกับเพศที่ 3]
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
Spoil
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
BLIИK พิมพ์ว่า:

ตอนนี้มีสักกี่ % กันเชียวตอนนี้ที่โดนทรานส์หลอกว่าเป็น ญ แท้กันอ่ะ แล้วเราจะไปกันเพราะคนแค่ไม่กี่ % ตรงนั้นหรอเพื่อคนอีกมากมายหรอครับ แค่คำนำหน้าชื่อเองนะ
 


อันนี้ตรงใจผมมากเลยฮะท่าน

สรุปที่คุยกันมาหลายๆความเห็น กลายเป็นว่าแค่กลัวโดนหลอก ในการใช้ชีวิตคู่..ทั้งๆที่เรื่องที่จะหลอกมีอีกเป็นพันเรื่อง

ไม่ว่าจะเรื่องเป็นโรคร้าย, บ้านมีหนี้สิน, มีลูกติด, เคยทำงานผิดกฏหมาย, เคยมีสามีหลายคน ฯลฯ

(และเราจะสะเพร่าขนาดคบคนๆนึงถึงขั้นใช้ชีวิตคู่ โดยไม่คิดอยากรู้ประวัติอะไรเค้าเลย..จะพึ่งพาคำนำหน้าชื่ออย่างเดียว)

แต่ในมุมของคนที่เป็นทรานส์ คำนำหน้าชื่อโคตรมีความหมายกับเค้าเลยนะฮะ..คนๆนึงตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ นี่คือต้อง deep จริงๆ

แปลว่าเค้าไม่ต้องการสภาพทุกอย่างของการเป็นเพศนั้นแล้ว (ใครมันจะอยากเจ็บตัว เสียเงินมหาศาล เพื่อแค่จะหลอก ช คนเดียว)

แต่ทุกครั้งที่หยิบบัตรประชาชนขึ้นมาคำๆนั้นก็ตอกย้ำฟ้องตัวเองอยู่ตลอด ท้งๆที่แม่มไม่ได้เป็นปัญหา เดือดร้อนใครเลย บัตรตัวเองแท้ๆ

ทุกครั้งที่ไปสถานที่ราชการ (หรือเอกชน) ร.พ. อะไรก็ตาม..อุตส่าห์เปลี่ยนชื่อมาซะสวย แต่คนตะโกนเรียก "นาย อุรัสยา"

ต้องทนมองสายตาชาวบ้านกลั้นขำ กลายเป็นตัวตลกสังคม..เพราะ ผู้ชายกลัวโดนหลอก เสียความรู้สึก


หลายๆคนที่บอกว่าไม่ได้รังเกียจ มีเพื่อนเป็น ญ ข้ามเพศหลายคน กล้ามองตาเค้าแล้วพูดตรงๆมั๊ยว่า..

"กูไม่อยากให้พวกมึงใช้คำว่านางสาวนะ เพราะกลัวโดนคนแบบพวกมึงหลอกว่าเป็น ญ แท้ แล้วมันเสียเวลา เสียความรู้สึกกู"

 


ถ้าอยากรู้ประวัติแล้วต้องทำยังไงครับ ต้องพาไปตรวจเท่านั้นหรอครับก่อนจะเริ่มจีบใครสักคน หรือมีวิธีอื่นไหมผมยังนึกไม่ออกถ้าภายนอกเหมือนผู้หญิงมากๆ

เรื่องอื่นเข้าใจได้นะ เรื่องอื่นก็หลอกได้เหมือนกันแค่มีเรื่องให้ถูกหลอกเพิ่มมาอีกเรื่องนึง ถ้าคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องเพศขนาดนั้นก็คงโอเค แต่บางคนคงคิดว่าเรื่องใหญ่เพราะเรื่องรสนิยมและเรื่องลูกด้วย

ถ้าทำหน้าอะไรมาเหมือนผู้หญิงแล้วจริงๆเห็นด้วยนะว่าอยากให้เปลี่ยนได้  


การอยากรู้ประวัติมีอีกเป็นร้อยวิธีอ่ะครับ โดยไม่ต้องไปนั่งขอดูบัตรประชาชน..เราคบใครซักคนเราไม่ต้องคุยเรื่องอดีตกับเค้า

ไม่ต้องรู้จักเพื่อนเค้า ครอบครัวเค้าเลยหรอฮะ ผมว่าพวกนี้มันพื้นฐานยิ่งกว่าการไปขอใครดูบัตรอีกนะ..

(อยากเปิดโหวตเหมือนกันว่า แต่ละคนที่คบกับแฟนอยู่เห็นบัตรประชาชนแฟนครั้งแรกตอนคบกันกี่วัน ผมว่าบางคนเป็นปีๆไม่ดูด้วยซ้ำ)

ผมคิดเหมือนท่านข้างบนแหละฮะ ทุกวันนี้มันมีเคสที่ ญ ข้ามเพศไปหลอก ช ซักกี่คน แล้วหลอกสำเร็จซักกี่คน

แล้วที่โดนจับได้เพราะไปดูบัตรประชาชนเห็น"นาย"จะมีซักกี่เคส..นี่เล่นเหมาเอาหมดว่าคนเปลี่ยนคำนำหน้าทุกคนเพื่อจะมาหลอก ช

 

 

ผมไปบอกตอนไหนว่าเหมาหมด ผมบอกอยู่ว่าไม่ได้คิดว่าเยอะมากแค่บอกว่าเป็นข้อเสียที่จะมี แล้วก็แค่มองว่าขอดูบัตรมันง่ายกว่าไปให้หมอตรวจเยอะเท่านั้น

ถ้าให้โหวตว่าขอดูบัตรประชาชนก่อนหรือพาไปตรวจก่อน การขอดูบัตรก็น่าจะง่ายกว่า

ประเด็นไม่ใช่การคุยถาม แต่ประเด็นคือคุยแล้วโดนหลอก ไม่งั้นใส่ในบัตรประชาชนให้รู้ว่าเคยเป็นนายมาก่อนก็ได้ถ้าห่วงเรื่องอายเวลาโดนเรียก เรื่องอื่นไม่ติดเลย  


ท่านก็บอกเองว่าไม่คิดว่าจะเยอะมาก..แล้วทำไมกลับไปอยากจำกัดสิทธิ์ให้เค้าทั้งหมดห้ามใช้คำว่านางสาวอ่ะฮะ?

สำหรับผมอย่างที่พิมพ์ตลอดแหละฮะ..มีอีกเป็นพันวิธี ถ้าเราอยากจะคบใครจริงจัง โดยไม่ต้องไปดูบัตร หรือไปตรวจร่างกาย

แต่เหมือนกับส่วนใหญ่มักง่ายไปหน่อย เลยอยากใช้วิธีขีดเส้นจำกัดไว้บนบัตรไปเลยไม่ต้องสนใจคนอื่นๆที่เค้าไม่ได้คิดจะหลอกใครด้วย

(ถ้าลองเข้าใจถึงความรู้สึกของคนที่เค้าอยากเปลี่ยนว่าเค้าต้องการจริงๆ และมันมีเหตุผลอะไรบ้าง จะรู้ว่ามันเทียบไม่ได้เลยกับเหตุผลฝั่งที่ไม่อยากให้เปลี่ยน แค่ว่าจะได้จำแนกเพศง่ายดี ไม่อยากโดนหลอก ไม่อยากลองหาวิธีอื่นด้วย แค่เนี๊ยะ)


 


ก็ไม่ได้เข้าใจมากหรอกครับ เเต่เข้าใจคนที่โดนหลอก เพราะมันคือข้อเสียที่เกิดขึ้นได้แน่ๆ แค่สงสัยว่าถ้าไม่ได้จะหลอกใครแล้วทำไมจะมีระบุไม่ได้ว่าเคยเป็นนายมาก่อน

ผมก็พูดได้เหมือนกันว่าเหตุผลจะเปลี่ยนกเทียบไม่ได้กับเหตุผลที่ไม่ควรเปลี่ยน พูดได้เหมือนกันว่ามักง่ายอยากได้สิทธิจนไม่สนใจคนอื่นที่เดือดร้อน คุณก็ต้องนึกถึงใจคนอีกฝั่งเช่นกัน

สิทธิและความปลอดภัยของคนอื่นก็สำคัญเหมือนกัน อนาคตก็อยากให้เปลี่ยนได้เต็มที่ แต่ปัจจุบันเชื่อว่าหลายคนยังไม่พร้อม

ยังไม่ได้พูดถึงข้อเสียอื่นๆ นอกจากเรื่องหลอกอีกนะ
แก้ไขล่าสุดโดย JansBlu เมื่อ Fri Jul 01, 2022 12:39, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้จัดการทีม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Oct 2005
ตอบ: 38448
ที่อยู่: Kanagawa, Japan
โพสเมื่อ: Fri Jul 01, 2022 12:45
[RE: คิดยังไงกับเพศที่ 3]
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
Spoil
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
BLIИK พิมพ์ว่า:

ตอนนี้มีสักกี่ % กันเชียวตอนนี้ที่โดนทรานส์หลอกว่าเป็น ญ แท้กันอ่ะ แล้วเราจะไปกันเพราะคนแค่ไม่กี่ % ตรงนั้นหรอเพื่อคนอีกมากมายหรอครับ แค่คำนำหน้าชื่อเองนะ
 


อันนี้ตรงใจผมมากเลยฮะท่าน

สรุปที่คุยกันมาหลายๆความเห็น กลายเป็นว่าแค่กลัวโดนหลอก ในการใช้ชีวิตคู่..ทั้งๆที่เรื่องที่จะหลอกมีอีกเป็นพันเรื่อง

ไม่ว่าจะเรื่องเป็นโรคร้าย, บ้านมีหนี้สิน, มีลูกติด, เคยทำงานผิดกฏหมาย, เคยมีสามีหลายคน ฯลฯ

(และเราจะสะเพร่าขนาดคบคนๆนึงถึงขั้นใช้ชีวิตคู่ โดยไม่คิดอยากรู้ประวัติอะไรเค้าเลย..จะพึ่งพาคำนำหน้าชื่ออย่างเดียว)

แต่ในมุมของคนที่เป็นทรานส์ คำนำหน้าชื่อโคตรมีความหมายกับเค้าเลยนะฮะ..คนๆนึงตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ นี่คือต้อง deep จริงๆ

แปลว่าเค้าไม่ต้องการสภาพทุกอย่างของการเป็นเพศนั้นแล้ว (ใครมันจะอยากเจ็บตัว เสียเงินมหาศาล เพื่อแค่จะหลอก ช คนเดียว)

แต่ทุกครั้งที่หยิบบัตรประชาชนขึ้นมาคำๆนั้นก็ตอกย้ำฟ้องตัวเองอยู่ตลอด ท้งๆที่แม่มไม่ได้เป็นปัญหา เดือดร้อนใครเลย บัตรตัวเองแท้ๆ

ทุกครั้งที่ไปสถานที่ราชการ (หรือเอกชน) ร.พ. อะไรก็ตาม..อุตส่าห์เปลี่ยนชื่อมาซะสวย แต่คนตะโกนเรียก "นาย อุรัสยา"

ต้องทนมองสายตาชาวบ้านกลั้นขำ กลายเป็นตัวตลกสังคม..เพราะ ผู้ชายกลัวโดนหลอก เสียความรู้สึก


หลายๆคนที่บอกว่าไม่ได้รังเกียจ มีเพื่อนเป็น ญ ข้ามเพศหลายคน กล้ามองตาเค้าแล้วพูดตรงๆมั๊ยว่า..

"กูไม่อยากให้พวกมึงใช้คำว่านางสาวนะ เพราะกลัวโดนคนแบบพวกมึงหลอกว่าเป็น ญ แท้ แล้วมันเสียเวลา เสียความรู้สึกกู"

 


ถ้าอยากรู้ประวัติแล้วต้องทำยังไงครับ ต้องพาไปตรวจเท่านั้นหรอครับก่อนจะเริ่มจีบใครสักคน หรือมีวิธีอื่นไหมผมยังนึกไม่ออกถ้าภายนอกเหมือนผู้หญิงมากๆ

เรื่องอื่นเข้าใจได้นะ เรื่องอื่นก็หลอกได้เหมือนกันแค่มีเรื่องให้ถูกหลอกเพิ่มมาอีกเรื่องนึง ถ้าคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องเพศขนาดนั้นก็คงโอเค แต่บางคนคงคิดว่าเรื่องใหญ่เพราะเรื่องรสนิยมและเรื่องลูกด้วย

ถ้าทำหน้าอะไรมาเหมือนผู้หญิงแล้วจริงๆเห็นด้วยนะว่าอยากให้เปลี่ยนได้  


การอยากรู้ประวัติมีอีกเป็นร้อยวิธีอ่ะครับ โดยไม่ต้องไปนั่งขอดูบัตรประชาชน..เราคบใครซักคนเราไม่ต้องคุยเรื่องอดีตกับเค้า

ไม่ต้องรู้จักเพื่อนเค้า ครอบครัวเค้าเลยหรอฮะ ผมว่าพวกนี้มันพื้นฐานยิ่งกว่าการไปขอใครดูบัตรอีกนะ..

(อยากเปิดโหวตเหมือนกันว่า แต่ละคนที่คบกับแฟนอยู่เห็นบัตรประชาชนแฟนครั้งแรกตอนคบกันกี่วัน ผมว่าบางคนเป็นปีๆไม่ดูด้วยซ้ำ)

ผมคิดเหมือนท่านข้างบนแหละฮะ ทุกวันนี้มันมีเคสที่ ญ ข้ามเพศไปหลอก ช ซักกี่คน แล้วหลอกสำเร็จซักกี่คน

แล้วที่โดนจับได้เพราะไปดูบัตรประชาชนเห็น"นาย"จะมีซักกี่เคส..นี่เล่นเหมาเอาหมดว่าคนเปลี่ยนคำนำหน้าทุกคนเพื่อจะมาหลอก ช

 

 

ผมไปบอกตอนไหนว่าเหมาหมด ผมบอกอยู่ว่าไม่ได้คิดว่าเยอะมากแค่บอกว่าเป็นข้อเสียที่จะมี แล้วก็แค่มองว่าขอดูบัตรมันง่ายกว่าไปให้หมอตรวจเยอะเท่านั้น

ถ้าให้โหวตว่าขอดูบัตรประชาชนก่อนหรือพาไปตรวจก่อน การขอดูบัตรก็น่าจะง่ายกว่า

ประเด็นไม่ใช่การคุยถาม แต่ประเด็นคือคุยแล้วโดนหลอก ไม่งั้นใส่ในบัตรประชาชนให้รู้ว่าเคยเป็นนายมาก่อนก็ได้ถ้าห่วงเรื่องอายเวลาโดนเรียก เรื่องอื่นไม่ติดเลย  


ท่านก็บอกเองว่าไม่คิดว่าจะเยอะมาก..แล้วทำไมกลับไปอยากจำกัดสิทธิ์ให้เค้าทั้งหมดห้ามใช้คำว่านางสาวอ่ะฮะ?

สำหรับผมอย่างที่พิมพ์ตลอดแหละฮะ..มีอีกเป็นพันวิธี ถ้าเราอยากจะคบใครจริงจัง โดยไม่ต้องไปดูบัตร หรือไปตรวจร่างกาย

แต่เหมือนกับส่วนใหญ่มักง่ายไปหน่อย เลยอยากใช้วิธีขีดเส้นจำกัดไว้บนบัตรไปเลยไม่ต้องสนใจคนอื่นๆที่เค้าไม่ได้คิดจะหลอกใครด้วย

(ถ้าลองเข้าใจถึงความรู้สึกของคนที่เค้าอยากเปลี่ยนว่าเค้าต้องการจริงๆ และมันมีเหตุผลอะไรบ้าง จะรู้ว่ามันเทียบไม่ได้เลยกับเหตุผลฝั่งที่ไม่อยากให้เปลี่ยน แค่ว่าจะได้จำแนกเพศง่ายดี ไม่อยากโดนหลอก ไม่อยากลองหาวิธีอื่นด้วย แค่เนี๊ยะ)


 


ก็ไม่ได้เข้าใจมากหรอกครับ เเต่เข้าใจคนที่โดนหลอก เพราะมันคือข้อเสียที่เกิดขึ้นได้แน่ๆ แค่สงสัยว่าถ้าไม่ได้จะหลอกใครแล้วทำไมจะมีระบุไม่ได้ว่าเคยเป็นนายมาก่อน

ผมก็พูดได้เหมือนกันว่าเหตุผลจะเปลี่ยนกเทียบไม่ได้กับเหตุผลที่ไม่ควรเปลี่ยน คุณก็ต้องนึกถึงใจคนอีกฝั่งเช่นกัน

สิทธิและความปลอดภัยของคนอื่นก็สำคัญเหมือนกัน อนาคตก็อยากให้เปลี่ยนได้เต็มที่ แต่ปัจจุบันเชื่อว่าหลายคนยังไม่พร้อม

ยังไม่ได้พูดถึงข้อเสียอื่นๆ นอกจากเรื่องหลอกอีกนะ  


สิทธิและความปลอดภัยของคนอื่น คืออะไรอ่ะฮะ? เราสามารถโดนคนที่ใช้คำว่านางสาวกระทำชำเรา,ล่วงละเมิดเราได้หรอฮะ?

(แล้วเราปลอดภัยจากคนที่เพศตรง เป็นสาวแท้ๆ อย่างที่เราอยากได้ กับทุกเรื่องเลยหรอฮะ?)

อย่างเดียวที่ผมนึกถึงใจคนอีกฝั่งออกก็แค่เรื่องเห้นแก่ตัว+มักง่ายอ่ะฮะ..ไม่อยากให้คนอื่นเปลี่ยน แค่จะสนองความมักง่ายส่วนตัว

ความมักง่ายคือ อยากมีเมียเป็น ญ แท้แต่ไม่อยากต้องศึกษาดูใจอะไร เห็นบัตรประชาชนให้มันจบๆ..ถ้ายอมรับแค่นี้ก็จบละฮะ


0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Jul 2020
ตอบ: 4414
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 01, 2022 12:55
[RE: คิดยังไงกับเพศที่ 3]
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
Spoil
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
BLIИK พิมพ์ว่า:

ตอนนี้มีสักกี่ % กันเชียวตอนนี้ที่โดนทรานส์หลอกว่าเป็น ญ แท้กันอ่ะ แล้วเราจะไปกันเพราะคนแค่ไม่กี่ % ตรงนั้นหรอเพื่อคนอีกมากมายหรอครับ แค่คำนำหน้าชื่อเองนะ
 


อันนี้ตรงใจผมมากเลยฮะท่าน

สรุปที่คุยกันมาหลายๆความเห็น กลายเป็นว่าแค่กลัวโดนหลอก ในการใช้ชีวิตคู่..ทั้งๆที่เรื่องที่จะหลอกมีอีกเป็นพันเรื่อง

ไม่ว่าจะเรื่องเป็นโรคร้าย, บ้านมีหนี้สิน, มีลูกติด, เคยทำงานผิดกฏหมาย, เคยมีสามีหลายคน ฯลฯ

(และเราจะสะเพร่าขนาดคบคนๆนึงถึงขั้นใช้ชีวิตคู่ โดยไม่คิดอยากรู้ประวัติอะไรเค้าเลย..จะพึ่งพาคำนำหน้าชื่ออย่างเดียว)

แต่ในมุมของคนที่เป็นทรานส์ คำนำหน้าชื่อโคตรมีความหมายกับเค้าเลยนะฮะ..คนๆนึงตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ นี่คือต้อง deep จริงๆ

แปลว่าเค้าไม่ต้องการสภาพทุกอย่างของการเป็นเพศนั้นแล้ว (ใครมันจะอยากเจ็บตัว เสียเงินมหาศาล เพื่อแค่จะหลอก ช คนเดียว)

แต่ทุกครั้งที่หยิบบัตรประชาชนขึ้นมาคำๆนั้นก็ตอกย้ำฟ้องตัวเองอยู่ตลอด ท้งๆที่แม่มไม่ได้เป็นปัญหา เดือดร้อนใครเลย บัตรตัวเองแท้ๆ

ทุกครั้งที่ไปสถานที่ราชการ (หรือเอกชน) ร.พ. อะไรก็ตาม..อุตส่าห์เปลี่ยนชื่อมาซะสวย แต่คนตะโกนเรียก "นาย อุรัสยา"

ต้องทนมองสายตาชาวบ้านกลั้นขำ กลายเป็นตัวตลกสังคม..เพราะ ผู้ชายกลัวโดนหลอก เสียความรู้สึก


หลายๆคนที่บอกว่าไม่ได้รังเกียจ มีเพื่อนเป็น ญ ข้ามเพศหลายคน กล้ามองตาเค้าแล้วพูดตรงๆมั๊ยว่า..

"กูไม่อยากให้พวกมึงใช้คำว่านางสาวนะ เพราะกลัวโดนคนแบบพวกมึงหลอกว่าเป็น ญ แท้ แล้วมันเสียเวลา เสียความรู้สึกกู"

 


ถ้าอยากรู้ประวัติแล้วต้องทำยังไงครับ ต้องพาไปตรวจเท่านั้นหรอครับก่อนจะเริ่มจีบใครสักคน หรือมีวิธีอื่นไหมผมยังนึกไม่ออกถ้าภายนอกเหมือนผู้หญิงมากๆ

เรื่องอื่นเข้าใจได้นะ เรื่องอื่นก็หลอกได้เหมือนกันแค่มีเรื่องให้ถูกหลอกเพิ่มมาอีกเรื่องนึง ถ้าคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องเพศขนาดนั้นก็คงโอเค แต่บางคนคงคิดว่าเรื่องใหญ่เพราะเรื่องรสนิยมและเรื่องลูกด้วย

ถ้าทำหน้าอะไรมาเหมือนผู้หญิงแล้วจริงๆเห็นด้วยนะว่าอยากให้เปลี่ยนได้  


การอยากรู้ประวัติมีอีกเป็นร้อยวิธีอ่ะครับ โดยไม่ต้องไปนั่งขอดูบัตรประชาชน..เราคบใครซักคนเราไม่ต้องคุยเรื่องอดีตกับเค้า

ไม่ต้องรู้จักเพื่อนเค้า ครอบครัวเค้าเลยหรอฮะ ผมว่าพวกนี้มันพื้นฐานยิ่งกว่าการไปขอใครดูบัตรอีกนะ..

(อยากเปิดโหวตเหมือนกันว่า แต่ละคนที่คบกับแฟนอยู่เห็นบัตรประชาชนแฟนครั้งแรกตอนคบกันกี่วัน ผมว่าบางคนเป็นปีๆไม่ดูด้วยซ้ำ)

ผมคิดเหมือนท่านข้างบนแหละฮะ ทุกวันนี้มันมีเคสที่ ญ ข้ามเพศไปหลอก ช ซักกี่คน แล้วหลอกสำเร็จซักกี่คน

แล้วที่โดนจับได้เพราะไปดูบัตรประชาชนเห็น"นาย"จะมีซักกี่เคส..นี่เล่นเหมาเอาหมดว่าคนเปลี่ยนคำนำหน้าทุกคนเพื่อจะมาหลอก ช

 

 

ผมไปบอกตอนไหนว่าเหมาหมด ผมบอกอยู่ว่าไม่ได้คิดว่าเยอะมากแค่บอกว่าเป็นข้อเสียที่จะมี แล้วก็แค่มองว่าขอดูบัตรมันง่ายกว่าไปให้หมอตรวจเยอะเท่านั้น

ถ้าให้โหวตว่าขอดูบัตรประชาชนก่อนหรือพาไปตรวจก่อน การขอดูบัตรก็น่าจะง่ายกว่า

ประเด็นไม่ใช่การคุยถาม แต่ประเด็นคือคุยแล้วโดนหลอก ไม่งั้นใส่ในบัตรประชาชนให้รู้ว่าเคยเป็นนายมาก่อนก็ได้ถ้าห่วงเรื่องอายเวลาโดนเรียก เรื่องอื่นไม่ติดเลย  


ท่านก็บอกเองว่าไม่คิดว่าจะเยอะมาก..แล้วทำไมกลับไปอยากจำกัดสิทธิ์ให้เค้าทั้งหมดห้ามใช้คำว่านางสาวอ่ะฮะ?

สำหรับผมอย่างที่พิมพ์ตลอดแหละฮะ..มีอีกเป็นพันวิธี ถ้าเราอยากจะคบใครจริงจัง โดยไม่ต้องไปดูบัตร หรือไปตรวจร่างกาย

แต่เหมือนกับส่วนใหญ่มักง่ายไปหน่อย เลยอยากใช้วิธีขีดเส้นจำกัดไว้บนบัตรไปเลยไม่ต้องสนใจคนอื่นๆที่เค้าไม่ได้คิดจะหลอกใครด้วย

(ถ้าลองเข้าใจถึงความรู้สึกของคนที่เค้าอยากเปลี่ยนว่าเค้าต้องการจริงๆ และมันมีเหตุผลอะไรบ้าง จะรู้ว่ามันเทียบไม่ได้เลยกับเหตุผลฝั่งที่ไม่อยากให้เปลี่ยน แค่ว่าจะได้จำแนกเพศง่ายดี ไม่อยากโดนหลอก ไม่อยากลองหาวิธีอื่นด้วย แค่เนี๊ยะ)


 


ก็ไม่ได้เข้าใจมากหรอกครับ เเต่เข้าใจคนที่โดนหลอก เพราะมันคือข้อเสียที่เกิดขึ้นได้แน่ๆ แค่สงสัยว่าถ้าไม่ได้จะหลอกใครแล้วทำไมจะมีระบุไม่ได้ว่าเคยเป็นนายมาก่อน

ผมก็พูดได้เหมือนกันว่าเหตุผลจะเปลี่ยนกเทียบไม่ได้กับเหตุผลที่ไม่ควรเปลี่ยน คุณก็ต้องนึกถึงใจคนอีกฝั่งเช่นกัน

สิทธิและความปลอดภัยของคนอื่นก็สำคัญเหมือนกัน อนาคตก็อยากให้เปลี่ยนได้เต็มที่ แต่ปัจจุบันเชื่อว่าหลายคนยังไม่พร้อม

ยังไม่ได้พูดถึงข้อเสียอื่นๆ นอกจากเรื่องหลอกอีกนะ  


สิทธิและความปลอดภัยของคนอื่น คืออะไรอ่ะฮะ? เราสามารถโดนคนที่ใช้คำว่านางสาวกระทำชำเรา,ล่วงละเมิดเราได้หรอฮะ?

(แล้วเราปลอดภัยจากคนที่เพศตรง เป็นสาวแท้ๆ อย่างที่เราอยากได้ กับทุกเรื่องเลยหรอฮะ?)

อย่างเดียวที่ผมนึกถึงใจคนอีกฝั่งออกก็แค่เรื่องเห้นแก่ตัว+มักง่ายอ่ะฮะ..ไม่อยากให้คนอื่นเปลี่ยน แค่จะสนองความมักง่ายส่วนตัว

ความมักง่ายคือ อยากมีเมียเป็น ญ แท้แต่ไม่อยากต้องศึกษาดูใจอะไร เห็นบัตรประชาชนให้มันจบๆ..ถ้ายอมรับแค่นี้ก็จบละฮะ


 


สำหรับบางคนก็ใช่ เขาต้องการหญิงแท้เท่านั้น เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเขา แล้วบอกไปแล้วว่าประเด็นคือโดนหลอกไม่ใช่เรื่องคุยศึกษาดูใจ

อีกฝั่งก็พูดได้เหมือนกันว่าเห็นแก่ตัวมักง่าย อย่างเปลี่ยนจนไม่สนใจข้อเสีย แค่ระบุว่าเคยเป็นนายแค่นี้ทำไมไม่ทำ
แก้ไขล่าสุดโดย JansBlu เมื่อ Fri Jul 01, 2022 12:57, ทั้งหมด 2 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้จัดการทีม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Oct 2005
ตอบ: 38448
ที่อยู่: Kanagawa, Japan
โพสเมื่อ: Fri Jul 01, 2022 13:16
[RE: คิดยังไงกับเพศที่ 3]
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
Spoil
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
BLIИK พิมพ์ว่า:

ตอนนี้มีสักกี่ % กันเชียวตอนนี้ที่โดนทรานส์หลอกว่าเป็น ญ แท้กันอ่ะ แล้วเราจะไปกันเพราะคนแค่ไม่กี่ % ตรงนั้นหรอเพื่อคนอีกมากมายหรอครับ แค่คำนำหน้าชื่อเองนะ
 


อันนี้ตรงใจผมมากเลยฮะท่าน

สรุปที่คุยกันมาหลายๆความเห็น กลายเป็นว่าแค่กลัวโดนหลอก ในการใช้ชีวิตคู่..ทั้งๆที่เรื่องที่จะหลอกมีอีกเป็นพันเรื่อง

ไม่ว่าจะเรื่องเป็นโรคร้าย, บ้านมีหนี้สิน, มีลูกติด, เคยทำงานผิดกฏหมาย, เคยมีสามีหลายคน ฯลฯ

(และเราจะสะเพร่าขนาดคบคนๆนึงถึงขั้นใช้ชีวิตคู่ โดยไม่คิดอยากรู้ประวัติอะไรเค้าเลย..จะพึ่งพาคำนำหน้าชื่ออย่างเดียว)

แต่ในมุมของคนที่เป็นทรานส์ คำนำหน้าชื่อโคตรมีความหมายกับเค้าเลยนะฮะ..คนๆนึงตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ นี่คือต้อง deep จริงๆ

แปลว่าเค้าไม่ต้องการสภาพทุกอย่างของการเป็นเพศนั้นแล้ว (ใครมันจะอยากเจ็บตัว เสียเงินมหาศาล เพื่อแค่จะหลอก ช คนเดียว)

แต่ทุกครั้งที่หยิบบัตรประชาชนขึ้นมาคำๆนั้นก็ตอกย้ำฟ้องตัวเองอยู่ตลอด ท้งๆที่แม่มไม่ได้เป็นปัญหา เดือดร้อนใครเลย บัตรตัวเองแท้ๆ

ทุกครั้งที่ไปสถานที่ราชการ (หรือเอกชน) ร.พ. อะไรก็ตาม..อุตส่าห์เปลี่ยนชื่อมาซะสวย แต่คนตะโกนเรียก "นาย อุรัสยา"

ต้องทนมองสายตาชาวบ้านกลั้นขำ กลายเป็นตัวตลกสังคม..เพราะ ผู้ชายกลัวโดนหลอก เสียความรู้สึก


หลายๆคนที่บอกว่าไม่ได้รังเกียจ มีเพื่อนเป็น ญ ข้ามเพศหลายคน กล้ามองตาเค้าแล้วพูดตรงๆมั๊ยว่า..

"กูไม่อยากให้พวกมึงใช้คำว่านางสาวนะ เพราะกลัวโดนคนแบบพวกมึงหลอกว่าเป็น ญ แท้ แล้วมันเสียเวลา เสียความรู้สึกกู"

 


ถ้าอยากรู้ประวัติแล้วต้องทำยังไงครับ ต้องพาไปตรวจเท่านั้นหรอครับก่อนจะเริ่มจีบใครสักคน หรือมีวิธีอื่นไหมผมยังนึกไม่ออกถ้าภายนอกเหมือนผู้หญิงมากๆ

เรื่องอื่นเข้าใจได้นะ เรื่องอื่นก็หลอกได้เหมือนกันแค่มีเรื่องให้ถูกหลอกเพิ่มมาอีกเรื่องนึง ถ้าคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องเพศขนาดนั้นก็คงโอเค แต่บางคนคงคิดว่าเรื่องใหญ่เพราะเรื่องรสนิยมและเรื่องลูกด้วย

ถ้าทำหน้าอะไรมาเหมือนผู้หญิงแล้วจริงๆเห็นด้วยนะว่าอยากให้เปลี่ยนได้  


การอยากรู้ประวัติมีอีกเป็นร้อยวิธีอ่ะครับ โดยไม่ต้องไปนั่งขอดูบัตรประชาชน..เราคบใครซักคนเราไม่ต้องคุยเรื่องอดีตกับเค้า

ไม่ต้องรู้จักเพื่อนเค้า ครอบครัวเค้าเลยหรอฮะ ผมว่าพวกนี้มันพื้นฐานยิ่งกว่าการไปขอใครดูบัตรอีกนะ..

