ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
22 November 2021 03:02 by เบน ฟรีคิก
Inside story : หลังบ้านไฟไหม้จุดจบ “เฮียยิ้ม”






ออกตัวก่อนว่าผมเห็นบทความจาก Goal และ Dailymail สองสื่ออังกฤษวิเคราะห์เบื้องลึกเบื้องหลังการปลด โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ พ้นตำแหน่งกุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อย

นำมาผนวกรวมกับข้อมูลดิบที่ผมมีอยู่เพื่อมาร่วมกันเจาะ “หลุมดำ” ณ โอลด์แทรฟฟอร์ด สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผลงานของ “ปีศาจแดง” ผิดรูปผิดร่างเกินเบอร์ขนาดนี้

มีเหตุผลร้อยแปดพันเก้าแต่หลักๆที่เห็นพ้องต้องกันคือแท็คติกส์ผู้จัดการทีมคือปัญหาที่กัดกิน ยูไนเต็ด จนแพ้ 5 จาก 7 เกมหลังสุดชนิดที่ว่าหา “ทรง” ไม่เจอ

ที่ชวนให้น่าสงสัยคือการแพ้ให้ทีมระดับท็อปทั้ง แมนฯซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล เป็นอะไรที่พอเข้าใจได้หากมันเป็นเรื่องของแท็คติกส์

แต่กับทีมท้ายตารางหรือเทียบกันตัวต่อตัวคุณภาพฝีเท้าเทียบกันไม่ติดแต่ทำไมเล่นให้ “ด้อย” กว่าและแพ้สะบักสะบอมแทบทุกนัด

แท้จริงแล้วนอกเหนือเรื่องราวในสนาม มันมีปัญหาภายในแอบซุกซ่อนอยู่ก่อนก่อตัวมากขึ้นเรื่อยๆราวกับ โซลชาร์ “วางยา” ตัวเขาเอง

ครับ แม้เริ่มมีการพูดถึงเรื่อง “วิกฤติ” จากการออกสต๊าร์ตช่วงต้นซีซั่นที่ไม่ค่อยดีแต่ก็ยังมีความเชื่อมั่นลึกๆว่าด้วยขุนพลชุดนี้มีศักยภาพพอที่จะพลิกสถานการณ์หลังพักเบรกทีมชาติในเดือนตุลาคม

แต่ความเน่าเฟะเริ่มต้นในเกมที่ ยูไนเต็ด บุกไปแพ้ เลสเตอร์ 4-2 เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา

วันนั้น “เฮียยิ้ม” ส่ง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ลงตัวจริงที่ คิงพาวเวอร์ สเตเดียม ทั้งๆที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บน่องและอยู่ในสภาพที่ “ไม่ฟิต” จนมีส่วนกับการเสียประตูในเกมนี้ด้วย

นักเตะซีเนียร์หลายคนตั้งคำถามต่อการตัดสินใจครั้งนี้ของ “เฮียยิ้ม” โดยที่ เอริค ไบยี่ กองหลังชาว ไอเวอรี่โคสต์ ทนไม่ไหวถึงกับคุยกับ โซลชาร์ เพื่อขอเหตุผลด้วยตัวเอง

เสียงสะท้อนว่านักเตะขาด ”ศรัทธา” เจ้านายที่ชัดเจนที่สุดคือหลังจบเกมนี้ พอล ป็อกบา ให้สัมภาษณ์ตำหนิแท็คติกส์ผ่านสื่อซึ่งแน่นอนโดนปีนเกลียวขนาดนี้ไม่มีผู้จัดการทีมคนไหนรับได้จนถูกดร็อป 2 นัดติด (ก่อนเจ้าตัวแสดงออกถึงความหงุดหงิดด้วยใบแดงในเกมพบ ลิเวอร์พูล)

คริสติอาโน่ โรนัลโด้ เห็นสภาพการเล่นของ ยูไนเต็ด แกก็รู้ทันทีครับว่าไปไม่รอดหาก โซลชาร์ ยังอยู่แต่กัปตันทีมชาติ โปรตุเกส เรียกร้องความเป็นมืออาชีพจากผู้เล่นทุกคนและให้เกียรติ “ยิ้ม” ในฐานะผู้จัดการทีม

หลักฐานที่ “โด้” พูดถึงดูได้จากการที่ บรูโน่ แฟร์นานเดซ มีปากเสียงกับ เร้ดอาร์มี่ ในระหว่างเดินปรบมือขอบคุณแฟนบอลหลังจบเกมที่ วิคาเรจ โร้ด แต่ระหว่างนั้นแฟนบอลโห่ไล่ “ยิ้ม” แต่แข้ง โปรตุเกส ไม่พอใจทำสัญญาณมือว่านักเตะควรต้องรับผิดชอบต่อผลการแข่งขัน

ในขณะเดียวกันมีการเปิดเผยว่านักเตะหลายต่อหลายคนไม่ปลื้มกับ “ทีมทอล์ก” ช่วยพักครึ่งในเกมแดงเดือดซึ่งตอนนั้นตามหลัง ลิเวอร์พูล 4-0 โดย โซลชาร์ พูดว่า “พยายามเก็บคลีนชีทในครึ่งหลัง”

คำพูดพวกนี้ไม่ควรหลุดจากปากผู้จัดการทีมต่อหน้าผู้เล่นที่รอคอยการปลุกใจในยามที่ผลการแข่งขันไม่เป็นจริงแต่ "เฮียยิ้ม" กลับพูดเหมือนให้ทุกคนยอมรับกับผลการแข่งขันอันขายขี้หน้าในบ้านตัวเอง

นอกจากนี้ด้วยบุคลิกความเป็น “nice guy” ของ โซลชาร์ ทำให้แกไม่พยายามชี้แจงหรืออธิบายต่อนักเตะที่ถูกจับนั่งสำรอง

พูดง่ายๆคือไม่กล้าเผชิญหน้าเพื่อพูดเรื่องหนักๆ ความสัมพันธ์กับลูกทีมจึงมีระยะห่างจนก่อปัญหาใหญ่ในที่สุด

แม้กระทั่งนักเตะซักคนที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ “เฮียยิ้ม” ยังปล่อยให้ แมทท์ จัดจ์ ผู้อำนวยการสโมสรเป็นคนไปคุยกับนักเตะ

การสื่อสารกับบอร์ดบริหารในเรื่องแผนช่วงซัมเมอร์หรือนักเตะคนไหนบ้างที่ควรปล่อยยืมก็แทบไม่มีการพูดคุยอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

ในขณะที่เรื่องสำคัญอย่าง “ใครคือประตูมือ 1” ก็ยังไม่ยอมตัดสินใจฟันธงในช่วงปรีซีซั่นก่อนที่ ดีน เฮนเดอร์สัน ติดโควิดจนเสียตำแหน่งให้ ดาบิด เด เกอา แบบช่วยไม่ได้

เรื่องค้างคาใจนักเตะในทีม (และแฟนบอล) คือการที่ โซลชาร์ ยังดื้อแพ่งดร็อป แดนนี่ ฟาน เดอ เบค, เจสซี่ ลินการ์ด และ เนมันย่า มาติช อย่างต่อเนื่องโดยไม่แคร์ต่อสถานการณ์ใดๆเลย

การเลือกที่รักมักที่ชัง (favouritism) กุนซือชาว นอร์เวย์ วัย 48 ปีทำให้นักเตะขาประจำ (ฟอร์มห่วยยังไงก็ตัวจริง) เริ่มเล่นต่ำกว่ามาตรฐาน (เพราะขาดการแข่งขันภายในทีม) จนสร้างความตรึงเครียดในหมู่นักเตะด้วยกันเอง

ฟาน เดอ เบค ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแคนดิเดตบัลลองดอร์ทำประตูสุดท้ายภายใต้ยุคของ โซลชาร์ ในเกมที่แพ้ วัตฟอร์ด 4-1 แต่เจ้าตัวกลับได้ลงสนามในฐานะตัวจริงแค่ 4 จาก 22 เกมนับตั้งแต่ย้ายมาจาก อาแย็กซ์ เมื่อซัมเมอร์ 2020 ด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์

เพื่อนร่วมทีมยัง “สงสาร” และมองว่า “ยิ้ม” ไม่ได้จัดตัวด้วยเหตุผลของ “ฟุตบอล”

เฉกเช่นเดียวกับในเคสของ ลินการ์ด ที่ถูกหยุด “พัฒนา” ต่ออาชีพการงานหลังระเบิดฟอร์มเทพกับ เวสต์แฮม ด้วยสัญญายืมตัวในเดือนมกราคมก่อนยิง 9 ประตู

ฟอร์มขนาดนี้แต่มหาเทพยังไม่เคยเป็นตัวจริงในเกมเจอ top 6 เลยนับตั้งแต่กลับคืนสู่โอลด์แทรฟฟอร์ด

แข้งวัย 28 ปีอึดอัดถึงขนาดโพสคลิปตอนยิงประตูสมัยเล่นให้ “ขุนค้อน” ใน IG แต่เจ้าตัวกำลังหลุดพ้นจากขุมนรกหลังไม่ต่อสัญญาทำให้ปีใหม่นี้อาจย้ายทีมด้วยค่าตัวเพียง 10 ล้านปอนด์เท่านั้น

ส่วน มาติช ในวัย 33 ปีได้ลงเล่นเต็ม 90 นาทีเพียงแค่ 2 นัดใน พรีเมียร์ลีกเท่านั้นแม้ว่าผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์จะห่วยหรือผลงานโดยรวมของทีมกากแค่ไหน “เฮียยิ้ม” ยังยึดตามเดิมไม่ค่อยเปลี่ยนเช่นเดิม

ถ้าย้อนกลับไปช่วงปรีซีซั่น โซลชาร์ ลงสนามส่วนใหญ่ด้วยระบบ 4-4-2 ไดมอนด์และ 4-3-3 โดยทั้ง 2 ระบบนี้ทำให้ ฟาน เดอ เบค กับ ลินการ์ด ได้ลงสนามต่อเนื่องแน่ๆ

แต่ท้ายที่สุดเมื่อเริ่มต้นฤดูกาล “ยิ้ม” เลือกระบบหลักคือ 4-2-3-1 และการมาของ ค. โรนัลโด้ ยิ่งทำให้มีตำแหน่ง “เจ้าที่” กระจายไปหลายตำแหน่งและไม่เหลือที่ว่างให้กับแข้งอาภัพที่กล่าวมาทั้งหมด

ความสัมพันธ์ของเจ้านายและลูกน้องไม่ “คลิก” ความเชื่อใจความสนิทใจลดน้อยถอยลงทำให้บอร์ดบริหารที่พยายาม “อุ้ม” สุดตัวถึงขนาดตั้งใจต่ออายุให้ โซลชาร์ ด้วยเกมเจอ “หมู” อย่าง วัตฟอร์ด แต่ก็ยังอุตสาห์ไม่รอดก่อนจำใจแยกทางในที่สุด

จะเห็นได้ว่า ไมเคิ่ล คาร์ริค หนึ่งในสต๊าฟของ โซลชาร์ เข้ารับตำแหน่งกุนซือชั่วคราว ก็ไม่ได้มีฝีไม้ลายมือหรือประสบการณ์ใดๆ (จนแฟนบอลแขวะว่าดีกว่าตรงไหน?)

แต่อย่างน้อยได้ตัดตัวปัญหาที่ “เชื่อม” ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายและลูกน้องให้กลับมาล้างไพ่เริ่มนับ 1 กันใหม่และว่ากันว่า คาร์ริค จะทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีกว่า “เฮียยิ้ม” แน่นอน

ส่วนเรื่องผลงานในสนามจะออกมาในเวย์ไหนคงต้องตามดูกันต่อไปครับ...


แก้ไขล่าสุดโดย เบน ฟรีคิก เมื่อ Mon Nov 22, 2021 15:33, ทั้งหมด 5 ครั้ง
11
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Mar 2008
ตอบ: 1757
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Nov 22, 2021 06:34
Top Comment [RE: Inside story : หลังบ้านไฟไหม้จุดจบ “เฮียยิ้ม”]
พูดถึงเรื่องคุณภาพ ไม่ใช่แค่โซลชาแน่ๆ
ทีมงานโค้ชก็ยังอยู่ ชุดเดิมทั้งนั้น วิธีการซ้อมการขึ้นเกมส์ จากหลังมาหน้า การเก็บบอลของแดนกลาง ที่เป็นปัญหาใหญ่
ยังมองไม่เห็นเลยว่าทีมโค้ชชุดนี้จะทำให้ทีมดีขึ้นได้ยังไง
นอกจากต้องกล้าลองอะไรใหม่ๆ เปลี่ยนระบบ เปลี่ยนแผงกลางใหม่
จริงๆอยากให้กลับมาเล่น 4-3-3 ตัวห้อยหน้าแผงหลังเท่าที่มีตอนนี้ ถึงแม้มาติชจะช้าไปเยอะ แต่ก็ยังดูดีกว่าแมคทอม ที่ดูไม่เข้าใจจังหวะบอล ตอนไหนควรเข้าตอนไหนควรดีเลย์ และการเชื่อมเกมส์แย่จัดๆ
ลองดรอปบรูโน่ลงมาต่ำหน่อย ยืนคู่ VDB เพราะทั้งคู่ มีครบทั้งเทคนิค ความคล่องตัว เฟิร์ชทัช วิสัยทัศน์ ในการเชื่อมเกมส์และช่วยแกะเพรส
สถิติการทำประตูของบรูโน่อาจจะลดลง แต่แดนกลางเสถียรขึ้น ผมว่าคุ้ม
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status: ความเห็นส่วนตัว อยากให้โพสท์ถูกใจ ขายโพสท์ละ 5 พัน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 8731
ที่อยู่: Old Trafford
โพสเมื่อ: Mon Nov 22, 2021 03:31
[RE: Inside story : หลังบ้านไฟไหม้จุดจบ “เฮียยิ้ม”]
โค้ชใหม่ถ้าจะเอาดีๆ อาจต้องรอถึงปีใหม่หรือซัมเมอร์เลย คาร์ริคอาจจะประคองทีมไปได้ หวังอย่างนั้น
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: แค่เธอยักคิ้ว…ต้นงิ้วก็แค่สไลเดอร์ !!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 13981
ที่อยู่: Japan
โพสเมื่อ: Mon Nov 22, 2021 04:51
[RE]Inside story : หลังบ้านไฟไหม้จุดจบ “เฮียยิ้ม”
คุณสมบัติโค้ชคนใหม่ ข้อแรกเลยคือต้องเป็นโค้ชที่กล้าเปลี่ยนตัวโด้ออกถ้าแมตช์ไหนเล่นไม่ดี
ยังยืนยันเหมือนเดิม ถ้าหาไม่ได้ ก็ใช้คาริคไปยาวๆ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Mar 2008
ตอบ: 1757
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Nov 22, 2021 06:34
[RE: Inside story : หลังบ้านไฟไหม้จุดจบ “เฮียยิ้ม”]
พูดถึงเรื่องคุณภาพ ไม่ใช่แค่โซลชาแน่ๆ
ทีมงานโค้ชก็ยังอยู่ ชุดเดิมทั้งนั้น วิธีการซ้อมการขึ้นเกมส์ จากหลังมาหน้า การเก็บบอลของแดนกลาง ที่เป็นปัญหาใหญ่
ยังมองไม่เห็นเลยว่าทีมโค้ชชุดนี้จะทำให้ทีมดีขึ้นได้ยังไง
นอกจากต้องกล้าลองอะไรใหม่ๆ เปลี่ยนระบบ เปลี่ยนแผงกลางใหม่
จริงๆอยากให้กลับมาเล่น 4-3-3 ตัวห้อยหน้าแผงหลังเท่าที่มีตอนนี้ ถึงแม้มาติชจะช้าไปเยอะ แต่ก็ยังดูดีกว่าแมคทอม ที่ดูไม่เข้าใจจังหวะบอล ตอนไหนควรเข้าตอนไหนควรดีเลย์ และการเชื่อมเกมส์แย่จัดๆ
ลองดรอปบรูโน่ลงมาต่ำหน่อย ยืนคู่ VDB เพราะทั้งคู่ มีครบทั้งเทคนิค ความคล่องตัว เฟิร์ชทัช วิสัยทัศน์ ในการเชื่อมเกมส์และช่วยแกะเพรส
สถิติการทำประตูของบรูโน่อาจจะลดลง แต่แดนกลางเสถียรขึ้น ผมว่าคุ้ม
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status: ทุกสิ่งล้วนเป็นเรื่องสมมติ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 17 Jan 2009
ตอบ: 19900
ที่อยู่: รูในแอปเปิ้ล
โพสเมื่อ: Mon Nov 22, 2021 07:00
[RE]Inside story : หลังบ้านไฟไหม้จุดจบ “เฮียยิ้ม”
ล้างไพ่กันกี่รอบแล้ว

ผลมันก็เหมือนเดิมนั่นแหละ เพราะคนตัดไพ่มันคือจ้าวมือ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Feb 2006
ตอบ: 4774
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Nov 22, 2021 08:41
[RE: Inside story : หลังบ้านไฟไหม้จุดจบ “เฮียยิ้ม”]
คาร์ริค โชว์หน่อยเหมือนยิ้มมาใหม่ๆ แมนยูต้องเล่นบุก ช่วงนี้ไม่มีความกดดันอะไรแพ้ก็ไม่เป็นไร จัดบุกให้สนุกโดยศักยภาพของผู้เล่นโดยรวมเหนือกว่าคู่แข่งอยู่แล้ว ช่วงขัดตาทัพทำทีมดีๆอาจได้สัญญายาว
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 4531
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Nov 22, 2021 08:54
Inside story : หลังบ้านไฟไหม้จุดจบ “เฮียยิ้ม”
กัปตันทีมต้องมีคุณสมบัติของผู้นำ
ผู้จัดการทีมต้องมีคุณสมบัติผู้นำของผู้นำ
โอเล่แม้มีวาสนาแต่ไม่มีคุณสมบัติที่ว่า น่าเสียดายโอกาสที่ได้มาแต่รักษาไว้ไม่ได้
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


AVB Flooring พื้น SPC นำเข้า ราคาขายส่ง
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 Feb 2006
ตอบ: 20162
ที่อยู่: Theater of Dreams
โพสเมื่อ: Mon Nov 22, 2021 09:19
[RE: Inside story : หลังบ้านไฟไหม้จุดจบ “เฮียยิ้ม”]
ผมว่าสาเหตุหลักน่าจะเป็นการสัมปทานนักเตะตัวจริงในหลายๆตำแหน่งมากกว่า

ซึ่งมันทำให้แรงจูงใจในการพัฒนาตัวเองลดลง จนนักเตะหลายๆคนก็ไม่พอใจนั้นแหละ

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 May 2011
ตอบ: 470
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Nov 22, 2021 10:35
[RE]Inside story : หลังบ้านไฟไหม้จุดจบ “เฮียยิ้ม”
แดนนี่ นี่น้อง ดอนนี่ ป่ะครับ 555
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Dec 2008
ตอบ: 605
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Nov 22, 2021 10:56
[RE: Inside story : หลังบ้านไฟไหม้จุดจบ “เฮียยิ้ม”]
ทีมสต๊าฟเดิมยังอยู่ ก็น่าจะทรงเดิม
แผนอาจจะเปลี่ยนหรือเปล่าไม่รู้ แต่ DNA เดิมๆ ยังอยู่

จากทรงยิ้ม คงไม่ได้รับหน้าที่ไรมากในทีมหรอก
หลักๆคือรวมใจสร้างบรรยากาศแบบทีมเฟอร์กี้
แต่คงเรียนไม่จบคอร์ส แถมบุคลิกไม่ได้อีก

สต๊าฟเดิมๆ ก็แทคติกเดิมๆ การเล่น การซ้อมแบบเดิมๆ
เพรสไม่เอา ชิ่งบอลไม่เอา ครองบอลไม่เน้น สงสัยจะไม่ซ้อมเล่นในพื้นที่แคบๆ ด้วย
ยืนคุมพื้นที่ทั้งเกมรับเกมรุก ไม่ขยับต่อบอลเลย
นักบอลเก่งๆ ส่วนใหญ่จะคอยมองดูรอบตัว คิดก่อนว่าจะทำอะไรก่อนที่จะได้บอล
แต่ในทีมตอนนี้ เท่าที่ดูมาไม่ค่อยเห็นทำ ยิ่งเทฟเฟร็ดนี่เหมือนได้ตั๋วลงไปดูบอลในสนาม

พวกบรูโน่ มาติช เดอเบ็ค ป็อก เบสิกดี ก่อนมาก็ทำได้ พอย้ายมาก็ต้องมาเล่นแบบเดิมๆ สไตล์ยูไนเต็ด

ความหวังเล็กๆ คือสไตล์คาร์ริคคือโฮลด์ดิ้ง เล่นฉลาดคอยอ่านเกมส์ตลอด
ถ้าใช้อำนาจ และหาวิธีถ่ายทอดให้ลูกทีมได้ ก็น่าจะได้ลุ้น
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 5685
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Nov 22, 2021 11:05
[RE]Inside story : หลังบ้านไฟไหม้จุดจบ “เฮียยิ้ม”
เป็นบทความที่ไม่มีมูลใดๆ ครับ มีไว้เพื่อดิสเครดิตแค่นั้น
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Aug 2021
ตอบ: 291
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Nov 22, 2021 11:12
[RE: Inside story : หลังบ้านไฟไหม้จุดจบ “เฮียยิ้ม”]
mmax พิมพ์ว่า:
คาร์ริค โชว์หน่อยเหมือนยิ้มมาใหม่ๆ แมนยูต้องเล่นบุก ช่วงนี้ไม่มีความกดดันอะไรแพ้ก็ไม่เป็นไร จัดบุกให้สนุกโดยศักยภาพของผู้เล่นโดยรวมเหนือกว่าคู่แข่งอยู่แล้ว ช่วงขัดตาทัพทำทีมดีๆอาจได้สัญญายาว  


เยี่ยมเลย ยิ้มโมเดล2
ทำผลงานดี เพราะนักเตะดี ให้สัญญายาว ผ่านไปซักพักก็ไม่ไหว โค้ชไม่มีประสบการณ์ สู้โค้ชทีมอื่นไม่ไหว 2 ปีผ่านไปก็ล้างไพ่ใหม่อีก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Sep 2018
ตอบ: 7246
ที่อยู่: thailand
โพสเมื่อ: Mon Nov 22, 2021 11:17
ถูกแบนแล้ว
[RE: Inside story : หลังบ้านไฟไหม้จุดจบ “เฮียยิ้ม”]
เป็นข้อความที่ดีและถูกต้องครับ ออกอะดีละ ควรออกนานละ จัดทีมได้ไม่สมเหตุสมผล เอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status: ยินดีที่ได้รู้จัก
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 16778
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Nov 22, 2021 11:29
[RE: Inside story : หลังบ้านไฟไหม้จุดจบ “เฮียยิ้ม”]
ไม่ต่างจากการทำงานในชีวิตจริงครับ
คนส่วนใหญ่ออกจากงานไม่ใช่เพราะเจอปัญหาว่าไม่มีความสามารถ แต่เป็นเพราะมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานทำให้เกิดความไม่สบายใจ ไม่มีความสุข
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Mar 2020
ตอบ: 444
ที่อยู่: Thailand
โพสเมื่อ: Mon Nov 22, 2021 13:00
[RE: Inside story : หลังบ้านไฟไหม้จุดจบ “เฮียยิ้ม”]
ไหนบอกว่าทีมมีบรรยากาศดีๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel