เรื่องนี้เป็นหัวข้อที่ผมตั้งใจจะเขียนมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้เขียนซักที เพราะรู้ว่าถ้าเขียนแล้วจะยาวเลยขี้เกียจ
แต่วันนี้จากที่เห็นกระทู้ของ
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1978787 ที่อ้างถึงพระเกจิเลยคิดว่า เอาวะคงถึงเวลาแล้วมั้ง คิดว่าผู้ที่เข้ามาอ่านคงจะได้ประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย
ก่อนจะกล่าวถึงประเด็นที่ จขกท.ดังกล่าวอ้างถึงพระเกจิ ผมขอมาที่ประเด็นที่คนมักตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมคนที่เหมือนจะธรรมะธรรมโมส่วนใหญ่จะเป็นสลิ่ม ซึ่งผมพอจะวิเคราะห์ได้ว่า เนื่องจากศานาส่วนใหญ่จะอาศัยศรัทธา (ความเชื่อ) ของผู้นับถือในการขับเคลื่อน และคนสมัยก่อนส่วนใหญ่จะผูกพันกับศาสนามากกว่าคนสมัยปัจจุบัน แต่เป็นการผูกพันในลักษณะของความเชื่อมากกว่าการพิสูจน์ให้เห็นจริงตามแก่นของพุทธ และมักเอาพราหมณ์มาปนกันมั่วไปหมด
แต่ทั้งนี้ศานาพุทธที่แท้จริงจะแตกต่างกับศาสนาอื่น ตรงที่เป็นศรัทธาที่ประกอบด้วยปัญญา ซึ่งในความเป็นจริงทางพุทธจะเอาปัญญานำศรัทธาด้วยซ้ำ เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนให้อย่าพึ่งเชื่ออะไรง่ายๆ ตามหลักกาลามสูตร แต่ให้พิสูจน์จนชัดแจ้งซะก่อนแล้วจึงเชื่อ และพระองค์ทรงตำหนิคนที่เชื่อพระองค์โดยไม่พิสูจน์ด้วยซ้ำ
ด้วยเหตุผลดังกล่าว คนที่นับถือพุทธอย่างถูกต้องแท้จริง จึงมีซะน้อยยิ่งกว่าน้อย เพราะศานาพุทธจะเป็นศาสนาที่มีเป้าหมายสูงสุดที่เน้นให้กำจัดกิเลส ซึ่งเป็นของยากที่ทวนกระแสของคนทั่วไปที่มักตามใจกิเลสโดยเฉพาะปัจจุบันที่มีวัตถุมากมายเป็นเครื่องกระตุ้นกิเลสซะส่วนใหญ่ เลยมีน้อยคนที่จะเข้ามาพิสูจน์ความจริงที่พระพุทธเจ้าสอน และพอมีคนมาสนใจแล้วมักหลงทางเอาศรัทธานำปัญญา เพราะเป็นพื้นฐานนิสัยของคนไทยสมัยก่อนซะส่วนใหญ่
ทีนี้ก็ย้อนกลับมาที่ประเด็นว่าศาสนาพุทธ เกี่ยวกับการเมืองยังไง ผมก็ขอโยงเข้ามาที่ประเด็นหลักของม็อบตอนนี้ที่ออกมาเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันเป็นประเด็นสำคัญ เพราะเชื่อว่าถ้าแก้เรื่องนี้ได้แล้ว ปัญหาอื่นๆก็จะแก้ได้ตามมา
ในแง่ของของพุทธนั้น พระพุทธเจ้าท่านทรงให้ความสำคัญกับการเมืองและความเสมอภาคจากการปฏิเสธเรื่องชนชั้นวรรณะตั้งแต่เริ่มแรก และทรงตัดสินคุณค่าของคนจากการกระทำไม่ใช่ชาติกำเนิด ดังจะเห็นได้จากการที่แม้แต่กษัตริย์ยังต้องยกมือไหว้ให้ความเคารพพระ (ในสมมุติฐานที่พระรักษาศีลและพระวินัยได้อย่างดีและมีการตรวจสอบแบบจริงจังได้แบบสมัยก่อน)หรือแม้แต่คนจัณฑาลที่มาบวชเป็นพระก่อนกษัตริย์ที่มาบวชภายหลัง พระที่มาจากกษัตริย์ยังต้องให้ความเคารพตามอายุพรรษา
เรื่องนี้จะเห็นได้จากแถลงการณ์ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ (มหาลัยของพระ)ในย่อหน้าที่ 2 ตามรูป จาหเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงปราบม็อบเมื่อปลายปีที่แล้ว
กลับมาที่ประเด็นที่ จขกท.tamootaro ได้พิมพ์ไว้ตามที่ท่าน ThisIsMelo แค้ปมาว่า
ขนาดพระอริยสงฆ์
เกจิอาจารย์ หลายองค์ก็เคยบอกแล้วว่า
พระองค์ ทรงดีขนาดนี้
หากใครเกลียดพระองค์ท่าน มันก็คือ พวกมาร
พวกมาร มักไม่ชอบคนดี
ฉันใดก็ฉันนั้น
ผมมีข้อสังเกต 2 ข้อคือ
1) เราได้ยินเสียงพระเกจิท่านพูดกับหูหรือมีบันทึกเสียงที่เราได้ฟังกับตัวเอง หรืออาจจะเป็นเพียง Propaganda ที่รัฐพยายามสร้างขึ้นมา เพื่อหวังผลประโยชน์บางประการ
2) ต่อให้เรื่องนี้เป็นความจริง ในชีวิตคนคนนึงตราบใดที่ยังมีกิเลส ไม่ใช่พระอริยสงฆ์ ก็ยังสามารถทำผิดศีลผิดธรรมได้ เรื่องดีก็ส่วนเรื่องดี เรื่องชั่วก็ต้องแยกออกมา แต่การที่รัฐพยายามสื่อสารด้านดีอย่างเดียวผมไม่เห็นด้วย
และถ้าคุณ tamootaro ศึกษาธรรมะ และได้ดูข้อความที่พระเกจิพูดถึงในหลวง ร.9 จริง จะมีพระอริยสงฆ์รูปนึงผมจำชื่อไม่ได้บอกว่า ร.9 ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ (ผู้มาบำเพ็ญเพียรเพื่อเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต)แล้วคุณ tamootaro รู้หรือเปล่าว่าการเป็นพระโพธิสัตว์นั้น จะต้องเกิดตายนานกว่าคนทั่วไปที่ตั้งเป้าหมายที่นิพพานโดยตรง เพราะต้องบำเพ็ญเพียรเพื่อมาเป็นพระพุธเจ้าซึ่งเป็นของยาก และต้องเกิดตายแบบขึ้นสูง ลงต่ำแบบแม้กระทั้งต้องลงไปอยู่ในนรก เป็นเรื่องธรรมดา
โดยส่วนตัวผมไม่ได้มีปัญหากับกษัตริย์องค์ใด ผมยังคงชื่นชมพระราชกรณียกิจของ ร.9 ที่ท่านทรงทำด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่าสิ่งที่ท่านทำจะเป็นความจริงหรือไม่ก็ตามเน่ืองจากมีเรื่องประเด็นเรื่อง Propaganda เข้ามาเกี่ยว เพราะผมไม่ได้ยึดความดีที่ตัวบุคคล แต่ยึดความดีที่เป็นนามธรรมเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต ผมจึงไม่เคยผิดหวังถึงแม้ว่าบางเรื่องที่เคยรู้มาอาจจะไม่ใช่ความจริงก็ตาม
และต่อให้ปัจจุบัน ร.9 ยังทรงครองราชย์อยู่ ผมก็ยังคงเห็นว่าควรมีการปฏิรูป เพราะผมมองว่าควรมีการแก้ที่ระบบให้ดี ระบบจะควบคุมคนไม่ให้ทำชั่วได้โดยตัวมันเอง
สุดท้ายนี้ สำหรับเพื่อนๆ สมาชิก ซึ่งผมรู้ว่าส่วนใหญ่ไม่เชื่อเรื่องของกรรม เพราะเห็นสภาพของนักการเมืองหรือพระสงฆ์ในปัจจุบันหรือแม้แต่เรื่องของวองโกเล่ ผมอยากบอกว่าจากประสบการณ์ในการปฏิบัติธรรมที่ผ่านมาร่วม 20 ปี ไปอยู่วัดป่ามาก็แล้ว ผมเจอเรื่องลี้ลับ เรื่องวิญญาณมามากมาย หรือแม้แต่เรื่องอำนาจจิตที่พระอาจารย์ที่ดูแลผมที่วัดป่ารู้สิ่งที่ผมคิดหรือได้ยินสิ่งที่ผมพูดทั้งที่ท่านอยู่ห่างหลายกิโล ผมก็เจอเรื่องพวกนี้จนเป็นเรื่องปกติ
ผมอยากจะยืนยันว่าเรื่องเวรกรรม การเวียนว่ายตายเกิด ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นจริงแน่นอน และผมก็ไม่ได้อยากให้เชื่อที่ผมกล่าวมา แต่อยากให้เพื่อนๆ ใช้ปัญญาพิจารณาและพิสูจน์ด้วยตนเอง ไม่ใช่แค่จากการอนุมานหรือคาดเดาอย่างผิวเผิน เพราะเรื่องกรรมเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อน และศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งความจริง แต่เป็นความจริงทางจิตที่รอให้ผู้มาพิสูจน์จากการปฏิบัติจริง ดังคำกล่าวบูชาพระธรรมคุณ ดังนี้
- อ่าน
สะหวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฺฐิโก
อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง
เวทิตัพโพ วิญญูหีติ
- แปล
พระธรรม เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว
เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง
เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล
เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด
เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว
เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน ดังนี้...
ปล.ว่าแต่ผมพิมพ์มาแบบนี้จะโดน 112 มั้ยวะเนี่ย