ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
แบบสำรวจ
คุณคิดว่า นิวคาสเซิ่ล จะเสริมทัพเกิน 100 ล้านปอนด์ในตลาดเดือนมกราคมนี้หรือไม่?
เกิน
???
ไม่เกิน
???
คะแนนทั้งหมด: 277
12 October 2021 15:26 by น้า
ย้อนรอยตลาดนักเตะรอบแรก เชลซี, แมนฯ ซิตี้ หลังโดนเทคโอเวอร์



เจ้าของใหม่นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เพิ่งเข้าคุมสโมสรได้ไม่กี่วัน แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาจะทำการประกาศศักดาในอีก 2 เดือนหลังจากนี้เมื่อตลาดนักเตะเดือนมกราคมเปิดทำการ

กับความอภิมหารวยที่เข้าสู่สโมสร คาดว่า "สาลิกาดง" จะลงทุนในขุมกำลังอย่างหนัก สำหรับทีมที่ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานภายใต้การนำของ สตีฟ บรูซ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สโมสรซึ่งได้เจ้าของคนใหม่ในพรีเมียร์ ลีก ทำการลงทุนผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ โดยเราจะย้อนไปดู 2 ทีมที่เป็นมหาอำนาจลูกหนังเกาะอังกฤษ ณ เวลานี้อย่าง เชลซี และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ว่าพวกเขาเสริมนักเตะคนใดสู่ทีมบ้างในตลาดซื้อขายรอบแรกหลังการเทคโอเวอร์สำเร็จ

เชลซี (ซัมเมอร์ 2003)

การมาของ โรมัน อับราโมวิช ได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างไปโดยสิ้นเชิงสำหรับวงการฟุตบอลอังกฤษ

จากทีมที่จบอันดับ 4 ในฤดูกาล 2002/03 "สิงห์บลูส์" ไต่ขึ้นมาเป็นรองแชมป์ในฤดูกาลถัดมา โดยเจ้าสัวชาวรัสเซีย ปิดดีลคว้านักเตะใหม่ 13 คนเข้าสู่สโมสรในตลาดนักเตะรอบแรกของเขา

ผู้เล่นทั้ง 13 คน ประกอบด้วย

เยอร์เก้น มาโช่ (เซ็นฟรีจากซันเดอร์แลนด์)

มาโช่ คือการเซ็นสัญญาเสริมทัพคนแรกในยุคของ อับราโมวิช โดยนายด่านชาวออสเตรีย ถูกดึงมาแย่งตำแหน่งกับ คาร์โล คูดิชินี่ แต่ดันเจอกับอาการบาดเจ็บ ACL ฉีกขาดในการฝึกซ้อมสัปดาห์แรกกับสโมสร

เขาไม่ได้ลงเฝ้าเสาแม้แต่นาทีเดียวในฤดูกาลดังกล่าว ก่อนถูกปล่อยออกจากทีมในเดือนสิงหาคม 2004 ซึ่งเดอะ บลูส์ ไปได้ตัว ปีเตอร์ เช็ก มาร่วมทีม

มาร์โก้ อัมโบรซิโอ้ (เซ็นฟรีจากคิเอโว่ เวโรน่า)

นักเตะรายที่สองที่ย้ายร่วมทัพสิงห์บลูส์ เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูเช่นกัน และเส้นทางของเขาก็เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับ มาโช่

อัมโบรซิโอ้ ประสบอาการบาดเจ็บหัวเข่าหลังย้ายมาร่วมทีม โดยการเดบิวต์ของเขาเกิดขึ้นในเกมลีก คัพ ที่ต้นสังกัดเอาชนะน็อตส์ เคาท์ตี้ 4-2 แต่เจ้าตัวสร้างความผิดพลาดออกมาให้เห็น

โดยรวมแล้วเขาลงเฝ้าเสาในถิ่นลอนดอนตะวันตกไป 8 นัด ก่อนจะถูกปล่อยออกจากทีมในเดือนสิงหาคม 2004 เนื่องจากการมาของ เช็ก

เกล็น จอห์นสัน (6 ล้านปอนด์ จาก เวสต์ แฮม)

เงินก้อนแรกที่ อับราโมวิช จ่ายในการซื้อตัวนักเตะเกิดขึ้นในราคา 6 ล้านปอนด์ โดยเชลซี ดึงตัว เกล็น จอห์นสัน มาจากเวสต์ แฮม ที่ตกชั้นในซีซั่น 2002/03

