ถ้าเขารู้เรื่องส่วนตัวของ จขกท ได้ สุดท้าย คนอื่นก็ไม่เชื่อเหมือนเดิม

แล้วเขาจะทำไปทำไมอะ

// กระทู้เก่า เขาคงไม่อยากมาดูเลขในธนบัตรหรอกมั้ง ตัวเจ้าของธนบัตรเป็นคนถามเขาเอง
*แก้คำผิด
 

เห็นกระทู้เก่าๆก็มีคนไม่เชื่อแล้วไปลองมานะครับ อย่างคุณ Creathieve

เพราะงั้นผมว่าถ้าอยากพิสูจน์คุณต้องไปเองครับจะได้กระจ่าง

อย่างที่คุณบีเค้าบอกนั่นแหละ เชื่อต้องไม่งมงาย ต้องพิสูจน์ว่าต้นเหตุคืออะไร ส่วนคนไม่เชื่อก็อยู่เฉยๆไป ใช้ชีวืตตามปกติ ก็ไม่มีอะไร

เพราะเรื่องพวกนี้มันเกี่ยวกับจิตด้วย บางคนมีคนมาบอกว่าโดนของก็จิตตก เครียด มันก็ทำให้สุขภาพแย่ การงานเสีย ทั้งๆที่ความจริงไม่มีอะไร สุดท้ายก็ไปมั่วกับเรื่องไม่ดี สุขภาพจิตก็ยิ่งแย่ สุดท้ายคนก็จะโทษสิ่งลี้ลับทั้งๆที่มันเกิดจากหลักวิทยาศาสตร์ธรรมดาเลย
จิตตก -> เครียด -> สุขภาพแย่

บางคนโดนของมาแต่ไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้ ไม่เชื่อ ไม่ให้ค่า สภาพจิตใจก็ปกติดี เลยไม่มีผลกระทบ  

งั้นผมสรุปว่าก็แค่ข้ออ้างของคนทายไม่ได้อ่ะครับ

ให้พิสูจน์แต่ในconditionที่ตัวเองsetไว้ผมว่าตลกดี  

เหมือนผมบอกไม่กลัวผี แล้วท้าให้ไปเดินบ้านร้างอ่ะ เพื่อออออ  

ผมมองมันเป็นเรื่องนานาๆจิตตังเถียงกันในนี้ก็ไม่จบ นอกจากคนที่ไม่เชื่อจะเจอเรื่องแบบนี้ด้วยตัวเอง
หมอบีจะทายเเม่นมีญาณจริงไหมผมก็ไม่รุ้ เคยเจอหมอบีตอนไปทำบุญแต่ไม่เคยพิสูจน์ทีเหมือนกันว่าแกของจริงไหม
ผมเป็นหนึ่งในคนที่เห็นผี แต่ก็ได้แค่เห็นเฉยๆบังคับไม่ได้ว่าจะเห็นตอนไหนวันไหนจะเห็น โตมาไม่เคยเจอลองมาตลอด จนวันนึ่งเจอเข้าก็เจอเรื่อยๆมามันอธิบายไม่ได้ ผมมีสติดีตอนที่เห็น แล้วก็ไม่จำเป็นต้องบังคับให้ใครเชื่อด้วย ผมถือว่าเรื่องของใครเรื่องของมันจะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่
แต่ที่ผมไม่สบายใจเรื่องหมอบีคือการที่เรานั่งพิมพ์ว่าเค้าแบบนั้นแบบนี้ ผมว่าหมอบีเค้าก็เหมือนหมอดูคนหนึ่งจะแม่นไม่แม่นคุณต้องไปลองดูด้วยตัวเองและใช้ตรรกะความคิดของตัวเองกรองเอาว่าเค้าของจริงไหม
ผมเคยเจอทั้งจริงและไม่จริงมันต้องลองเจอกับตัวถึงจะรู้เชื่อผมสิ ถ้าเจอของจริงมันอาจจะเปลี่ยนความเชื่อคุณก็ได้ ลองให้เค้าทายคุณดู ผมเชื่อแบบนั้นเรื่องขงเราได้ทั้งที่ไม่รู้จักมาก่อน ทั้งที่ที่มีแต่เราหรือครอบครัวเราที่รู้เนี่ยผมว่าของจริง
[/quote

