[RE: แมนซิตี้ ใช้เงินเยอะจริงแท้แค่ไหน โดยเฉพาะในยุคเปป]
ส่วนต่างปีละ 50-60ล. ปอนด์ ถ้า6 ปีก็ 300-360 ลป. ถือว่าเยอะเหมือนกันนะครับ ถ้าเทียบก็ใน1 ปีสามารถซื้อตัวระดับ aceของทีมได้ปีละ1 คนเลย ถ้าทีมที่ใช้เงินฉลาดๆก็อาจจะ2 คน หรือเทียบเท่ากับ ทีมอื่นที่มีเงินช็อปปีละ60ลป. ต้องหยุดช็อป6 ตลาด หรือ3 ปี
ประเด็นคือ 2 ปีที่บอก 400 ล ยูโร มันเหมือนเป็นก้าวกระโดดที่ทีมอื่น(โดยส่วนมาก) ยากที่จะทำแบบนั้น ปีนั้นเสริม สโตน, ซาเน่, เฆซุส, กุนโดกัน บราโว่ โนลิโต้ ซิลวา เมนดี้ etc.
( ref transfermarkt.com)
ในขณะที่ทีมโดยรวมของเดิมก่อนเป๊ปมาก็ใช้เงินซื้อเข้ามาพอสมควร พื้นฐานนักเตะเดิมก็ดีในระดับหนึ่งอยู่แล้วแต่ปีก่อนเป๊ปมาเพิ่งเสริม เดอบรอย 76ล ยูโร , สเตอริ่ง 63.7ล ยูโร, โอตาเมนดี้ 44.5ล ยูโร
(ref transfermarkt.com)
และแมนซิตี้มีการซื้อนักเตะที่ราคาเกิน 50ล ยูโร ถึง11 คน (ตั้งได้ทีมนึง)
( ref transfermarkt.com)
ในขณะที่ทีมคู่แข่งอย่างหงส์ 3 คน
คำถามคือแล้วไง? ผมว่ามันก็มีความต่างนิดหน่อยในเรื่องคุณภาพที่จะได้ ในขณะที่คนอื่นอาจจะต้องซื้อเพื่อ squad depth หรือต้องปั้นนักเตะขึ้นมาเพื่อเป็น key player แบกทีม แต่เรือสามารถซื้อนักเตะ key playerได้เลย ด้วยเงินเท่านั้นอยู่ที่ว่าจะตาดีได้ตาร้ายเสีย เช่น โรเบิร์ตสัน vs เมนดี้ ค่าตัวต่างกัน4 เท่ากว่า แต่โรเบิร์ตสันสามารถยึดตัวจริงได้ แต่เรืออาจจะซื้อนักเตะ squad depthด้วยราคา Key playerก็แค่นั้น
หงส์จ่ายค่าเหนื่อยเยอะจริง และจำเป็นต้องผ่องถ่ายนักเตะออกไปหลายคน เพราะแรกๆคล็อปซื้อเข้ามาเป็น squad depth และเป็นโค้ชสไตล์ปั้นนักเตะให้ใจนักเตะ และนักเตะดาวรุ่งเผื่อเก่งอีก เพราะงั้นการจะซื้อจะขายนักเตะกลุ่มนี้ออกไปคล็อปคิดหนักเพราะมีผลกับทีมสปิริต แต่ผมเชื่อว่าปีนี้จะทำ แต่โดยรวมนักเตะactive playerหงส์27 คน ก็ไม่ได้ค่าเหนื่อยเยอะไปกว่า21 คนของเรือเลย
สรุป ซิตี้ใช้เงินเยอะจริง มากกว่าทีมคู่แข่งแย่งแชมป์โดยตรงแบบมีนัยยะสำคัญจริง และgapตรงนี้ก็ค่อนข้างใหญ่ ผมว่าเรื่องนี้มันชัดเจนจนเราอย่ามาปฏิเสธกันดีกว่า
เพียงแต่ผมมาดูความฉลาดในการใช้เงินของซิตี้ ผมคิดว่าทั้งเป๊ปและทีมงานซื้อขายซื้อแต่ละคนในรอบหลายๆปี โคดตรงประเด็น เสริมในตำแหน่งที่เห็นๆว่าเป็นจุดอ่อนของทีม และมีแค่ 1-2 ปีที่อาจจะพลาดไปบ้างในการเสริมกองหลังในปีที่เจ็บกันเยอะๆ และต้นปีนี้ก็กองหน้า เพียงแต่คุณภาพโดยรวมมันมากพอจะทำให้กลบจุดอ่อนตรงนั้นไป (อาจด้วยการเล่นแบบครองบอลเหนือคู่แข่งนี่แหละ ) แต่นี่ก็อีกแล้วรู้ว่าขาดกองหน้าก็ซื้อฮาลันด์ อัลวาเรซมา ไม่ปล่อยให้เกิดความเสียหายกับทีมก่อน ฮาลันด์นี่ซื้อโคดฉลาดและตัวนี้ผมมองว่าไม่แพงด้วย
เรียกว่ามีเงินแต่ใช้เงินเป็น
ต่างจากหงส์ที่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไม โอเคใช้เงินเป็น แต่ซื้อตัวแบบขัดใจหลายตลาด( ที่ซื้อดีก็แล้วไปครับ กัวเด็กหงส์จะเข้ามาด่าผมหาว่าด่าทีม)ในปีที่คูตี้ยัายออกชัดเจนว่าขาดนักเตะแบบที่จะพาบอลไปเล่นพื้นที่สุดท้าย จ่ายทะลุช่อง ก็ไม่ได้ซื้อใครเข้ามา ดีที่ทีมเล่นกันได้ดีขึ้นมีทีมเวิร์คเข้ามาทดแทน บวกกับได้ฟานไดจ์กับ อลิซซอนเข้ามา เลยทำให้ทีมประสบความสำเร็จในปีต่อๆมา ตรงจุดนี้ถือว่าเสริมแนวรับตรงประเด็น แต่ปัญหานี้ก็กลับมา หลายๆเกมที่มันตัน จนเราดูออกว่าขาดอะไร หลังๆทีมอื่นก็รู้ทางมากขึ้นมาถึงก็รับลึก ก็น่าจะรู้ว่าต้องมีกลางกล้าแทงบอลแนวลึก ถึงเพิ่งไปดีงติอาโก้มา ปีที่หลังเจ็บเป็นปีที่ลอฟเรนออกจากทีมไป ก็ไม่ซื้อ ปีที่ซีดุมออกไป ก็ไม่ซื้อกลาง เพิ่งจะมีข่าวซื้อกลางหนักๆก็ปีนี้
สรุปคือ รู้ว่าขาดอะไรน่าจะรีบซื้อ มารอให้ได้ตัวที่ต้องการเท่านั้นผมว่ามันไม่ทันเค้า อาจจะตัวเต็งเบอร์ 2-3 อะไรก็ว่าไป ดีกว่าไม่มีเลยแล้วต้องมาร้อนเอาตลาดหน้าหนาว
ด้วยความที่ต่างกันไม่เยอะในแง่แต้ม ตรงนี้มันก็เป็นจุดแพ้ชนะเหมือนกันนะ แล้วยิ่งปีนี้การแข่งขันมันเข้มข้นตั้งแต่ตลาดซื้อขายนักเตะแล้วล่ะ ก็ดูตลาดปิดพอจะรู้อะไรบ้างเลย ผมเห็นบางคนบอกนักเตะมันไม่ใช่ทุกอย่าง เรามีทีมหลังบ้านที่ดีมีโค้ชผู้รักษาประตู ทีมฟิตเนสที่เก่งเพิ่งเสริมเข้ามา ทีมโค้ชวิเคราะห์แทคติค บลาๆๆ แล้วทีมอื่นไม่มีหรอคับ?
ส่วนเรื่องเป๊ป ผมว่าคนก็สงสัยแหละเพราะยังไม่เคยคุมทีมที่ไม่มีเงิน ถึงตอนนี้ก็ยอมรับในแทคติคฝีมือ จิตวิทยาระดับนึง แต่ผมก็ยังกังขา เพราะแทคติคบอลแบบเป๊ปมันต้องมาคู่กับนักเตะที่คลาสบอลดีๆ ครองบอลเหนียวๆ สกิลจ่ายม้วนหนีเพรสซิ่งเทพ มีสำรองที่เปลี่ยนลงมาแล้วคุณภาพพอจะแก้เกมได้ แบบมาเรซ กรีลิช หรือกุนโดกัน สเตอริ่ง คือมองไปม้านั่งสำรองแล้วมีความหวังบ้างอ่ะ ซึ่งถ้าแกไปคุมทีมกลางๆ แล้วทำได้ระดับทุกวันนี้หรือใกล้เคียง ผมถึงว่าเทพจริง เรียกว่าไม่ได้เนิฟ แต่แค่ doubt เฉยๆครับ
สุดท้ายผมว่ามีเงินแล้วใช้ซื้อแล้วประสบความสำเร็จ ก็ถือว่าลงทุนคุ้มค่า ไม่มีข้อครหาอะไรหรอก มันอยู่ที่ใช้เงินแล้วประสบความสำเร็จรึป่าวมากกว่า
ปล. ไม่รู้ใส่รูปตรงข้อความป่าวนะ