ถามตรงๆ ตอนนี้ไม่มีวิธีไหนจบรัฐบาลชุดนี้เลยเหรอครับ
ลูกพี่เฉิน. พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
ลูกพี่เฉิน. พิมพ์ว่า:
ผมคนหนึ่งที่ไม่อยากให้จบครับ ผมอยากให้เขาอยู่จนครบวาระ ต่อให้ประเทศชิปหายยังไง คุณภาพชีวิตชิปหายยังไงผมก็จะอดทน ถึงจะสิ้นหวังก็ตาม เพราะ ผมเบื่อเต็มทีแล้วกับการที่ ออกมาลงถนนกันแบบนี้ ผมอยากให้มันจบได้แล้ว
มองง่าย ๆ ถ้านักศึกษาล้มรัฐบาลชุดนี้ได้ แล้ว สมมุติเอาเพื่อไทยหรือจะเอาแก๊งพี่ธรขึ้นมาเป็นก็ได้นะ
แล้วคิดว่าอีกฝั่งเขาจะไม่ลงถนนกันหลอ สุดท้ายมันก็วนเวียนกับการลงถนนแบบนี้ไม่จบไม่สิ้น
อยู่ไปเลยอยู่จนครบวาระนั้นละ ยิ่งอยู่นานคนเห็นความเบื่อหน่ายเขาก็ไม่เอากันแล้ว
การประท้วงเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย
ทุกประเทศประชาธิปไตยมีการประท้วงบนถนนทั้งสิ้น
ประเทศที่ไม่มีการเดินขบวนประท้วงคือประเทศเผด็จการ เช่น จีน เกาหลีเหนือ (ขนาดรัสเซียยังมีการเดินขบวนประท้วง)
อีกอย่าง ทำไมถึงคิดว่าตอนนี้เลิกการประท้วงตอนนี้
ในอนาคตเพื่อไทยหรือก้าวไกลเป็นรัฐบาล ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองจะไม่ออกมาประท้วง มีตรรกะอะไรที่ทำให้เชื่อเช่นนั้น
สิ่งที่ทำให้การเมืองไทยไม่ก้าวหน้าไปไหนคือการประท้วงหรือการทำรัฐประหาร?
คนไม่เอากันแล้ว แต่ยังมี สว.250 เอา รัฐบาลชุดนี้ก็มีโอกาสสูงที่จะได้เป็นสมัยที่ 2
จริง ๆ มีเรื่องให้แย้งเต็มไปหมดในข้อความไม่กี่บรรทัด
แสดงให้เห็นถึงความตื้นเขินของความรู้ทางการเมือง
ต้องขอโทษท่านในความคิดโง่ ๆ และ ตื้นเขิน ทางการเมืองของผมด้วยครับ
สิ่งที่ผมจะสื่อจริง ๆ คือ ผมไม่อยากเห็นการลงถนนแบบนี้กันอีกแล้้ว อยากให้ทุกคนใช้ชีวิตกันปรกติแบบที่เป็นก่อนหน้านั้นแค่นั้นครับผม
ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ การที่ท่านจะต้องการอะไร ชอบหรือไม่ชอบอะไร ไม่ได้ผิด มันเป็นสิทธิของท่าน
สิ่งที่ไม่ถูกต้องในประโยคของท่านคือการตั้งสมมติฐานโดยใช้ความเชื่อส่วนตัวเป็นหลัก เช่น ถ้าปัจจุบันไม่มีการปะท้วงในอนาคตก็จะไม่มีการประท้วง ถ้าคนเบื่อรัฐบาลชุดปัจจุบันรัฐบาลก็จะไม่ได้เป็นรัฐบาลต่อไปในสมัยหน้า (ซึ่งก็อาจจะจริงในรัฐธรรมนูญอื่น)
ผมคิดว่าท่านน่าจะเห็นนะครับ ว่าการใช้ความเชื่อเป็นหลักในการตัดสินใจทางการเมือง โดยไม่ลองศึกษาข้อมูลประกอบ มันนำพาประเทศและสังคมเราไปสู่อะไร
ในขณะที่การไม่ชอบการประท้วงบนถนนเป็นสิทธิส่วนบุคคลของท่าน และท่านไม่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงความไม่ชอบของท่านเพื่อใคร และยังมีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์ความเดือดร้อนที่ตามมา
หากวันหนึ่งมีการทำประชามติหรือเสนอร่าง พรบ.ที่จำกัดสิทธิ์ในการชุมนุม (จริง ๆ คือมีการเสนอร่าง พรบ. ประเภทนี้แล้ว ณ ปัจจุบัน) แล้วท่านเห็นชอบและสนับสนุนเพราะมันเข้ากันได้ดีกับความไม่ชอบของท่าน
ถึงตอนนั้น ท่านจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการลิดรอนสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก ซึ่งเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน
นี้คือสิ่งที่ต้องระวังและชั่งน้ำหนักให้ดีถึงความต้องการส่วนตัวและผลประโยชน์ของส่วนรวม