กีะทู้เก่ามีคนไปลองละมาด่าคนที่ไม่ได้ไปพิสูจน์เองคคับว่าขี้ขลาด ผมเลยเป็นตัวแทนท้าพิสูจน์(จากที่เค้าท้า)ให้ทายมา แต่ไม่มีใครมาตอบผมเลย แปลกๆนะว่ามั๊ยคับ


ส่วนตัวผมคิดนะว่าวิญญานมีจริง แต่ผมไม่เชื่อว่าที่หมอนี่พูดๆคือพิสูจน์ได้ผมก็พร้อมเชื่อครับ

เคยดูหนังเรื่อง ลูซี่ ที่นางเอกคุยกับนักวิทฯ ว่า มีรถคันนึงวิ่งอยู่บนถนนด้วยความเร็วระดับนึง เราสามารถมองเห็นได้ แต่พอรถเร่งความเร็วจนตาเรามองตามไม่ทัน ทั้งๆที่รถก็วิ่งอยู่ นั้นก็หมายถึงของที่มองไม่เห็นไม่ใช่ไม่มี
แต่จะพิสูจน์ยังไงละว่า มีรถวิ่งอยู่จริงๆ วิทยาศาสตร์ยังไม่มีเครื่องมือที่มันวัดหรือจับภาพได้ว่ารถมันวิ่งอยู่ แต่ดันมี คนบอกว่า เนี่ยเห็นรถวิ่งอยู่นะ สีนี้ยี่ห้อนี้ทะเบียนนี้ เมิงมองเห็นได้ไงฟร่ะ ทำไมตรูไม่เห็นอะ เมิงมั่ว เมิงเดา เมิงใช้จิตวิทยา บลาๆ ฯลฯ และอีกสิ่งนึงที่หนังเรื่องนี้บอกคือ มนุษย์เรานี้ใช้ประสิทธิภาพของสมองได้เพียงแค่ 10% เท่านั้น ถ้ามีคนที่เค้าได้เกินกว่านี้ละจะเป็นยังไงน้อ แล้วทำไมเราถึงใช้ได้แค่ 10% ละ เราจะข้าม 10% นี้ด้วยวิธีใดบ้าง ใช้ที่พุทธองค์ทรงแนะนำให้เรารักษาศีลและฝึกจิตภาวนาหรือไม่ ถ้าจิตสามารถใช้สื่อสารกันได้จริง ภาษามันก็ไม่จำเป็นใช่หรือไม่... ไปรับยาแป๊บ  

ใช้ครับ คนเซ็ตคือคนเตรียมธนบัตรไปเหมือนกับคุณที่คนเซ็ตก็คือเรื่องส่วนตัวของคุณเอง  

ก็ผมไม่เขื่อแต่โดนคนเชื่อยัดเยียดเหมารวมว่าคนที่ไม่เชื่อแต่ไม่ไปพิสูจน์คือขี้ขลาด(ตามหาอ่านกระทู้เก่าได้)

ผมก็เลยออกมาท้าให้พิสูจน์แล้วนี่ไงครับ แต่ไม่เห็นมีใครมาตอบผมเลยงงเหมือนกัน ทำไมต้องกล้าให้พิสูจน์แต่สิ่งที่ตัวเองควบคุมได้ ทำไมต้องไปที่ร้านอะไรไม่รู้เสียเวลาชีวิต ผมว่ามันตลกอ่ะ รือถ้าไม่เข้าconditionที่ตัวเองsetไว้ละพิสูจน์ไม่ได้เลย อภินิหารหายมาทันที

ย้ำอีกทีเพราะโดนท้าให้พิสูจน์ เลยมาละนี่ไง พวกสาวกก็เงียบกริ๊บ