ถ้าเป็นประมาณนี้ ปัญหาคือการคัดเลือกทีมเข้าร่วมถูกมั้ยครับ?


ผมว่ามันก็ไม่ได้จำเป็นต้องแปลแบบนั้นเสมอไปน่ะนะ ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าจะทิ้งในลีค เพราะยังไงซะก็เป็นควาทะเยอทะยานของสโมสรที่จะคว้าแชมป์อยู่แล้ว แค่น่าจะกังวลกันไปว่าบอลลีคจะพังซะมากกว่า


ผมกลับคิดมุมต่าง การไปเตะถ้วยนั้นจะทำให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น จนทำให้สโมสรเหล่านี้มาเป็นทีมชั้นนำของลีคตัวเองให้หนักขึ้น และจะทำให้ทีมอื่นๆอยากเข้าร่วมมากขึ้น จนต้องทำฐานแฟนบอลให้ใหญ่ขึ้นตาม


สุดท้ายผมว่า หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะบอกว่าฐานแฟนบอลที่เยอะขึ้น มันมาจากแชมป์ และฝีเท้าในสนาม


แลกเปลี่ยนกันครับ

ใช่ครับ ปัญหาคือการคัดเลือกทีม แล้วจากคอนเซปของ ESL ที่เปเรซออกมาย้ำเมื่อคืนว่า ทีมใหญ่เจอทีมใหญ่ที่มีมูลค่าการตลาดมาก ย่อมดีกว่า เรทติ้งย่อมดีกว่า เปเรซพูดประมาณว่า ทีมเล็กเจอทีมใหญ่ เด็กๆรุ่นใหม่ไม่ดู เค้าจะดูก็แต่เฉพาะใหญ่เจอใหญ่ เช่น ทีมใหญ่อย่างแมนยูฯเจอทีมระดับกลางๆทั่วๆไปใน UCL คนย่อมสนใจน้อยกว่า แมนยูฯเจอบาร์ซ่า (ซึ่งก็จริง)

มันสะท้อนแนวคิดของการจัดตั้งรายการนี้ขึ้นมาอะครับ ว่าไม่มีที่ว่างให้กับทีมระดับกลางที่แม้ว่าคุณจะมีผลงานดีจนได้ไปบอลยุโรป ติดท๊อป4 แต่ถ้าเรทติ้งคุณไม่ดี ผลงานของคุณที่ทำมามันก็ไม่มีความหมายเพราะคุณจะไม่ได้เข้าร่วมรายการนี้ ถึงแม้จะให้สิทธิ 5 ทีมจาก 20 ทีมยืน และ ส่วนตัวผมยังคิดอีกว่า 12 ทีมยืนคงไม่ตกลงให้ตัวเองมีสิทธิถูกเตะออกจากการเป็นทีมยืนภายใน 5-10 ปีแรกแน่ๆ

ผมเข้าใจและเห็นด้วยที่ท่านบอกว่าเป็นแชมป์แล้วจะทำให้ฐานแฟนบอลมากขึ้น คุณก็จะได้เข้าไปเอง แต่การสร้างฐานแฟนบอลที่มากขึ้นไม่ได้สามารถเสกด้วยผลงานดีๆเพียงปีหรือสองปี ฉะนั้นผมว่ามันไม่แฟร์กับทีมระดับกลางที่ในปีนั้นๆ เค้าอาจจะทำผลงานได้ดีมากจบอันดับในลีคอยู่ที่ 1-2-3-4 ซึ่งอาจจะสูงกว่าทีมยืน 6 ทีม แล้วไม่ได้เข้าร่วมรายการ ESL เพียงเพราะไม่ดัง

ยกตัวอย่างเช่น สมมติ เวสแฮม เลสเตอร์ ลีดส์ ทำทีมให้ดีแทบตาย อันดับดีกว่าแมนยูฯ 5-6 ปีติด ผมคิดว่ามันก็ไม่ได้ทำให้เรทติ้งหรือฐานแฟนบอลของทีมเหล่านั้นสูงกว่าแมนยูฯ แล้วโอกาสที่เค้าจะได้ไป ESL จะมาจากตรงไหน

หรือ ถ้าถามว่าวัดจากผลงานสเปอร์สในปีนี้สมควรได้ไป ESL มากกว่า เลสเตอร์หรือเวสแฮมไหม ส่วนตัวคิดว่าไม่สมควร แต่ที่ได้ไปเพราะเรทติ้งและอำนาจต่อรองของเจ้าของสโมสรล้วนๆ

กลายเป็นว่าผลงานในสนามไม่ใช่การวัดผลสำเร็จของทีมฟุตบอลอีกต่อไป แต่วัดจากเรทติ้งและยอดคนดูแทน

ทีมที่ทำผลงานดี ไม่ได้รับรางวัลที่ควรจะได้รับ ส่วนทีมที่แม้ผลงานจะแย่แต่ยังใช้ชื่อเสียงหากินกลับได้รับรางวัลที่ไม่สมควรจะได้รับแทน เรื่องนี้ย่อมส่งผลต่อบอลลีคไม่มากก็น้อยในระยะยาว

ส่วนเรื่อง "เพราะยังไงซะก็เป็นควาทะเยอทะยานของสโมสรที่จะคว้าแชมป์อยู่แล้ว" ผมมองต่างมุมว่า ถ้าหากทีมไม่ได้ลุ้นแชมป์อย่างแน่นอนแล้วในปีนั้นๆ ความจำเป็นในการเน้นเกมลีคเพื่อให้จบอันดับ 2-3-4 มันจะลดน้อยลง ในเมื่อทีมได้รับการการันตีแล้วว่ายังไงก็ได้ไป ESL ได้เงินมหาศาลทุกปี แม้ผลงานในลีคจะห่วย

จริงๆแล้วผมยังชอบแนวคิดการจัดทัวนาเมนท์ของ ESL มากกว่า Swiss Model ของ UEFA เสียอีก ผมคิดเหมือนท่านเลยว่าเตะน้อยกว่า เกมคุณภาพกว่าย่อมดีกว่า แต่การสรรหาทีมที่มาเตะมันไม่ถูกต้องมากๆ เกมคุณภาพไม่ได้วัดจากชื่อเสียงหรือเรทติ้ง แต่วัดจากฝีเท้าและผลงานในสนาม

ถ้า ESL ปรับการคัดเลือกทีมเป็น วัดจากผลงาน ไม่ใช่จากชื่อเสียง ผมคงสนับสนุนมากๆ แต่จากแนวคิดในการก่อตั้ง ESL ผมคงพูดได้ว่ามันเป็นไปได้ยากมากๆที่การคัดทีมจากผลงานจะเกิด

ปล. ผมก็ต่อต้าน Swiss Model ของ UEFA ด้วยเช่นกัน เพราะเอาเปรียบทีมใหญ่มากเกิน เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพในการแข่งขัน

ผมว่าในอนาคต มันก็คงมีระบบคัดเลือกที่ว่าแหละครับ เพียงแต่ตอนนี้คงต้องทำแบบนี้ไปก่อนตอนเปิดลีค ไม่งั้นก็คงจะดึงดูดแม่ทัพไม่ได้ อย่างน้อยๆพวกนั้นก็คงการันตีการเข้าร่วม ก็คือการการันตีรายได้ต่อปีเท่านี้แน่ๆ


แต่มุมมองผมคือ เงินก้อนนี้มันเทียบไม่ได้กับการสนับสนุนจากแฟนบอลทั่วโลกอ่ะครับ ทั้ง Merchandise ทั้ง Sponsorship ทั้งหลายทั้งแหล่ รายปีมันได้เยอะกว่านี้เยอะ เพราะฉะนั้น การแสดงฝีเท้าคว้าแชมป์เพื่อเพิ่มฐานแฟนบอลมันสำคัญกว่าเงินก้อนนี้อยู่แล้ว

ผมเลยไม่มองว่าการทิ้งบอลลีค เป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ แล้วยิ่งเป็นทีมระดับท็อปที่ความเป็นมืออาชีพสูงๆแล้ว เรื่องพวกนี้ผมว่าเค้าไม่ Disrespect แฟนบอลขนาดนั้นหรอกมั้งครับ


แต่ก็ไม่ใช่ว่าที่ท่านพูดจะเป็นไปไม่ได้ มันเหมือนทุบหม้อข้าวตัวเองอ่ะครับ