ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
20 January 2022 05:46 by เบน ฟรีคิก
‘เด’ เสกชัยให้ผี (อีกแล้ว) / ‘ไก่’ ดราม่าสนามแตก






2 เซฟสำคัญในครึ่งแรกของ ดาบิด เด เกอา ไม่ใช่แค่ทำให้สกอร์จบลงที่ 0-0 แต่มีผลโดยตรงต่อชัยชนะในเกมนี้ของ แมนฯยูไนเต็ด

นั่นคือจังหวะชีวิตที่พีคสุดของ เบรนท์ฟอร์ด ที่หากผู้รักษาประตูไม่ใช่ “เด” พวกเขาได้ประตูขึ้นนำไปแล้ว

มาติอาส แยนเซ่น อาจต้องกลับบ้านไปนอนฝันร้านเพราะเป็นคนเดียวที่มีโอกาสมากกว่าใครทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นช็อตเหน่งๆในครึ่งแรก 2 หนรวมกับอีกครั้งต้นครึ่งหลัง

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาความห้าวของ “The bees” ในครึ่งหลังอ่อนแรงลงอย่างชัดเจนจนกระทั่ง แมนฯยูไนเต็ด มาเบิกร่องประตูแรกในนาที 55

เป็นลูกที่ “เร้ดอาร์มี่” อาจไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักกับลูก killer pass ทะลุตรงกลางแถมดันมาจาก เฟร็ด ที่ขยันสร้าง “content” มากกว่า “สร้างประโยชน์” และต้องชมเทคนิคของเจ้าหนู เอลังก้า ที่เกี่ยวบอล (ซึ่งไม่ง่าย) และนิ่งพอที่จะเช็กบิลโหม่งจังหวะ 2

การเสียบอลกลางทางของ เบรนท์ฟอร์ด ถูกลงโทษเพิ่มอีก 2 ประตู ความเก๋าของ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ พักอกไปที่ว่างจน บรูโน่ เฟร์นานเดซ ซึ่งออกตัววิ่งมาจากด้านหลังแซงกองหลังเจ้าถิ่นอย่างง่ายดาย

ความเป็นมืออาชีพของแข้ง โปรตุกีส เน้นเอาชัวร์ดึงผู้รักษาประตูออกมาแล้วถวายพานง่ายๆให้ เมสัน กรีนวู้ด ทำให้ทุกอย่างจบทันที

ความรีบเร่งและไม่ละเอียดของเจ้าถิ่นทำให้ทีมเยือนสวนกลับอย่างสนุกสนานและเป็น บรูโน่ คนเดิมจัดแอสซิสต์ที่ 2 ให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ถูกเปลี่ยนลงมาและใช้เวลาแค่ 6 นาที ยิงปิดเกม 3-0

แม้ เด เกอา จะเก็บคลีนชีตไม่ได้แต่งานของ “เดอะ แบก” คือเนียนกริบ ช่วยไม่ให้เป็นฝ่ายตามหลังซึ่งมีผลต่อรูปเกมที่เหลือทั้งหมด

อย่างที่เขาเคยพูดกันครับว่าตำแหน่งผู้รักษาประตูถ้าเป็นไปได้ไม่มีใครอยากเจ็บเพราะจะเจอสถานการณ์แบบเดียวกับที่ เด เกอา ได้เกิดใหม่นี่แหละครับ

แม้ปัญหาหลายๆอย่างยังต้องตามแก้กันต่อไปแต่อย่างน้อยช่วงที่ขบคิดว่าจะแก้อย่างไรมันได้ 3 แต้มมาติดมือด้วย

ในขณะที่ คิงพาวเวอร์ สเตเดียม มี “ดราม่า” แบบไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆเพราะ เลสเตอร์ นำ สเปอร์ส 2-1 ในนาที 75 ผมก็คิดว่าน่าจะเรียบร้อยแล้วเลยมาแช่คู่ แมนฯยูฯ อย่างเดียว

“ไก่เดือยทอง” วันนี้ไม่มีดวงผู้ชนะเพราะเด็กๆ อันโตนิโอ คอนเต้ มีโอกาสเยอะมากแต่เลอะเทอะกันเอง

แววออกตั้งแต่ครึ่งแรกแล้วแนวรับของ “จิ้งจอก” ไม่ได้มีอะไรเลยนะครับแต่ไม่เอากันเองจนโดนสวนโป้งเดียวตามหลังเลย

ดราม่าที่ว่าคือ สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น ตัวสำรอง ทำประตูทดเจ็บ 90+5 และ +7 ซึ่ง ณ ตอนนั้นทดเจ็บที่ผู้ตัดสินทดให้มัน max สุดที่ +5 แต่ปล่อยให้เล่นต่อ

อันนี้ผมคิดว่าจังหวะมันต่อเนื่องถ้า สเปอร์ส เนิบๆไม่รีบบุกตอนนั้นผมว่ามีเป่าแน่ๆ

ที่ควรตำหนิและผมคิดว่าควรทำได้ดีกว่านี้คือ ชากลาร์ โซยุนชู กองหลังทีมชาติ ตุรกี ที่ฟอร์มช่วงหลังเน่าในสุดๆ

3 ประตูที่ “จิ้งจอก” เสียแข้งวัย 25 ปีอยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ผมอาจพูดไม่เต็มปากว่าแกพลาดจนนำมาซึ่งการเสียประตู

แต่ใครไม่ได้ดูสดเกมลองชมไฮท์ไลท์แล้วพิจารณากันเอาเองว่า โซยุนชู “ล่ก”มาก จังหวะชี้เป็นชี้ตายไม่นิ่งเลย วิ่งหน้าตั้งเหมือนคนตื่นตระหนกเห็นบ้านไฟไหม้จนไม่สามารถอ่านทางบอลใดๆได้เลย

Action ทั้ง 3 ลูกผมบอกได้แค่ว่า “หมดราคา” ถลำหัวทิ่มหัวตำและจะว่าไปแล้วอย่างน้อยๆน่าจะต้องช่วยทีมได้ซักลูกนึงด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตามเมื่อดูจากโอกาสเกือบ 30 ครั้งในเกมนี้ สเปอร์ส สมควรได้ชัยชนะจริงๆครับ (แม้มาแบบเลทสุดๆก็ตาม)

3 แต้มที่ได้มาเกมนี้พลิกโฉมอนาคตของ “คลับไก่” ดูสวยงามขึ้นมาทันตาเห็นเพราะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 5 ตาม เวสต์แฮม แค่แต้มเดียว

แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ สเปอร์ส เพิ่งเตะไป 19 นัด กล่าวคือมีเกมในมือให้กดรัวๆอีกถึง 3

เรียกว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ใช่แค่ขยับแตะ top 4 เท่านั้นแต่สามารถมองไปถึง “รองจ่าฝูง” ได้เลยหากตามเก็บ collection ที่เหลือทั้งหมด

ผมขอทิ้งท้ายบทความที่ “ปีศาจแดง” พระเอกของเรื่อง ผมมองว่าโปรแกรมในเดือนนี้ยันกุมภาพันธ์มีนัยนะสำคัญต่อการไล่ล่า top4 เอามากๆ

คู่แข่งที่เจอคือ เวสต์แฮม,เซาธ์แฮมป์ตัน, ลีดส์ และ วัตฟอร์ด อย่างน้อยๆก็ต้องมี 9 แต้ม

เพราะในเดือนมีนาคม “เดอะ โปรเฟสเซอร์” เตรียมเจอของหนักแบบติดๆไม่ได้พักไม่ว่าจะเป็น แมนฯซิตี้, สเปอร์ส และ ลิเวอร์พูล

ความมั่นใจจากเกมถล่ม เบรนท์ฟอร์ด 3-1 ควรต่อยอดในเกมอื่นๆด้วยและต้องเกิดประโยชน์มากกว่าแค่ 3 แต้มครับ...

สถิติ สถิติ สถิติ

แมนฯยูฯ ชนะเกม “เยือน” นัดที่ 300 ใน พรีเมียร์ลีกโดยเป็นทีมแรกที่แตะถึงเลขนี้ก่อนใคร (อันดับ 2. เชลซี 259, 3. อาร์เซนอล 246, 4. ลิเวอร์พูล 239 และ 5. แมนฯซิตี้ 188)

เฟร็ด มีส่วนร่วมกับ 4 ประตูใน 7 เกมลีกหลังสุด (1 ประตู 3 แอสซิสต์) นับเป็นตัวเลขที่เทียบเท่ากับตอนที่ลงเล่น 86 เกมแรกให้ ยูไนเต็ด (3 ประตู 1 แอสซิสต์)

แฮร์รี่ เคน ยิงประตูที่ 250 ในทุกรายการในอาชีพค้าแข้ง (10 ปีกับ 362 วัน) นับตั้งแต่เบิกร่องเม็ดแรกกับ เลย์ตัน โอเรียนท์ แถมนี่เป็นการยิง เลสเตอร์ ลูกที่ 18 และยิงใส่ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ลูกที่ 15 นับเป็นตัวเลขที่ยิงใส่คู่แข่งทีมเดิมและคนเดิมมากกว่ายิงใส่ทีมอื่นและคนอื่นเลยทีเดียว

สเปอร์ส (94.52) กลายเป็นทีมที่ตกเป็นฝ่ายตามหลังท้ายเกมที่สุดและพลิกกลับมาชนะโดยยึดอันดับ 1 มาจาก แมนฯซิตี้ (ที่ชนะ QPR 3-2 ตามหลังในนาที 91.14)

เจมส์ แมดดิสัน มีส่วนร่วมโดยตรงกับ 13 ประตู (8 ประตู 5 แอสซิสต์) จากการลงสนามให้ เลสเตอร์ 11 เกมหลังสุดในทุกรายการ
แก้ไขล่าสุดโดย เบน ฟรีคิก เมื่อ Thu Jan 20, 2022 17:49, ทั้งหมด 3 ครั้ง
8
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Apr 2008
ตอบ: 5902
ที่อยู่: Old Trafford
โพสเมื่อ: Thu Jan 20, 2022 06:35
[RE: ‘เด’ เสกชัยให้ผี (อีกแล้ว) / ‘ไก่’ ดราม่าสนามแตก]
3 แต้มสำคัญเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
THE THEATRE OF DREAMS
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 2419
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jan 20, 2022 08:10
[RE: ‘เด’ เสกชัยให้ผี (อีกแล้ว) / ‘ไก่’ ดราม่าสนามแตก]
ลูกแรกของแมนยู ผมชื่นชมโรนัลโด ด้วยนะ
การเคลื่อนที่ดึงตัวประกบสวยมาก แค่ขยับนิดเดียว สร้างพื้นที่ให้เพื่อนได้เยอะเลย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวเตะลา ลีกา
Status: พร้อมไฟท์
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Oct 2008
ตอบ: 6911
ที่อยู่: Chicken Hearts
โพสเมื่อ: Thu Jan 20, 2022 09:38
[RE: ‘เด’ เสกชัยให้ผี (อีกแล้ว) / ‘ไก่’ ดราม่าสนามแตก]
จริงๆ หลายจังหวะไก่ยิงน่าตบกบาล ถ้าใช้โอกาสเปลืองแบบนี้ การ์ดคัมแบคทีมเราไม่ค่อยมีกับเค้าบ่อยด้วย ต้องคมกว่านี้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel