ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Dec 2020
ตอบ: 53
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Feb 28, 2021 07:51
ถูกแบนแล้ว
[Chelsea] ผลไม้ต้องห้ามแห่งแสตมฟอร์ด บริดจ์


แม้ว่าพื้นที่จะเล็กกว่าประเทศไทยถึง 16 เท่าตัว การรวมตัวกันของชุมชนจากประเทศฝรั่งเศสและประเทศเนเธอร์แลนด์ ทำให้เกิดอาณาจักรใหม่ขึ้นมากั้นระหว่างรอยต่อ ก่อนที่จะมีชุมชนสุดท้ายจากเมืองเบียร์ เขยิบเข้ามาสร้างความสมบูรณ์ ผสานจิ๊กซอว์ชิ้นใหม่นี้ให้กลายเป็น "ดินแดนเบลเยี่ยม"

ราว 31% ของประชากรทั้งประเทศ พักอาศัยอยู่ทางตอนใต้ที่ "ชุมชนคนพูดภาษาฝรั่งเศส" ณ เขตวัลโลเนีย ที่กินพื้นที่ไปกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งอาณาจักร เราสามารถพูดอีกอย่างได้ว่า บรรพบุรุษที่มาตั้งถิ่นฐานที่นี่ก็คือ คนฝรั่งเศสนั่นแหละครับ

'แครีน' อดีตศูนย์หน้าดิวิชั่น 1 แห่งวงการลูกหนังหญิงเบลเยี่ยม พบรักกับ 'เธียร์รี่' มิดฟิลด์ตัวรับหนุ่มกึ่งอาชีพ ที่รับชมเกมฟุตบอลนัดหนึ่ง ภายหลังที่ทั้งคู่ร่วมหอครองเรือนด้วยกัน ฝ่ายภรรยาตัดสินใจแขวนสตั๊ดทันทีที่ตั้งท้องได้ 3 เดือน ให้กำเนิดบุตรชายคนแรกในปี 1991 ส่วนคุณสามีก็รู้สึกว่า อาชีพนักฟุตบอลไม่น่ารอดแล้ว ขืนเล่นต่อไปคงได้กัดก้อนเกลือกินเป็นแน่

แต่ด้วยความรักในอาชีพฟุตบอลอย่างบ้าคลั่ง ทั้งคู่จึงตัดสินใจผูกเชือกรองเท้าและสวมกางเกงวอร์ม เป็นครูสอนพละแทน

พวกเขาส่งลูกชายคนโตในวัย 4 ขวบ เข้าอคาเดมี่ที่ Royal Stade Brainois ที่มีสนามซ้อมห่างจากบ้านเพียง 300 เมตร โดยใช้เวลาทั้งหมด 8 ปี ก่อนย้ายมาที่ A.F.C Tubize ด้วยเหตุเพราะเด็กคนนี้เก่งเกินไป และคำอธิบายง่ายๆเมื่อกี้แหละครับ ที่ทำให้แมวมองของลีลล์รีบดึงตัวเขาเข้าร่วมทีม

"ผมไม่รู้จะสอนอะไรเขาเลย เขารู้ทุกอย่างอยู่แล้ว" โค้ชอคาเดมี่ของ Royal Stade Brainois ตัดพ้อถึงความล้ำหน้าของศิษย์ตัวน้อย

ในวัย 14 ขวบ เขาได้พบกับ 'นาตาชา' เป็นครั้งแรก ในฐานะเพื่อนสนิทที่สุด ทั้งคู่เริ่มเดทกันในช่วงเวลาที่ไม่ดีเท่าไรนัก เพราะพวกเขาเริ่มต้นกันได้ไม่นาน ชายหนุ่มก็ต้องย้ายไปฝรั่งเศสเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพการงาน ส่วนแฟนสาวอย่างนาตาชาก็ยังเรียนอยู่ ทั้งคู่จึงจำใจต้องแยกจากกันอย่างน่าเศร้า

แต่เอาเถอะ เพราะหลังจากเรียนรู้ได้เพียง 2 ปีกับลีลล์ ทีมชาติเบลเยี่ยมชุด U17 ก็มอบโอกาสให้กับเขา โดยรับบทยิงจุดโทษตีเสมอเนเธอร์แลนด์ 2-2 ในทัวร์นาเม้นต์แรก ด้วยทักษะแพรวพราวหาตัวจับยาก จึงถูกเลื่อนไปเล่นให้ทีมชาติชุด U19 เป็นความหวังใหม่ที่สื่อในประเทศจ้องจับตามอง พร้อมนำไปเปรียบเทียบกับ เอ็นโซ ซีโฟ ตำนานกองกลางตัวรุกที่เก่งกาจที่สุดของ "ปีศาจแดงดำแห่งยุโรป"

ยอดเพลย์เมกเกอร์เจ้าของฉายา "The Forbidden Fruit" หรือ "ผลไม้ต้องห้ามแห่งเดอะบริดจ์" กับซีรี่ย์ Chelsea Legend EP.10 เอเด็น อาซาร์ เจ้าอ้วนขี้เซาอารมณ์ขัน เดอะแบกตัวจริงของสิงโตน้ำเงินคราม



ความเฮฮาเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ผู้คนหลงรักเขา คุณคงรู้ใช่ไหมล่ะว่า ชื่อของเขามาจากสวนอีเด็นในคัมภีร์ไบเบิ้ล ซึ่งอาซาร์บอกว่า อดัมกับอีฟเนี่ย คิดจะกินอะไรก็กิน ไม่ยอมขออนุญาตเขาก่อนเลย ก็ว่าไปนั่น

มาพูดถึงชื่อกลางที่เข้าเค้ากันเป็นอย่างดีสักนิดนึง ซึ่งนั่นก็คือ 'Michael' หรือ 'มิคาเอล' ที่หมายถึง อัครทูตสวรรค์ ผู้นำแห่งกองทัพในการสู้รบกับเหล่าปีศาจและซาตาน บางทฤษฎีก็บอกว่า พระเยซูคริสต์นี่แหละคือมิคาเอล ก็แล้วแต่ความเชื่อคนครับ ถ้าใครมีความรู้ด้านนี้จะเพิ่มเติมให้ผมก็ยินดี

การเติบโตมาในครอบครัวนักฟุตบอลที่คลั่งไคล้กันทั้งบ้านก็ดีเหมือนกัน อาซาร์กล่าวติดตลกว่า เพราะแม่ของเขากำลังง้างเท้ายิงไปด้วย อุ้มท้องเขาไปด้วย ทำให้เขาชื่นชอบการเล่นเกมรุก มันน่าเสียดายที่ดูเหมือนว่าอาซาร์จะไปได้ไม่สุดในอาชีพการค้าแข้ง เพราะเขามีทุกอย่างที่จะก้าวขึ้นไปแตะระดับเดียวกับเหล่าตำนานทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บัลลงดอร์ ที่เคยเป็นความฝันของเขา

ถึงตรงนี้ผมจะไม่พูดถึงเหตุการณ์หลายๆอย่างที่เชลซี เชื่อว่าทุกคนน่าจะจำได้หรือได้อ่านมาบ้างแล้ว

ขอยกตัวอย่างพอสังเขปสักหน่อย ก็มีเรื่อง "บอลบอย", การทำประตูดับฝันท็อตเทนแน่ม ฮอตสเปอร์ส, ซีซั่นที่ฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย, การกลับมาสร้างชื่ออีกครั้งในยุคของอันโตนีโอ คอนเต้ กับลูกแหวกที่ฉีกแนวรับอาร์เซน่อลเป็นผุยผง และปิดท้ายที่ ยิงเบิ้ลตอกฝาโลงปืนใหญ่ 4-1 ในนัดชิงยูโรป้าลีค ปี 2019 ยังไงก็ลองย้อนไปหารับชมกันดู

ทางด้านชีวิตส่วนตัว เขาเป็นคนติดดินและถ่อมตัวมาก คุณจะไม่ค่อยเห็นอาซาร์แต่งตัวแบบฉูดฉาด หรือขับรถหรูซิ่งไปจอดหน้าผับกรุงลอนดอน คือเขาชอบสะสมรถเป็นกะตักมากนะ มีรายงานว่ามูลค่ารวมๆกันอยู่ที่เกือบ 20 ล้านบาทเลยทีเดียว นี่พี่จะแยกร่างขับทีละ 3-4 คันเหรอไง?

แต่นั่นมันแค่ของชอบที่นับเป็นรสนิยมส่วนตัวครับ เพราะหากเขาขับรถเหล่านี้กลับไปเยี่ยมครอบครัวที่ประเทศฝรั่งเศสล่ะก็ คุณพ่อก็จะโบกหัว พลางแจกพืชผักที่เราเรียกว่า 'ฟัก' สักหนึ่งที แล้วบังคับให้เอาไอ้รถพวกนี้ไปทิ้งซะ มาขับรถเดิมๆของที่บ้านนี่ อย่ามาติดหรูไฮโซให้เห็นเชียว!!! ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็ไม่ได้ขัดใจบุพพาการีแต่อย่างใด

ผมพอเดาได้เลยว่าแก่ตัวไปจะเป็นยังไง ไม่ใช่สายดื่มหนักหรือติดหรูอย่างคนอื่นหรอก คงเป็นตาลุงอ้วนๆที่พาลูกเมียกระหน่ำบุฟเฟ่ต์เสียมากกว่า ไม่รู้จะชมว่าน่ารักหรือด่าว่าน่าถีบดี

ชีวิตการค้าแข้งของเอ็งยังไม่จบนะโว้ย บัลลงดอร์ล่ะ...บังลงดอร์!!



เอาล่ะ ย้อนมาที่ตอนจะเซ็นสัญญาอาชีพในวัย 16 ปีกันก่อน ความเก่งเกินอายุของเอเด็น ทำให้ทีมงานของลีลล์ไม่รอช้า รีบเปิดไฟล์ PDF และปริ้นกระดาษ A4 ออกมาเป็นเอกสารสัญญาให้ครอบครัว "อาซาร์" พิจารณาทันที

ลีลล์การันตีว่า สโมสรมีเครื่องเล่นและเครื่องมือการฝึกซ้อมที่ทันสมัย เตรียมเสิร์ฟและป้อนเข้าปากให้ลูกชายท่านแบบไม่ต้องเคี้ยว ทั้งคู่จึงตอบตกลงฝากอนาคตไว้ที่ 3 ปี และทุกอย่างนับจากนี้คือ กราฟชีวิตที่พุ่งกระฉูดของกัปตันทีมชาติเบลเยี่ยมคนปัจจุบัน

ในปี 2008 เขาลงเดบิวต์ให้ทีมหมาแดงในเกมกับโอแซร์ ซัดประตูตีเสมอให้ทีม 2-2 ก่อนจบเกมจะพาทีมต้นสังกัดเอาชนะไป 3-2 จากประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ตอบแทนความไว้วางใจของ รูดี้ การ์เซีย กุนซือคนใหม่ได้เป็นอย่างดี

เปิดตัวไม่ธรรมดาแบบนี้ ก็สร้างสถิติน่ะสิ เขาเป็นแข้งอายุน้อยที่สุดที่ยิงให้ลีลล์ได้ ก่อนจะปล่อยของมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ลีลล์ทนไม่ไหว ลงโทษด้วยการจับต่อสัญญายาวไปจนถึงปี 2012 จบซีซั่นนั้น เขาคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี เป็นนักตะต่างชาติคนแรกที่ได้รางวัลนี้อีกด้วย

พอเห็นแบบนี้แล้ว แครีนกับเธียร์รี่จึงยุติบทบาทการเป็นครูพละลง โดยมุ่งเป้าไปที่การฟูมฟักและดูแลลูกชายเป็นหลักแทน เพราะอย่าลืมว่า แก็งนี้มีกันถึง 4 คน จากความขยันยามดึกของคุณพ่อ ก็ถือว่าคิดถูกเลยล่ะ เพราะแต่ละคนก็ได้ดิบได้ดี โดยเฉพาะคนโตที่ติดทีมชาติชุดใหญ่แล้วในวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น

ปีถัดมา ดิ๊ค อัดโวคาท ก้าวขึ้นมาเป็นนายใหญ่คนใหม่ของทีมชาติเบลเยี่ยมแทน "เจ้าชายน้อย" แฟรงกี้ เวอร์คัวเตเรน เขาใช้บริการเจ้าหนุ่มน้อยในเกมกับ ฮังการี แบบเต็มเกมครั้งแรก และทำสองแอสซิสต์ช่วยให้ทีมเอาชนะไป 3-0 เหนาะๆ ทำให้ผลงานไปเตะลูกตาดำ 'ไอดอลตลอดกาล' อย่าง ซีเนอดีน ซีดาน ที่ตอนนั้นดำรงตำแหน่งผู้ช่วยของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรของ เรอัล มาดริด

แน่นอน...ซีดานลูบหัวเหม่งพลางกระซิบบิ๊กบอสผู้ทรงอิทธิพลว่า อาซาร์นี่โคตรเจ๋งเลยนะป๋าเรซ

ท่ามกลางความสนใจจากหลายทีมยักษ์ใหญ่มากมาย หากตอนนั้นเขาอยู่ที่ลอนดอน เมืองที่เต็มไปด้วยสีสันและความอัศจรรย์ใจ ผมก็ไม่รู้ว่าทัศนคติเขาจะเป็นยังไงเหมือนกันนะ แต่อาซาร์ก็ตอบคำถามนี้ผ่านการกระทำได้ดีครับ

เขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อติดต่อ 'นาตาชา' รักแรกและรักเดียวของเขาอีกครั้ง...

ด้วยความที่นาตาชาไม่เล่นโซเชี่ยลเลย จึงมีอุปสรรคเล็กน้อยทางด้านการสื่อสาร แต่สุดท้าย ฝ่ายหญิงที่เพิ่งเรียนจบได้ไม่นาน ก็รีบบึ่งน้ำตาคลอเบ้ามาหาถึงฝรั่งเศส ด้วยความรักและความผูกพันที่มีให้กันนานหลายปี ยิ่งห่างยิ่งรัก ยิ่งไกลยิ่งคิดถึง ทั้งคู่ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน จับมือนอนจ้องตา "รู้สึกมีลมพัดไปที่ซอกขา" ให้กำเนิดบุตรชายคนแรกชื่อ "ยานินส์" ในช่วงปลายเดือนธันวาคม

ชีวิตของอาซาร์เป็นไปได้สวยมากๆ แฮปปี้อินเกม & แฮปปี้อินเลิฟ เขาพาลีลล์คว้าดับเบิ้ลแชมป์ ทั้งลีคฝรั่งเศสและบอลถ้วยโคป้า ในซีซั่น 2010-11 เป็นนักยอดเยี่ยมประจำลีค และติดทีมยอดเยี่ยมแบบไร้ข้อกังขาใดใด



"เอเด็นคือยอดพรสวรรค์และรวดเร็ว เขาจะเป็นสตาร์ตัวเก็งในอนาคต ผมจะนำเขามาที่ เรอัล มาดริด" ซีเนอดีน ซีดาน กล่าวไว้ในปี 2010 หลังจากได้เห็นความเก่งกาจของดาวรุ่งเมืองช็อคโกแลต วาฟเฟิล คนนี้

ในฤดูกาลสุดท้ายกับลีลล์ อาซาร์คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมอีกครั้ง ทำสถิติคว้าเกียรติยศนี้สองปีซ้อนเทียบเท่า เปาเลต้า ตำนานของปารีส แซงต์-เฌอแม็งก์ พร้อมเอาชนะในรางวัลขวัญใจมหาชนเหนือ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ กับ โยเนส เบลฮันด้า ณ วันที่ 28 เมษายน 2011

ผ่านไป 1 เดือน เขาซัดแฮตทริคให้ทีมเอาชนะ น็องซี่ 4-1 ปิดฉากสุดยอดนักเตะในเกมสุดท้ายกับ ลีลล์ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก่อนประกาศว่าเขาจะย้ายมาร่วมทัพทีมแชมป์ยุโรปในปีนั้น ซึ่งก็คือ 'เชลซี' นั่นเอง ด้วยค่าตัว 32 ล้านปอนด์ สวมเสื้อเบอร์ 17 แทนที่ของ โจเซ่ โบซิงวา

ถ้าคุณยังจำกันได้ มันมีปรากฎการณ์ 'Mazacar' อยู่ การผนึกพลังของสามแนวรุกมหัศจรรย์ ทั้ง ฆวน มาต้า, ออสก้าร์ และตัวเขา สร้างอิมแพ็คเกมรุกสุดตระการตาให้ 'เสี่ยหมี' เป็นครั้งแรก โดยเขาสถาปนาตัวเองเป็นจอมแอสซิสต์และตัวเรียกจุดโทษ เรียกเสียงฮือฮาให้สโมสรที่เปรียบดั่ง 'เรือรบอัปปางแห่งยุค 2012' ในช่วงเวลาถ่ายเลือดใหม่ได้เป็นอย่างดี

"นายนำโลกทั้งใบมาไว้แทบเท้า สไตล์การเล่นและความสามารถของนายจะทำให้ทุกคนตื่นกลัว" แฟรงค์ แลมพาร์ด กล่าวกับรุ่นน้องวัย 22 ปี ที่ซัดไปทั้งสิ้น 13 ประตูในทุกรายการของซีซั่นแรก พร้อมคว้าถ้วยยูโรป้า ลีค มาเชยชมไปก่อน

ราฟาเอล เบนิเตซ ประกาศก้าวออกจากตำแหน่งรักษาการณ์ไปอย่างชื่นมื่น โดยทิ้งบอมบ์กรุ้มกริ่มให้แฟนเชลซีใจเต้นเล็กน้อยว่า "ทุกคนรู้อยู่แล้วล่ะว่าใครจะมาคุมทีมต่อ" ซึ่งก็ไม่พลิกโผ 'เดอะ สเปเชี่ยล วัน' ขวัญใจแฟนบอลเชลซียุคประวัติศาสตร์นั่นเอง ณ จุดนี้ ผมให้เครดิตน้าแกนะครับว่า เป็นหนึ่งในคนที่ปลุกปั้นอาซาร์ของจริงเลย

"เขาต้องการเวลาที่จะยิ่งใหญ่ เขาอายุ 23 ส่วนคริสเตียนโน่ 28 เมสซี่ 26 มันยังมีเวลาให้เขาเติบโตขึ้น"

น้ามูตอบคำถามนักข่าวเกี่ยวกับความสามารถของเอเด็น แต่ก็ยอมรับว่า อาซาร์เป็นปีกขนานแท้ เขาชอบที่จะทำเกมมากกว่าทำประตู นั่นเป็นอีกเหตุผลว่า การคว้าดาวซัลโวเป็นเรื่องที่เป็นไปแทบไม่ได้



มีไม่กี่คนหรอกที่พวกเราต่างรู้อยู่เต็มอกว่า "ความฝันของนักเตะอยู่ที่ไหน?" แต่ยังพร้อมสนับสนุนตัวเขาอยู่เสมอ คนที่แฟนบอลสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า เขาคือตำนานของสโมสร และเราภาคภูมิใจที่เคยต่อสู้ ฝ่าฟันอุปสรรคมาด้วยกัน

ผมชอบทัศนคติที่อาซาร์เลือกทีมก่อนทุกสิ่งเสมอ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนประตู แอสซิสต์ หรือโอกาสในการสวมปลอกแขน เขายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า เขาอยากเป็นกัปตันทีม แต่ยังมีคนอื่นที่เหมาะสมกว่าอีกหลายคน ซึ่งมันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร

นับตั้งแต่เกมที่เดบิวต์กับ วีแกน แอตเลติก, ซัดประตูครั้งแรกต่อหน้าแฟนบอลใส่ นิวคาสเซิล, คว้ารางวัลผู้เล่นแห่งปีของสโมสร 4 ครั้งใน 7 ปี, จอมยิงประตูในนัดชิงชนะเลิศบอลถ้วย ทั้งเอฟเอ คัพ และยูโรป้าลีค รวมไปถึง จำนวนประตู 110 เม็ด จาก 352 เกมส์ พาทีมคว้าแชมป์ลีคไปอีก 2 ครั้ง เขาคือยอดนักเตะในสายตาผมอย่างแท้จริง ไม่ว่าคนอื่นจะมองอย่างไรก็ตาม

อย่างที่ไนกี้พาดหัวออกมาว่า "เพื่อเป็นเกียรติแก่สโมสรเก่า" อาซาร์ทำโปรเจ็กต์ออกแบบรองเท้าคู่ใหม่ในปีที่เขาย้ายทีม เป็นสโลแกนของ Mercurial สลักไว้ที่สตั๊ด ด้วยสีขาวแถบทอง อันสื่อถึงความเป็นราชันย์แห่งเมืองกระทิง แต่ลงชื่อตัวเองไว้บนแถบสีน้ำเงิน เพื่อยกย่องความสำเร็จและความรักที่มีต่อเชลซี ทัศนคติที่สื่อต่างประเทศยกให้เป็น Classy Tribute ที่พบยากจากนักเตะคนอื่น

Spoil
 


"ผมอยากยิงประตูให้เชลซีมากกว่านี้ จะได้เป็นตำนานที่นี่เหมือนอย่าง แลมพาร์ด, เทอร์รี่ และดร็อกบา"

อาซาร์พูดไว้ในขวบสุดท้ายกับทีม ซึ่งตอนนี้ผมคิดว่าเขาทำมันได้แล้วล่ะ ดูจากผลโพลก็รู้ แฟนๆเชลซีได้ร่วมเข้าไปโหวตให้เขารั้งอันดับที่ 4 เป็นนักเตะเชลซีที่เก่งที่สุดตลอดกาล ตามหลัง 3 คนข้างต้นแบบฉิวเฉียด ก็นับว่าเป็น Ranking ที่เหมาะสมแล้ว

อดีตวันเดอร์คิดที่ย้ายมาเป็นเดอะแบกให้ทีมตั้งแต่ยังเด็กเผยว่า ทุกครั้งที่เขาว่าง เขาก็จะตามดูเกมเชลซีอยู่ เขาเชื่อว่าเชลซีชุดนี้ยังหนุ่มยังแน่นและอนาคตไกล ยังไงวันหนึ่งก็ต้องยังกลับมายิ่งใหญ่ได้แน่ ซึ่งแฟนบอลหลายคนยังคงคิดถึงเขาอยู่เสมอ...อาซาร์เองก็เช่นกัน เขาไม่เคยลืมช่วงเวลาหอมหวานที่ค็อปแฮมเลย

"หลังจากที่ผมจบงานทุกอย่างแล้ว วันหนึ่งผมจะกลับไปหานะ" - เอเด็น อาซาร์ 'ผลไม้ต้องห้ามแห่งแสตมฟอร์ด บริดจ์'
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออนไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Mar 2011
ตอบ: 2654
ที่อยู่: อยู่ทุกที่ ที่อยู่ได้
โพสเมื่อ: Sun Feb 28, 2021 08:41
[RE: [Chelsea] ผลไม้ต้องห้ามแห่งแสตมฟอร์ด บริดจ์]


ฤดูกาลสุดท้ายยังโหดยุเลย ย้ายไปดับเฉย ลูกนี้แทบไม่ค่อยเห็นใครทำได้ในพรีเมียร์
7
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
แขวนสตั๊ด
Status: CFC,ACM,RMCF
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Dec 2007
ตอบ: 52509
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Feb 28, 2021 09:19
[RE: [Chelsea] ผลไม้ต้องห้ามแห่งแสตมฟอร์ด บริดจ์]
ยังไงอ้วนก็คือตำนานของเดอะบริดจ์ ยังไงก็กลับมานะ มาโค้ชให้ๆน้องๆ


สำหรับผมลูกแรกเมื่อคิดถึงอาซาร์คือโซโล่ใส่ปืน

แก้ไขล่าสุดโดย RazeJP เมื่อ Sun Feb 28, 2021 09:21, ทั้งหมด 2 ครั้ง
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
There is no good in anything until it is finished and Do not regret what you have done.
ออนไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 9803
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Feb 28, 2021 10:05
[RE: [Chelsea] ผลไม้ต้องห้ามแห่งแสตมฟอร์ด บริดจ์]
อันดับ 1 ในดวงใจผมตลอดกาล อาซาร์เล่นฟุตบอล แล้วดูสนุกมากๆ ถ้ามีเค้าอยู่ในทีม ผมเชื่อว่าเชลซี สามารถ เอานะทีมไหนบนโลกนี้ก็ได้ ด้วยความสามารถที่สุดยอดของเค้า เสียดายที่ ตลอดเวลาที่ อาซาร์ อยู่ที่นี่ ทีมไม่พร้อมในการลุ้น UCL เท่าไร ถ้าเค้ามีเพื่อนร่วมทีม ในระดับที่ดีกว่านี้มัน อาจะเป็นไปได้ แต่อาซาร์ นำพาความสำเร็จมากมาย มาสู่ เดอะ บริดจ์ จะ คิดถึง ตลอดไป
แก้ไขล่าสุดโดย KeeHo เมื่อ Sun Feb 28, 2021 10:07, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 7318
ที่อยู่: อิน ยัวร์ แอ่รีย้ะ
โพสเมื่อ: Sun Feb 28, 2021 10:14
[RE: [Chelsea] ผลไม้ต้องห้ามแห่งแสตมฟอร์ด บริดจ์]
ไอต้าวอ้วง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออนไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Oct 2010
ตอบ: 9500
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Feb 28, 2021 10:21
[RE][Chelsea] ผลไม้ต้องห้ามแห่งแสตมฟอร์ด บริดจ์
เก่งสุดๆ รองจากเมส โด้ก็อาซาร์แล้ว น่าจะได้บัลลงดอร์สักครั้ง ตอนย้ายไปเชลซี จำได้ว่าแมนยูเกือบจะคว้าตัวได้ ติดที่ไม่สู้ราคา
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status: ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Dec 2020
ตอบ: 3381
ที่อยู่: นิวซีแลนด์
โพสเมื่อ: Sun Feb 28, 2021 11:15
[RE][Chelsea] ผลไม้ต้องห้ามแห่งแสตมฟอร์ด บริดจ์
อ่านเพลินเลย

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 May 2009
ตอบ: 68
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Feb 28, 2021 13:54
[RE: [Chelsea] ผลไม้ต้องห้ามแห่งแสตมฟอร์ด บริดจ์]
ทู้คุณภาพ ขอบคุณนะครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status: ಥ_ಥ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 8753
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Feb 28, 2021 14:44
[RE: [Chelsea] ผลไม้ต้องห้ามแห่งแสตมฟอร์ด บริดจ์]
อาซาร์ทำทุกอย่างได้ รับบทเดอะแบกได้

เล่นไม่ต้องล่อตีนก็สวยงามและมีประสิทธิภาพได้

โดนเตะเหมือนกันแต่ไม่มามัวพุ่งล้ม และนั่งโอดครวญ

เยี่ยม
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
CGM48
••••••••••••••••••••••••••



ออนไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Jan 2014
ตอบ: 3025
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Feb 28, 2021 15:11
[RE: [Chelsea] ผลไม้ต้องห้ามแห่งแสตมฟอร์ด บริดจ์]
LoversMoon พิมพ์ว่า:
เก่งสุดๆ รองจากเมส โด้ก็อาซาร์แล้ว น่าจะได้บัลลงดอร์สักครั้ง ตอนย้ายไปเชลซี จำได้ว่าแมนยูเกือบจะคว้าตัวได้ ติดที่ไม่สู้ราคา  


ถ้าปีนั้นเชลซีไม่ได้ ucl คงเสร็จแมนยู
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 3952
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Feb 28, 2021 16:01
[RE: [Chelsea] ผลไม้ต้องห้ามแห่งแสตมฟอร์ด บริดจ์]
คิดถึงไอ้ต้าวอ้วนเหมือนกันนะ เสียดายได้แชมป์ร่วมกันน้อยไปหน่อย

แต่ยังไงก็ขึ้นแท่นตำนานเชลซีแล้ว
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status: -KANING-
: 0 ใบ : 1 ใบ
เข้าร่วม: 10 Dec 2009
ตอบ: 12099
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Feb 28, 2021 17:12
ถูกแบนแล้ว
[RE][Chelsea] ผลไม้ต้องห้ามแห่งแสตมฟอร์ด บริดจ์
เป็นนักเตะที่ตอนมาแรกๆ คงไม่มีใครคิด

ว่าวันนี้มันจะมีชื่อเล่นว่าต้าวอ้วน

โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel