ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
20 January 2022 15:00 by Narueta
"ชบาแก้ว" กับตั๋วฟุตบอลโลกสมัยที่ 3 ไม่ไกลเกินเอื้อม




การไล่ล่าตั๋วฟุตบอลโลก ครั้งที่ 3 ของทัพ “ชบาแก้ว” ภายใต้การนำทีม "มิโยะ โอกาโมโตะ" หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวญี่ปุ่น ในศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2022 รอบสุดท้าย ที่อินเดีย ดูเหมือนจะไม่ไกลเกินไขว่คว้า

ภารกิจครั้งนี้ มีโควต้าให้เอเชีย 5+2 ทีม (5 ทีมได้สิทธิ์อัตโนมัติ ไม่รวมออสเตรเลีย + โควตาเพลย์ออฟ 2 ทีม) ไปแข่งขันในฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2023 ที่ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เป็นเจ้าภาพร่วมกัน ระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม - 20 สิงหาคม 2566

ดูจากแรงกิ้งฟีฟ่า (ไม่นับ ออสเตรเลีย) กอปรกับการถอนตัวของ เกาหลีเหนือ ทีมนับเบอร์วันเอเชีย จึงเท่ากับเพิ่มโอกาสให้ทีมชาติไทยโดยตรง เมื่อ "ชบาแก้ว" อยู่อันดับ 5 เป็นรอง ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, จีน และ เวียดนาม

โดยศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2020 รอบสุดท้าย มีทั้งหมด 12 ทีม แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่ม A : อินเดีย (เจ้าภาพ), จีน, ไต้หวัน, อิหร่าน / กลุ่ม B : ออสเตรเลีย, ไทย, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย / กลุ่ม C : ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, เวียดนาม, เมียนมา

ในรอบแบ่งกลุ่มจะแข่งขันแบบพบกันหมด เพื่อหาทีมอันดับ 1 และ 2 เข้ารอบ รวม 6 ทีม ส่วนอีก 2 ทีม คือ ทีมอันดับ 3 ที่มีคะแนนดีที่สุด รวมเป็น 8 ทีมเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งในรอบนี้ ทีมชนะที่ได้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ จะการันตีคว้าตั๋วไปฟุตบอลโลก 2023 ทันที ส่วนทีมแพ้ยังต้องลุ้นต่อในการเล่นเพลย์ออฟ แยกเป็น 3 กรณี

กรณีที่ 1 : หาก ออสเตรเลีย ไม่ผ่านเข้ารอบก่อนรอบรองชนะเลิศ 4 ทีมที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ จะผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกโดยอัตโนมัติ ส่วน 4 ทีมผู้แพ้รอบก่อนรองชนะเลิศ จะเข้าสู่รอบแก้ตัว ดังนี้

(M1): QF แพ้ 1 vs QF แพ้ 2
(M2): QF แพ้ 3 vs QF แพ้ 4

ทีมที่ชนะใน (M1) และ (M2) จะมาพบกัน เพื่อหาผู้ชนะไปฟุตบอลโลกปี 2023 เป็นทีมที่ 5 ส่วนผู้แพ้รอบนี้ จะไปเล่นรอบเพลย์ออฟอินเตอร์คอนเฟเดอเรชั่น กับอีก 9 ประเทศทั่วโลก เพื่อชิงตั๋ว 3 ใบสุดท้ายสู่ฟุตบอลโลก 2023 ในขณะที่ทีมที่แพ้ใน (M1) และ (M2) จะมาพบกัน เพื่อหาผู้ชนะอีก 1 ทีมไปเล่นเพลย์ออฟอินเตอร์คอนเฟเดอเรชั่น

กรณีที่ 2 : หาก ออสเตรเลีย เข้ารอบรองชนะเลิศ 3 ทีมที่เหลือที่เข้ารอบรองชนะเลิศ จะผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2023 ส่วน 4 ผู้แพ้ในรอบก่อนรองชนะเลิศจะต้องเล่นเพลย์ออฟ ดังนี้

(คู่ที่ 1): ผู้แพ้ QF1 vs ผู้แพ้ QF3
(คู่ที่ 2): ผู้แพ้ QF2 vs ผู้แพ้ QF4

ผู้ชนะทั้ง 2 คู่ จะได้ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ในขณะที่ผู้แพ้ทั้ง 2 ทีมจะได้ไปเล่นรอบเพลย์ออฟอินเตอร์คอนเฟเดอเรชั่น

กรณีที่ 3 : หาก ออสเตรเลีย แพ้ในรอบก่อนรองชนะเลิศ 4 ทีมที่เข้ารอบรองชนะเลิศ จะได้ไปฟุตบอลโลก 2023 ส่วนอีก 3 ทีมที่เหลือ ที่แพ้ในรอบก่อนรองชนะเลิศ (ไม่รวมออสเตรเลีย) จะเล่นแบบ 3 ทีมพบกันหมด ทีมที่มีคะแนนมากที่สุด จะได้ไปเล่นฟุตบอลโลกปี 2023 ในขณะที่ 2 ทีมที่เหลือ ต้องไปเล่นรอบเพลย์ออฟอินเตอร์คอนเฟเดอเรชั่น

สำหรับโปรแกรมรอบแบ่งกลุ่มของ ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย มีดังนี้
วันที่ 21 มกราคม 2565 เวลา 19.00 น. (ตามเวลาไทย) ไทย พบ ฟิลิปปินส์ ณ สนาม ดีวาย พาทิล
วันที่ 24 มกราคม 2565 เวลา 19.00 น. (ตามเวลาไทย) ไทย พบ อินโดนีเซีย ณ สนาม ดีวาย พาทิล
วันที่ 27 มกราคม 2565 เวลา 21.00 น. (ตามเวลาไทย) ไทย พบ ออสเตรเลีย ณ สนาม มุมไบ อารีน่า

เมื่อดูจากคู่แข่งในกลุ่ม "ชบาแก้ว" น่าจะเข้ารอบในฐานะรองแชมป์เป็นอย่างน้อย เพราะไม่น่าพลาดในการเจอกับคู่แข่งย่านอาเซียน โดยเส้นทาง แชมป์กลุ่มบี จะเข้าไปเจอ รองแชมป์กลุ่มซี ขณะที่ รองแชมป์กลุ่มบี จะพบ รองแชมป์กลุ่มเอ

ส่องกล้องมองแล้ว กลุ่มซี ญี่ปุ่น น่าจะเบียดคว้าแชมป์ไปได้ ปล่อยให้ เกาหลีใต้, เวียดนาม แย่งอันดับ 2 ซึ่งถือว่าหนักทั้งคู่สำหรับทีมชาติไทย ส่วน กลุ่มเอ จีน น่าจะแบเบอร์คว้าแชมป์ โดยมีเจ้าภาพ อินเดีย, ไต้หวัน และ อิหร่าน แย่งอันดับ 2 ซึ่งทั้งสามชาติ แรงกิ้งเป็นรองไทยทั้งสิ้น

ดังนั้น "ชบาแก้ว" ไม่ต้องคิดอะไรมาก ขอแค่จบรองแชมป์กลุ่มบี ก็มีโอกาสสดใสที่จะคว้าตั๋วสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอีกสมัย


แก้ไขล่าสุดโดย Narueta เมื่อ Thu Jan 20, 2022 14:41, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel