[RE: ว่าด้วยหมอบี ฑูตสื่อวิญญาน]
the Smirnoff พิมพ์ว่า:
Dutchman พิมพ์ว่า:
เคยดูหนังเรื่อง ลูซี่ ที่นางเอกคุยกับนักวิทฯ ว่า มีรถคันนึงวิ่งอยู่บนถนนด้วยความเร็วระดับนึง เราสามารถมองเห็นได้ แต่พอรถเร่งความเร็วจนตาเรามองตามไม่ทัน ทั้งๆที่รถก็วิ่งอยู่ นั้นก็หมายถึงของที่มองไม่เห็นไม่ใช่ไม่มี
แต่จะพิสูจน์ยังไงละว่า มีรถวิ่งอยู่จริงๆ วิทยาศาสตร์ยังไม่มีเครื่องมือที่มันวัดหรือจับภาพได้ว่ารถมันวิ่งอยู่ แต่ดันมี คนบอกว่า เนี่ยเห็นรถวิ่งอยู่นะ สีนี้ยี่ห้อนี้ทะเบียนนี้ เมิงมองเห็นได้ไงฟร่ะ ทำไมตรูไม่เห็นอะ เมิงมั่ว เมิงเดา เมิงใช้จิตวิทยา บลาๆ ฯลฯ และอีกสิ่งนึงที่หนังเรื่องนี้บอกคือ มนุษย์เรานี้ใช้ประสิทธิภาพของสมองได้เพียงแค่ 10% เท่านั้น ถ้ามีคนที่เค้าได้เกินกว่านี้ละจะเป็นยังไงน้อ แล้วทำไมเราถึงใช้ได้แค่ 10% ละ เราจะข้าม 10% นี้ด้วยวิธีใดบ้าง ใช้ที่พุทธองค์ทรงแนะนำให้เรารักษาศีลและฝึกจิตภาวนาหรือไม่ ถ้าจิตสามารถใช้สื่อสารกันได้จริง ภาษามันก็ไม่จำเป็นใช่หรือไม่... ไปรับยาแป๊บ
สอบถามนะครับถ้าคิดว่าล่วงเกินขิให้ทราบว่าไม่มีเจตนาครับเรพาะผมไม่ใช่คนพุทธ ถามนิดนึงว่าพระพุทธเจ้ามีสอนเรื่องลี้ลับอะไรพวกนี้มั๊ยคคับ แล้วพวกที่ทำตัวเป็นหมอพวกนี้ขัดกับหลักศาสนามั๊ยคับ
ผมขอช่วยตอบนะครับ พระพุทธเจ้าไม่มีสอนอยู่แล้วครับ เรื่องลี้ลับอะไรพวกนี้
ส่วนที่ถามว่าทำตัวเป็นหมอพวกนี้นี่ หมายถึงการกระทำอย่างไรบ้างครับ
เพราะเท่าที่ผมตามดูคุณบีมา (ตามเพื่อจะจับผิด แต่ยังไม่เคยจับได้เลย ใครมีตัวอย่างยกให้ดูหน่อยครับ)
คุณบีก็จะบอกตลอดว่าให้นับถือแค่สามสิ่งตามหลักพุทธศาสนา 1.พระพุทธ 2.พระธรรม 3.พระสงฆ์
ส่วนที่เหลืออะไรก็ตามที่ไม่ใช่ 3 สิ่งนี้ อย่าไปให้ค่า
เวลาแกไปช่วยเหลือเคสทางบ้าน แกก็จะบอกตลอดว่าแค่เราอย่าไปให้แค่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่มีผลกับเราแล้ว
ให้อยู่ในศีล 5 ไว้ ดังนั้นผมยังไม่เคยเจออะไรที่แกผิดกับหลักศาสนาครับ
ส่วนเรื่องที่ท่านท้าพิสูจน์ ผมไม่แน่ใจว่าท่านอาศัยอยู่ กทม หรือเปล่า
ถ้าอยู่และท่านสะดวกและไม่เสียเวลาของท่าน เราไปร่วมพิสูจน์ที่นาถะคาเฟ่กันมั้ยครับ
เพราะผมเองก็เคลือบแคลงใจ อยากพิสูจน์เหมือนกัน ว่ารู้จริงหรือไม่จริง
เดี๋ยวลองรวมตัวกันอีกสัก3-4คนก็ได้ครับ ไปพิสูจน์กัน เพื่อชาว SS