เขาลงสนาม 32 นัดในฤดูกาลแรก ก่อนลงเล่นอีก 28 นัดในซีซั่นถัดมาที่ต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 50 ปี

ฤดูกาลที่ 3 "GJ" ไม่ใช่ตัวเลือกหลักของ มูรินโญ่ อีกต่อไป และได้ลงเล่นแค่ 8 นัด ก่อนจะถูกปล่อยให้พอร์ตสมัธยืมตัวในฤดูกาล 2006/07 ซึ่งกลายเป็นดีลการย้ายแบบถาวรหลังจากนั้น

เฌเรมี่ (7 ล้านปอนด์ จาก เรอัล มาดริด)

อีกหนึ่งนักเตะชื่อดังที่ "สิงห์บลูส์" ดึงเข้าร่วมทีมคือ เฌเรมี่ ในราคา 7 ล้านปอนด์

หลังจากค้าแข้งให้กับมิดเดิลสโบรห์ในซีซั่น 2002/03 แบบยืมตัว นักเตะทีมชาติแคเมอรูนรายนี้ คุ้นเคยกับพรีเมียร์ ลีกเป็นอย่างดี และได้ลงสนามถึง 39 นัดในทุกรายการให้กับเชลซี

การมาของ โจเซ่ มูรินโญ่ ในปี 2004 ทำให้เวลาการลงสนามของ เฌเรมี่ ลดน้อยลง แต่เขาได้แชมป์พรีเมียรฺ์ ลีก 2 สมัย ในการค้าแข้ง 4 ปีกับสโมสร

เวย์น บริดจ์ (7 ล้านปอนด์ จาก เซาท์แธมป์ตัน)

เชลซี คว้า 3 นักเตะดาวรุ่งสัญชาติอังกฤษในตลาดรอบดังกล่าว ซึ่ง เวย์น บริดจ์ ถือเป็นรายที่ 2

แบ็คซ้าย ที่ ณ เวลานั้น อายุ 22 ปี ย้ายจากเซาท์แธมป์ตันมาเล่นที่เดอะ บริดจ์ในราคา 7 ล้านปอนด์ โดยทาง แกรม เลอ โซซ์ วัย 34 ปี ย้ายสลับขั้วไปอยู่กับ "นักบุญ"

ฤดูกาลแรกของ บริดจ์ ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้รับการจดจำอย่างดีจากประตูชัยในแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศที่ไฮบิวรี่ ซึ่งทำให้เชลซีเขี่ยอาร์เซนอลตกรอบไปได้

โดยรวมแล้วเขาลงสนาม 142 นัดกับสโมสรตลอดเวลา 5 ฤดูกาลครึ่ง ได้แชมป์พรีเมียร์ ลีก 3 สมัย, เอฟเอ คัพ และลีก คัพ

เดเมี่ยน ดัฟฟ์ (17 ล้านปอนด์ จาก แบล็คเบิร์น)

เชลซี เบียดทั้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล ในการดึงตัว ดัฟฟ์ จากแบล็คเบิร์นด้วยราคา 17 ล้านปอนด์

เขาลงสนาม 37 นัดในซีซั่นเดบิวต์ ก่อนจะเล่นอีก 48 และ 40 นัดในสองฤดูกาลถัดมา โดยจับคู่สร้างความอันตรายจากตำแหน่งปีกร่วมกับ อาร์เยน ร็อบเบน

ดัฟฟ์ ย้ายจากลอนดอนตะวันตกไปค้าแข้งให้นิวคาสเซิ่ลในซัมเมอร์ 2006 หลังคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก 2 สมัย และลีก คัพอีก 1 สมัย

โจ โคล (6.6 ล้านปอนด์ จาก เวสต์ แฮม)

นักเตะอังกฤษรายที่ 3 และคนสุดท้ายที่เชลซีดึงเข้าร่วมทีมในซัมเมอร์ 2003 คือ โจ โคล ซึ่งถูกนำเข้ามาทดแทนการสร้างสรรค์เกมหลังจาก จานฟรังโก้ โซล่า อำลาสโมสรไป

เขาได้ลงสนามให้กับเดอะ บลูส์ถึง 50 นัดในซีซั่นแรก และกลายเป็นกำลังสำคัญตลอดช่วงเวลา 7 ปีกับสโมสร

"โคลหล่อ" คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย และลีก คัพอีก 1 สมัยที่สแตมฟอร์ด บริดจ์

