ผมไปถึงจุดนั้นมาละ แต่หนี้ผมน้อยกว่า เงินเดือนน้อยกว่า แต่ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ผมว่าผมก็พอๆกับท่าน คือหาได้ 100 จ่ายแทบจะ 100 เลย

ผมแก้ปัญหาด้วยการลดความฟุ่มเฟือยทุกอย่าง และหารายได้เพิ่มครับ เมื่อก่อนทำงานที่เดียว ปัจจุบันผมทำงาน3ที่

เหนื่อยไหก็มีบ้างนิดๆหน่อย แต่ก็เพราะเราทำตัวเอง ที่ต้องเหนื่อยวันนี้ก็เพราะก่อนหน้่นี้เราเละเทะเอง

ต้องดูหนี้รวมทั้งหมดก่อนว่าเท่าไหร่ แล้วลองหากู้จากธนาคารมาปิด
รถถ้ายังผ่อนไม่หมดไม่รู้ว่าเอาเข้าไฟแนนซ์ ได้ไหม แต่ถ้าให้ดีควรขายก่อน
อย่างน้อยๆเบาภาระรายจ่ายประจำเดือน ไว้เครียหนี้หมดค่อยออกใหม่

ผมเองก็เคยเป็นแบบนี้แต่หนี้ผมน้อยบัตรเครดิต 1 ใบ บัตรเงินสด 1 ใบ สินเชื่ออีกก้อน
ตอนนั้นยอมขายมอไซด์เพื่อมาปิดสินเชื่อ แล้วกู้ใหม่อีกรอบมาเครียหนี้บัตร ตอนนี้ก็เป็นหนี้
ก้อนเดียวกับธนาคารใช้จ่ายคล่องขึ้นมาเยอะอยู่ครับ

list หนี้แต่ละตัวว่ามาอะไรบ้างก่อนครับ
- หยุดการใช้บัตรเครดิต
- ติดต่อธนาคารใดก็ได้ ว่าขอโปรสินเชื่อบุคคลรวมหนี้ก้อนเดียว ดอกเฉลี่ยแล้วต่ำกว่าที่ท่านจ่ายแยกแน่นอน ตามลิ้งค์นี้เลย บ้าน รถ ก็ผ่อนต่อไปเถอะครับ

รวมหนี้มีบริการทั้งหมดตอนนี้ 13 ธนาคารนะครับ แต่ละธนาคารก็มีรายละเอียดต่างกัน

https://www.bangkokbiznews.com/news/997828

เคยเห็นคนมาเม้นเรื่องรวมหนี้อะไรแบบนี้อยู่นะ อาจจะลองค้นหาดูกระทู้ประมาณปีที่แล้วมั่ง

อีกเวย์คือถ้ามีเวลาว่างลองหาเงินเสริมทำมั้ยครับ เป็นพาร์ทไทม์หรืออะไรที่พอจะเพิ่มรายได้ให้ท่าน

ไม่งั้นก็อาจจะลองศึกษาพวกสินเชื่อที่เอารถไปค้ำประกันอ่ะ แต่เข้าใจว่าดอกน่าโหดอยู่ อันนี้ไม่ชัวร์เหมือนกัน

เรื่องกดเงินสดนี่ เข้าใจเลย ตอนสมัยทำงานใหม่ๆ พึ่งมีบัตรเครดิตรูดกระจายแถมไม่พอก็กดเงินสดด้วย

จ่ายขั้นต่ำเอา เคยหนักสุดคือโทรไปขอเพิ่มวงเงินชั่วคราว แต่แบงค์ไม่ให้บอกพฤติกรรมเราไม่ดี (เพราะกดเงินสด)

ยังดีว่าตอนนั้นมีแค่บัตรเดียว (ไม่เยอะมาก) สุดท้ายกว่าจะปิดบัครได้ล่อไป 2-3 ปี โครตทรมานช่วงนั้น

ทุกวันนี้ผมก็ยังเก็บเงินไม่เก่งเหมือนเดิม ฮ่าๆ แต่บอกตัวเองจะไม่ให้ไปถึงจึดนั้นอีกแล้ว

สู้ๆ นะครับ อย่างน้อยเราถึงรู้ตัวว่าควรพอ

สำคัญคือ ทำให้ cash flow แต่ละเดือนเป็นบวก คือมีเงินใช้จ่ายจำเป็นได้ปกติ + จ่ายหนี้ได้ครบ ถ้าจ่ายไม่ไหวรีบคุย(ผมเคยพลาดเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่เคยคุยแหะ ตอนนั้นใช้วิธีวนบัตรเอาดีว่ามีหลายใบ + ย้ายงานแม่ง เอาเงินเดือนเพิ่ม)

