**สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเลย**
ประเด็นที่ 1 วัคซีนเชื้อตาย (sinovac/sinopharm) 2 เข็ม ภูมิจะขึ้นได้ดีปานกลางถึงดีมาก หลังฉีดเข็มที่ 2 ไปแล้ว 2 สัปดาห์ และ จะคงระดับของภูมิคุ้มกันได้ค่อนข้างดี ประมาณ 60 วันแรกหลังฉีดเข็มที่ 2 ทั้งนี้จะมากน้อยขึ้นกับการทำงานระบบภูมิคุ้มกันของแต่ละคน ส่วน Astra ภูมิจะขึ้นดีมากเฉลี่ยแล้วดีกว่าวัคซีนเชื้อตาย โดยเฉพาะเมื่อหลังกระตุ้นเข็มที่ 2 ไปแล้ว 2 สัปดาห์ แปลว่า นับจากวันที่ฉีด astra น่าจะต้องรอไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน ภูมิถึงจะขึ้นดีมากๆ (ถ้าฉีดห่างกัน 8-12 สัปดาห์)
ประเด็นที่ 2 การฉีดวัคซีนข้ามชนิด มีข้อมูลการตรวจภูมิคุ้มกันในผู้ที่ได้รับวัคซีนเชื้อตายแล้วเกิดอาการแพ้ จึงจำเป็นต้องสลับชนิด ฉีด Astra แล้วได้รับการตรวจระดับภูมิคุ้มกัน พบว่า หลังฉีด Astra 2 สัปดาห์ ภูมิกลับขึ้นสูงมากกว่ากลุ่มที่ได้รับวัคซีนเชื้อตาย 2 เข็ม คนไข้กลุ่มนี้มีหลายร้อยคน แต่ยังไม่มีการวิจัยที่ใช้สูตรนี้ เพราะข้อมูลเป็นการฉีดแบบที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะต้องฉีดอีกตัวแต่ต้องฉีดเนื่องจากการแพ้ยา ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลประกอบ คำแนะนำของการเปลี่ยนชนิดวัคซีน จากเข็มที่ 1 เป็นเชื้อตาย แล้วสลับเป็น astra เข็มที่ 2 และมีข้อมูลสำคัญ ที่**จำเป็น**ต้องรู้คือ ภูมิหลังฉีดเข็มที่ 1 ไม่ว่าจะเป็นเชื้อตายหรือแอสตร้า ขึ้นน้อยมาก ที่ 2 สัปดาห์ ไม่พอป้องกันเชื้อ อยากแน่นอน เพราะวัคซีนทั้ง 2 ชนิด การขึ้นของภูมิช้า จนกว่าจะได้รับเข็มกระตุ้น เข็มที่ 2 ไปแล้ว 2 สัปดาห์ ดังที่ได้บอกไปแล้วข้างต้น
ประเด็นที่ 3 การระบาดของเชื้อตอนนี้ เป็นเดลต้า ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่กระจายง่าย ทำให้เกิดโรครุนแรง รักษา นาน และ ต้องใช้ทรัพยากร ในการรักษาพยาบาลมากกว่าอย่างมหาศาล ระดับภูมิคุ้มกันที่จะป้องกันสายพันธุ์เดลต้า อาจจะไม่เพียงพอด้วยการใช้วัคซีนเชื้อตาย 2 เข็ม แต่อาจจะเพียงพอหากใช้วัคซีนเชื้อตายเข็มแรก แล้ว ต่อด้วย Astra เป็นเข็มที่ 2 ที่สี่สัปดาห์ ตามข้อมูลจากประเด็นที่ 2
ประเด็นที่ 4 ปริมาณของวัคซีนที่มีในประเทศ ต้องมีการบริหารจัดการอย่างเหมาะสม ซึ่ง มีการวิเคราะห์มาแล้วว่าการกระจายวัคซีน ถ้าใช้ตามแผนแบบที่ว่า จะทำให้การกระจายวัคซีนไปได้ทั่วถึง มากกว่าแผนการเดิม ทำให้ ผู้ที่ได้รับวัคซีน มีภูมิเพียงพอจะต่อต้าน สายพันธุ์เดลต้า ในอีก 6 สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากได้รับวัคซีนแล้ว ย้ำ 6 สัปดาห์ ซึ่งแปลว่า ถ้าฉีดเร็ว ระยะเวลาการต่อสู้กับเดลต้าของแพทย์ และบุคลากร จะสั้นลง ถ้ายิ่งยืดระยะเวลาออกไป เราจะต้องต่อสู้กับมันแบบนี้อีกนานขึ้น นานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ คนที่แพ้ อาจจะเป็นแพทย์และบุคลากร ซึ่งแนวโน้มจะเป็นแบบนั้น แต่ตอนนี้ เราได้รับโอกาสจากประชาชน ในการให้วัคซีนมากระตุ้นเข็มที่ 3 เพื่อให้เราได้สู้ต่อ แต่คนจะทำงานโดยไม่มีเครื่องมือไม่ได้ ทรัพยากรทางสาธารณสุขตอนนี้ ถูกใช้ไปอย่างมหาศาลกับการรักษา covid จนเบียดเบียน การรักษาโรคอื่นๆทั่วไป ทำให้คนไข้เสียโอกาสอย่างมาก ร่วมกับ ยังมีประชาชนหลายกลุ่มที่ไม่ได้ให้ความสนใจ ไม่ได้ระวังตัว ไม่ได้ป้องกัน โดยเฉพาะถ้าอยู่ในพื้นที่แดงแล้วใช้ชีวิตเหมือนปกติแล้วเกิดการติดเชื้อ กลุ่มนี้มักจะติดกันเป็นกลุ่ม และมาเข้าใช้ทรัพยากรเป็นกลุ่ม ส่วนอีกกลุ่มซึ่งก็คือกลุ่มที่เขาระวังตัวป้องกันตัวเองแต่พลาดท่า ติดเชื้อหลังจากกลุ่มไม่ระวัง ก็จะเป็นโรคทีหลัง แต่ในฐานะแพทย์ เราเลือกรักษา ตามสาเหตุที่มาของการติดไม่ได้ เราต้องรักษาประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน แม้กระทั่งบุคลากรและครอบครัวก็ยังต้อง home isolation ตอนนี้มันเกินศักยภาพของเราเป็นอย่างมาก ทั้งจากปริมาณคนไข้ที่เยอะขึ้นทุกๆวัน จำนวนคนกลับบ้านในแต่ละวัน มากกว่าครึ่งหนึ่งของคนไข้ใหม่แค่นิดเดียว
สำหรับบุคลากรทางการแพทย์นะครับผมอธิบายเรื่องของการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ไปแล้วในวีดีโอนี้ มีประเด็นเรื่องของการให้วัคซีนด้วย mrna ที่ผม ฝากไว้ให้คิด อยู่1 ประเด็นครับ
คือการให้วัคซีนเชื้อตาย 2 เข็ม อย่างที่ได้บอกไว้ในวีดีโอว่าไม่สามารถกระตุ้น T cells ได้ ส่วน memory B cells จะแตกต่างกันในแต่ละคนแน่ๆ ยังไม่มีการศึกษาที่ชัดเจน ดังนั้นอาจจะแปลความได้ว่าบางคนอาจมีต้นทุนที่ดีบางคนอาจจะมีต้นทุนน้อย ถ้าพิจารณารับการกระตุ้นด้วยไฟเซอร์ 1 เข็ม ตอนนี้จะยังไม่มีการให้ไฟเตอร์เข็มที่ 2 สำหรับ วัคซีน ที่ จะมาจากการบริจาค แปลว่าท่านจะได้รับไฟเซอร์เพียง 1 เข็มเท่านั้น ในคนที่ต้นทุนไม่ดีเลยตามความเห็นอาจจะจำเป็นต้องได้รับเข็มที่ 2 ใน 3 สัปดาห์ถัดไปตามวิธีการให้ปกติ แต่ ไม่มีของครับ
ส่วนข้อมูลของการให้วัคซีนเชื้อตายแล้วกระตุ้นด้วยไฟเตอร์เพียง 1 เข็ม แน่นอนว่ายังไม่มีข้อมูล อาจจะต้องกลับไปดูข้อมูลของการให้ mrna 1 เข็ม แล้วติดตาม ดูภูมิคุ้มกันระยะยาว หน้าตาจะออกมาเป็นอย่างไร
อีกทางเลือกคือจากที่ได้ลงไปแล้วก่อนหน้านี้นะครับคือการสลับ heterologous ด้วย Astra แล้วต่อด้วย mrna ทั้ง 2 ยี่ห้อ ประสิทธิภาพดีชัดเจน มีการศึกษารองรับ ตามด้วย Pfizer คือใน video ส่วน Moderna ตาม
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10159694111326419&id=591991418 อันนี้คือคิดในกรณีที่เราไม่มีต้นทุนเลยนะครับ
ผมไม่ได้สนับสนุนวิธีไหนเป็นพิเศษ ผู้รับวัคซีนเป็นผู้เลือก ผมในฐานะของนักวิชาการก็ให้ข้อมูลตามหลักฐานทางวิชาการที่มีครับสิทธิ์ของการเลือกวัคซีนคือสิทธิ์ของท่านเองเป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะครับเราจะต้องผ่านมันไปให้ได้ป้อมจะต้องไม่แตกเพิ่ม และคนไข้ จะได้ มีคนดูแลที่มีเกราะป้องกัน ต่อไป