ฮวน เซบาสเตียน เวรอน (15 ล้านปอนด์ จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

ไม่ใช่นักเตะชื่อดังทุกคนซึ่งเชลซีคว้ามาร่วมทีมจะประสบความสำเร็จ และ เซบา เวรอน ก็เป็นหนึ่งในนั้น

หลังจากทำผลงานไม่ได้ตามเป้าที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เพลย์เมคเกอร์ชาวอาร์เจนไตน์ ได้ย้ายมาร่วมทีมสิงห์บลูส์ด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์

ความคาดหวังที่เขาจะระเบิดผลงานกับเชลซีนั้นไม่เกิดขึ้น โดยอาการบาดเจ็บทำให้ เวรอน ลงเล่นพรีเมียร์ ลีกไปเพียง 7 นัด ก่อนจะย้ายไปเล่นให้อินเตอร์แบบยืมตัว 2 ซีซั่น จากนั้นกลับไปค้าแข้งให้กับเอสตูเดียนเตส

อาเดรียน มูตู (15.8 ล้านปอนด์ จาก ปาร์ม่า)

อีกหนึ่งการเซ็นสัญญาสุดพังของเชลซี แม้ว่า มูตู จะออกสตาร์ตด้วยผลงานร้อนแรง กดไป 4 ประตูใน 3 เกมแรก

ฤดูกาลประเดิมสนามของเขาจบลงด้วยการยิง 10 ประตูใน 38 นัด แต่เส้นทางการค้าแข้งของ มูตู พลิกกลับตาลปัตรในเดือนกันยายน 2004 เมื่อเขาถูกตรวจพบว่าใช้สารโคเคนในเดือนดังกล่าว ก่อนที่เชลซีจะตะเพิดพ้นสโมสรในเดือนตุลาคม 2004 โดยเกิดขึ้นไม่นานก่อนที่สมาคมฟุตบอลอังกฤษจะลงโทษแบนเขา 7 เดือนด้วยกัน

อเล็กซี่ย์ สเมอร์ติน (3.45 ล้านปอนด์ จาก บอร์กโดซ์)

แม้จะถูกเซ็นสัญญาเข้ามาในเดือนสิงหาคม 2003 แต่ สเมอร์ติน ถูกส่งไปให้พอร์ตสมัธยืมตัวใช้งานหนึ่งซีซั่นเต็มทันที

เขาลงประเดิมสนามให้เชลซีระหว่างฤดูกาล 2004/05 แต่มีบทบาทเป็นแค่กำลังเสริมเพราะเจอตออย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด, โคล้ด มาเกเลเล่, เฌเรมี่ และ ติอาโก้ เมนเดส ขวางทาง

ดาวเตะรายนี้ถูกปล่อยยืมให้กับชาร์ลตันในซีซั่น 2005/06 ก่อนจะถูกขายไปให้ดินาโม มอสโกว์ ในเดือนมีนาคม 2006

เอร์นาน เครสโป (16.8 ล้านปอนด์ จาก อินเตอร์ มิลาน)

ดาวยิงชื่อก้องโลก ซัดไป 25 ประตูในการลงเล่น 73 นัด โดยซีซั่นแรกเขายิงได้ 12 ประตูจาก 31 เกม แต่การมาของ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ทำให้หัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ถูกส่งไปให้กับเอซี มิลานยืมใช้งาน

เขากลับมาอยู่กับเชลซีอีกครั้งในปี 2005/06 ก่อนจะช่วยสโมสรคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก และถูกส่งไปยืมตัวที่อิตาลีอีกรอบ โดยคราวนี้ไปอยู่กับอินเตอร์ มิลาน ในซีซั่น 2006/07

นีล ซัลลิแวน (500,000 ปอนด์ จาก ท็อตแน่ม)

หลังจากที่ มาโช่ และ อัมโบรซิโอ้ มีอาการบาดเจ็บ เชลซีต้องดิ้นรนมองหาผู้รักษาประตูตัวสำรอง ซึ่งพวกเขาไปจบที่ นีล ซัลลิแวน วัย 33 ปี

เมื่ออาการบาดเจ็บในตำแหน่งผู้รักษาประตูของเชลซีย่ำแย่เข้าไปอีกเพราะ คูดิชินี่ ต้องพัก ซัลลิแวน ได้ลงเฝ้าเสา 8 นัดให้กับสิงห์บลูส์ ก่อนถูกขายไปให้ลีดส์ ยูไนเต็ดในปี 2004

โคล้ด มาเกเลเล่ (16 ล้านปอนด์ จาก เรอัล มาดริด)

เลข 13 ถือว่ามาพร้อมกับโชคร้าย แต่ไม่ใช่ในกรณีของ โคล้ด มาเกเลเล่ ซึ่งเป็นการเสริมทัพรายที่ 13 ของเชลซีในซัมเมอร์ดังกล่าว

จากการเซ็นสัญญาที่เกิดขึ้นทั้งหมด ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสคือคนที่สร้างอิมแพ็คต์ให้กับทีมได้มากที่สุด

เขาทำหน้าที่ในตำแหน่งโฮลดิ้งมิดฟิลด์ได้ยอดเยี่ยม ถึงขั้นที่มีการตั้งฉายาให้บทบาทดังกล่าวว่า 'ตำแหน่ง มาเกเลเล่'

5 ฤดูกาลที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ มาเกเลเล่ ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย และลีก คัพอีก 2 สมัย

โดยรวมในตลาดนักเตะรอบแรกของ อับราโมวิช เขาทุ่มเงินเสริมทัพทั้งหมด 111.5 ล้านปอนด์ ทำให้ "สิงห์บลูส์" ประกาศศักดากลายเป็นยักษ์ใหญ่วงการฟุตบอลอังกฤษจนถึงทุกวันนี้...

--------------------------------------------------------------------

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ฤดูหนาว 2009)

เวย์น บริดจ์ (10 ล้านปอนด์ จาก เชลซี)

บริดจ์ มีชื่อ 2 รอบในบทความนี้ โดยเขาอำลาเชลซีเพื่อย้ายไปอยู่กับซิตี้ในเดือนมกราคม ปี 2009

เจ้าตัวลงสนาม 22 นัดในครึ่งฤดูกาลหลัง พร้อมสถาปนาตัวเองกลายเป็นแบ็คซ้ายเบอร์หนึ่งของสโมสร

ฤดูกาลถัดมาเขาลงเล่นอีก 28 นัด แต่ช่วงต้นปี 2010 บทบาทตัวหลักของแบ็คซ้ายชาวอังกฤษต้องสั่นคลอน เมื่อ โรแบร์โต้ มันชินี่ ดึงตัว อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ จากลาซิโอ้ และ กาแอล กลิชี่ จากอาร์เซนอลในปีต่อมา

หลังกลายเป็นส่วนเกินของ "เรือใบสีฟ้า" เขาย้ายไปเล่นแบบยืมตัวให้เวสต์ แฮม, ซันเดอร์แลนด์ และไบรท์ตัน ก่อนเซ็นสัญญาอีก 1 ปีกับเรดดิ้ง และแขวนสตั๊ดเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2013/14

เคร๊ก เบลลามี่ (14 ล้านปอนด์ จาก เวสต์ แฮม)

ถูกดึงเข้ามาเพิ่มตัวเลือกในเกมรุก และ เบลลามี่ ก็โชว์ผลงานทันทีด้วยการยิงประตูชัยช่วยให้ต้นสังกัดเอาชนะนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-1 ในนัดประเดิมสนาม

หลังจากนั้นเจ้าตัวประสบปัญหาอาการบาดเจ็บ ทำให้ต้องรูดม่านปิดเทอมช่วงไม่กี่เดือนแรกกับสโมสร

ในฤดูกาลแรกและฤดูกาลเดียวแบบเต็ม ๆ กับซิตี้ เบลลามี่ เป็นกำลังสำคัญให้กับ มาร์ค ฮิวจ์ส และ มันชินี่ โดยยิงไป 11 ประตูจากการลงเล่น 40 นัด

อย่างไรก็ตาม การปะทะคารมณ์ที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำกับ มันชินี่ ทำให้เขากลายเป็นส่วนเกินของทีมในช่วงปิดฤดูกาล ก่อนถูกปล่อยให้คาร์ดิฟฟ์ ยืมใช้งาน และเซ็นสัญญากับลิเวอร์พูลใน 12 เดือนหลังจากนั้น

ไนเจล เดอ ยอง (16 ล้านปอนด์ จาก ฮัมบวร์ก)

เดอ ยอง ถูกดึงเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในแดนกลางของ "เรือใบสีฟ้า" ซึ่งเขาได้กลายเป็นตัวหลักของสโมสรอย่างรวดเร็ว

เขาลงเล่นในพรีเมียร์ ลีกไป 16 นัดใน 4 เดือนที่เหลืออยู่ของซีซั่น 2008/09 โดยซิตี้จบอันดับที่ 10 ของพรีเมียร์ ลีก

เดอ ยอง ย้ายไปค้าแข้งให้เอซี มิลาน ในเดือนสิงหาคม 2012 แต่เขาเป็นส่วนหนึ่งของซิตี้ชุดคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 2011 โดยเป็นถ้วยรางวัลใบแรกนับตั้งแต่ปี 1975 รวมทั้งการคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ซีซั่น 2011/12 ซึ่งเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกในรอบ 44 ปี

เชย์ กิฟเว่น (5.9 ล้านปอนด์ จาก นิวคาสเซิ่ล)

การเซ็นสัญญาตัวสุดท้ายในตลาดฤดูหนาวปี 2009 ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือการดึง เชย์ กิฟเว่น มาจากนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

นายด่านทีมชาติไอร์แลนด์ ได้ลงเฝ้าเสา 44 นัดในฤดูกาล 2009/10 ซึ่งเป็นปีที่ โจ ฮาร์ท ออกไปเก็บประสบการณ์ยืมตัวกับเบอร์มิ่งแฮม

ในซีซั่นถัดมา มันชินี่ เลือกให้ ฮาร์ท เป็นมือ 1 ในการออกสตาร์ตปี 2010/11 โดย กิฟเว่น ย้ายออกไปอยู่กับแอสตัน วิลล่าในซัมเมอร์ ปี 2011

จำนวนเงิน 45.9 ล้านปอนด์ อาจไม่ใช่ตัวเลขที่สูงมากนักสำหรับตลาดรอบแรกของ ชีค มานชูร์ แต่ถือเป็นสิ่งที่เข้าใจได้เพราะเกิดขึ้นช่วงกลางฤดูกาล ซึ่งสโมสรต่าง ๆ ไม่ต้องการปล่อยนักเตะคนสำคัญของพวกเขาสักเท่าไรนัก...
5
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ

=================================
ติดตาม SoccerSuck ใน Facebook ที่: https://www.facebook.com/soccersuck01
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status: 손주연: 이젠 날 안 묶어둘래 좀 더 자유롭게 진짜 날 찾을래
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 Aug 2008
ตอบ: 16979
ที่อยู่: Tower Records Shibuya
โพสเมื่อ: Tue Oct 12, 2021 15:40
Top Comment [RE: ย้อนรอยตลาดนักเตะรอบแรก เชลซี, แมนฯ ซิตี้ หลังโดนเทคโอเวอร์]
นิวต้องเซ็นเวนย์บริจด์แล้วแบบนี้
우주소녀: LAST SEQUENCE
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status: 손주연: 이젠 날 안 묶어둘래 좀 더 자유롭게 진짜 날 찾을래
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 Aug 2008
ตอบ: 16979
ที่อยู่: Tower Records Shibuya
โพสเมื่อ: Tue Oct 12, 2021 15:40
[RE: ย้อนรอยตลาดนักเตะรอบแรก เชลซี, แมนฯ ซิตี้ หลังโดนเทคโอเวอร์]
นิวต้องเซ็นเวนย์บริจด์แล้วแบบนี้
우주소녀: LAST SEQUENCE
ออฟไลน์
MDG
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Apr 2017
ตอบ: 3580
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 12, 2021 16:04
[RE: ย้อนรอยตลาดนักเตะรอบแรก เชลซี, แมนฯ ซิตี้ หลังโดนเทคโอเวอร์]
รูปมาเกเลเล่นี้เหมือนตัดขาขวามาใส่
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Sep 2009
ตอบ: 20497
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 12, 2021 16:20
[RE: ย้อนรอยตลาดนักเตะรอบแรก เชลซี, แมนฯ ซิตี้ หลังโดนเทคโอเวอร์]
ถีบจักร เดอยอง กิฟเวาน แหล่มๆทั้งนั้น

เวนย์บริจเฉยๆ
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 17 Feb 2008
ตอบ: 4309
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 12, 2021 16:42
[RE: ย้อนรอยตลาดนักเตะรอบแรก เชลซี, แมนฯ ซิตี้ หลังโดนเทคโอเวอร์]
แรกเริ่มเดิมทีไม่มีตังกินข้าวจะกินข้าวบนห้าง ฟลุคถูกหวยไม่คิดจะเข้าไปหาอะไรกินซักหน่อยเหรอครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
คนรักน้องแมว
Status: you'll never อุ๋ง alone
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 21813
ที่อยู่: with patchanan
โพสเมื่อ: Tue Oct 12, 2021 18:00
[RE: ย้อนรอยตลาดนักเตะรอบแรก เชลซี, แมนฯ ซิตี้ หลังโดนเทคโอเวอร์]
เฌเรมี่ เอนจิตั๊บ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2011
ตอบ: 3838
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 12, 2021 19:02
[RE: ย้อนรอยตลาดนักเตะรอบแรก เชลซี, แมนฯ ซิตี้ หลังโดนเทคโอเวอร์]
จะซื้อตัวอะไร ก็ซื้อ เถอะพ่อ ....แต่ เอาผู้จัดการดีๆ เข้ามาก่อน[/instagram]
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
_____________Love Like the Galaxy ____________
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Mar 2020
ตอบ: 392
ที่อยู่: ในรู ล๊อบสเตอร์
โพสเมื่อ: Tue Oct 12, 2021 20:37
[RE: ย้อนรอยตลาดนักเตะรอบแรก เชลซี, แมนฯ ซิตี้ หลังโดนเทคโอเวอร์]
100 ล้านปอนด์สมัยนั้น ซื้อได้เป็น 10 ตัว
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Jan 2009
ตอบ: 2524
ที่อยู่: you aint got no history - Liverpool Fans
โพสเมื่อ: Wed Oct 13, 2021 01:18
[RE]ย้อนรอยตลาดนักเตะรอบแรก เชลซี, แมนฯ ซิตี้ หลังโดนเทคโอเวอร์
คิดถึง joe cole เล่น cm แผน Diablo อย่างโหด
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Sep 2013
ตอบ: 4636
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Oct 13, 2021 05:43
[RE]ย้อนรอยตลาดนักเตะรอบแรก เชลซี, แมนฯ ซิตี้ หลังโดนเทคโอเวอร์
ตัวอย่างการเทคที่ผ่านมาทั้ง Chelsea City PSG
ทุ่มซื้อยับ ๆ ตั้งแต่ตลาดแรกกันหมดเลย
สงสัยนิวน่าจะช้อปตลาดหน้าหนาวนี้เลยเหมือนกัน
อยากเห็นละว่าจะเอาเงินฟาดใครได้บ้าง 555
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 3034
ที่อยู่: นครราชสีมา
โพสเมื่อ: Wed Oct 13, 2021 11:15
[RE: ย้อนรอยตลาดนักเตะรอบแรก เชลซี, แมนฯ ซิตี้ หลังโดนเทคโอเวอร์]
น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 May 2011
ตอบ: 2738
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Oct 13, 2021 17:27
[RE: ย้อนรอยตลาดนักเตะรอบแรก เชลซี, แมนฯ ซิตี้ หลังโดนเทคโอเวอร์]
สมัยนั้นทุ่มยับ น่าจะแค่เฉียด 100ล้าน สมัยนี้ถ้านิวจะทุ่มยับ น่าจะทะลุ 2-300 ล้าน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 217
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 14, 2021 16:19
ย้อนรอยตลาดนักเตะรอบแรก เชลซี, แมนฯ ซิตี้ หลังโดนเทคโอเวอร์
แล้ว Robinho นี่ย้ายมาช่วงปีที่แมนซิตี้ถูกเทคโอเอวร์ยังครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Apr 2006
ตอบ: 2251
ที่อยู่: Liverpool - Turin - Rome
โพสเมื่อ: Thu Oct 14, 2021 19:53
[RE]ย้อนรอยตลาดนักเตะรอบแรก เชลซี, แมนฯ ซิตี้ หลังโดนเทคโอเวอร์
สมัยนี้100ลป ซื้อได้แค่2-3 คน
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
แข้งลีกเอิง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 May 2011
ตอบ: 4809
ที่อยู่: Stamford Bridge Stadium
โพสเมื่อ: Fri Oct 15, 2021 20:34
[RE: ย้อนรอยตลาดนักเตะรอบแรก เชลซี, แมนฯ ซิตี้ หลังโดนเทคโอเวอร์]
เห็นรูปยุคนั้นใส่ Nike T90 โคตรคลาสสิค เห็นแล้วคิดถึงสมัยเรียน ม.2-3 ใส่สตั๊ดไปซ้อมกีฬา

นี่เราแก่แล้วใช่ไหมเนี่ย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel