ครับ งั้นคุณรอคนมีมารยาทไปครับ

พี่โคตรหล่อโคตรคูล แต่คนอื่นเขาอาจไม่ว่างเหมือนพี่คับ

เคยแจ้งออกล่วงหน้า 1 เดือนอยู่ เจอบริษัทหักเงินรัวๆ เลยครับ หยุมหยิมจัด บางทีความหวังดี ความมีมารยาทกับบริษัทก็ไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย

หรือจะเคสแบบผมมั้ยครับ ผมยื่นใบลาออก ผู้จัดการเขตเข้ามาคุยโน้มน้าวทั้งเงิน ทั้งตำแหน่งให้อยู่ต่อ เจ้าของบริษัทขับรถมาคุยโน้มน้าวแบบเดียวกันเลย ยื้อผมสุดๆ แต่ใจผมไปแล้วเลยปฏิเสธ สุดท้ายขอให้ผมอยู่ช่วย 2 เดือน ผมรับปากเพราะอยู่ด้วยกันมานาน สุดท้ายผ่านไปครึ่งเดือนโควิทรอบแรกเข้า โทรมาบอกไม่ต้องมาทำแล้วนะ หางานใหม่ได้เลย หลังจากนั้นผมไม่เคยแคร์ความรู้สึกนายจ้างอีกเลย
ปล.โควิทหายมีโทรมาถามด้วยนะกลับมาทำกับพี่มั้ย

แสดงว่าบริษัท ไม่มีการเตรียมการอะไรเลยในการทดแทนคน สมมติ คนไม่ได้ลาออก แต่เสียชีวิตกระทันหัน ไม่โดน่าสาบส่งเลยหรือไง ว่ามาตายไม่บอกก่อน ไม่เคลียร์งานก่อน แสดงว่าปัญหามันคือระบบที่ไม่มีการรองรับใดๆ ทั้งสิ้น

เบื่อความคิดของผู้หญิงที่เกาะกลุ่มกันมากที่สุด​ ใครทำไรพูดถึงหมด

ผู้หญิงที่อยู่แบบไม่คบค้าสมาคมพวกนี้น่าคุยด้วยกว่าอีก

สถานการณ์เดียวกับแฟนผมเลย

พวกมนุษย์ป้าในที่ทำงาน งานการไม่ค่อยอยากทำ นู่นจับกลุ่ม เม้า นินทา แซะคน

ผอ. ก็กาก ไม่กล้าทำอะไรพวกนี้ ใจดีชิบหาย หัวหน้าก็หลบหลังลูกน้องเรื่องงาน

บอกพี่ไม่เคยทำมาก่อน ให้น้องๆ จัดการเลย รอตรวจอย่างเดียว

ให้.....ให้.....มาทำเถอะ เสียสุขภาพจิตโคตร

เหตุการณืสมมุติ ในหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง แห่งประเทศสารขัณฑ์

มองว่าทุกคนควรมีมารยาทถ้าโตแล้วคิดได้แล้ว แต่ไม่มีก็ห้ามกันไม่ได้ รอหวังว่าสักวันคงโตเลิกเห็นแก่ตัว

ถ้าบริษัทเล็กจะเอาอะไรมารองรับความเสี่ยงละครับ ถ้าตายมันสุดวิสัยก็ต้องยอมเสียหายช่วงนั้นไป แต่แค่เพราะไม่อยากบอกเฉยๆ มันเสียมารยาทไงครับ มันต่างกันมากเลยนะ

ปัญหาส่วนนึงมันเกิดจากการที่สังคมในที่ทำงานหลายที่ปฏิบัติกับคนที่จะลาออกต่างหาก เอาจาก ปสก ที่คนรอบตัวโดนมานะเมื่อแจ้งลาออกล่วงหน้าอยา่งน้อย 30 วัน
1.กระแนะกระแหนหรือจับกลุ่มนินทาคนที่จะลาออก
2.ถูกระดับหัวหน้าหรือผู้บริหารกดดันไม่ให้ลาออก ไม่ก็ถูกคาดคั้นว่าจะย้ายไปที่ไหนหรือคาดคั้นว่าได้ข้อเสนออะไรมากเพื่อที่ตัวเองจะเกทับ
3.ถูกโยนงานมาให้มากกว่าเดิม ทั้งที่ความเป็นจริงช่วงเวลาหลังแจ้งควรจะเป็นช่วงเวลาแห่งการทำงานเท่าเดิม+สอนคนใหม่ที่มาทำงานแทน
4.ถูกเตะถ่วงการจากเงินเดือนหรือค่าตอบแทนต่าง ๆ ให้ล่าช้าเพื่อกดดันไม่ให้ลาออก
5.ถูกกลั่นแกล้งสารพัดเท่าที่บริษัทจะคิดได้ เช่น หาเรื่องหักเงิน

และอีกเยอะแยะที่เล่าไม่หมดครับ ทั้งที่ความเป็นจริงถ้ามีคนแจ้งลาออก เราก็ควรจะ Move On จากคนนั้นแล้วจากกันด้วยดีแบบมืออาชีพดีกว่า

ตราบใดที่ยังมีบริษัททำงานไม่มืออาชีพเวลามีคนลาออก ก็อย่าคาดหวังว่าจะเจอคนที่มืออาชีพหรือมีมารยาทมาทำงานด้วยครับ หลายคนเอาแต่บอกว่าไม่มีมารยาทนู่นนี้ จะบอกว่าหลายบริษัทเวลามันจะเอาตัวรอดมันก็ไม่เคยมาห่วงเรื่องมารยาทหรือคิดถึงลูกจ้างหรอกครับ ก็เอาตัวเองรอดไม่ต่างกันหรอก

ปล.ตรรกะว่า "ถ้าทำตัวดี ใครจะทำอะไร" นี่ใช่ไม่ได้นะครับ หลายคนคือทำงานปกติ ไม่ได้มีปัญหากับใครหรือหัวหน้าคนไหนเลยออกแนวลูกรักด้วยซ้ำ แต่พอบอกจะออกปุ๊บ ปัญหามาทันที

คงไม่มีใครอยากถูกไล่ออกกะทันหัน แบบบอกวันนี้พรุ่งนี้ไม่ต้องมาแล้ว

เช่นเดียวกับบริษัทแหละ ไม่อยากถูกพนักงานออกกะทันหันเหมือนกัน

มันมีขั้นตอนที่สมควรของมันอยู่ ถ้าไม่เหลือบากว่าแรงก็ทำตามขั้นตอนเถอะ

พอยื่นใบลาออก จะเจอเหตุการณ์ผิดปกติในความสัมพันธ์แน่นอนครับ ถึงไม่บอกใครแต่ก็รู้กันทั้งบริษัท

ที่เจอตลกๆหน่อยก็คือให้คนที่ไม่เคยคุยด้วยมาก่อนมาตีสนิทว่าย้ายไปไหน ได้เงินเดือนเพิ่มเท่าไหร่

การที่คุณร้องขอให้เขามีมารยาท แล้วงานที่เขาได้รอเขาไม่ได้ แบบนี้ล่ะ ใครเห็นแก่ตัวครับ?

เราต้องมองมุมเขา มุมเราด้วยนะครับ

ตัวอย่างผมเนี่ยแหละ สัญญาแจ้งให้ผมบอกล่วงหน้า 3 เดือน

ผมบอกเจ้าของเลย ผมเซ็นนะ แต่ฝันไปเถอะ งานใหม่เขารอผมไม่ได้หรอก

ถ้าองค์กรดีจริง พนักงานจะลาออกไหม

ออกไปโดยบริษัทเสียหายทั้งที่ยังมีหน้าที่ทำอยู่อะเห็นแก่ตัวครับ บริษัทไม่ได้มีเวลาเตรียมตัวเพราะไม่รู้ แต่พนักงานรู้ตัวเตรียมตัวได้ สมัครล่วงหน้าได้ และความเสียหายมันต่างกัน พนักงานเองมีแต่ได้แต่บริษัทเสียหาย

ถ้าคนที่ดูแลคนแก่อยู่ดีๆ จะลาออกก็ไม่บอก ญาติก็ไปต่างจังหวัด ปล่อยคนแก่ตายคาบ้านจะเป็นยังไงละ พอดีได้งานใหม่เงินดีกว่าเลยไปทันทีเลยงี้หรอ

ครูในโรงเรียนที่ไม่ใหญ่อยากย้ายงานกลางเทอม อยู่ๆก็ออกเลย หาครูสอนแทนไม่ได้ ครูใหม่หาได้ช้าและไม่เข้าใจเนื้อหามากเท่าครูคนที่เตรียมสอนเอง เด็กจะเรียนรู้เรื่องน้อยลงก็ช่างงี้หรอ

ร้านอาหารเล็กๆ พ่อครัวอยู่ดีๆนึกจะไม่มา พนักงานไม่พอก็ช่าง ลูกค้าด่าร้านก็ช่าง หาพ่อครัวใหม่ไม่ทันต้องรอหาและฝึกสอนใหม่เป็นเดือนก็ช่างงี้หรอ

บริษัทรับถ่ายภาพมีลูกค้าเลือกช่างภาพเจาะจงไว้แล้ว แต่ 1 วันก่อนงานแต่งงานช่างภาพลาออก คนอื่นก็ถ่ายคนละสไตล์กับที่ลูกค้าต้องการ ลูกค้าเลยด่าบริษัทและโดนปรับก็ช่างงี้หรอ

โคตรเห็นแก่ตัว รู้เลยคนที่คิดแบบนี้คือยังไม่โตประสบการณ์ชีวิตยังน้อยนิดถึงไม่เห็นภาพการทำงานในชีวิตจริง ไม่เห็นความเสียหายของคนอื่นเป็นเรื่องใหญ่ เอาแต่ได้ ประเทศถึงห่วยขนาดนี้ไม่ต้องไปโทษใครเลย โทษคุณภาพความคิดประชาชนนี่แหละ เอาจริงๆเด็กก็ยังคิดได้

ถ้ามีเหตุจำเป็นเข้าใจได้แต่นี่แค่บอกก็ทำได้แต่ขี้ขลาดเห็นแก่ตัวไม่ยอมทำ กรณีของคุณก็เข้าใจว่า 3 เดือนมันเยอะเกินไป แต่ถ้าจำเป็นในกรณีเพราะบริษัทจะเสียหายมากคุณก็ต้องทำตามเพราะคุณเซ็นไปเองช่วยไม่ได้ ถ้าไม่ทำตามแล้วมีโทษก็สมควรแล้ว