[รวม] การรักษาโควิดด้วยตัวเอง สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับโควิด ฯลฯ
เบื้องต้นระหว่างที่ผู้ป่วยยังไม่ได้เตียง หรือต้องรักษาตัวที่บ้าน HOME ISOLATE
อุปกรณ์ที่ผู้ดูแลผู้ป่วยควรมี และควรทำ คือ
1.
เครื่องวัดไข้ คอยมั่นวัดไข้ทุกๆ ชั่วโมง (หาซื้อได้ตามร้านขายยาและอุปกรณ์การแพทย์ ราคาประมาณ 150 บาท)
2.
เครื่องวัดระดับออกซิเจนในเลือดที่ปลายนิ้ว (หาซื้อได้ตามร้านขายยาและอุปกรณ์การแพทย์ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อมีตั้งแต่ 200 บาท ถึง 1000 บาท) คอยมั่นวัดระดับออกซิเจนในเลือด
ถ้าต่ำกว่า 95 ควรทำดังนี้
-
รีบหาถังออกซิเจนและอุปกรณ์ที่ใช้ช่วยหายใจ (ถ้ามีกำลังทรัพย์หาซื้อได้ที่ร้านขายยาและอุปกรณ์การแพทย์ ถังเล็กราคาประมาณ 2500 บาท อุปกร์ที่ใช้กับถังเซทล่ะ 1500 บาท) เพื่อให้ผู้ป่วยใช้หายใจ
กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการหายใจลำบาก หรือผู้ป่วยที่มีค่าออกซิเจนต่ำกว่า 90 ให้รีบติดต่อแพทย์
3.
ยาฟ้าทะลายโจร กินตามฉลากยาแนะนำ ควรคำนวณมิลิกรัมของสาร andrographolide เพื่อไม่ให้โอเวอร์โดรส โดยส่วนตัวผมที่ได้ค้นข้อมูลและให้คนในครอบครัวปฏิบัติตาม ผมจะคำนวณปริมาณการกินยาฟ้าทะลายโจรในกรณีที่มีอาการ/ติดเชื้อ คำณวนจากสาร andrographolide ที่ฉลากยาระบุ โดยรับประทานไม่เกินวันละ 180 มิลลิกรัม ติดต่อกัน 5 วัน ตามที่กรมแพทย์แผนไทยแนะนำ อย่างเช่น ในกรณีของฟ้าทะลายโจรจากอ้วยอันโอสถ ผมจะกินครั้งละ 3 เม็ด 4 เวลา จะได้สาร andrographolide ประมาณ 120 mg/วัน(น้ำหนักตัวคนที่บ้านไม่เยอะครับ แต่ถ้าเยอะอาจต้องปรับให้ได้ 180 mg.) และรับประทานติดต่อกัน 5 วันครับ ผมใช้วิธีนี้เพราะฟ้าทะลายโจรของอ้วยอัน 1 กระปุกจะมี 60 เม็ด ก็กินได้ 5 วันพอดีครับผม แต่ที่ผมให้ดูฉลากก่อนเป็นเพราะว่าแต่ละยี่ห้อจะมีสาร andrographolide ไม่เท่ากันครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นปริมาณยาแบบนี้กินเฉพาะตอนที่มีอาการเท่านั้นครับ
4.
ยาแก้ปวดลดไข้ ถ้าเป็นผู้ใหญ่และมีไข้เกิน 37.5 ให้ทาน 1000 มิลิกรัม ทุกๆ 4 ชั่วโมง ถึง 6 ชั่วโมง จนกว่าไข้จะลดกลับมาเป็นปกติ (หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป)
5.
วิตามินซี ให้กินวันล่ะ 1000 มิลิกรัม (หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป) ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
6.
ซิงค์ ให้กินวันล่ะ 1 เม็ด หรือตามที่เภชสัชแนะนำ (หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป) ผู้สูงอายุควรบริโภคอาหารที่มีแร่สังกะสี เพื่อช่วยเพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และช่วยป้องกันจากโรคที่เกิดจากการติดเชื้อ เช่น โรคปอดอักเสบ เป็นต้น
7.
วิตามินดี ให้กินวันล่ะ 1 เม็ด หรือตามที่เภชสัชแนะนำ (หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป กรณีหาซื้อไม่ได้ให้ผู้ป่วยออกมารับแดดประมาณ 30 ถึง 60 นาที ช่วงในช่วงเวลา 7:00 น ถึง 8:30 น) ซึ่งวิตามินดีมีหน้าที่สำคัญในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (Immune System) มีการค้นพบ Vitamin D Receptor หรือตัวรับที่จับกับวิตามินดีบน T cell และ B cell ซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาคุกคามร่างกาย
8.
ยาแก้ไอละลายเสมหะ เมื่อมีอาการไอให้กินตามที่เภชสัชแนะนำ (หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป)
9.
ยาพ่นคอเพื่อละลายเสมหะ เมื่อมีอาการไอใช้ตามที่เภชสัชแนะนำ (หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป)
10.
ยาแก้ท้องเสียหรือคาร์บอน เมื่อมีอาการท้องเสียให้กินตามที่เภชสัชแนะนำ (หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป)
11.
ให้ผู้ป่วยกินอาหารและยาให้ตรงเวลา จิบน้ำอุ่นบ่อยๆ เนื่องจากการดื่มน้ำก็ช่วยเพิ่มออกซิเจนในร่างกายได้ด้วย ซึ่งปกติน้ำดื่มทั่วไปจะมีค่าออกซิเจนละลายอยู่ประมาณ 7 มก.ต่อลิตร และเพื่อกระตุ้นให้ขับของเสียออกจากร่างกาย
12.
ให้หาสมุนไพร พวกเครื่องต้มยำ (ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกูด พริกสด) ต้มกับน้ำเปล่า รอเดือดและให้ผู้ป่วยคลุมโปงและสูด เช้า 1 ครั้ง 3-5 นาที เย็น 1 ครั้ง 3-5 นาที
13.
คู่มือสำหรับผู้ป่วยโควิด ที่เพจ drama-addict แชร์ครับ ตามลิงค์ครับผม shorturl.at/vFMQ6 สามารถดาวน์โหลดไปอ่านเพื่อเตรียมความพร้อมครับผม (เครดิต เพจ drama-addict ครับ)
14.
คู่มือการแยกกักตัวที่บ้าน HOME ISOLATION ของ สสส. ครับ
https://www.thaihealth.or.th/contact/getfile_books.php?e_id=735
วิธีจำแนกผู้ป่วยตามอาการเบื้องต้น
1.
สีเขียว กรณีผู้ป่วยไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย เช่น ไข้ ไอ น้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรสหรือรับรสได้น้อยลง
2.
สีเหลืองหรือสีแดง ผู้ป่วยมีอาการ ไข้ ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส และมีอาการเหนื่อยหอบหายใจลำบาก หรือเป็นผู้สูงอายุ (อายุมากกว่า 60 ปี)
สำรวจอาการผู้ป่วยก่อนนะครับ ก่อนจะคิดเรื่องหาเตียงหรือไปโรงพยาบาลสนาม ว่าผู้ป่วยมีสถานที่กักตัวหรือไม่ ถ้าสำรวจอาการผู้ป่วยแล้ว
อาการอยู่ในระดับสีเขียวและมีสถานที่กักตัว ผมคิดว่าควรรักษาตัวอยู่ที่บ้านนะครับ เนื่องจากการไปโรงพยาบาลสนามผู้ป่วยสามารถรับเชื้อเพิ่มหรือแพร่เชื้อเพิ่มได้ครับ และที่สำคัญสุดคือ
1.หาทางไปตรวจเพื่อเอาผล RT-PCR ตามโรงพยาบาลหรือจุดตรวจต่างๆให้ได้ (ถ้าได้ผลตรวจให้ดูค่า ct หรือ ถามค่า ct จากผู้แจ้งผลว่าเท่าไหร่ ถ้าต่ำกว่า 20 จะถือว่าการติดเชื้อสูง ให้เฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด หรือรีบหาโรงพยาบาลแอดมิท) ซึ่งถ้าท่านได้ผล RT-PCR มาแล้วการหาเตียงจะง่ายขึ้นครับ
2.มีวินัยรักษาตัวเองครับ กินอาหารให้ตรงเวลา กินยาให้ตรงกับอาการและตรงเวลา ดื่มน้ำอุ่นมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ
รวมสถานที่ตรวจโควิดเอกชนแบบ RT-PCR ต้องโทรถามหรือนัดหมายกับสถานที่ตรวจก่อนทุกครั้ง
https://hdmall.co.th/c/18-covid-19-testing-places-bkk
รวมช่องทางติดต่อหน่วยงานหรือจิตอาสา เพื่อหาเตียงให้ผู้ป่วย เครดิตตามภาพครับ
รวมรายชื่อจังหวัดที่ประกาศรับผู้ป่วยโควิดกลับภูมิลำเนา และช่องทางการติดต่อ หรือโทร 1330 กด 15
https://www.sanook.com/news/8404994/
โดยความเห็นส่วนตัวผมอยากให้การกลับภูมิลำเนาเป็นตัวเลือกสุดท้าย สำหรับผู้ป่วยอาการสีเหลืองหรือสีแดง เนื่องจากการที่เชื้อโรคเดินทางไกลเท่าไหร่โอกาสที่เชื้อโรคจะแพร่กระจายยิ่งมีโอกาสสูง และผมมั่นใจว่าผู้ป่วยที่อายุน้อยและอยู่ในระดับเขียว ถ้าเท่าทันอาการ รักษาได้ถูกวิธี และมีวินัยในการรักษา มีโอกาสหายเป็นปกติสูง (ไม่จำเป็นต้องกลับภูมิลำเนา)
ผมแนะนำให้แอดไลน์
@covid191 จะมีแพทย์และนักจิตวิทยาอาสา จากมูลนิธิบูรณพุทธคอยให้คำปรึกษา สำหรับท่านใดที่มีข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับโควิด หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถแชร์ได้ที่กระทู้นี้เลยนะครับ ขอบพระคุณครับ