ขอโทษครับ ถ้าเป็นงี้อาจต้องรัดเข็มขัดแน่นๆ ทำตารางขึ้นมาดูว่าอันไหนดอกเบี้ยโหดสุดแล้วชำระไปก่อนครับ

รถ คอนโด สามารถพักการชำระได้ไหม มีเงื่อนไขอะไรบ้างลองหาดูนะครับ

ผมเคยเป็นนะ ตอนนี้ก็เป็นอยู่แต่คุม Cashflow ได้ล่ะ
-คอนโด ผ่อนถึงสามปีแล้วไหมครับ พอจะรีไฟแนนได้ไหม ถ้าได้เข้ามาตรการรวมหนี้เลยครับ จะได้ลดภาระหนี้
-ถ้าอันแรกไม่ได้ ลองรวมก้อนเจรจายอดหนี้เป็นผ่อน 5 ปีได้ไหมครับ และดูเจ้าที่ดอกไม่ถึง 20 % พวก CIMB

แนะนำตามหลักการครับ
1. พยายามรวมหนี้เป็นก้อนเดียว (หากมีมาตรการภาครัฐรองรับจะดีมาก ลองติดต่อ ธ.ออมสิน) และเจรจาผ่อนชำระระยะยาว ดอกเบี้ยผ่อนปรน (ซึงผมว่าต่ำกว่าที่ท่านจ่ายอยู่) ตามความสามารถในการชำระของท่าน ทั้งนี้หากรวมหนี้ไม่ได้ก็เจรจากับเจ้าหนี้แต่ละรายขอปรับเป็นเงินกู้ระยะยาว ตามความสามารถในการชำระของท่าน แต่ท่านต้องทำแผนการชำระให้ธนาคารเห็นว่าเป็นไปได้ เช่น เดือนนึงมีรายได้เท่าไร ค่าใช้จ่ายส่วนตัวเท่าไร ภาระผ่อนรถเท่าไร จะเหลือเงินเท่าไรผ่อนธนาคาร
2. กรณีข้อ 1 ทำแผนแล้วเงินเหลือน้อย ท่านอาจต้องต้องตัดใจขายรถ เพื่อลดภาระผ่อนรถในข้อ 1 ทำให้มีเงินเหลือไปผ่อนธนาคารมากขึ้น โอกาสได้รับอนุมัติได้มากขึ้น

์Note : หรือถ้าท่านอยากได้แนวทางคร่าวๆ ก่อนลองติดต่อ คลีนิคหมอหนี้ ของธนาคารแห่งประเทศไทย ตาม link นี้ครับ https://www.bot.or.th/app/doctordebt/
การรวมหนี้จะทำให้ท่านปรับโครงสร้างหนี้ได้ง่ายครับ ไม่ต้องคุยกับเจ้าหนี้หลายราย

ขอให้ท่าน recovery การเงินได้โดยเร็วนะครับ

ลองดูอีกช่องทางหนึ่งนะครับว่าเข้าร่วมได้หรือเปล่า
งานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ของ กทม.มันอาจจะเลยมาแล้วแต่ก็ลองสอบถามดูครับ
http://uat.led.go.th/qcard/schedule.asp

หาทางรวมหนี้เป็นเจ้าหนี้เจ้าเดียว

ลองติดต่อแบงค์เล็กๆดู หลายแบงค์เดี๋ยวนี้รับรวมหนี้ ล่าสุดผมไปติดต่อไทยเครดิตเรื่อง re-finance บ้านมา

เจ้าหน้าที่ก็บอกเรื่องรับรวมหนี้อยู่นะ

รวมหนี้เสร็จ แล้วจัดการยกเลิกบัตรเครดิตให้เหลือใบเดียว

จ่ายบัตรเครดิตใบที่ดอกเบี้ย แพงก่อนครับ ปิดไปก่อน
ดอกเบี้ยระยะสั้น ดอกจะแพง

บ้านดอกเบี้ยระยะยาว เดือนไหนไม่มีก็ยังไม่ต้องผ่อนครับ

ผมขอเป็นกำลังใจให้แล้วกันนะครับ เพราะแนวทางเพื่อนๆในนี้น่าจะบอกท่านไปมากแล้ว

ขอให้สู้ต่อไปนะครับ คิดว่ามันเป็นประสบการณ์ชีวิต
อย่างน้อยท่านก็มีหน้าที่การงานที่ดี มีเงินเดือนที่สูง

ส่วนเรื่องหนี้ก็แก้กันไปครับ
- ติดต่อธนาคาร เจ้าหนี้ ขอปรับโคงสร้างหนี้ ยืดระยะเวลาชำระเพื่อลดวงเงินชำระต่อเดือน

คหสต นะครับ
รวมหนี้ปิดยอดบัตรให้หมด แล้วเลิกใช้บัตรเครดิตครับ ตอนนี้ ออมสิน เหมือนจะมีให้กู้อยู่ ยอดไม่เกิน 700k ถ้าผมจำไม่ผิดฮะ
ผมว่าถ้ารวมหนี้ได้แล้วทะยอยผ่อนจ่าย 3-4 ปีน่าจะหมดหนี้ครับ
ผมแนะนำนะครับ ถ้าจะใช้บัตรเครดิต พอรูดแล้วให้จ่ายยอดที่ใช้เข้าบัตรเลยครับ จะได้ไม่ใช้เกินตัว

8-9 ปีที่แล้วอยู่ในอาการนี้เลย
เงินแต่ละเดือนออกมาต้องใช้หนี้หมด เหลือเงินติดตัว 1-2000
สุดท้ายก็ต้องกดเงินในบัตรกดเงินสดวนมาใช้ เหมือนแค่ตัดดอกไปแต่ละเดือน
ต้องเริ่มวางแผนครับ
1. แตกรายจ่ายแต่ละตัว จะได้เห็นอันไหนฟุ่มเพื่อย อันไหนลดได้ อันไหนไม่จำเป็นตัดทิ้งได้
ตัวอย่าง บางคนมือไม่มีตังแต่จ่ายรายเดือนมือถือ 500-1000 แบบนี้สามารถลดมาไม่เกิน 200/เดือนได้
2. หารายได้เพิ่ม หางานอื่นทำในวันหยุด
3. รถยังจำเป็นมากขนาดไหน ถ้าขายตอนนี้เหลือเงินไหม ถ้าเอามาหักลบที่ผ่อน ปล่อยได้ก็ปล่อยไปก่อน
เพราะเป็นรายการที่ก่อค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกเยอะ ของผมก็คิดอยู่นานแต่ตัดสินใจเอาไว้ผ่อนจนจบ
4. ค่าเช่าคอนโด แพงขนาดไหน เปลี่ยนที่พักที่ถูกลงได้หรือไม่ (มีบางโครงการหรือบุคคลที่ปล่อยอสังหา
โดยทำเรื่องกู้เกินยอดที่ขาย ปิดยอดหนี้ที่เรามีไปรวมผ่อนค่าบ้าน/คอนโด)

สิ่งสำคัญ คือ ต้องมีวินัยในการใช้จ่าย ไม่สร้างหนี้เพิ่ม
คนรู้จัก เป็นหนี้บัตตรเครดิต 3-4แสน แต่เค้ามีบ้านเลยไปรี บ้านเอาเงินออกมาใช้หนี้
เพื่อจะได้ผ่อนทางเดียว เหลือเงินใช้จะได้ขยับตัวง่ายขึ้น
แต่สุดท้ายไม่มีวินัย ก็เป็นหนี้บัตรเครดิตหลักแสนเหมือนเดิม ผมได้แต่สั่นหัวเลยแบบนี้

ปกติมันมี 2 วิธี คือเพิ่มรายรับและลดรายจ่ายครับ
เพิ่มรายรับนี่อาจจะยากในเศรษฐกิจตอนนี้่ ก็ต้องมาดูที่ลดรายจ่าย
เหมือนที่เพื่อนๆแนะนำคือพยายามเครียบัตรให้หมดครับ เริ่มจากใบที่น้อยสุดก่อน
ใบเยอะก็ไปเจรจากับ ธ. ว่าไม่ไหว ให้ ธ. ช่วย
ที่เหลือมาดูตัวเองว่าอะไรลดได้บ้าง เช่น ทำกับข้าวทีเดียวเอาไปกินที่ทำงาน
ใช้ขนส่งสาธารณะ เปิดพัดลมนอน นอนไวขึ้นจะได้ไม่ต้องดูทีวีเล่นคอม
รถขายได้ไหม ไปหาเช่าห้องเล็กลงจะได้ค่าใช้จ่ายน้อยลง
อาจดูเหมือนนิดเดียว แต่ทำได้ผมว่าเดือนๆ ประหยัดได้หลายพันอยู่