[ย้ายประเทศกันเถอะ] ชีวิตผมในฝรั่งเศส
พอดีเห็นกระทู้ที่คุณ iAung เขียนไว้แล้วก็เลยคิดว่าเราควรจะมาแชร์ในมุมมองของคนมาทำงานบ้างแล้วกันครับ (อาจจะมีคนแชร์ไปแล้วในกลุ่มใน FB นะครับ แต่ผมไม่มี FB เลยไม่เห็น อาจจะซ้ำกะคนอื่นหรือไม่ละเอียดเท่าคนอื่นครับ)
ระบบการศึกษา
ป.ตรีในฝรั่งเศสจะเรียนในระบบ 3 ปีจบครับ (เรียกว่า Bac+3) ขณะที่คนที่จบป.โทจะมีทั้ง Bac+4 และ Bac+5 (คือเรียนปีนึงหรือสองปี แล้วแต่ขณะและหลักสูตร) ค่าเล่าเรียนในฝรั่งเศสค่อนข้างถูกครับ ยิ่งถ้าเทียบกับอังกฤษหรือเมกานี่คือถูกไปเลยครับ
Visa
การไปทำงานในฝรั่งเศส ก่อนอื่นคุณต้องได้รับการรับรองการทำงานจากทางนู้นก่อนครับ โดยจะเป็นจดเขียนรับเข้าทำงานหรือรับเข้าเรียนก็ได้ แล้วก็ไปขอ Visa Type D กับทางสถานฑูตครับ ซึ่ง visa type D นี่คือ working/studying visa ที่จะมีอายุประมาณ 180 วัน
พอไปถึงที่นู่น สิ่งที่ต้องทำคือไปติดต่อ HR ของบริษัทหรือว่าไปติดต่อฝ่ายกิจการนักศึกษาครับ แล้วเค้าจะให้เอกสารเรามา แล้วเราก็ต้องไปทำบัตรต่างด้าวที่อำเภอครับ (Carte de Séjour) โดยใช้เวลารอเอกสารตัวนี้ประมาณ 3 อาทิตย์ครับ และในขณะที่ยังรอบัตรตัวนี้ ยังไม่ควรออกไปเที่ยวนอกประเทศนะครับ (ไม่ว่าจะแค่เบลเยี่ยมหรือเยอรมันหรือสวิสที่พรมแดนติดกันก็ตาม)
พอมีบัตรนี้ คราวนี้เราก็ถือว่ามี Work Permit ละครับ จะทำงานอะไรก็ได้แล้วครับ
ค่าแรงขั้นต่ำ/เงินเดือนขั้นต่ำ
ณ วันนี้ ฝรั่งเศสจ่ายค่าแรงขั้นอยู่ที่ 20-24 EUR/ชม.ครับ โดยก็มีข้อห้ามเหมือนประเทศอื่นๆว่าห้ามทำงานเกินกี่ชม.ต่อวีค แต่ค่อนข้างเข้มคือไม่ยอมให้ทำเกินครับ ขณะที่ถ้าเป็นพนักงานออฟฟิศ ถ้าคุณมี bac+3 เงินเดือนขั้นต่ำ ณ ปัจจุบันคือ 1550 EUR/เดือน หรือประมาณ 58,000 บาท/เดือนครับ
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการรับเงินเดือน
ฝรั่งเศสนั้นเป็นรัฐสวิสดิการเกือบเต็มรูปแบบครับ กล่าวคือเค้าหักค่าสวัสดิการค่อนข้างเยอะในแต่ละเดือน คิดคร่าวๆคือประมาณ 24% ของรายได้ต่อเดือนของเราครับ ซึ่งที่หักๆไปนั้นจะไปเป็นส่วนของเงินบำนาญหลังเกษียณ เงินรายได้ขั้นต่ำถ้าตกงาน ค่ารักษาพยาบาลต่างๆ และยังรวมไปถึงสวัสดิการที่เราไม่น่าจะได้ใช้เช่น เงินบำนาญสำหรับทหารผ่านศึก เงินช่วยเหลือสำหรับคนไร้บ้าน ฯลฯ สิ่งที่น่าอเมซซิ่งมากๆสำหรับประเทศนี้คือ เค้าจะระบุมาเลยในสลิปเงินเดือนครับ ว่าหักเข้าอะไรกี่ % ครับ
ส่วนภาษี ของผมนั้นหักทีเดียวตอนปลายปีครับ โดยจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 เท่าของเงินเดือนของคุณครับ (เป็นขั้ันบันได ขึ้นอยู่กับรายได้) นั่นแปลว่าคุณต้องบริหารจัดการรายได้ให้ดีๆนะครับ เพราะคุณต้องมาจ่ายเป็นก้อนตูมเดียวตอนเดือน 1 ของอีกปีครับ
สรุปคือ ถ้าคิดคร่าวๆ คุณจะรับเงินจริงๆต่อเดือนประมาณ 65% ของเงินเดือนครับ ฉะนั้นเวลาต่อรองเงินเดือนก็คิดตรงนี้เผื่อไว้ด้วยนะครับ (นั่นคือสาเหตุที่นักบอลก็ถึงต่อรองขอรับเงินเดือนเป็นรายได้หลังหักภาษีมากกว่าจะเป็นรายได้ก่อนหักเหมือนกันครับ)
ค่าที่อยู่อาศัย
ที่อยู่อาศัยในฝรั่งเศสมีหลายแบบครับ เป็นแบบ shared space ก็มี (แชร์ห้องน้ำและห้องทำกับข้าว) Studio พร้อมห้องน้ำในตัวก็มี หรือกระทั่งเป็นแบบ 1 Bedroom ก็มีครับ และคุณภาพห้องก็แตกต่างกันไป โดยห้องขนาดประมาณ 25 ตรม. แบบ Studio ที่ผมเจอคือประมาณ 420 EUR/เดือนครับ อันนี้ถือว่าอยู่ชานเมืองมาหน่อย แต่ยังอยู่ในระยะเดินถึงแทรมหรือรถไฟใต้ดินครับ
โดยที่นี่จะเหมือนเมืองไทยคือเก็บล่วงหน้า 2 เดือนสัญญาขั้นต่ำ 6 เดือนครับ
ค่าน้ำไม่แพง แต่ค่าไฟแพงครับ ยิ่งผมขี้หนาวเปิด heater แทบจะทั้งวันในช่วงหน้าหนาว บางเดือนนี่ค่าไฟพุ่งไป 200 EUR ก็มีครับ แต่เฉลี่ยๆก็ประมาณ 80 EUR/เดือนครับ
สิ่งที่ดีและไม่ดีกับการใช้ชีวิต
คนเอเชียในฝรั่งเศสเอง ค่อนข้างมีศักดิ์ศรีที่ดีนะครับ ไม่ค่อยจะโดนบูลลี่เท่าไหร่ อาจจะเพราะมันเป็นประเทศที่ค่อนข้างหลากหลายด้วยเพราะฝรั่งเศสเองก็ไปตีเค้ามาทั่วมีอาณานิคมทั่วไปหมด มันก็จะมีทั้งคนดำเชื้อสายแอฟริกัน แขกขาวพวกโมร็อคคัน แอลจีเรีย คนเอเชียแบบเวียดนาม ลาว ฯลฯ แต่ๆๆ ถ้าคุณพูดฝรั่งเศสไม่ได้นี่คือจบครับ คือคุณจะเจอทุกปัญหา ทุกรูปแบบ เพราะเค้าจะมองว่าคุณเป็นคนนอกทันที อย่างผมไปนี่ 6 เดือนแรกคือเครียดและทรมานมาก เพราะเรายังพูดไม่ได้ครับ
ผมไม่เคยเจอหาเรื่องเท่าไหร่ ยกเว้นเจอคุณโสฯที่เป็นสาวประเภทสองวิ่งไล่ตามแกล้งตอนเดินกลับบ้านเวลาเมาๆบ้าง 2-3 ครั้ง (เค้าจะชอบวิ่งมาบีบไข่คุณแล้วก็หัวเราะแล้วก็เดินไปครับ T_T)
ขณะที่การใช้ชีวิตทั่วๆไปค่อนข้างดีครับ รถเมล์ รถไฟตรงเวลา มี work-life balance ค่อนข้างดี ขนาดผมอยู่เมืองขนาดประมาณเชียงใหม่ รถแทรมกะ metro ก็ไปถึงทุกที่ครับ (มี metro 2 สายตัดขวางกัน) AQI ก็ดีครับ ผมไปอยู่ที่นู่นสามปีกว่า ผมไม่เคยป่วยเลยครับ นั่นมันแปลว่าอากาศมันดีจริงๆครับ
แต่ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ประท้วงเก่งมาก ประท้วงแม่มได้ทุกเรื่อง สไตร์คบ่อย หยุดบ่อย มีวันนึงที่พนักงานรถไฟและรถเมล์หยุดพร้อมกันตอนฤดูหนาว ผมต้องเดินไปทำงานประมาณ 8 กม.ครับ หรือพนักงานเก็บขยะประท้วงก็มี ขยะเน่าอยู่สองอาทิตย์ก็มีครับ ซึ่งคนฝรั่งเศส"เข้าใจ"และรับได้ครับ เพราะนั่นคือ"สิทธิ"พื้นฐานที่ทุกคนสามารถเรียกร้องอะไรให้ตัวเองได้ครับ อีกอย่างคือก่อนจะสไตร์คเค้าจะมีประกาศล่วงหน้า 48 ชม.ครับ แล้วก็ให้หาทางจัดการชีวิตตัวเองเอา
ขณะที่อากาศ หน้าร้อนจะร้อนแห้งๆแต่จะสั้นครับ มีแค่เดือน 6-8 เท่านั้นที่จะร้อนเฉลี่ยๆประมาณ 30-32 องศาครับ ขณะที่ฝรั่งเศสตอนบนจะคล้ายๆกับอากาศตอนล่างของอังกฤษคือ ฝนตกปรอยๆ ฟ้าหลัวๆตลอดเวลา เย็นๆแบบ chilly ตลอดตั้งแต่เดือน 10 จนถึงเดือน 4-5 ของอีกปีครับ ถ้าเป็นคนชอบแดดอันนี้จะปรับตัวยากนิดนึงครับ แต่ใช้วิตามิน D ช่วยได้ครับ
อาหารการกิน
เตรียมใจไว้เลยครับว่าเราจะหาอาหารไทย'แท้ๆ'ได้ยากในฝรั่งเศสครับ (มี แต่น้อย เหมือนร้านลับมากกว่า 555) ร้านส่วนใหญ่จะมีเจ้าของเป็นคนลาวหรือเวียดนามหรือจีนครับ รสชาติก็จะแปร่งๆหน่อย ทำกับข้าวเองก็ช่วยได้ครับ แต่วัตถุดิบจะหายากและแพงนิดนึง ราคาเฉลี่ยก็จานละ 12-18 EUR ครับ
แต่ถ้าคุณเป็นคนกินไม่ยาก Mc Value Meal จะคุ้มกว่ามาก 8-9 EUR นี่อย่างอิ่ม หรือจะหนีไปกินเคบับก็คุ้มครับ ผมนี่ฝากท้องกะร้านเคบับเป็นประจำ 5-6 EUR นี่ได้แป้ง เนื้อ ผัก สารอาหารครบครับ
ส่วนอาหารทั่วไป คนฝรั่งเศสกินหนมปัง baguette เย็นๆเป็นปกติครับ ไส้ก็แล้วแต่เลยครับ จะแซลมอลรมควัน แฮมชีส ฯลฯ เอาง่ายๆว่าอาหารเหมือนในอิเกียละกันครับ อันนี้คือชีวิตปกติของเค้าที่เห็นได้ตามโรงอาหารของเขตออฟฟิศครับ ส่วนอาหารเย็น 70-80% ก็ทำพาสต้ากินครับ คือง่ายมากๆ
ขณะที่ถ้าเข้าร้านนี่เตรียมไว้เลยอย่างต่ำๆคนละ 25-30 EUR ครับ ยังไม่รวมไวน์หรือเบียร์นะครับ (ผมนานๆจะกินที ส่วนใหญ่ก็จะแค่สิ้นเดือนหรือเพื่อนจากเมืองไทยมากัน)
================================================
สุดท้ายนี้ การย้ายประเทศทำได้ครับถ้าคุณตั้งใจพอ วางแผนดีๆ อย่างผมเองเรียนไม่เก่งยกเว้นภาษา ผมก็ตั้งเป้าตั้งแต่ปี 1 แล้วว่าเราจะไปทำงานเมืองนอกให้ได้ ก็พยายามพัฒนาภาษาตัวเองมาตลอด ตอนสมัครงานก็เลือกแต่บริษัทข้ามชาติที่เค้ามีออฟฟิศอยู่ต่างประเทศอย่างเดียวเลยครับ แล้วก็สร้างผลงานไปเรื่อยๆจนหัวหน้าเห็นแล้วก็ส่งเราไปครับ
แต่ก็ถือว่าตั้งแต่วันแรกที่คิดจะไป จนถึงวันที่ได้ไปจริงๆก็ 7 ปีกว่านะครับ ไม่สั้นแต่เป็นไปได้สำหรับทุกคนครับ ยิ่งคุณเด็กคุณยิ่งมีเวลาพัฒนาตัวเองครับ พัฒนาภาษาให้ได้มากๆๆๆๆๆๆๆครับ เพราะนั่นคือกุญแจดอกแรกที่จะพาคุณเปิดประตูออกไปเจอโลกได้เลยครับ
ฝากรูปไว้นิดหน่อยครับ