(อยากเปิดโหวตเหมือนกันว่า แต่ละคนที่คบกับแฟนอยู่เห็นบัตรประชาชนแฟนครั้งแรกตอนคบกันกี่วัน ผมว่าบางคนเป็นปีๆไม่ดูด้วยซ้ำ)

ผมคิดเหมือนท่านข้างบนแหละฮะ ทุกวันนี้มันมีเคสที่ ญ ข้ามเพศไปหลอก ช ซักกี่คน แล้วหลอกสำเร็จซักกี่คน

แล้วที่โดนจับได้เพราะไปดูบัตรประชาชนเห็น"นาย"จะมีซักกี่เคส..นี่เล่นเหมาเอาหมดว่าคนเปลี่ยนคำนำหน้าทุกคนเพื่อจะมาหลอก ช

 

 

ผมไปบอกตอนไหนว่าเหมาหมด ผมบอกอยู่ว่าไม่ได้คิดว่าเยอะมากแค่บอกว่าเป็นข้อเสียที่จะมี แล้วก็แค่มองว่าขอดูบัตรมันง่ายกว่าไปให้หมอตรวจเยอะเท่านั้น

ถ้าให้โหวตว่าขอดูบัตรประชาชนก่อนหรือพาไปตรวจก่อน การขอดูบัตรก็น่าจะง่ายกว่า

ประเด็นไม่ใช่การคุยถาม แต่ประเด็นคือคุยแล้วโดนหลอก ไม่งั้นใส่ในบัตรประชาชนให้รู้ว่าเคยเป็นนายมาก่อนก็ได้ถ้าห่วงเรื่องอายเวลาโดนเรียก เรื่องอื่นไม่ติดเลย  


ท่านก็บอกเองว่าไม่คิดว่าจะเยอะมาก..แล้วทำไมกลับไปอยากจำกัดสิทธิ์ให้เค้าทั้งหมดห้ามใช้คำว่านางสาวอ่ะฮะ?

สำหรับผมอย่างที่พิมพ์ตลอดแหละฮะ..มีอีกเป็นพันวิธี ถ้าเราอยากจะคบใครจริงจัง โดยไม่ต้องไปดูบัตร หรือไปตรวจร่างกาย

แต่เหมือนกับส่วนใหญ่มักง่ายไปหน่อย เลยอยากใช้วิธีขีดเส้นจำกัดไว้บนบัตรไปเลยไม่ต้องสนใจคนอื่นๆที่เค้าไม่ได้คิดจะหลอกใครด้วย

(ถ้าลองเข้าใจถึงความรู้สึกของคนที่เค้าอยากเปลี่ยนว่าเค้าต้องการจริงๆ และมันมีเหตุผลอะไรบ้าง จะรู้ว่ามันเทียบไม่ได้เลยกับเหตุผลฝั่งที่ไม่อยากให้เปลี่ยน แค่ว่าจะได้จำแนกเพศง่ายดี ไม่อยากโดนหลอก ไม่อยากลองหาวิธีอื่นด้วย แค่เนี๊ยะ)


 


ก็ไม่ได้เข้าใจมากหรอกครับ เเต่เข้าใจคนที่โดนหลอก เพราะมันคือข้อเสียที่เกิดขึ้นได้แน่ๆ แค่สงสัยว่าถ้าไม่ได้จะหลอกใครแล้วทำไมจะมีระบุไม่ได้ว่าเคยเป็นนายมาก่อน

ผมก็พูดได้เหมือนกันว่าเหตุผลจะเปลี่ยนกเทียบไม่ได้กับเหตุผลที่ไม่ควรเปลี่ยน คุณก็ต้องนึกถึงใจคนอีกฝั่งเช่นกัน

สิทธิและความปลอดภัยของคนอื่นก็สำคัญเหมือนกัน อนาคตก็อยากให้เปลี่ยนได้เต็มที่ แต่ปัจจุบันเชื่อว่าหลายคนยังไม่พร้อม

ยังไม่ได้พูดถึงข้อเสียอื่นๆ นอกจากเรื่องหลอกอีกนะ  


สิทธิและความปลอดภัยของคนอื่น คืออะไรอ่ะฮะ? เราสามารถโดนคนที่ใช้คำว่านางสาวกระทำชำเรา,ล่วงละเมิดเราได้หรอฮะ?

(แล้วเราปลอดภัยจากคนที่เพศตรง เป็นสาวแท้ๆ อย่างที่เราอยากได้ กับทุกเรื่องเลยหรอฮะ?)

อย่างเดียวที่ผมนึกถึงใจคนอีกฝั่งออกก็แค่เรื่องเห้นแก่ตัว+มักง่ายอ่ะฮะ..ไม่อยากให้คนอื่นเปลี่ยน แค่จะสนองความมักง่ายส่วนตัว

ความมักง่ายคือ อยากมีเมียเป็น ญ แท้แต่ไม่อยากต้องศึกษาดูใจอะไร เห็นบัตรประชาชนให้มันจบๆ..ถ้ายอมรับแค่นี้ก็จบละฮะ


 


สำหรับบางคนก็ใช่ เขาต้องการหญิงแท้เท่านั้น เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเขา แล้วบอกไปแล้วว่าประเด็นคือโดนหลอกไม่ใช่เรื่องคุยศึกษาดูใจ

อีกฝั่งก็พูดได้เหมือนกันว่าเห็นแก่ตัวมักง่าย อย่างเปลี่ยนจนไม่สนใจข้อเสีย แค่ระบุว่าเคยเป็นนายแค่นี้ทำไมไม่ทำ  


ยิ่งพูดก็ยิ่งแย่อ่ะครับ บัตรเค้าเอง เพศเค้าเอง แต่จะไปบังคับให้เค้าต้องทำงั้นทำงี้เพื่อเราจะได้สบายใจ ไม่ต้องกลัวโดนหลอก

แล้วยังจะมีหน้าไปบอกว่าเค้ามักง่ายอีกเนี่ยนะฮะ

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Jul 2020
ตอบ: 4414
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 01, 2022 13:48
[RE: คิดยังไงกับเพศที่ 3]
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
Spoil
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
BLIИK พิมพ์ว่า:

ตอนนี้มีสักกี่ % กันเชียวตอนนี้ที่โดนทรานส์หลอกว่าเป็น ญ แท้กันอ่ะ แล้วเราจะไปกันเพราะคนแค่ไม่กี่ % ตรงนั้นหรอเพื่อคนอีกมากมายหรอครับ แค่คำนำหน้าชื่อเองนะ
 


อันนี้ตรงใจผมมากเลยฮะท่าน

สรุปที่คุยกันมาหลายๆความเห็น กลายเป็นว่าแค่กลัวโดนหลอก ในการใช้ชีวิตคู่..ทั้งๆที่เรื่องที่จะหลอกมีอีกเป็นพันเรื่อง

ไม่ว่าจะเรื่องเป็นโรคร้าย, บ้านมีหนี้สิน, มีลูกติด, เคยทำงานผิดกฏหมาย, เคยมีสามีหลายคน ฯลฯ

(และเราจะสะเพร่าขนาดคบคนๆนึงถึงขั้นใช้ชีวิตคู่ โดยไม่คิดอยากรู้ประวัติอะไรเค้าเลย..จะพึ่งพาคำนำหน้าชื่ออย่างเดียว)

แต่ในมุมของคนที่เป็นทรานส์ คำนำหน้าชื่อโคตรมีความหมายกับเค้าเลยนะฮะ..คนๆนึงตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ นี่คือต้อง deep จริงๆ

แปลว่าเค้าไม่ต้องการสภาพทุกอย่างของการเป็นเพศนั้นแล้ว (ใครมันจะอยากเจ็บตัว เสียเงินมหาศาล เพื่อแค่จะหลอก ช คนเดียว)

แต่ทุกครั้งที่หยิบบัตรประชาชนขึ้นมาคำๆนั้นก็ตอกย้ำฟ้องตัวเองอยู่ตลอด ท้งๆที่แม่มไม่ได้เป็นปัญหา เดือดร้อนใครเลย บัตรตัวเองแท้ๆ

ทุกครั้งที่ไปสถานที่ราชการ (หรือเอกชน) ร.พ. อะไรก็ตาม..อุตส่าห์เปลี่ยนชื่อมาซะสวย แต่คนตะโกนเรียก "นาย อุรัสยา"

ต้องทนมองสายตาชาวบ้านกลั้นขำ กลายเป็นตัวตลกสังคม..เพราะ ผู้ชายกลัวโดนหลอก เสียความรู้สึก


หลายๆคนที่บอกว่าไม่ได้รังเกียจ มีเพื่อนเป็น ญ ข้ามเพศหลายคน กล้ามองตาเค้าแล้วพูดตรงๆมั๊ยว่า..

"กูไม่อยากให้พวกมึงใช้คำว่านางสาวนะ เพราะกลัวโดนคนแบบพวกมึงหลอกว่าเป็น ญ แท้ แล้วมันเสียเวลา เสียความรู้สึกกู"

 


ถ้าอยากรู้ประวัติแล้วต้องทำยังไงครับ ต้องพาไปตรวจเท่านั้นหรอครับก่อนจะเริ่มจีบใครสักคน หรือมีวิธีอื่นไหมผมยังนึกไม่ออกถ้าภายนอกเหมือนผู้หญิงมากๆ

เรื่องอื่นเข้าใจได้นะ เรื่องอื่นก็หลอกได้เหมือนกันแค่มีเรื่องให้ถูกหลอกเพิ่มมาอีกเรื่องนึง ถ้าคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องเพศขนาดนั้นก็คงโอเค แต่บางคนคงคิดว่าเรื่องใหญ่เพราะเรื่องรสนิยมและเรื่องลูกด้วย

ถ้าทำหน้าอะไรมาเหมือนผู้หญิงแล้วจริงๆเห็นด้วยนะว่าอยากให้เปลี่ยนได้  


การอยากรู้ประวัติมีอีกเป็นร้อยวิธีอ่ะครับ โดยไม่ต้องไปนั่งขอดูบัตรประชาชน..เราคบใครซักคนเราไม่ต้องคุยเรื่องอดีตกับเค้า

ไม่ต้องรู้จักเพื่อนเค้า ครอบครัวเค้าเลยหรอฮะ ผมว่าพวกนี้มันพื้นฐานยิ่งกว่าการไปขอใครดูบัตรอีกนะ..

(อยากเปิดโหวตเหมือนกันว่า แต่ละคนที่คบกับแฟนอยู่เห็นบัตรประชาชนแฟนครั้งแรกตอนคบกันกี่วัน ผมว่าบางคนเป็นปีๆไม่ดูด้วยซ้ำ)

ผมคิดเหมือนท่านข้างบนแหละฮะ ทุกวันนี้มันมีเคสที่ ญ ข้ามเพศไปหลอก ช ซักกี่คน แล้วหลอกสำเร็จซักกี่คน

แล้วที่โดนจับได้เพราะไปดูบัตรประชาชนเห็น"นาย"จะมีซักกี่เคส..นี่เล่นเหมาเอาหมดว่าคนเปลี่ยนคำนำหน้าทุกคนเพื่อจะมาหลอก ช

 

 

ผมไปบอกตอนไหนว่าเหมาหมด ผมบอกอยู่ว่าไม่ได้คิดว่าเยอะมากแค่บอกว่าเป็นข้อเสียที่จะมี แล้วก็แค่มองว่าขอดูบัตรมันง่ายกว่าไปให้หมอตรวจเยอะเท่านั้น

ถ้าให้โหวตว่าขอดูบัตรประชาชนก่อนหรือพาไปตรวจก่อน การขอดูบัตรก็น่าจะง่ายกว่า

ประเด็นไม่ใช่การคุยถาม แต่ประเด็นคือคุยแล้วโดนหลอก ไม่งั้นใส่ในบัตรประชาชนให้รู้ว่าเคยเป็นนายมาก่อนก็ได้ถ้าห่วงเรื่องอายเวลาโดนเรียก เรื่องอื่นไม่ติดเลย  


ท่านก็บอกเองว่าไม่คิดว่าจะเยอะมาก..แล้วทำไมกลับไปอยากจำกัดสิทธิ์ให้เค้าทั้งหมดห้ามใช้คำว่านางสาวอ่ะฮะ?

สำหรับผมอย่างที่พิมพ์ตลอดแหละฮะ..มีอีกเป็นพันวิธี ถ้าเราอยากจะคบใครจริงจัง โดยไม่ต้องไปดูบัตร หรือไปตรวจร่างกาย

แต่เหมือนกับส่วนใหญ่มักง่ายไปหน่อย เลยอยากใช้วิธีขีดเส้นจำกัดไว้บนบัตรไปเลยไม่ต้องสนใจคนอื่นๆที่เค้าไม่ได้คิดจะหลอกใครด้วย

(ถ้าลองเข้าใจถึงความรู้สึกของคนที่เค้าอยากเปลี่ยนว่าเค้าต้องการจริงๆ และมันมีเหตุผลอะไรบ้าง จะรู้ว่ามันเทียบไม่ได้เลยกับเหตุผลฝั่งที่ไม่อยากให้เปลี่ยน แค่ว่าจะได้จำแนกเพศง่ายดี ไม่อยากโดนหลอก ไม่อยากลองหาวิธีอื่นด้วย แค่เนี๊ยะ)


 


ก็ไม่ได้เข้าใจมากหรอกครับ เเต่เข้าใจคนที่โดนหลอก เพราะมันคือข้อเสียที่เกิดขึ้นได้แน่ๆ แค่สงสัยว่าถ้าไม่ได้จะหลอกใครแล้วทำไมจะมีระบุไม่ได้ว่าเคยเป็นนายมาก่อน

ผมก็พูดได้เหมือนกันว่าเหตุผลจะเปลี่ยนกเทียบไม่ได้กับเหตุผลที่ไม่ควรเปลี่ยน คุณก็ต้องนึกถึงใจคนอีกฝั่งเช่นกัน

สิทธิและความปลอดภัยของคนอื่นก็สำคัญเหมือนกัน อนาคตก็อยากให้เปลี่ยนได้เต็มที่ แต่ปัจจุบันเชื่อว่าหลายคนยังไม่พร้อม

ยังไม่ได้พูดถึงข้อเสียอื่นๆ นอกจากเรื่องหลอกอีกนะ  


สิทธิและความปลอดภัยของคนอื่น คืออะไรอ่ะฮะ? เราสามารถโดนคนที่ใช้คำว่านางสาวกระทำชำเรา,ล่วงละเมิดเราได้หรอฮะ?

(แล้วเราปลอดภัยจากคนที่เพศตรง เป็นสาวแท้ๆ อย่างที่เราอยากได้ กับทุกเรื่องเลยหรอฮะ?)

อย่างเดียวที่ผมนึกถึงใจคนอีกฝั่งออกก็แค่เรื่องเห้นแก่ตัว+มักง่ายอ่ะฮะ..ไม่อยากให้คนอื่นเปลี่ยน แค่จะสนองความมักง่ายส่วนตัว

ความมักง่ายคือ อยากมีเมียเป็น ญ แท้แต่ไม่อยากต้องศึกษาดูใจอะไร เห็นบัตรประชาชนให้มันจบๆ..ถ้ายอมรับแค่นี้ก็จบละฮะ


 


สำหรับบางคนก็ใช่ เขาต้องการหญิงแท้เท่านั้น เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเขา แล้วบอกไปแล้วว่าประเด็นคือโดนหลอกไม่ใช่เรื่องคุยศึกษาดูใจ

อีกฝั่งก็พูดได้เหมือนกันว่าเห็นแก่ตัวมักง่าย อย่างเปลี่ยนจนไม่สนใจข้อเสีย แค่ระบุว่าเคยเป็นนายแค่นี้ทำไมไม่ทำ  


ยิ่งพูดก็ยิ่งแย่อ่ะครับ บัตรเค้าเอง เพศเค้าเอง แต่จะไปบังคับให้เค้าต้องทำงั้นทำงี้เพื่อเราจะได้สบายใจ ไม่ต้องกลัวโดนหลอก

แล้วยังจะมีหน้าไปบอกว่าเค้ามักง่ายอีกเนี่ยนะฮะ

 


ก็ต่างฝ่ายต่างคิดไม่เหมือนกันไงครับ ชีวิตของชีวิตของเราเองทำไมจะกลัวโดนหลอกไม่ได้ ทำไมจะอยากสบายใจไม่ได้ ทำไมจะระบุว่าเคยเป็นนายไม่ได้ บัตรผมเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนวันเกิดเปลี่ยนเลขบัตรได้เหมือนกันทั้งที่เป็นบัตรของผมเอง อีกฝ่ายก็มองว่าคุณยิ่งพูดยิ่งแย่ได้เหมือนกัน
แก้ไขล่าสุดโดย JansBlu เมื่อ Fri Jul 01, 2022 13:50, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้จัดการทีม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Oct 2005
ตอบ: 38448
ที่อยู่: Kanagawa, Japan
โพสเมื่อ: Fri Jul 01, 2022 13:57
[RE: คิดยังไงกับเพศที่ 3]
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
Spoil
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
BLIИK พิมพ์ว่า:

ตอนนี้มีสักกี่ % กันเชียวตอนนี้ที่โดนทรานส์หลอกว่าเป็น ญ แท้กันอ่ะ แล้วเราจะไปกันเพราะคนแค่ไม่กี่ % ตรงนั้นหรอเพื่อคนอีกมากมายหรอครับ แค่คำนำหน้าชื่อเองนะ
 


อันนี้ตรงใจผมมากเลยฮะท่าน

สรุปที่คุยกันมาหลายๆความเห็น กลายเป็นว่าแค่กลัวโดนหลอก ในการใช้ชีวิตคู่..ทั้งๆที่เรื่องที่จะหลอกมีอีกเป็นพันเรื่อง

ไม่ว่าจะเรื่องเป็นโรคร้าย, บ้านมีหนี้สิน, มีลูกติด, เคยทำงานผิดกฏหมาย, เคยมีสามีหลายคน ฯลฯ

(และเราจะสะเพร่าขนาดคบคนๆนึงถึงขั้นใช้ชีวิตคู่ โดยไม่คิดอยากรู้ประวัติอะไรเค้าเลย..จะพึ่งพาคำนำหน้าชื่ออย่างเดียว)

แต่ในมุมของคนที่เป็นทรานส์ คำนำหน้าชื่อโคตรมีความหมายกับเค้าเลยนะฮะ..คนๆนึงตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ นี่คือต้อง deep จริงๆ

แปลว่าเค้าไม่ต้องการสภาพทุกอย่างของการเป็นเพศนั้นแล้ว (ใครมันจะอยากเจ็บตัว เสียเงินมหาศาล เพื่อแค่จะหลอก ช คนเดียว)

แต่ทุกครั้งที่หยิบบัตรประชาชนขึ้นมาคำๆนั้นก็ตอกย้ำฟ้องตัวเองอยู่ตลอด ท้งๆที่แม่มไม่ได้เป็นปัญหา เดือดร้อนใครเลย บัตรตัวเองแท้ๆ

ทุกครั้งที่ไปสถานที่ราชการ (หรือเอกชน) ร.พ. อะไรก็ตาม..อุตส่าห์เปลี่ยนชื่อมาซะสวย แต่คนตะโกนเรียก "นาย อุรัสยา"

ต้องทนมองสายตาชาวบ้านกลั้นขำ กลายเป็นตัวตลกสังคม..เพราะ ผู้ชายกลัวโดนหลอก เสียความรู้สึก


หลายๆคนที่บอกว่าไม่ได้รังเกียจ มีเพื่อนเป็น ญ ข้ามเพศหลายคน กล้ามองตาเค้าแล้วพูดตรงๆมั๊ยว่า..

"กูไม่อยากให้พวกมึงใช้คำว่านางสาวนะ เพราะกลัวโดนคนแบบพวกมึงหลอกว่าเป็น ญ แท้ แล้วมันเสียเวลา เสียความรู้สึกกู"

 


ถ้าอยากรู้ประวัติแล้วต้องทำยังไงครับ ต้องพาไปตรวจเท่านั้นหรอครับก่อนจะเริ่มจีบใครสักคน หรือมีวิธีอื่นไหมผมยังนึกไม่ออกถ้าภายนอกเหมือนผู้หญิงมากๆ

เรื่องอื่นเข้าใจได้นะ เรื่องอื่นก็หลอกได้เหมือนกันแค่มีเรื่องให้ถูกหลอกเพิ่มมาอีกเรื่องนึง ถ้าคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องเพศขนาดนั้นก็คงโอเค แต่บางคนคงคิดว่าเรื่องใหญ่เพราะเรื่องรสนิยมและเรื่องลูกด้วย

ถ้าทำหน้าอะไรมาเหมือนผู้หญิงแล้วจริงๆเห็นด้วยนะว่าอยากให้เปลี่ยนได้  


การอยากรู้ประวัติมีอีกเป็นร้อยวิธีอ่ะครับ โดยไม่ต้องไปนั่งขอดูบัตรประชาชน..เราคบใครซักคนเราไม่ต้องคุยเรื่องอดีตกับเค้า

ไม่ต้องรู้จักเพื่อนเค้า ครอบครัวเค้าเลยหรอฮะ ผมว่าพวกนี้มันพื้นฐานยิ่งกว่าการไปขอใครดูบัตรอีกนะ..

(อยากเปิดโหวตเหมือนกันว่า แต่ละคนที่คบกับแฟนอยู่เห็นบัตรประชาชนแฟนครั้งแรกตอนคบกันกี่วัน ผมว่าบางคนเป็นปีๆไม่ดูด้วยซ้ำ)

ผมคิดเหมือนท่านข้างบนแหละฮะ ทุกวันนี้มันมีเคสที่ ญ ข้ามเพศไปหลอก ช ซักกี่คน แล้วหลอกสำเร็จซักกี่คน

แล้วที่โดนจับได้เพราะไปดูบัตรประชาชนเห็น"นาย"จะมีซักกี่เคส..นี่เล่นเหมาเอาหมดว่าคนเปลี่ยนคำนำหน้าทุกคนเพื่อจะมาหลอก ช

 

 

ผมไปบอกตอนไหนว่าเหมาหมด ผมบอกอยู่ว่าไม่ได้คิดว่าเยอะมากแค่บอกว่าเป็นข้อเสียที่จะมี แล้วก็แค่มองว่าขอดูบัตรมันง่ายกว่าไปให้หมอตรวจเยอะเท่านั้น

ถ้าให้โหวตว่าขอดูบัตรประชาชนก่อนหรือพาไปตรวจก่อน การขอดูบัตรก็น่าจะง่ายกว่า

ประเด็นไม่ใช่การคุยถาม แต่ประเด็นคือคุยแล้วโดนหลอก ไม่งั้นใส่ในบัตรประชาชนให้รู้ว่าเคยเป็นนายมาก่อนก็ได้ถ้าห่วงเรื่องอายเวลาโดนเรียก เรื่องอื่นไม่ติดเลย  


ท่านก็บอกเองว่าไม่คิดว่าจะเยอะมาก..แล้วทำไมกลับไปอยากจำกัดสิทธิ์ให้เค้าทั้งหมดห้ามใช้คำว่านางสาวอ่ะฮะ?

สำหรับผมอย่างที่พิมพ์ตลอดแหละฮะ..มีอีกเป็นพันวิธี ถ้าเราอยากจะคบใครจริงจัง โดยไม่ต้องไปดูบัตร หรือไปตรวจร่างกาย

แต่เหมือนกับส่วนใหญ่มักง่ายไปหน่อย เลยอยากใช้วิธีขีดเส้นจำกัดไว้บนบัตรไปเลยไม่ต้องสนใจคนอื่นๆที่เค้าไม่ได้คิดจะหลอกใครด้วย

(ถ้าลองเข้าใจถึงความรู้สึกของคนที่เค้าอยากเปลี่ยนว่าเค้าต้องการจริงๆ และมันมีเหตุผลอะไรบ้าง จะรู้ว่ามันเทียบไม่ได้เลยกับเหตุผลฝั่งที่ไม่อยากให้เปลี่ยน แค่ว่าจะได้จำแนกเพศง่ายดี ไม่อยากโดนหลอก ไม่อยากลองหาวิธีอื่นด้วย แค่เนี๊ยะ)


 


ก็ไม่ได้เข้าใจมากหรอกครับ เเต่เข้าใจคนที่โดนหลอก เพราะมันคือข้อเสียที่เกิดขึ้นได้แน่ๆ แค่สงสัยว่าถ้าไม่ได้จะหลอกใครแล้วทำไมจะมีระบุไม่ได้ว่าเคยเป็นนายมาก่อน

ผมก็พูดได้เหมือนกันว่าเหตุผลจะเปลี่ยนกเทียบไม่ได้กับเหตุผลที่ไม่ควรเปลี่ยน คุณก็ต้องนึกถึงใจคนอีกฝั่งเช่นกัน

สิทธิและความปลอดภัยของคนอื่นก็สำคัญเหมือนกัน อนาคตก็อยากให้เปลี่ยนได้เต็มที่ แต่ปัจจุบันเชื่อว่าหลายคนยังไม่พร้อม

ยังไม่ได้พูดถึงข้อเสียอื่นๆ นอกจากเรื่องหลอกอีกนะ  


สิทธิและความปลอดภัยของคนอื่น คืออะไรอ่ะฮะ? เราสามารถโดนคนที่ใช้คำว่านางสาวกระทำชำเรา,ล่วงละเมิดเราได้หรอฮะ?

(แล้วเราปลอดภัยจากคนที่เพศตรง เป็นสาวแท้ๆ อย่างที่เราอยากได้ กับทุกเรื่องเลยหรอฮะ?)

อย่างเดียวที่ผมนึกถึงใจคนอีกฝั่งออกก็แค่เรื่องเห้นแก่ตัว+มักง่ายอ่ะฮะ..ไม่อยากให้คนอื่นเปลี่ยน แค่จะสนองความมักง่ายส่วนตัว

ความมักง่ายคือ อยากมีเมียเป็น ญ แท้แต่ไม่อยากต้องศึกษาดูใจอะไร เห็นบัตรประชาชนให้มันจบๆ..ถ้ายอมรับแค่นี้ก็จบละฮะ


 


สำหรับบางคนก็ใช่ เขาต้องการหญิงแท้เท่านั้น เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเขา แล้วบอกไปแล้วว่าประเด็นคือโดนหลอกไม่ใช่เรื่องคุยศึกษาดูใจ

อีกฝั่งก็พูดได้เหมือนกันว่าเห็นแก่ตัวมักง่าย อย่างเปลี่ยนจนไม่สนใจข้อเสีย แค่ระบุว่าเคยเป็นนายแค่นี้ทำไมไม่ทำ  


ยิ่งพูดก็ยิ่งแย่อ่ะครับ บัตรเค้าเอง เพศเค้าเอง แต่จะไปบังคับให้เค้าต้องทำงั้นทำงี้เพื่อเราจะได้สบายใจ ไม่ต้องกลัวโดนหลอก

แล้วยังจะมีหน้าไปบอกว่าเค้ามักง่ายอีกเนี่ยนะฮะ

 


ก็ต่างฝ่ายต่างคิดไม่เหมือนกันไงครับ ชีวิตของชีวิตของเราเองทำไมจะกลัวโดนหลอกไม่ได้ ทำไมจะอยากสบายใจไม่ได้ ทำไมจะระบุว่าเคยเป็นนายไม่ได้ บัตรผมเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนวันเกิดเปลี่ยนเลขบัตรได้เหมือนกันทั้งที่เป็นบัตรของผมเอง อีกฝ่ายก็มองว่าคุณยิ่งพูดยิ่งแย่ได้เหมือนกัน  


ก็ถ้าสมมติวันนึงเราเลิกนับถือศาสนา หรืออยากเปลี่ยนศาสนา..จากนั้นเลยจะไปจัดการเปลี่ยนศาสนาที่บัตรเรา

แล้วมีคนอีกกลุ่มต่อต้าน ห้ามเราเปลี่ยน แล้วบอกว่าเป็นความรู้สึกของเค้าที่ต้องการรู้ว่าคนที่เค้ารู้จักเคยนับถืออะไรมาก่อน

(เช่น ถ้ารู้ว่าเคยนับถือศาสนา xxx มาก่อน..เค้าไม่อยากจะคบกับคนประเภทนี้) เค้าเลยกลัวและไม่ต้องการให้เปลี่ยนศาสนาบนบัตรได้

เราควรจะเคารพสิทธิ์ของใครอ่ะฮะ คนที่อยากเปลี่ยน หรือคนที่ไม่อยากให้คนอื่นเปลี่ยน?


0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Jul 2020
ตอบ: 4414
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 01, 2022 14:20
[RE: คิดยังไงกับเพศที่ 3]
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
Spoil
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
BLIИK พิมพ์ว่า:

ตอนนี้มีสักกี่ % กันเชียวตอนนี้ที่โดนทรานส์หลอกว่าเป็น ญ แท้กันอ่ะ แล้วเราจะไปกันเพราะคนแค่ไม่กี่ % ตรงนั้นหรอเพื่อคนอีกมากมายหรอครับ แค่คำนำหน้าชื่อเองนะ
 


อันนี้ตรงใจผมมากเลยฮะท่าน

สรุปที่คุยกันมาหลายๆความเห็น กลายเป็นว่าแค่กลัวโดนหลอก ในการใช้ชีวิตคู่..ทั้งๆที่เรื่องที่จะหลอกมีอีกเป็นพันเรื่อง

ไม่ว่าจะเรื่องเป็นโรคร้าย, บ้านมีหนี้สิน, มีลูกติด, เคยทำงานผิดกฏหมาย, เคยมีสามีหลายคน ฯลฯ

(และเราจะสะเพร่าขนาดคบคนๆนึงถึงขั้นใช้ชีวิตคู่ โดยไม่คิดอยากรู้ประวัติอะไรเค้าเลย..จะพึ่งพาคำนำหน้าชื่ออย่างเดียว)

แต่ในมุมของคนที่เป็นทรานส์ คำนำหน้าชื่อโคตรมีความหมายกับเค้าเลยนะฮะ..คนๆนึงตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ นี่คือต้อง deep จริงๆ

แปลว่าเค้าไม่ต้องการสภาพทุกอย่างของการเป็นเพศนั้นแล้ว (ใครมันจะอยากเจ็บตัว เสียเงินมหาศาล เพื่อแค่จะหลอก ช คนเดียว)

แต่ทุกครั้งที่หยิบบัตรประชาชนขึ้นมาคำๆนั้นก็ตอกย้ำฟ้องตัวเองอยู่ตลอด ท้งๆที่แม่มไม่ได้เป็นปัญหา เดือดร้อนใครเลย บัตรตัวเองแท้ๆ

ทุกครั้งที่ไปสถานที่ราชการ (หรือเอกชน) ร.พ. อะไรก็ตาม..อุตส่าห์เปลี่ยนชื่อมาซะสวย แต่คนตะโกนเรียก "นาย อุรัสยา"

ต้องทนมองสายตาชาวบ้านกลั้นขำ กลายเป็นตัวตลกสังคม..เพราะ ผู้ชายกลัวโดนหลอก เสียความรู้สึก


หลายๆคนที่บอกว่าไม่ได้รังเกียจ มีเพื่อนเป็น ญ ข้ามเพศหลายคน กล้ามองตาเค้าแล้วพูดตรงๆมั๊ยว่า..

"กูไม่อยากให้พวกมึงใช้คำว่านางสาวนะ เพราะกลัวโดนคนแบบพวกมึงหลอกว่าเป็น ญ แท้ แล้วมันเสียเวลา เสียความรู้สึกกู"

 


ถ้าอยากรู้ประวัติแล้วต้องทำยังไงครับ ต้องพาไปตรวจเท่านั้นหรอครับก่อนจะเริ่มจีบใครสักคน หรือมีวิธีอื่นไหมผมยังนึกไม่ออกถ้าภายนอกเหมือนผู้หญิงมากๆ

เรื่องอื่นเข้าใจได้นะ เรื่องอื่นก็หลอกได้เหมือนกันแค่มีเรื่องให้ถูกหลอกเพิ่มมาอีกเรื่องนึง ถ้าคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องเพศขนาดนั้นก็คงโอเค แต่บางคนคงคิดว่าเรื่องใหญ่เพราะเรื่องรสนิยมและเรื่องลูกด้วย

ถ้าทำหน้าอะไรมาเหมือนผู้หญิงแล้วจริงๆเห็นด้วยนะว่าอยากให้เปลี่ยนได้  


การอยากรู้ประวัติมีอีกเป็นร้อยวิธีอ่ะครับ โดยไม่ต้องไปนั่งขอดูบัตรประชาชน..เราคบใครซักคนเราไม่ต้องคุยเรื่องอดีตกับเค้า

ไม่ต้องรู้จักเพื่อนเค้า ครอบครัวเค้าเลยหรอฮะ ผมว่าพวกนี้มันพื้นฐานยิ่งกว่าการไปขอใครดูบัตรอีกนะ..

(อยากเปิดโหวตเหมือนกันว่า แต่ละคนที่คบกับแฟนอยู่เห็นบัตรประชาชนแฟนครั้งแรกตอนคบกันกี่วัน ผมว่าบางคนเป็นปีๆไม่ดูด้วยซ้ำ)

ผมคิดเหมือนท่านข้างบนแหละฮะ ทุกวันนี้มันมีเคสที่ ญ ข้ามเพศไปหลอก ช ซักกี่คน แล้วหลอกสำเร็จซักกี่คน

แล้วที่โดนจับได้เพราะไปดูบัตรประชาชนเห็น"นาย"จะมีซักกี่เคส..นี่เล่นเหมาเอาหมดว่าคนเปลี่ยนคำนำหน้าทุกคนเพื่อจะมาหลอก ช

 

 

ผมไปบอกตอนไหนว่าเหมาหมด ผมบอกอยู่ว่าไม่ได้คิดว่าเยอะมากแค่บอกว่าเป็นข้อเสียที่จะมี แล้วก็แค่มองว่าขอดูบัตรมันง่ายกว่าไปให้หมอตรวจเยอะเท่านั้น

ถ้าให้โหวตว่าขอดูบัตรประชาชนก่อนหรือพาไปตรวจก่อน การขอดูบัตรก็น่าจะง่ายกว่า

ประเด็นไม่ใช่การคุยถาม แต่ประเด็นคือคุยแล้วโดนหลอก ไม่งั้นใส่ในบัตรประชาชนให้รู้ว่าเคยเป็นนายมาก่อนก็ได้ถ้าห่วงเรื่องอายเวลาโดนเรียก เรื่องอื่นไม่ติดเลย  


ท่านก็บอกเองว่าไม่คิดว่าจะเยอะมาก..แล้วทำไมกลับไปอยากจำกัดสิทธิ์ให้เค้าทั้งหมดห้ามใช้คำว่านางสาวอ่ะฮะ?

สำหรับผมอย่างที่พิมพ์ตลอดแหละฮะ..มีอีกเป็นพันวิธี ถ้าเราอยากจะคบใครจริงจัง โดยไม่ต้องไปดูบัตร หรือไปตรวจร่างกาย

แต่เหมือนกับส่วนใหญ่มักง่ายไปหน่อย เลยอยากใช้วิธีขีดเส้นจำกัดไว้บนบัตรไปเลยไม่ต้องสนใจคนอื่นๆที่เค้าไม่ได้คิดจะหลอกใครด้วย

(ถ้าลองเข้าใจถึงความรู้สึกของคนที่เค้าอยากเปลี่ยนว่าเค้าต้องการจริงๆ และมันมีเหตุผลอะไรบ้าง จะรู้ว่ามันเทียบไม่ได้เลยกับเหตุผลฝั่งที่ไม่อยากให้เปลี่ยน แค่ว่าจะได้จำแนกเพศง่ายดี ไม่อยากโดนหลอก ไม่อยากลองหาวิธีอื่นด้วย แค่เนี๊ยะ)


 


ก็ไม่ได้เข้าใจมากหรอกครับ เเต่เข้าใจคนที่โดนหลอก เพราะมันคือข้อเสียที่เกิดขึ้นได้แน่ๆ แค่สงสัยว่าถ้าไม่ได้จะหลอกใครแล้วทำไมจะมีระบุไม่ได้ว่าเคยเป็นนายมาก่อน

ผมก็พูดได้เหมือนกันว่าเหตุผลจะเปลี่ยนกเทียบไม่ได้กับเหตุผลที่ไม่ควรเปลี่ยน คุณก็ต้องนึกถึงใจคนอีกฝั่งเช่นกัน

สิทธิและความปลอดภัยของคนอื่นก็สำคัญเหมือนกัน อนาคตก็อยากให้เปลี่ยนได้เต็มที่ แต่ปัจจุบันเชื่อว่าหลายคนยังไม่พร้อม

ยังไม่ได้พูดถึงข้อเสียอื่นๆ นอกจากเรื่องหลอกอีกนะ  


สิทธิและความปลอดภัยของคนอื่น คืออะไรอ่ะฮะ? เราสามารถโดนคนที่ใช้คำว่านางสาวกระทำชำเรา,ล่วงละเมิดเราได้หรอฮะ?

(แล้วเราปลอดภัยจากคนที่เพศตรง เป็นสาวแท้ๆ อย่างที่เราอยากได้ กับทุกเรื่องเลยหรอฮะ?)

อย่างเดียวที่ผมนึกถึงใจคนอีกฝั่งออกก็แค่เรื่องเห้นแก่ตัว+มักง่ายอ่ะฮะ..ไม่อยากให้คนอื่นเปลี่ยน แค่จะสนองความมักง่ายส่วนตัว

ความมักง่ายคือ อยากมีเมียเป็น ญ แท้แต่ไม่อยากต้องศึกษาดูใจอะไร เห็นบัตรประชาชนให้มันจบๆ..ถ้ายอมรับแค่นี้ก็จบละฮะ


 


สำหรับบางคนก็ใช่ เขาต้องการหญิงแท้เท่านั้น เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเขา แล้วบอกไปแล้วว่าประเด็นคือโดนหลอกไม่ใช่เรื่องคุยศึกษาดูใจ

อีกฝั่งก็พูดได้เหมือนกันว่าเห็นแก่ตัวมักง่าย อย่างเปลี่ยนจนไม่สนใจข้อเสีย แค่ระบุว่าเคยเป็นนายแค่นี้ทำไมไม่ทำ  


ยิ่งพูดก็ยิ่งแย่อ่ะครับ บัตรเค้าเอง เพศเค้าเอง แต่จะไปบังคับให้เค้าต้องทำงั้นทำงี้เพื่อเราจะได้สบายใจ ไม่ต้องกลัวโดนหลอก

แล้วยังจะมีหน้าไปบอกว่าเค้ามักง่ายอีกเนี่ยนะฮะ

 


ก็ต่างฝ่ายต่างคิดไม่เหมือนกันไงครับ ชีวิตของชีวิตของเราเองทำไมจะกลัวโดนหลอกไม่ได้ ทำไมจะอยากสบายใจไม่ได้ ทำไมจะระบุว่าเคยเป็นนายไม่ได้ บัตรผมเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนวันเกิดเปลี่ยนเลขบัตรได้เหมือนกันทั้งที่เป็นบัตรของผมเอง อีกฝ่ายก็มองว่าคุณยิ่งพูดยิ่งแย่ได้เหมือนกัน  


ก็ถ้าสมมติวันนึงเราเลิกนับถือศาสนา หรืออยากเปลี่ยนศาสนา..จากนั้นเลยจะไปจัดการเปลี่ยนศาสนาที่บัตรเรา

แล้วมีคนอีกกลุ่มต่อต้าน ห้ามเราเปลี่ยน แล้วบอกว่าเป็นความรู้สึกของเค้าที่ต้องการรู้ว่าคนที่เค้ารู้จักเคยนับถืออะไรมาก่อน

(เช่น ถ้ารู้ว่าเคยนับถือศาสนา xxx มาก่อน..เค้าไม่อยากจะคบกับคนประเภทนี้) เค้าเลยกลัวและไม่ต้องการให้เปลี่ยนศาสนาบนบัตรได้

เราควรจะเคารพสิทธิ์ของใครอ่ะฮะ คนที่อยากเปลี่ยน หรือคนที่ไม่อยากให้คนอื่นเปลี่ยน?


 


ศาสนาไม่ใช่เรื่องที่ติดมาตั้งแต่กำเนิดครับ ควรเปลี่ยนได้อยู่แล้ว ไม่เหมือนวันเกิด เพศ พ่อแม่ เชื้อชาติกำเนิด
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้จัดการทีม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Oct 2005
ตอบ: 38448
ที่อยู่: Kanagawa, Japan
โพสเมื่อ: Fri Jul 01, 2022 14:25
[RE: คิดยังไงกับเพศที่ 3]
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
Spoil
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
JansBlu พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
BLIИK พิมพ์ว่า:

ตอนนี้มีสักกี่ % กันเชียวตอนนี้ที่โดนทรานส์หลอกว่าเป็น ญ แท้กันอ่ะ แล้วเราจะไปกันเพราะคนแค่ไม่กี่ % ตรงนั้นหรอเพื่อคนอีกมากมายหรอครับ แค่คำนำหน้าชื่อเองนะ
 


อันนี้ตรงใจผมมากเลยฮะท่าน

สรุปที่คุยกันมาหลายๆความเห็น กลายเป็นว่าแค่กลัวโดนหลอก ในการใช้ชีวิตคู่..ทั้งๆที่เรื่องที่จะหลอกมีอีกเป็นพันเรื่อง

ไม่ว่าจะเรื่องเป็นโรคร้าย, บ้านมีหนี้สิน, มีลูกติด, เคยทำงานผิดกฏหมาย, เคยมีสามีหลายคน ฯลฯ

(และเราจะสะเพร่าขนาดคบคนๆนึงถึงขั้นใช้ชีวิตคู่ โดยไม่คิดอยากรู้ประวัติอะไรเค้าเลย..จะพึ่งพาคำนำหน้าชื่ออย่างเดียว)

แต่ในมุมของคนที่เป็นทรานส์ คำนำหน้าชื่อโคตรมีความหมายกับเค้าเลยนะฮะ..คนๆนึงตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ นี่คือต้อง deep จริงๆ

แปลว่าเค้าไม่ต้องการสภาพทุกอย่างของการเป็นเพศนั้นแล้ว (ใครมันจะอยากเจ็บตัว เสียเงินมหาศาล เพื่อแค่จะหลอก ช คนเดียว)

แต่ทุกครั้งที่หยิบบัตรประชาชนขึ้นมาคำๆนั้นก็ตอกย้ำฟ้องตัวเองอยู่ตลอด ท้งๆที่แม่มไม่ได้เป็นปัญหา เดือดร้อนใครเลย บัตรตัวเองแท้ๆ

ทุกครั้งที่ไปสถานที่ราชการ (หรือเอกชน) ร.พ. อะไรก็ตาม..อุตส่าห์เปลี่ยนชื่อมาซะสวย แต่คนตะโกนเรียก "นาย อุรัสยา"

ต้องทนมองสายตาชาวบ้านกลั้นขำ กลายเป็นตัวตลกสังคม..เพราะ ผู้ชายกลัวโดนหลอก เสียความรู้สึก


หลายๆคนที่บอกว่าไม่ได้รังเกียจ มีเพื่อนเป็น ญ ข้ามเพศหลายคน กล้ามองตาเค้าแล้วพูดตรงๆมั๊ยว่า..

"กูไม่อยากให้พวกมึงใช้คำว่านางสาวนะ เพราะกลัวโดนคนแบบพวกมึงหลอกว่าเป็น ญ แท้ แล้วมันเสียเวลา เสียความรู้สึกกู"

 


ถ้าอยากรู้ประวัติแล้วต้องทำยังไงครับ ต้องพาไปตรวจเท่านั้นหรอครับก่อนจะเริ่มจีบใครสักคน หรือมีวิธีอื่นไหมผมยังนึกไม่ออกถ้าภายนอกเหมือนผู้หญิงมากๆ

เรื่องอื่นเข้าใจได้นะ เรื่องอื่นก็หลอกได้เหมือนกันแค่มีเรื่องให้ถูกหลอกเพิ่มมาอีกเรื่องนึง ถ้าคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องเพศขนาดนั้นก็คงโอเค แต่บางคนคงคิดว่าเรื่องใหญ่เพราะเรื่องรสนิยมและเรื่องลูกด้วย

ถ้าทำหน้าอะไรมาเหมือนผู้หญิงแล้วจริงๆเห็นด้วยนะว่าอยากให้เปลี่ยนได้  


การอยากรู้ประวัติมีอีกเป็นร้อยวิธีอ่ะครับ โดยไม่ต้องไปนั่งขอดูบัตรประชาชน..เราคบใครซักคนเราไม่ต้องคุยเรื่องอดีตกับเค้า

ไม่ต้องรู้จักเพื่อนเค้า ครอบครัวเค้าเลยหรอฮะ ผมว่าพวกนี้มันพื้นฐานยิ่งกว่าการไปขอใครดูบัตรอีกนะ..

(อยากเปิดโหวตเหมือนกันว่า แต่ละคนที่คบกับแฟนอยู่เห็นบัตรประชาชนแฟนครั้งแรกตอนคบกันกี่วัน ผมว่าบางคนเป็นปีๆไม่ดูด้วยซ้ำ)

ผมคิดเหมือนท่านข้างบนแหละฮะ ทุกวันนี้มันมีเคสที่ ญ ข้ามเพศไปหลอก ช ซักกี่คน แล้วหลอกสำเร็จซักกี่คน

แล้วที่โดนจับได้เพราะไปดูบัตรประชาชนเห็น"นาย"จะมีซักกี่เคส..นี่เล่นเหมาเอาหมดว่าคนเปลี่ยนคำนำหน้าทุกคนเพื่อจะมาหลอก ช

 

 

ผมไปบอกตอนไหนว่าเหมาหมด ผมบอกอยู่ว่าไม่ได้คิดว่าเยอะมากแค่บอกว่าเป็นข้อเสียที่จะมี แล้วก็แค่มองว่าขอดูบัตรมันง่ายกว่าไปให้หมอตรวจเยอะเท่านั้น

ถ้าให้โหวตว่าขอดูบัตรประชาชนก่อนหรือพาไปตรวจก่อน การขอดูบัตรก็น่าจะง่ายกว่า

ประเด็นไม่ใช่การคุยถาม แต่ประเด็นคือคุยแล้วโดนหลอก ไม่งั้นใส่ในบัตรประชาชนให้รู้ว่าเคยเป็นนายมาก่อนก็ได้ถ้าห่วงเรื่องอายเวลาโดนเรียก เรื่องอื่นไม่ติดเลย  


ท่านก็บอกเองว่าไม่คิดว่าจะเยอะมาก..แล้วทำไมกลับไปอยากจำกัดสิทธิ์ให้เค้าทั้งหมดห้ามใช้คำว่านางสาวอ่ะฮะ?

สำหรับผมอย่างที่พิมพ์ตลอดแหละฮะ..มีอีกเป็นพันวิธี ถ้าเราอยากจะคบใครจริงจัง โดยไม่ต้องไปดูบัตร หรือไปตรวจร่างกาย

แต่เหมือนกับส่วนใหญ่มักง่ายไปหน่อย เลยอยากใช้วิธีขีดเส้นจำกัดไว้บนบัตรไปเลยไม่ต้องสนใจคนอื่นๆที่เค้าไม่ได้คิดจะหลอกใครด้วย

(ถ้าลองเข้าใจถึงความรู้สึกของคนที่เค้าอยากเปลี่ยนว่าเค้าต้องการจริงๆ และมันมีเหตุผลอะไรบ้าง จะรู้ว่ามันเทียบไม่ได้เลยกับเหตุผลฝั่งที่ไม่อยากให้เปลี่ยน แค่ว่าจะได้จำแนกเพศง่ายดี ไม่อยากโดนหลอก ไม่อยากลองหาวิธีอื่นด้วย แค่เนี๊ยะ)


 


ก็ไม่ได้เข้าใจมากหรอกครับ เเต่เข้าใจคนที่โดนหลอก เพราะมันคือข้อเสียที่เกิดขึ้นได้แน่ๆ แค่สงสัยว่าถ้าไม่ได้จะหลอกใครแล้วทำไมจะมีระบุไม่ได้ว่าเคยเป็นนายมาก่อน

ผมก็พูดได้เหมือนกันว่าเหตุผลจะเปลี่ยนกเทียบไม่ได้กับเหตุผลที่ไม่ควรเปลี่ยน คุณก็ต้องนึกถึงใจคนอีกฝั่งเช่นกัน

สิทธิและความปลอดภัยของคนอื่นก็สำคัญเหมือนกัน อนาคตก็อยากให้เปลี่ยนได้เต็มที่ แต่ปัจจุบันเชื่อว่าหลายคนยังไม่พร้อม

ยังไม่ได้พูดถึงข้อเสียอื่นๆ นอกจากเรื่องหลอกอีกนะ  


สิทธิและความปลอดภัยของคนอื่น คืออะไรอ่ะฮะ? เราสามารถโดนคนที่ใช้คำว่านางสาวกระทำชำเรา,ล่วงละเมิดเราได้หรอฮะ?

(แล้วเราปลอดภัยจากคนที่เพศตรง เป็นสาวแท้ๆ อย่างที่เราอยากได้ กับทุกเรื่องเลยหรอฮะ?)

อย่างเดียวที่ผมนึกถึงใจคนอีกฝั่งออกก็แค่เรื่องเห้นแก่ตัว+มักง่ายอ่ะฮะ..ไม่อยากให้คนอื่นเปลี่ยน แค่จะสนองความมักง่ายส่วนตัว

ความมักง่ายคือ อยากมีเมียเป็น ญ แท้แต่ไม่อยากต้องศึกษาดูใจอะไร เห็นบัตรประชาชนให้มันจบๆ..ถ้ายอมรับแค่นี้ก็จบละฮะ


 


สำหรับบางคนก็ใช่ เขาต้องการหญิงแท้เท่านั้น เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเขา แล้วบอกไปแล้วว่าประเด็นคือโดนหลอกไม่ใช่เรื่องคุยศึกษาดูใจ

อีกฝั่งก็พูดได้เหมือนกันว่าเห็นแก่ตัวมักง่าย อย่างเปลี่ยนจนไม่สนใจข้อเสีย แค่ระบุว่าเคยเป็นนายแค่นี้ทำไมไม่ทำ  


ยิ่งพูดก็ยิ่งแย่อ่ะครับ บัตรเค้าเอง เพศเค้าเอง แต่จะไปบังคับให้เค้าต้องทำงั้นทำงี้เพื่อเราจะได้สบายใจ ไม่ต้องกลัวโดนหลอก

แล้วยังจะมีหน้าไปบอกว่าเค้ามักง่ายอีกเนี่ยนะฮะ

 


ก็ต่างฝ่ายต่างคิดไม่เหมือนกันไงครับ ชีวิตของชีวิตของเราเองทำไมจะกลัวโดนหลอกไม่ได้ ทำไมจะอยากสบายใจไม่ได้ ทำไมจะระบุว่าเคยเป็นนายไม่ได้ บัตรผมเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนวันเกิดเปลี่ยนเลขบัตรได้เหมือนกันทั้งที่เป็นบัตรของผมเอง อีกฝ่ายก็มองว่าคุณยิ่งพูดยิ่งแย่ได้เหมือนกัน  


ก็ถ้าสมมติวันนึงเราเลิกนับถือศาสนา หรืออยากเปลี่ยนศาสนา..จากนั้นเลยจะไปจัดการเปลี่ยนศาสนาที่บัตรเรา

แล้วมีคนอีกกลุ่มต่อต้าน ห้ามเราเปลี่ยน แล้วบอกว่าเป็นความรู้สึกของเค้าที่ต้องการรู้ว่าคนที่เค้ารู้จักเคยนับถืออะไรมาก่อน

(เช่น ถ้ารู้ว่าเคยนับถือศาสนา xxx มาก่อน..เค้าไม่อยากจะคบกับคนประเภทนี้) เค้าเลยกลัวและไม่ต้องการให้เปลี่ยนศาสนาบนบัตรได้

เราควรจะเคารพสิทธิ์ของใครอ่ะฮะ คนที่อยากเปลี่ยน หรือคนที่ไม่อยากให้คนอื่นเปลี่ยน?


 


ศาสนาไม่ใช่เรื่องที่ติดมาตั้งแต่กำเนิดครับ ควรเปลี่ยนได้อยู่แล้ว ไม่เหมือนวันเกิด เพศ พ่อแม่ เชื้อชาติกำเนิด  


ตอบไม่ตรงคำถามฮะ..ก็ถ้ามีคนกลุ่มใหญ่ๆกลุ่มนึงต่อต้านไม่ให้การเปลี่ยนศาสนาบนบัตรเป็นเรื่องถูกกฏหมาย

เราควรจะเคารพสิทธิ์ของใครอ่ะฮะ คนที่อยากเปลี่ยน หรือคนที่ไม่อยากให้คนอื่นเปลี่ยน?

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3 ... 15, 16, 17
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel