เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ ยอมรับว่าปันใจไปเชียร์ เชลซี พร้อมเปิดเผยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ใช่สโมสรที่อยู่ในตลาดสำหรับเปลี่ยนมือเจ้าของ

เศรษฐีอันดับ 1 ของเกาะอังกฤษเพิ่งยื่นข้อเสนอ 4 พันล้านปอนด์ เพื่อขอซื้อ "สิงห์บลูส์" เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ก็ถูกปฏิเสธไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นั่นทำให้เกิดคำถามว่าทำไมหนุ่มใหญ่วัย 69 ไม่ทุ่มเงินเพื่อซื้อ "ปีศาจแดง" ซึ่งเป็นสโมสรที่เขาเป็นแฟนบอลมาตั้งแต่เด็กแทน

ล่าสุด แรทคลิฟฟ์ ได้เปิดเผยกับผ่านการสัมภาษณ์กับ แดน โรน ผ่านทาง BBC ว่าเขาแอบปันใจให้กับ เชลซี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"คุณรู้อะไรไหม? ผมได้แบ่งความภักดีไปแล้ว ตอนอยู่ในลอนดอนเป็นเวลาหลายปีผมก็ไปดู เชลซี มันค่อนข้างลำบากที่จะไปดู ยูไนเต็ด" เขากล่าว

นอกจากนี้ แรทคลิฟฟ์ ยังอธิบายเหตุผลที่ไม่ซื้อ ยูไนเต็ด ว่าเป็นเพราะสโมสรวัยเด็กของเขาไม่ได้อยู่ในตลาด

"ใช่ ผมว่าผมพอเข้าใจนะ แต่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้มีไว้ขาย" เขาตอบ เมื่อถูกถามถึงกระแสเรียกร้องให้ซื้อทีมรักอีกแห่งแทน

บทสัมภาษณ์กับ แดน โรน:

ผมไม่ได้เกลียดอะไรลุงจิมนะ แต่คราวนี้ลุงเหมือนเข้าบอลผิดจังหวะอะ

ตอนเสี่ยจะขายหลายคนนึกถึงแกที่พยายามซื้อเชลซีมาก่อนและอาจจะไม่ใช่แค่1ครั้ง แต่พอมีคนถามก็ปฎิเสธ

คนอื่นเขาเข้ากระบวนการซื้อมาตั้งแต่ต้น
แม้กลุ่มที่แฟนบางคนไม่ชอบรวมถึงผม อย่างริคเก็ตก็มาอย่างถูกต้อง
(แม้จะใช้กำลังภายในหนักไปหน่อย จนแฟนบอลไม่ชอบ รวมถึงประวัติเก่าๆไม่ดี)

กลุ่มโบลี่เองแรกๆก็ดูไม่ดีนักเพราะมีข่าวว่าหุ้นส่วน2คน คือลุงชาวสวิสไม่ชอบเสี่ยกับอีกคนแฟนไก่
แต่ก็ทำงานหนักผ่านมาทุกรอบ มีแผนงานชัดเจน

ลุงจิมอยู่ดีๆก็พรวดเข้ามายื่น แล้วไหนจะปัญหาแผนงาน(ที่ดูจะยังไม่ได้วางแผนอะไรเลย)อีก
แฟนสิงห์บางคนจะไม่ชอบก็ไม่แปลก หวังว่าเวลาก่อนกลุ่มโบลีตกลงหรือล้มเหลว ลุงจะมีอะไรมานำเสนอบ้าง

เอิ่มม แบบนี้ก็ได้หรอ

เชียร์ให้ซื้อแมนยูครับ

แต่ตอนซื้อแมนยู เกลเซอร์มีสินทรัพย์1,000ล้านดอลล่าร์
ตอนนี้มีสินทรัพย์4,000ล้านดอลล่าร์

เกลเซอร์อาจคิดว่า ถ้ากอดแมนยูไว้แน่นๆ
น่าจะทำให้ อีก10ปีเค้ามีสินทรัพย์10,000ล้านดอลลาร์

การเปลี่ยนทีมเชียร์ มันก็ปกติแหละถ้าจะเป็นเจ้าของทีม มันก็ต้องทีมที่ตัวเองเป็นเจ้าของ

อ่านแล้วโมโหเกลเซอร์ เมื่อไรพวกเมิงจะตั้งขายทีมซักทีว่ะ

เชียทีมไหนไม่เกี่ยวหรอก ที่แฟนแอนตี้กลุ่มโบลี่เพราะมีแฟนสเปอร์ผมนี่แทบไม่สนใจ เงินเป็นพันล้านปอรด์จะมาซื้อเพื่อทำลายทีมที่ไม่ชอบเงี้ยหรอ

แต่เซอร์ จิมไม่มาตามขั้นตอนแค่นั้นแหละ

สภาพทีมเป็นแบบนี้ ไม่น่าไปถึงแล้วล่ะครับ
รอวันร่วงแล้วนะผมว่านะ

พฤติกรรมที่ทำมันจะดูดีมากกว่านี้เยอะถ้ายื่นซองทันเวลา ทีนี้พอยื่นไม่ทัน แล้วพยายามยื่นข้อเสนอที่มีราคาสูงกว่า ราคาปัจจุบันผู้เข้ายื่นหลายรายให้เอาไว้ อาจเข้าข่ายปั่นได้เลยจริงๆ

เงินประมูลยิ่งสูงไม่ได้แปลว่าดีเสมอไปมันจะเป็นภาระให้กับผู้ชนะการประมูล (winner's curse) ราคาของจิมอาจจะถูกมองว่า overpriced ด้วย เพราะกลุ่มทุนรายอื่นๆประเมินมูลค่ากันมาแล้วอยู่หลัก 2 พันล้าน

เคสนี้ เรนกรุ๊ป ก็ต้องปฏิเสธไปก่อน เว้นแต่ว่ารายที่เข้าประมูลที่เหลือทุกรายจะถูกปัดตกหมดถึงจะมาตั้งกระดานกันใหม่ ถึงตอนนั้นถ้ายื่นมาหลัก 4 พันล้านอีกก็เข้าวินละ

หรือไม่ก็กำเงิน 4 พันล้านไปขอซื้อต่อจากผู้ชนะประมูลที่อาจจะจ่ายไปแค่หลัก 2 พันล้านสิ ในแง่การลงทุนผมก็อยากเห็นเหมือนกันว่าลงทุนไป 2 พันล้านแล้วได้กำไร >90% ภายในเวลาไม่ถึงปี

มีกลิ่นชัดๆ มาเหมือนดึงราคา ผมไม่ใช่แฟนเชลซีนะ แต่ยังไม่ชอบการจะพยายามข้ามขั้นตอนของแกเลย เป้นเครื่องมือการปั่นราคาของรัฐบาลหรือเปล่าก็ไม่รู้

เซอร์ดันลังเล สุดท้ายออกมากระแสไม่สวยเลย ลองมาแต่แรกรับรองเต็งหาม อังกฤษด้วยกัน ได้ HG ด้วย

มาตอนนี้พูดอะไรก็ดูช้าไปหมด ดูไม่จริงใจไปซะหมด ผมไม่เคยมองแกแย่นะ แต่เข้าบอลช้ากว่าเพื่อนไปจังหวะก็มีโดนเหลืองแหละ

ว่าแล้วมันถือตั๋วปีเชลซีเพราะมันอยู่ลอนดอน ไปดูลำบากเลยจะมาเชียร์เชลซีซะงั้น ไม่สนว่าเชียร์ใครแต่ใจโลเลง่าย อย่ามาเลย ช้าไปแล้ว

ก็อยู่ที่หลังจากนี้บอร์ดบริหารจะจริงจังกับเรื่องฟุตบอลมากแค่ไหนเลยครับ โอเคแหละที่เริ่มขยับปรับเปลี่ยนให้คนฟุตบอลมามีบทบาทมากขึ้นแต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับผลลัพท์ ส่วนตัวคิดว่าเกลเซอร์คงไม่ปล่อยให้บ่อทองของตัวเองป่นปี้ไปกว่านี้เพราะนั่นจะหมายความว่าเงินจะหายไปมหาศาลด้วยเหมือนกัน