ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 3042
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Apr 17, 2021 12:12
[บทความ]ดราม่าแชมป์พรีเมียร์ปี11/12
คลิปข้างบนจะเล่าแบบเป็นหนังสือเสียง ส่วนใครที่ชอบอ่านเป็นบทความมากกว่า
เลื่อนลงไปอ่านด้านล่างได้เลยครับ



เรื่องเล่าจากหนังสืออัตชีวประวัติของเวย์น รูนี่ย์

พูดถึงการขึ้นและลง

ในฤดูกาล 2011/12 ผมลงสนามให้ทีมชุดใหญ่เป็นนัดที่ 500 และจากนั้นผมทำลายสถิติหลายๆอย่างได้ อย่างในวันที่ 10 กันยายน 2011 เมื่อผมทำได้ 3 ประตูในนัดที่พวกเราเอาชนะโบลตันไป 5-0 ทำให้ผมกลายเป็นนักเตะคนที่ 4 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ทำแฮตทริกไปกลับได้ หรือในวันที่ 18 ตุลาคม 2011 เมื่อผมทำได้ 2 ประตูกับโอเตลุลกาลาติในแชมป์เปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม นั่นทำให้ผมก้าวผ่าน Scholesy ขึ้นเป็นคนอังกฤษที่ทำประตูได้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของแชมป์เปี้ยนส์ลีก

ผมยังได้ใบเหลืองน้อยที่สุดอีกด้วยในฤดูกาลนี้ แค่ 1 ใบเท่านั้นจากการลงสนามทั้งหมด เพราะปกติผมจะพยายามมากเกินไปจนได้ใบเหลืองโง่ๆมาทุกปี พอมาฤดูกาลนี้ผมจึงพยายามเงียบปากเมื่อกรรมการตัดสิน พยายามไม่ตอบโต้ผู้เล่นคนอื่นๆเวลาถูกยั่วยุ

ในเดือนเมษายน พวกเราสร้างช่องว่างระหว่างพวกเรากับซิตี้ได้ 8 คะแนนกับอีก 6 เกมที่เหลือ พวกเรากำลังมุ่งหน้าสู่แชมป์และทุกคนก็คิดเหมือนกัน รวมถึงผมด้วย

นี่คือยูไนเต็ด พวกเรารู้ว่าพวกเราทำมันได้

พวกเราออกไปเยือนวีแกน พวกเขาเล่นฟุตบอลได้ดีถึงแม้พวกเขาจะดิ้นรนอยู่ท้ายตารางเกือบตลอดทั้งฤดูกาล ตั้งแต่คิกออฟ โมเมนตั้มนั้นดูเอียงไปทางพวกเขา และทุกๆอย่างดูแย่สำหรับพวกเรา พวกเขาทำประตูได้จากลูกเตะมุม ถึงแม้มันควรจะเป็นลูกตั้งเตะจากประตูก็ตาม กรรมการปฏิเสธลูกจุดโทษของพวกเรา พวกเราไม่สามารถผ่านแผงหลังของอีกฝั่งและไม่สร้างโอกาสได้เลย

ถึงพวกเราจะเล่นเกมนี้ 5 ชั่วโมง แต่ก็ทำประตูไม่ได้หรอก ผมสามารถเห็นได้เลยว่าทั้งทีมกำลังคิดแบบนั้น ความท้อแท้ทำให้พวกเราพยายามมากกว่าเดิมจนเกิดข้อผิดพลาด และวีแกนก็ควบคุมเกมได้โดยสมบูรณ์

วีแกนชนะไป 1-0 พวกเราสมควรได้รับมัน พวกเขาเล่นได้ดี พวกเราเล่นได้แย่ ช่องว่าง 8 คะแนนลดลงมาเหลือ 5 คะแนน

ถัดมาพวกเราเล่นกับเอฟเวอร์ตัน และนำอยู่ 4-2 ผมยิงเบิ้ลไป นั่นทำให้จำนวนประตูของผมแซง George Best และ Dennis Viollet ในลิสต์คนทำประตูสูงสุดของยูไนเต็ด Nani และ Danny Welbeck ก็ทำประตูได้ด้วยเช่นกัน และผมรู้สึกได้เลยว่า ผมกับ Danny นั้นมีความเข้าใจกันดีมากๆ เขานั้นเร็วและทำได้ดีตลอดเวลาวิ่งอยู่หลังกองหลังคู่แข่ง และเขาก็เลี้ยงบอลได้ดีด้วย ผมชอบนะเวลาที่เขาเล่นสั้นๆแล้วคอยดึงกองหลังคู่แข่งไป เพราะมันทำให้ผมไปอยู่หลังกองหลังคู่แข่งได้ง่ายขึ้น

แต่เมื่อทุกๆอย่างเป็นไปได้ด้วยดี มีบางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น พวกเราผ่อนคลายกันเกินไปและทำเหมือนกับเป็นผู้ชนะแล้ว พวกเราปล่อยนักเตะในแนวกว้างของพวกเขาอย่าง Steven Pienaar ให้เล่นอย่างอิสระและมีเวลากับบอลมากจนเกินไปและมันก็ลงโทษพวกเรา พวกเขาครอสเข้ามาในกรอบเขตโทษเข้าหาตัวทาร์เก็ตแมน 2 ตัว Marouane Fellaini และ Nikica Jelavic และเอฟเวอร์ตันก็ได้ประตูตามหลังมา 2 ลูกจาก Jelavic และ Pienaar ทำให้เกมจบลงที่ผล 4-4



หายนะชัดๆ จาก 5 คะแนนกลายเป็น 3 คะแนน

จากนั้นก็ถึงช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตาย การลงเล่นเจอกับซิตี้ที่บ้านของพวกเขา ให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นบอลถ้วยนัดชิง ทุกๆอย่างดูขึ้นอยู่กับเกมนี้ ผมรู้ว่าถ้าพวกเราเอาชนะพวกเขาได้ พวกเราจะเข้าสู่ 2 เกมสุดท้ายด้วยระยะห่าง 6 คะแนน ซึ่งในทางจิตวิทยาแล้ว พวกเราเป็นผู้ชนะลีกแล้วนั่นเอง พวกเขาก็รู้ว่าถ้าพวกเขาชนะพวกเรา คะแนนจะกลับมาเท่ากัน แต่พวกเขาจะขึ้นนำจากผลต่างประตูได้เสีย

มันเป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องชนะเกมนี้ ซิตี้นั้นแข็งแกร่งและหินมากๆโดยเฉพาะเกมในบ้าน และในนาทีที่ 45 กัปตันของพวกเขา Vincent Kompany ทำประตูได้จากลูกเตะมุม หลังจากนั้น พวกเราไม่สามารถเจาะพวกเขาได้ พวกเขาพยายามเน้นการครองบอลทำให้เราไม่มีโอกาสแม้แต่จะยิง ผมจำไม่ได้เลยว่า Joe Hart ได้เซฟเพิ่มในเวลาที่เหลือของเกม พวกเราแพ้ 1-0



ผมได้แต่ถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา พวกเราเป็นที่สองจากผลต่างประตูได้เสีย มันเป็นไปได้ยังไงกัน?

นักวิจารณ์ต่างพากันวิพากวิจารย์พวกเรา พวกเขาบอกว่าพวกเราทิ้งมันให้หลุดมือไปแล้ว ผู้คนต่างพากันพูดถึงซิตี้ว่าพวกเขาเป็นทีมที่ดียังไง พวกเขาเล่นฟุตบอลได้เยี่ยมขนาดไหน และพวกเขายังพูดกันอีกด้วยว่า พวกเราเป็นทีมยูไนเต็ดชุดที่ไม่ได้ดีขนาดนั้นเมื่อเทียบกับชุดก่อนๆของผู้จัดการทีม โอเค ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง ทำไมพวกเราถึงตามหลังซิตี้แค่ผลต่างประตูได้เสียล่ะ?

ถ้าจะมีใครซักคนที่รู้ว่าพวกเรารู้สึกยังไง นั่นก็คือ Gary Nev เขาอยู่บนหน้าจอทีวีค่อนข้างบ่อยและเขาพูดซ้ำไปซ้ำมาอยู่ตลอด “ถ้ายูไนเต็ดเสียแชมป์ลีก แค่เพราะผลต่างประตูได้เสีย ผู้จัดการทีมคงจะเกลียดมันมากกว่าใครอื่น เพราะมันเหมือนฝันร้ายเลยที่มีคะแนนเท่ากับทีมแชมป์ แต่เอื้อมไปสัมผัสถ้วยแชมป์ไม่ได้ มันไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว”

ผมพยายามกลับมาคิดทำไมพวกเราถึงผิดพลาดกัน พวกเราเสียประตูโง่ๆจากเกมที่พวกเราควรจะชนะ ผมคิดว่าเราทำเป็นเล่นไปในบางครั้งจากที่ปกติเราจะต้องปิดเกมได้ พวกเราลืมความสำคัญในการชนะเกมไป พวกเราพยายามจะยิงเพิ่มให้ได้มากขึ้นแทนที่จะป้องกันประตูไม่ให้อีกฝั่งยิงได้

มันเป็นแบบนี้เหมือนกันในแชมป์เปี้ยนส์ลีก พวกเราดร็อปแต้มในแมตช์ที่พวกเราต้องชนะ พวกเราแสดงให้เห็นถึงการขาดประสบการณ์ในเกมกับบาเซิ่ลและเบนฟิก้าในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งเป็นเกมที่ยาก แต่มันก็เป็นเกมที่เราควรคว้า 3 แต้ม ในค่ำคืนเหล่านั้น พวกเราลืมว่าพวกเราจะต้องป้องกันยังไง พวกเราแค่ต้องการบุกให้มากที่สุด

และนั่นก็ส่งผลต่อฤดูกาลของพวกเรามาก

ผู้จัดการทีมก็สามารถเห็นมันได้เช่นกัน หลังจากความพ่ายแพ้กับวีแกน พวกเราถล่มวิลล่าไป 4-0 ผมยิงได้ 2 ประตู โดยหนึ่งในนั้นเป็นจุดโทษ แต่ก็เป็นอีกครั้งที่ทีมเล่นได้ไม่ค่อยดีทั้งๆที่สกอร์ขาดก็ตาม ผู้จัดการทีมวิจารณ์ผมหลังเกมนั้น “Wayne จะต้องลงเล่นในเกมที่สูสี เกมที่ทั้งสองฝั่งต่างก็มีคุณภาพใกล้เคียงกันและมีการแข่งขันที่สูง แต่ถ้าเป็นเกมที่สบายๆแล้ว เขาจะแย่กว่าคนอื่นในทีมทั้งหมดเลยล่ะ เพราะเขาชิวกับมันมากไปหน่อย มันจะดีกว่าในเกมที่กดดัน นั่นจะทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่มหัศจรรย์มาก”

ผมไม่ได้บ่นอะไร ผมคิดว่าเขาพยายามทำพวกเรามีสติมากขึ้นในช่วงที่เหลือของฤดูกาล เขาจำเป็นต้องทำอย่างนั้น มันไม่มีช่องว่างสำหรับความผิดพลาดอีกแล้ว

หลังจากความพ่ายแพ้ที่เอติฮัดสเตเดี้ยม พวกเราเอาชนะสวอนซีในบ้าน 2-0 ซิตี้ก็เอาชนะนิวคาสเซิลที่เซนต์เจมส์ปาร์ก 2-0 และทุกอย่างต้องมาตัดสินกันในเกมสุดท้ายของฤดูกาล

พวกเราซ้อมได้ดีตลอดสัปดาห์ ผู้จัดการทีมโฟกัสกับแมตช์นี้มากๆ เขาบอกพวกเราว่าพรีเมียร์ลีกมันคือการที่ซิตี้แพ้และพวกเราชนะ พวกเขาจะเปิดบ้านเจอ QPR ส่วนพวกเราจะออกไปเยือนซันเดอร์แสนด์ ทุกๆคนคาดกันว่าซิตี้จะเก็บ 3 แต้มได้สบายๆ สิ่งที่พวกเราพอจะทำได้ก็คือ ชนะเกมของพวกเรา และภาวนาให้ QPR สามารถสร้างปาฏิหาริย์ให้ได้

สิ่งที่ดีก็คือ QPR จะต้องเก็บแต้มให้ได้ในแมตช์นี้ พวกเขานำหน้าโบลตันในโซนตกชั้นอยู่แค่ 2 คะแนน และจำเป็นที่จะต้องเก็บแต้มจากเกมนี้ให้ได้เพื่อทำให้มั่นใจว่าพวกเราจะอยู่รอด 100% แต่ถ้าโบลตันเกิดแพ้หรือเสมอกับสโต๊กขึ้นมา QPR ก็จะรอดตกชั้นไม่ว่าผลจะออกมายังก็ตาม นี่เป็นฤดูกาลที่วัดกันจนถึงนัดสุดท้ายเลยจริงๆ

จากนั้นผู้จัดการทีมบอกให้พวกเราคาดหวังกับสิ่งที่ไม่ควรจะหวัง “ถ้ามันเกิดขึ้นจริง ถ้าซิตี้พลาด มันจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับพวกเรา” เขาพูดในมื้อเที่ยงของวันหนึ่งขณะที่ทุกคนกำลังนั่งกินข้าว รายล้อมกันอยู่ในโรงอาหาร “ในปี 1995 พวกเราต้องออกไปเยือนเวสต์แฮม และแบล็คเบิร์นลงสนามเจอกับลิเวอร์พูล แบล็คเบิร์นจะต้องชนะเพื่อการันตีแชมป์ ถ้าพวกเขาเสมอและพวกเราชนะ พวกเราจะกลายเป็นทีมที่ชนะลีก ไม่มีใครคาดหวังว่าลิเวอร์พูลจะส่งยูไนเต็ดเป็นแชมป์ด้วยการชนะแบล็คเบิร์น แต่พวกเขาก็ทำมัน ปัญหาอย่างเดียวก็คือพวกเราเสมอกับเวสต์แฮม ดังนั้นแบล็คเบิร์นจึงคว้าแชมป์ไปในปีนั้น”

“ชั้นไม่ต้องการให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ดังนั้นทำหน้าที่ของพวกนายให้เต็มที่และเอาชนะซันเดอร์แลนด์ให้ได้ และปล่อยให้สิ่งที่เหลือ ให้มันเป็นไปตามที่มันจะเกิด”



ผมพยายามไม่คิดอะไร คิดซะว่ามันเป็นสัปดาห์ปกติเพราะผมรู้ดีว่าการคิดมากเกินไป การไปโฟกัสกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องจะทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่ดี

อยู่ในเกมของพวกเราไว้ นึกถึงแค่เรื่องการทำประตูและเล่นให้ดี ออกไปทำหน้าที่ของนาย

เมื่อเกมนั้นมาถึง พวกเราเริ่มต้นได้ดี พวกเราออกไปทำหน้าที่ของพวกเรา

ผมทำประตูได้ ส่งให้พวกเรากลับขึ้นไปอยู่บนหัวตารางอีกครั้ง จากนั้นซิตี้ก็ขึ้นนำที่เอติฮัด กองหลังของพวกเขา Pablo Zabaleta ทำประตูได้ก่อนจะหมดเวลาครึ่งแรก มันน่าโมโหนะ เมื่อซิตี้ทำประตูได้และข่าวก็ถูกแพร่ออกมาเต็มไปหมด แฟนๆของพวกเราเงียบเสียงลง เหมือนกับพวกเราเสียประตูยังไงอย่างงั้น

แต่มันยังไม่จบ หลังจากนั้นในนาทีที่ 47 QPR ทำสิ่งที่ไม่คาดคิดและยิงประตูตีเสมอได้ แฟนๆยูไนเต็ดที่อยู่ตรงมุมของสเตเดี้ยมออฟไลท์กลับมามีกำลังใจอีกครั้ง 20 นาทีหลังจากนั้น QPR ทำสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้อีกครั้งและขึ้นนำ 2-1 แฟนๆของพวกเราต่างคลุ้มคลั่ง ผู้เล่นต่างก็รู้สึกได้ว่าแชมป์พรีเมียร์ลีกกำลังจะกลับมาอยู่ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่มีใครคาดคิด นี่มันจบแล้วหรอ? ซิตี้พลาดมันจริงๆอย่างงั้นหรอ?

หลังจากสิ้นเสียงนกหวีด มีแต่ความสับสนเต็มไปหมด ผมมองไปที่ม้านั่ง พยายามจะหาคำตอบว่าพวกเราเป็นแชมป์แล้ว ทุกๆคนต่างจ้องกันไปมาและยักไหล่ Phil Jones นั้นดูตกตะลึงมากๆและแทบจะเสียสติ จากนั้นแฟนๆซันเดอร์แลนด์เริ่มส่งเสียงเชียร์ พวกเขาหันหลังให้และกระโดไปมา

นั่นมันคือ The Poznan การฉลองของแฟนซิตี้เมื่อพวกเขาทำประตูได้ ซึ่งพวกเขาเลียนแบบแฟนๆของทีมเลซพอซนัน โอ้พระเจ้า ซิตี้ พวกเขาเป็นแชมป์เปี้ยน

ผู้จัดการทีมเดินเข้ามาหาพวกเรา บอกให้พวกเราไปขอบคุณแฟนๆ แต่ใจของผมนั้นแหลกสลาย ผมรู้ว่ามันจบลงแล้ว ผมได้ยินใครบางคนตะโกนขึ้นมาว่า “ซิตี้ทำได้ 2 ประตูช่วงทดเจ็บ” และนั่นทำให้ผมรู้สึกป่วย ผมเดินไปที่ขอบสนาม แฟนๆต่างปรบมือให้พวกเรา แต่ผมสามารถเห็นได้เลยว่าใจของพวกเขาแหลกสลาย ผมรู้ว่าพวกเขารู้สึกยังไง จากนั้นผมเห็นแฟนๆซันเดอร์แลนด์ต่างพากันหัวเราะพวกเรา เพราะว่าพวกเราเสียแชมป์ให้กับซิตี้ในนาทีสุดท้ายงั้นหรอ? เขามาเกี่ยวอะไรกับพวกเราด้วยเนี่ย? ผมคิดเกี่ยวกับการเล่นกับซันเดอร์แลนด์ในฤดูกาลหน้า และถล่มพวกเขา พยายามคิดอะไรอย่างอื่นนอกเหนือจากซิตี้ เพราะมันคงจะทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น



ในคืนนั้น ผมกลับมารู้สึกแย่อีกครั้ง

Match of the Day บนทีวี

ผู้เล่นบางคนไม่ชอบดูตัวเองบนทีวีเมื่อพวกเขาแพ้แต่ผมทำได้ ผมต้องดูเพื่อที่จะหาข้อผิดพลาดของตัวเอง แต่คืนนั้นผมกลับรู้สึกประหลาด พวกเราชนะ ผมยิงได้ แต่พวกเรากลับรู้สึกเป็นผู้แพ้ พวกเราจบที่อันดับสอง

ผมนั่งอยู่หน้าหน้าจอทีวีด้วยความบ้าคลั่ง โคลีนปล่อยให้ผมอยู่คนเดียว เธอรู้ว่าผมจะต้องบ่นเรื่องนี้อีกพักใหญ่ จากนั้นกล้องก็ฉายไปที่เอติฮัดสเตเดี้ยม และผมก็แทบจะยังไม่เชื่อเลยว่ามันจะจบลงแบบนั้น

กล้องจับภาพพวกเรากำลังยืนงงหลังเกมกับซันเดอร์แลนด์ ผู้จัดการทีมก็เดินไปรอบๆ และทุกอย่างเริ่มดูแย่สำหรับพวกเราเมื่อซิตี้ได้เวลาทดเจ็บห้านาที ห้านาทีที่จะเปลี่ยนรูปร่างของตารางลีก ถึงแม้ว่าผมจะรู้อยู่แล้วว่ามันผลลัพธ์มันออกมายังไง แต่ผมก็ไม่สามารถทนดูได้ มันเหมือนกับผมเป็นคนขับรถ กำลังจ้องรถที่จะชนกันบนมอเตอร์เวย์อย่างงั้นแหละ

ผมสามารถเห็นแฟนๆซิตี้ พวกเขาหลายคนกำลังร้องไห้ขณะที่เกมกำลังดำเนินไป พวกเขาคิดว่าทีมของพวกเขากำลังจะโยนถ้วยแชมป์ทิ้ง และเมื่อเวลาเดินไปถึงนาที 91 ซิตี้ทำประตูได้ Edin Dzeko 2-2

และจากนั้นมันก็มาถึง ประตูที่พรากแชมป์ไปจากพวกเรา

ในนาที 93 Aguero ยิงอีกครั้ง ซิตี้เป็นผู้ชนะ พวกเราแพ้ ซิตี้คว้าถ้วยแชมป์ไป



ผมปิดทีวี

เงียบ

Gary Neville พูดถูก มันไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่าการที่เรามีคะแนนเท่าแชมป์เปี้ยนแต่ได้แค่ที่สองอีกแล้ว

ผมต้องการไปนอนและจบทุกอย่างลง แต่ผมรู้ว่านั่นจะเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดสำหรับผม เพราะในหัวของผม เหมือนผมติดอยู่ในวงกลม วงแล้ววงเล่า และในหัวก็เล่นภาพซ้ำ ผมจมอยู่กับการพลาดโอกาสทำประตู จุดโทษที่พวกเราไม่ได้มา โอกาสต่างๆที่ล้ำหน้า ผมจะสามารถหลับได้ยังไงกันเมื่อทั้งหมดที่อยู่ในหัวของผมนั้น คือประตูที่พวกเราสามารถทำได้

และเมื่อทุกๆอย่างจบลง มันก็กลับมาสู่เรื่องเดิมๆอีกครั้งในทุกๆปี ยูไนเต็ดนั้นจบแล้ว พวกเขาจะไม่ชนะลีกอีกนาน

พวกเราถูกคาดว่าจะไม่ชนะลีกในอีกหนึ่งถึงสองซีซั่น คนจะคิดอย่างนั้นก็ได้เพราะซิตี้พึ่งจะกลายเป็นทีมที่ดีที่สุดในลีก เชลซีก็เช่นกัน พวกเขาเอาชนะแชมป์เปี้ยนส์ลีกในการดวลจุดโทษกับบาเยิร์น มิวนิค มันก็เหมือนกับพวกเขานำหน้าเราอยู่ก้าวหนึ่งน่ะแหละ

แต่พูดตรงๆเลยนะ ผู้คนน่ะมักจะลืมง่าย พวกเขาเคยกาชื่อพวกเราทิ้งตอนปี 2004 และถัดจากนั้นเรื่อยมา จนถึงตอนนี้ผมคว้าแชมป์ลีกไปแล้ว 4 ครั้ง ไม่แย่สำหรับทีมที่ถูกคาดว่าจะไม่มีโอกาส



บางทีมันก็เป็นแค่ความคิดของผู้คน ที่พวกเขากาเราออกจากทีมลุ้นแชมป์นั้นคงเพราะเขาเบื่อกับการที่เห็นยูไนเต็ดได้แชมป์อยู่ตลอดเวลา ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่สนใจ แต่ผมเรียนรู้อยู่หนึ่งสิ่ง เมื่อพวกเราล้มลงแล้ว อย่ากาชื่อเราออกเด็ดขาด

และสิ่งที่ตลกก็คือ พอผมย้อนกลับไปมองความล้มเหลวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความพ่ายแพ้ในแชมป์เปี้ยนส์ลีกรอบชิงกับบาร์ซ่า หรือความพ่ายแพ้กับซิตี้จากผลต่างประตูได้เสีย ทั้งหมดนี้มันช่วยขับเคลื่อนผม มันทำให้ความสำเร็จแต่ละครั้งนั้นดูหอมหวานมากยิ่งขึ้น

และมีอยู่หนึ่งสิ่งที่ผมตระหนักได้หลังจากลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมากว่า 1 ทศวรรษ ผมเป็นคนโลภที่อยากได้ความสำเร็จอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการยิงประตู ถ้วยแชมป์ลีก ถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ลีก ถ้วยสโมสรโลก ลีคคัพ เอฟเอคัพ ถ้วยไหนที่ผมลงเล่นก็ตาม ผมอยากได้มันทั้งหมด เพราะว่าการที่คว้ามันมาได้อย่างแชมป์ลีกครั้งแรกในปี 2007 นั้น มันเป็นความรู้สึกที่ดีที่สุดเลยล่ะ ผมต้องการที่จะฝันอีกครั้ง ซื่อสัตย์กับตัวเองและทำงานให้หนักเพียงพอ เพื่อที่จะคว้ามันมาให้ได้มากขึ้นและมากขึ้นไปอีก

เมื่อผมเลิกเล่น ผมต้องการจะถูกจดจำอย่างผู้ชนะ และผมก็ตัดสินใจที่จะไปให้ถึงจุดนั้น

ในอีกสิบปีข้างหน้า ผมต้องการให้แฟนๆจดจำผมว่า ผมเป็นคนที่ให้ทุกอย่างกับพวกเขา อย่างที่ผมพูดกับเพื่อนของผมก่อนที่จะลงประเดิมสนามในพรีเมียร์ลีก

แค่จ่ายบอลมาให้ผม ผมจะจัดการเอง

ผมไม่กลัว…

ผมต้องการมัน


Credit: แปลจากหนังสือ WAYNE ROONEY MY DECADE IN THE PREMIER LEAGUE

แก้ไขล่าสุดโดย RobBenzBC เมื่อ Sat Apr 17, 2021 20:53, ทั้งหมด 2 ครั้ง
8
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ฝากช่อง Fantasy Premier League ด้วยครับ --> FPL Carletto
https://www.youtube.com/channel/UC1w2pSD6NZIfK5-dl8hZuRA
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status: 21.30 - 04.00
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 17 Nov 2006
ตอบ: 11085
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Apr 17, 2021 13:13
[RE: [บทความ]ดราม่าแชมป์พรีเมียร์ปี11/12]
อ่านเพลินดี ซีซั่นนี้ก็น่าจะ 8 คะแนน เหลือ 6 เกมเหมือนกัน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 784
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Apr 17, 2021 13:50
[RE: [บทความ]ดราม่าแชมป์พรีเมียร์ปี11/12]
มีบทความของพาทก่อนๆไหมครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Mar 2019
ตอบ: 2331
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Apr 17, 2021 15:39
ถูกแบนแล้ว
[RE: [บทความ]ดราม่าแชมป์พรีเมียร์ปี11/12]
เอาตรง ๆ เหมือนประมาทกันเองด้วย เสมอ เอฟ แพ้ วีแกน จบเลย
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 3010
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Apr 17, 2021 16:11
[RE: [บทความ]ดราม่าแชมป์พรีเมียร์ปี11/12]
เกม เสมอ เอฟแม่งเจ็บสุดละ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
เซียนพนันแผล่บ
Status: เนี่ยถ้าคุณติดคุกอะ แล้วภาษาคุกคุณไม่รู้อะ แล้วถ้า
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Feb 2011
ตอบ: 9859
ที่อยู่: FOOTBALLSUCKPLAB
โพสเมื่อ: Sat Apr 17, 2021 17:50
[RE: [บทความ]ดราม่าแชมป์พรีเมียร์ปี11/12]
เสมอเอฟ
เฟลไลนี่
สมอลลิ่งจำได้แม่น
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
เรื่องแบบนี้ถ้าเป็นที่ลาสเวกัสผมนึกภาพไม่ออกจริงๆ
힘든 나를 지켜 바라봐 줄 한 사람, 너인 것 같은 기분 드는 걸

ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 3042
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Apr 17, 2021 17:51
[RE: [บทความ]ดราม่าแชมป์พรีเมียร์ปี11/12]
kitpokkrong พิมพ์ว่า:
อ่านเพลินดี ซีซั่นนี้ก็น่าจะ 8 คะแนน เหลือ 6 เกมเหมือนกัน  

แต่สลับฝั่งกันใช่มั้ยครับ
แก้ไขล่าสุดโดย RobBenzBC เมื่อ Sat Apr 17, 2021 17:53, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ฝากช่อง Fantasy Premier League ด้วยครับ --> FPL Carletto
https://www.youtube.com/channel/UC1w2pSD6NZIfK5-dl8hZuRA
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 3042
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Apr 17, 2021 17:52
[RE: [บทความ]ดราม่าแชมป์พรีเมียร์ปี11/12]
Silver ^^ Bullet พิมพ์ว่า:
มีบทความของพาทก่อนๆไหมครับ  

มีครับ ลองเข้าไปดูในห้องล็อคเกอร์ของผมดูได้ครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ฝากช่อง Fantasy Premier League ด้วยครับ --> FPL Carletto
https://www.youtube.com/channel/UC1w2pSD6NZIfK5-dl8hZuRA
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel