ปีนี้อ่านน้อยมากๆๆ (ติดซีรียส์เกาหลี) เน้นแต่หมวดนิยาย
- The Witcher ไป 3 เล่ม
- Artemis (Andy Weir) สนุกดี คนเขียน The Martian
- Galileo's Dream
- Sleeping Beauties (Stephen King) ไม่ค่อยสนุก
- Buy-o-logy พูดถึงจิตวิทยาว่าทำไมคนซื้อของ
- No Rule Rules
- Everybody Lies (หนังสือเกี่ยวกับ data)

ถ้ารวมนิยายด้วยก็ 57 เล่มครับ ปีนี้ถือว่าเข้าสู่วงการนิยายเต็มตัว ปกติไม่เคยอ่านนิยายเลย
ปีนี้อ่าน
เพรชพระอุมา เล่ม 1-16
เจ้ารัตติกาล แผ่นดินเถื่อน เล่ม 1-21
หาญท้าชะตาฟ้า ภาค 1 เล่ม 1-15
หาญท้าชะตาฟ้า ภาค 2 เล่ม 1-4 กำลังอ่านอยุ่
ส่วนถ้าแนววิชาการ ปีนี้อ่านจบไปเล่มเดียว DIGITAL FINANCE ของ Baxter Hines ก็ถือว่าปีนี้ชอบเล่มนี้ที่สุด
ที่กำลังอ่านอยุ่มี Blockchain: The Next Everything ของ Stephen P. Williams กับ The Infinite Game ของ Simon Sinek

คู่มือมนุษย์

เป็นปีที่แทบจะไม่ได้อ่านหนังสือเลยคับ

ชาติ กอบจิตติ หลายเล่มครับ
บันทึกการเดินทางไร้สาระของชีวิต
เปลญวนใต้ต้นนุ่น
นครไม่เป็นไร
ลมหวน
ฯลฯ
สนุกทุกเล่ม จิตตก เห็นความจริงในสังคม ที่ไม่เปลี่ยนไปเลย
ผ่อนหลายหน่อยก็เป็นชุดที่แกเขียนเล่าเรื่องสัพเพเหระ สนุกดีครับ

Noise นี่ จุดต่างกับ think fast and slow คือการยกเคสหรอครับ
มันจะคล้ายๆกับ Talk to strangers ของ gladwell มั้ยครับ เห็นจากที่ยกตัวอย่างคล้ายๆกัน
อีกอย่าง kehneman กับ Gladwell เห็นค่อนข้างไปทางเดียวกัน

ส่วนใหญ่อ่านการ์ตูน ดองไว้เยอะมากเหลือให้อ่านอีกหลายกอง แต่ประทับใจคงเป็นนิยาย ของน้องสาวทิ้งไว้ในห้องที่บ้านไม่รู้กี่ร้อยเล่ม แต่ประทับใจสุดนิยายรักของญี่ปุ่น Ao no Yukue สิบวันฉันรักเธอ พิมพ์ออกมาเกือบ14ปีละ น่าจะเป็นเป็นต้นแบบของเรื่อง Tomorrow I Will Date With Yesterday's You - พรุ่งนี้ผมจะเดตกับเธอคนเมื่อวาน เพราะเนื้อหาคล้ายๆกันแต่ออกมาก่อนหลายปี อันนี้เดา 5555 แต่ก็ชอบนิยายคนญี่ปุ่นเขียนอีกหลายๆเล่ม ชั้นเชิงเค้าดีเขียนออกมาอ่านแล้วกินใจมากๆ จริงๆก็อ่านของฝรั่งกับที่คนไทยเขียนด้วย ฝรั่งบรรยากาศเค้าเราไม่ค่อยอิน ส่วนของไทยรู้สึกเหมือนอ่านนิยายของพวกมือสมัครเล่น 5555 หรือหนังสือที่น้องเลือกมามันไม่ค่อยดีอันนี้ก็ไม่ทราบ แต่เทียบกับของญี่ปุ่นคือเอ๊าคลาสกันเลยทีเดียว

ปีนี้ จุดเปลี่ยนชีวิตมากครับ
อ่านไปประมาณ 30 เล่ม การลงทุนทั้งหมด ไม่มีอย่างอื่นผสม
ชอบที่สุดคือ Beating The street ของ Peter Lynch

แกมาแนะนำวิธีที่แกใช้จนทำให้บริหารกองทุน 13 ปี ได้ผลตอบแทนปีละ 29% แบบหมดเปลือก ไม่มีกั๊ก

Alchemist นี่คนแนะนำหลายคนเลย
ผมอ่านสมัยเรียนมหาลัย แต่ไม่ค่อยเก็ตเมสเสจมันเท่าไหร่

พอจะแชร์ได้มั้ยครับว่าชอบเพราะอะไร

ลบ กดเบิ้ลครับ

ปีนี้เป็นปีที่ผมอ่านและก็ซื้อวรรณกรรมแปลอย่างเดียวเลย ปกติปีผ่านๆมาจะอ่านแนว ประวัติศาสตร์ การเมือง นิยายแปล นิยายไทยน้อยมาก ของปีนี้ถ้าให้จัดหนังสือที่อ่านแล้วชอบ 5 เล่ม
1. มาดามโบวารี
2. ถนนชีวิต
3. ปราสาท (พึ่งอ่านจบคงเป็นเล่มสุดท้ายของปี)
4. อาชญกรรมกับการลงทัณฑ์
5. เมรัยพิฆาต
ด้วยพอตามข่าวการเมืองเยอะๆแล้ว ก็เลยเบื่อๆทำให้ไม่อยากอ่านหนังสือการเมืองด้วยแหละ5555
.
.
.
.
ปล.งานคนไทยผมอ่านน้อยเพราะเคยอ่านแล้วรู้สึกไม่ค่อยถูกจริตแต่ก็มีนักเขียนที่ชอบอยู่ไม่กี่คนเช่น แดนอรัญ แสงทองของคุณชาติก็อ่านไปไม่กี่เล่ม

อ่านเสียงเพรียกจาคธูลูจบไปเล่มเดียว พวกอ่านไปสองสามบทนี่บานเลย

ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรีครับ

น่าจะเกิน 10
ถ้าเอาที่แนะนำให้อ่านนะครับ

Think and trade like a stock champion : mark minervini สำหรับนักลงทุน
นี่เราใช้ชีวิตยากเกินไปหรือเปล่านะ อ่านเพลินดี ทำให้ชีวิตเบาสบายขึ้นอีกเยอะ
Atomic Habbits เน้นเรื่องฝึกวินัย

ถ้าที่อ่านจนจบ ไม่รวมการ์ตูนเป็น 17 เล่มครับ

หนังสือหุ้นเซียนฮง 2 เล่ม
โลกของโซฟี
เพาะหุ้นเป็นเห็นผลยั่งยืนของคุณกวี
จงคบค้ากับความร่ำรวย
เหนือกว่าวอลสตรีท (ปีเตอร์ ลินซ์)
Economix
นั่งตกปลากับบัฟเฟต
Atomic habit
Why we sleep
Kite runner
สิ่งมีชีวิตในโรงแรม
Trade like a stock market wizard (พี่มาร์ค)
Bad blood
Factfulness
บันทึกนกไขลาน
Good economic for hard times

ชอบสุดของปีให้ Once upon wall street ถ้าอ่านเล่มนี้ก่อนเข้าตลาดจะเลือกหุ้นเก่งกว่านี้ และทำกำไรดีกว่านี้ไปแล้ว
ใช้เวลาอ่านนานสุดคือบันทึกนกไขลาน (700 กว่าหน้า)
เอามาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ดีสุดคือ Atomic habit ครับ

ปล.จริงๆมีอ่านเยอะกว่านี้เกือบสิบเล่ม แต่ถือว่าอ่านไม่จบเลยไม่กล้าใส่ครับ บางเล่มอ่านถึงครึ่งเล่มแล้วไม่สนุกก็เลิกอ่านก็มีครับ 555