รอย คีน ได้ให้สัมภาษณ์กับ สกาย สปอร์ต
ว่าการสร้าง ESL ขึ้นมา
ไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกจากความโลภ

"สุดท้ายมันก็กลับมาที่เรื่องความโลภ
ก็อย่างที่เราเห็น เจ้าของมีอำนาจต่อทีมมากขึ้น
ในช่วง 10-20 ปีมานี้"

"โลภ คำเดียวจริงๆสำหรับเรื่องนี้
ไม่มีคำอื่นอีกแล้วนอกจากคำว่าโลภ"

"พวกเขาไม่ควรจะให้คุณค่าแฟนบอล
ที่สนับสนุนพวกเขาน้อยถึงเพียงนี้
แล้วใส่ใจแค่เรื่องเงินต่อเงิน"

"เมื่อเราพูดถึงสโมสรใหญ่
บาเยิร์น มิวนิค ก็เป็นหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด"

"ท้ายที่สุดพวกเขาก็ยังคงยืนหยัด
ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี"

ทำไมไม่มองว่า ยูฟ่า โลภบ้างละ

เพิ่มทีมแข่ง เพิ่มแมทเตะมา 100 แมท เพื่อหวังเงินค่าถ่ายทอดเพิ่ม

ผมไม่สนหรอกว่าจะระบบอะไร ตั้งลีกเองหรืออะไร
ถ้ามันมาจากเจตนาที่ดีด้านฟุตบอลจริงๆ ไม่ใช่เพราะผลประโยชน์ของ(เจ้าของ)12สโมสรนั้นเพียงอย่างเดียว
เเน่นอนว่า UEFA ห่วย กระจอก มันต้องมีการสังคายนาทั้งยวง(ตามด้วยเอฟเอ จะดีมา) เเต่ผมก็ยังไม่เห็นว่า ESL จะเป็นอะไรไปมากว่าการหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองให้มากขึ้นของเจ้าของทีม โดยที่นักเตะ สตาฟโค้ช หรือผู้จัดการทีมทำอะไรไม่ได้มาก

โลภหมดแหละ ได้เงินเพิ่มใครไม่เอา ลองถามทีมเล็กๆสิ ให้เงินเพิ่มเอาไหม

แต่ที่มีปากมีเสียงกันก็คนเสียผลประโยชน์ซะส่วนมาก กับนักวิจารณ์ที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือรู้ลึกอะไรกันเท่าไหร่เลย

พวกนายก็คือเครื่องมือของยูฟ่า เพื่อบิ้วอารมณ์แฟนบอลให้โกรธ เหมือนกันนะคีน

แล้วพี่จะให้ทำไง

รายได้ไม่มีแต่ค่าเหนื่อยวิ่งฉิวๆแบบนี้ พี่ไม่เห็นข่าวเหรอทีมพี่ขาดทุน300ล้าน


พี่อยากได้ทีมตามใจพี่เพื่อแฟนบอลพี่ก็ระดมทุนซื้อทีมคืนเลยฮะ แค่นั้นเองจริงๆ

คำก็โลภ 2 คำก็โลภ เออดีนะ อีตอน Uefa เพิ่มทีมหวังโกยเงินเพิ่ม นั่นไม่โลภ แล้วช่วง Covid 19 ทีมใหญ่แบกรับรายจ่ายไปบ้าง ก็ไม่พูดถึง ไม่มีการซัพพอร์ตใดๆ ไม่มีเงินเสริมก็ด่า ขึ้นค่าตั๋วก็ด่า ขายชื่อสนามก็งอแง เออ พอเค้าจะเอาชื่อเสียงของทีมตัวเอง ออกไปฝ่าฟันหารายได้เพิ่มด้วยตัวเองก็ไม่พอใจ ด่าอีกกกก

คือยังไงดีล่ะ มันมองกันคนละมุมอ่ะเนาะ (แฟนบอล - เจ้าของสโมสร)

ที่สำคัญคือ เราจะเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยกับ ESL มันก็เรื่องนึงนะ
แต่เราต้องใจเย็น ๆ กันก่อน และต้องอย่างเพิ่งด่วนตัดสินกันอ่ะ
คือ คนที่ไม่เห็นด้วยกับ ESL ก็ไม่ได้แปลว่าเค้าเห็นด้วยกับสิ่งที่ UEFA เป็นอยู่ซะทั้งหมด

ผมว่าเดี๋ยวมันก็ต้องมาคุยกันอีกนั่นแหละ ช่วงนี้มันเหมือนช่วงเช็คเสียงว่าฝั่งเรามีพวกเท่าไรอ่ะ


แต่สำหรับผม ถ้ามันแยกไปจัดทัวนาเมนต์ใหม่แบบนี้จริง ๆ มันก็น่าเสียดายนิดนึงอ่ะ
เช่น ถ้าเป็น UCL เราก็ได้มีโอกาสเห็นทีมเล็ก ๆ ได้มีโอกาสมาเจอทีมยักษ์ใหญ่ ซึ่งมันเป็นโอกาสแจ้งเกิดของพวกนักเตะจากชาติเล็ก ๆ เหล่านั้นเลยอ่ะ ยกตัวอย่างเช่น โรนัลโด้สมัยอยู่ลิสบอนที่มาสับขายิ๊ก ๆ ๆ ๆ ตอนเจอแมนยู นอกจากนี้ ก็ยังมีนักเตะอีกหลายคนที่มาจากลีครอง แล้วได้แจ้งเกิดจากเวที UCL

แต่ก็นั่นแหละ มี ESL มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะยุบ UCL อ่ะเนาะ ก็ต้องรอดูเค้าทะเลาะกันไปอีกทีแหละว่ามันจะไปจบตรงไหน

ก็บาเยิร์นแฟนบอลถือหุ้นส่วนใหญ่ป่ะ

อ่านมาเหมือนทุกคนที่ออกมาด่าจะอยู่ฝั่ง uefa ซะหมด ทำไมไม่คิดว่าเค้าแค่ไม่โอเคกับ ESL ล่ะ งงว่าคนนึงโลภก็เลยต้องโลภแทนบ้างยังงี้หรอ จะเอาสังคมแบบนี้จิงๆใช่ไหม

ก็ตอนยูฟ่าโลภพวกนี้ออกมารีแอคชั่นอะไรบ้างมั้ย
และถ้าไม่เห็นด้วยคนพวกนี้ได้เสนอทางออกอะไรให้ทีมเพิ่มหรือเปล่า

เงินคือตัวขับเคลื่อนวงการลูกหนัง ไม่มีเงินก็ไม่มี7โด้ ฮาลันด์ เนย์มา เอ็มปับเป้ สเตอริ่ง ปาร์เต เอ็นดอมเบเล่

คนที่บอกว่า ทีมใหญ่ได้เงินมาจะทุ่มซื้อนักเตะทีมเล็ก
ถือว่าคิดได้ ปญอ ก่อนหน้ามูริญโญ่จะซื้อ เกลเซอร์ซื้อลิสต์3,4,5

การทำ esl คือ ผู้ประกอบการหวังกำไรมากขึ้น
ไม่ได้อยากทำให้เป็นทีมยอดมนุษย์หรอก เพราะต่อให้ไม่ต้องทีมยอดมนุษย์ ก็ชนะทีม 7-20 ในพรีเมียร์ได้ และก็เล่นใน esl ไม่ต้องตกชั้น แล้วจะทำทีมยอดมนุษย์ทำซากหอยอะไรให้เปลืองเงิน

งานนี้ผลประโยชน์ล้วนๆ
เป็นการต่อรองอำนาจ นี่คือเกมการเมือง

โลภแล้วผิดตรงไหนวะ ในเมื่อเราอยู่ในโลกทุนนิยมนี้

รากเหง้าสโมสรมันช่วยแก้ไขปัญหาการเงินได้มั้ย

ถ้าสโมสรตาย เดี๋ยวธุรกิจชุมชนก็ตายตาม

ทีนี้อย่ามาด่าสโมสรนะบริหารทีมยังไงให้เจ๊ง

ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยยยยย

เขาโลภตรงไหน เขาแค่สู้ในสิ่งที่เขาควรจะได้
สโมสรทุกวันนี้เขาไม่ได้เอาลมไปแลกกับทรัพยากรในทีมนะครับ
ทุกอย่างมันมีต้นทุน