รถภาษีแพงครับ จ่ายหลายทาง ภาษีป้าย แล้วก็ภาษีรถยนต์ที่คิดจากทั้ง cc รถยนต์และจำนวนไอเสียที่ปล่อยออกมาครับ (นั่นคือทำไมรถเดี๋ยวนี้ชอบทำเครื่องเล็กติดโบมาแทน เพราะเสียภาษีน้อยกว่า)

เรื่องกู้ซื้อบ้านไม่ต้องสนใจเลยครับ เพราะเงินบำนาญเลี้ยงตัวเองได้สบายๆครับ ผมลองทำ simulation โดยยึดจากเงินเดือนสมัยนั้น แล้วคำนวนเพิ่มขึ้นให้เท่ากับอัตราเงินเฟ้อที่นั่น (ไม่ได้คิดว่าได้โปรโมตหรือเงินเดือนขึ้นจากผลงานเลยครับ) จะเห็นได้ว่าผมจะเหลือเดือนๆนึงประมาณเกือบๆ 2,400 EUR (โดยทำงานถึงอายุ 64 ปี) ซึ่งอยู่อพาร์ตเมนต์ขนาด 40-50 ตรม. ได้สบายๆครับ (เดือนละไม่เกิน 800 EUR)

ทุบรถมีเรื่อยๆครับ แต่ดักปล้นนี่ไม่ค่อยมีนะครับ เพราะกฏหมายทำร้ายร่างกายแรงครับ ขโมยหรือโจรจะไม่ค่อยกล้าทำกับคนเท่าไหร่ครับ

เอ่ ทำไมคิดว่าผมอยู่ฝั่งนู้นล่ะครับ 555

เอาจริงๆผมไม่ชอบคอนเซปท์แบบ American Dream เลยนะครับ คือผมชอบแนวความคิดของรัฐสวัสดิการแบบฝั่งยุโรปมากกว่า รวมไปถึงการ regulate อะไรหลายๆอย่างที่ถ้าเป็นฝั่งเมกัน ก็จะเสรีกว่าครับ (เช่นกฏหมายข้อมูลส่วนบุคคล คุ้มครองผู้บริโภค ฯลฯ ฝั่งยุโรปจะเข้มกว่า) แล้วก็คนฝรั่งเศสเองก็ไม่ได้ชอบเมกันซักเท่าไหร่ เค้ามองว่าพวกฝั่งนู้นไร้วัฒนธรรมครับ แบบประเทศเพิ่งเกิดใหม่ ชอบทำตัวใหญ่ ฯลฯ แล้วก็ดูถูกไวน์เมกันค่อนข้างมาก 5555

อืมมมม ถ้าเป็นฝรั่งเศส อิตาลี สเปน หรือโปรตุเกส หรือที่มีเชื้อทางลาตินจะกลางๆนะครับ จะอยู่ในช่วงผอม-อวบมากกว่าครับ อ้วนนี้น้อยครับ ไม่เหมือนกับทางอังกฤษหรือเมกันครับ เพราะทางนี้ไม่ค่อยกิน junk food ขนาดนั้น เรียกว่ากินมีคุณภาพมากกว่าครับ

หรืออย่างพวก mixed race ที่เป็นลูกครึ่งนี่ก็หุ่นดีมาเลยก็เยอะครับ เวียดนาม/ฝรั่งเศส จีน/ฝรั่งเศส พวกนี้งานดีแทบทั้งหมดครับ 555

เรื่องการมีครอบครัว คนที่นั่นอยู่ก่อนแต่งเป็นเรื่องปกติครับ ถูกใจ คบกันก็ย้ายไปอยู่ด้วยกัน ไม่พอใจเลิกกันก็ย้ายออก แต่คนฝรั่งเศสตั้งใจเรียนครับ แล้วส่วนใหญ่จะจบโท (bac+4 เพราะมันเรียนแค่สี่ปี) แต่ความทะเยอทะยานในด้านการงานไม่เท่าคนเอเชียแน่นอนครับ เพราะว่าเค้าไม่ต้องดั้นดนหาเงินเยอะๆ เพราะเค้ารู้ว่าแก่ตัวไป รัฐก็เลี้ยงเค้าได้ระดับนึงครับ อย่างตอนนั้นผมมี network engineer คนนึงที่อายุ 50 แล้ว แกก็ไม่ได้ดิ้นรนอะไรนะครับ แกก็ชิวเลยครับ

ตามข่าวตอนนี้สวีเดนบอกช่องทางมา ทำให้เยาวชนที่จบใหม่ และเก่งด้านภาษา มีความสนใจกันมากนะ ประเทศนี้คงต้องการแรงงาน ไปทำงานเพื่อเสียภาษี อันทำให้รัฐสวัสดิการของเขามีเงินเข้ามา ใครมีลูกเก่งๆ สนับสนุนให้ไปเลย ไม่ต้องห่วงพ่อแม่ เพราะทำงานมาใกล้เกษียณกันแล้ว ก็มีเงินเก็บเลี้ยงดูตนเองได้ อนาคตให้เขากำหนดเองเลย

เคยไปเที่ยวปารีสคนเดียววันนึง เพราะไปตามหลังเพื่อนอีกสองคนที่ไปก่อนแล้วนัดเจอที่อิตาลี
ประสบการณ์หนึ่งวันตามที่ท่องเที่ยวนี่เจอมิจฉาชีพทุกที่เลย ทั้งกลิ้งแหวนมาที่ขา มาขอลายเซ็น ขอวาดรูป เห็นวัยรุ่นเข้าสถานีรถไฟด้วยการถีบขาคู่ใส่ที่กั้น ถ้าให้ไปคนเดียวอีกคงไม่ไหว แต่เมืองสวยมากจริงๆ