[ทายผล]เลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร
วันอาทิตย์ที่ 30 ม.ค. นี้ จะมีการเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร สนามเลือกตั้งสำคัญที่กูรูการเมืองมองกันว่าเป็นสนามที่ไม่มีใครยอมใคร จนเรียกกันว่า "หลักสี่ชี้ชะตา" เพราะผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้เป็นเสมือนการซาวด์เสียง ชิมลางคะแนนความนิยม รวมไปถึงการลองใช้กลยุทธ์เลือกตั้งต่างๆว่าเวิร์คหรือไม่ ก่อนการเลือกตั้งใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อในบรรยากาศการเมืองเช่นนี้
ผลการเลือกตั้งเดิมเมื่อปี 62
จะเห็นว่าครั้งก่อนนั้น สิระ เจนจาคะ เฉือนชนะกันไปเพียง2พันกว่าคะแนน เฉือนแชมป์เก่าสรุชาติ ได้เป็น ส.ส. สมัยแรก ทั้งที่ปี 54 สิระ เคยลงในนามพรรครักษ์สันติ และแน่นอนว่าแพ้ยับ ได้ไปแค่ 2พันกว่าเสียง พ่ายแพ้ให้สุรชาติ ฉะนั้นในปี62 ที่สิระชนะเลือกตั้งมาได้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นคะแนนความนิยมของพรรคการเมืองเป็นปัจจัยหลักมากกว่าคะแนนฐานตัวบุคคลของสิระ แต่แน่นอนว่าในระยะเวลา 8 ปี ระหว่างนั้นสิระอาจสะสมความนิยมอยู่ก็ได้(แต่ผมให้น้ำหนักน้อยกว่ากระแสของลุงตู่และกลไกลรัฐมากกว่า)
ผมขอใช้วิธีคิดแบบง่ายๆ คะแนนเสียงฝ่ายประชาธิปไตย(เอาของเพื่อไทย+อนาคตใหม่=57,850) คะแนนเสียงฝ่ายอนุรักษ์นิยม(พปชร.+ปชป.+รวมพลังประชาชาติไทย=51,922) คะแนนเสียงที่ยังบอกไม่ได้(เศรษฐกิจใหม่+ภูมิใจไทย+เสรีรวมไทย=10,132) จะเห็นภาพคร่าวๆประมาณนี้ว่าคะแนนเสียงฝ่ายประชาธิปไตยมากกว่า แต่ก็โดนแบ่งคะแนนไปสูสีมากกว่าจึงพ่ายแพ้ไป
เหตุผลที่แพ้ไม่ได้
Spoil
เพื่อไทย - ต้องการทำแคมเปญแลนด์สไลด์ หรือ ชนะเลือกตั้งให้ถล่มทลาย ดังนั้น ในเขตที่ส่งเลือกตั้งซ่อม ถ้าแพ้ในรอบนี้ แคมเปญแลนด์สไลด์อาจแป้กได้ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของแฟนคลับ เพราะแค่เขตแรกที่ลงก็แพ้ซะแล้ว ดังนั้นเพื่อไทยต้องเต็มที่ คว้าแชมป์ให้ได้
พปชร - รักษาพื้นที่เดิม อีกทั้งถ้าแพ้ ก็จะยิ่งถูกซ้ำแผลเดิมที่เพิ่งแพ้ในสนามภาคใต้มา เลือดสาดกระเด็น เริ่มมีส.ส.หลายคนลาออก ย้ายพรรคไปอยู่ที่อื่น เพราะนักการเมืองก็ต้องคิดว่า ถ้ารอบหน้ายังอยู่กับพปชร.จะได้เข้าสภาหรือไม่ แถมถ้าชนะ จะยิ่งสุดจัด เพราะขนาดสิระทำวีรกรรมขนาดนั้น ส่งเมียลงแล้วยังชนะ ก็เรียกได้ว่าคนอื่นๆก็ไม่น่ามีปัญหา
ก้าวไกล - พื้นที่ กทม. เป็นพื้นที่ ที่ก้าวไกลหวังไว้สูงและมีโอกาสชนะมากที่สุดในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า กระแสคนรุ่นใหม่ การเมืองแบบใหม่ รวมไปถึงการใช้กลยุทธ์เอาคะแนนนิยมพรรคนำ แล้วไปดึงตัวผู้สมัครที่มีชื่อเสียงมาสมทบ ต้องรอดูว่าจะได้ผลหรือไม่ แต่ถ้าแป้ก ก็อาจเสียขวัญกำลังใจ และโมเดลนี้อาจต่อยอดในพื้นที่อื่นไม่ได้ ครั้นจะเอาโนเนมมาลงก็เสียวได้กลายเป็นงูเห่าอีก คนก็ไม่เลือก
กล้า - พรรคนี้ เดิมพันสูงกว่าที่คิดนะครับ ส่งเลขาธิการพรรคลงเลย อดีตส.ส.เขตหลายสมัยด้วย แต่ข้อด้อยคือแกห่างจากเขตนี้ปีหลายปีแล้ว ไปลงเขตอื่นแทน ฉะนั้น อย่างน้อยพรรคกล้าควรมีคะแนนสูสีกับพรรคก้าวไกลเป็นอย่างน้อย ถ้าหากแพ้ยับๆ เรียกได้ว่า เสียขวัญ เพราะถึงขั้นเอาเลขาธิการพรรคมาลงเชียวนา
ผมขอทายผลการเลือกตั้งซ่อมที่จะถึงนี้ว่า
อันดับ1 สุชาติ เพื่อไทย
อันดับ2 มาดามหลี พปชร.
อันดับ3 เพชร กรุนพล ก้าวไกล
อันดับ4 อรรถวิชช์ กล้า
โดยสุรชาติชนะแบบเฉือนๆไปกันไม่มาก หลักไม่เกิน2-3พันคะแนน โดยผมคิดว่าการเลือกตั้งซ่อมประชาชนมีแนวโน้มที่จะเลือกผู้สมัครจาก"การคิดแบบยุทธศาสตร์"หรือใครมีโอกาสชนะเลือกตั้งมากกว่ากันจึงเลือก ซึ่งตัวเต็งคือไม่เพื่อไทยก็พปชร. นั่นทำให้ก้าวไกลและกล้าจะไปไม่ถึงฝั่งฝัน
สำหรับพรรคก้าวไกล(อนาคตใหม่เดิม) ถ้าย้อนดูสถิติการเลือกตั้งปี62 ชนะเลือกตั้งในกรุงเทพฯมา9ที่ เท่ากันกับเพื่อไทย แต่ได้คะแนน popular vote สูงสุดจากทุกพรรค แต่เมื่อไปย้อนดูไส้ในแล้ว 6 เขต ที่อนาคตใหม่เดิมชนะนั้น เป็นเขตที่เพื่อไทยไม่ได้ส่งลง มีเพียง3เขตที่ทุกพรรคส่งลงแล้วอนาคตใหม่เอาชนะมาได้ครับ
พรรคก้าวไกลและกล้าผมให้คะแนนไม่ห่างกันประมาณนึงแต่ไม่มากขนาดขาด อาจจะประมาณ6-7พันคะแนน
ทั้งนี้เพราะกว่าพรรคปชป.ไม่ส่งลงเลือกตั้งในครั้งนี้ เพราะงั้นจะมีคะแนนเกือบ2หมื่นที่ถ้าไม่ไปทางพปชร.ก็จะมาทางพรรคกล้าเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งอรรถวิชช์ก็เป็นอดีตส.ส.เดิมมีคะแนนเสียงจากตัวบุคคลประมาณนึง คะแนนอาจไม่ออกมาขี้เหร่จนเกินไป ส่วนคะแนนจากพรรคเสรีรวมไทย-เศรษฐกิจใหม่คาดว่าจะไหลไปทางเพื่อไทย-ก้าวไกลเสียมากกว่า โดยภาพรวมผมว่าผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งรอบนี้น่าจะมากกว่าครั้งก่อน
ปล. ทายสนุกๆครับ ผมอาจจะผิด หน้าแตกก็ได้ใครจะรู้ สนามกรุงเทพนี่จอมหักปากกาเซียนอยู่แล้ว อิอิ ชาว SS มีใครอยู่ในพื้นที่หลักสี่-จตุจักร ที่มีสิทธิเลือกตั้งบ้าง โชว์ตัวช่วยกันวิเคราะห์ด้วยทีครับ