ประเด็นคือควรยอมรับความจริงและแก้ไขเท่าที่จะทำได้ ตราบใดหลอกตัวเองไปแบบนี้มีแต่จะแย่ เอาง่ายๆจังหวัดผมคนหนีมารักษาตัวจากพื้นที่เสี่ยงอย่างเยอะ จนเริ่มมีการพูดคุยแล้วว่าอาจจะไม่รับเพิ่มอีก ตอนนี้วันละหลายสิบคน เตียงไม่พอแล้ว

แถมพอไปสุ่มตรวจบางที่ๆเป็นแหล่งชุมชนหนาแน่นพบคนติดเป็นจำนวนมาก นั่นแสดงว่าเราแค่ไม่รู้ตัวว่าเราติดแล้ว(หรือหลอกตัวเองอยู่เพราะกลัวต้องกักตัวขาดรายได้) ผมเชื่อว่าสถานการณ์เป็นแบบนี้เยอะ คนกลัวอดตายมากกว่ากลัวโควิท

บอกเลยปัญหามันบานปลายกว่าที่คิดเรื่องปากท้องตอนนี้สำคัญจนโควิทก็ไม่กลัวกันเท่าไหร่แล้ว และผมคิดว่าจะหนักกว่าอีกไม่ต้องรอให้ถึงปลายปีหรอก

ปัญหาสุดๆคือ.
1.เตียงที่รองรับอาการหนักมีจำกัด เมื่อไหร่ที่ข้ามตัวเลขที่รับได้ที่เหลือจะเสียชีวิตเป็นส่วนมาก.
2.การที่เชื้อกระจายออกต่างจังหวัด ที่ไม่ได้มีมาตรฐานสาธรณะสุขเท่ากรุงเทพ ทั้งปริมาณและคุณภาพ.
3.การที่ปล่อยแรงงานต่างด้าวย้ายไปเรื่อยๆไม่ได้ Lock จริงจังเชื้อมันก็ไปแพร่เป็นคัสเตอร์ใหม่ใหญ่ๆทั้งนั้น แถมพอโรงงานมีปัญหา การปิดโรงงานก็มีผลทางเศรษฐกิจอีก.
4.การไม่ปูพรมตรวจ และไม่ได้ตรวจฟรีทั้งหมด ทำให้ไล่จับไม่จบสักที.

วิธีแก้เท่าที่คิดได้.
1.เตียงไม่น่าจะทำไรได้เท่าไหร่ เลยต้องมีการแยกผู้ป่วยสีเหลืองออกมากักตัวให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้ลามไปแดง.
รวมทั้งออกมาตรการดูแลกลุ่มเขียวไม่ให้ลามไปเหลือง.

2.อันนี้คงต้องอบรมออนไลเอาคับ สร้างบุคลากรเพื่อรับมือสถานการณ์แบบเร่งด่วนออกมา อย่าไปหว้งแพทย์พยาบาลที่มี เอาของทหารออกมาใช้ก็ได้ เพื่อเพิ่มปริมาณเท่าที่ทำได้สถานที่อยากเอาค่ายทหารนะ ส่งทหารส่วนเกินกลับบ้านเอาที่พักมาใช้แบบตอนที่สึนามิถล่มอินโด เอาทหารออกไปทำงานภาคสนาม เอาที่พักให้ประชาชนนอน (ผมยังหาวิธีที่ดีกว่านี้ไม่ได้).

3.อันนี้ถ้าลงมือไม่น่ายาก รวมทั้งการรับเข้าแบบถูกกฎหมาย และลงโทษโรงงานที่รับแรงงานเถื่อนให้หนัก.

4.อันนี้ถ้าลงมือน่าจะง่ายสุด ยกเว้นจะเลี้ยงไข้ไว้.

คิดเท่าที่คิดได้ เท่าที่เซลสมองมี.
จริงๆอยากทำเป็นทู้ว่าลองหาทางแก้กันดูเป็นเรื่องเป็นราว.

ตอบตรงคำถามเลยครับ

ถ้าผมประเมินแบบนี้

คน admit น่าจะตรวจทุก 3 วัน
ยอดสะสมคนป่วยตอนนี้น่าจะ 150k = ตรวจวัน 50k

เหลือคนเดินถนน เดินเข้าไปตรวจ
ที่ได้ตรวจน่าจะเหลือประมาณ 20k

แล้วติดวันละ 15k

ผมประเมินถูกปะครับ

วัคซีน mRNA ที่จะได้ธันวาก็ไม่ใช่ว่าจะพอ กว่าจะถอดหน้ากากได้ผทว่ากลางปีหน้าอะ

Capacity ที่เป็นปัญหา ไม่ใช่เรื่องการตรวจหรอกครับ

ถ้ามันจะตรวจอ่ะ มันหาที่ตรวจได้

แต่ว่าเหตุผลที่โรงพยาบาลต่างๆไม่รับตรวจ เพราะปัญหาหลังจากตรวจแล้ว positive แล้วจะเอาไงกับคนไข้ต่อ

ซึ่งกระทรวงไม่ได้รองรับอะไรตรงนี้ไว้เลย

นาทีนี้ ความบรรลัยมาเยือนแล้วล่ะ

แม่งเอ๊ยยยยยย !

2023 ครับ