ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Mar 2019
ตอบ: 2056
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 20, 2021 12:29
Workpointอธิบายเรื่องวัคซีน


#explainer ทำไมบริษัท Siam Bioscience จากประเทศไทย ถึงได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากบริษัทดังในอังกฤษ เพื่อผลิตวัคซีนโควิด-19

สิ่งที่รัฐบาลควรออกมาอธิบายให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนคลายความสงสัยคืออะไร workpointTODAY จะสรุปทุกอย่างให้เข้าใจง่ายที่สุดใน 11 ข้อ

1) ในปัจจุบัน มีหลายบริษัทวิจัยทั่วโลกที่ผลิตวัคซีนสำหรับโควิด-19 ออกมา เช่น Pfizer ของสหรัฐฯ ที่จับมือกับบริษัท BIONTECH ของเยอรมัน , Moderna ของสหรัฐฯ , Sinovac ของจีน และ AstraZeneca ของสหราชอาณาจักร ที่ร่วมวิจัยกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด

โดยแต่ละบริษัท ณ เวลานี้ถึงขั้นตอนผลิตแล้วใช้กับมนุษย์จริงๆแล้ว โดยวัคซีนแต่ละยี่ห้อ ก็จะมีอัตราความสำเร็จ ที่แตกต่างกันออกไป

2) สำหรับประเทศที่ไม่สามารถผลิตวัคซีนด้วยตัวเองได้ วิธีการที่จะทำวัคซีนมาใช้ ก็มีสองวิธี นั่นคือขนส่งแบบสำเร็จรูปจากประเทศผู้ผลิต เก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม แล้วนำมาใช้งานได้เลย กับอีกวิธีหนึ่ง คือซื้อลิขสิทธิ์ในการผลิตจากบริษัทวัคซีน แล้วนำเทคโนโลยี มาใช้ผลิตจากโรงงานในประเทศของตัวเอง

3) ประเทศไทยต้องการวัคซีนเช่นกัน และได้ทำการเจรจากับผู้ผลิตหลายเจ้า แต่ที่ตกลงกันได้แล้วคือ Sinovac จากประเทศจีนเป็นจำนวน 2 ล้านโดส จะเป็นการสั่งซื้อโดยตรงจากห้องแล็บในจีน กับอีกบริษัทหนึ่งคือ AstraZeneca (แอสตราเซเนก้า) โดยบริษัทนี้ ไทยทำสัญญา "ซื้อเทคโนโลยี" เข้ามาผลิตเอง

4) AstraZeneca ต้องการหาประเทศที่เป็นศูนย์กลางในแต่ละภูมิภาคเพื่อทำการผลิตวัคซีน เนื่องจากง่ายต่อการกระจายสินค้า โดยในเอเชีย มีหลายชาติที่สนใจอยากเป็นผู้ผลิตให้ AstraZeneca อย่างไรก็ตาม ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีของ บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย (SCG) กับ มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ที่มีงานวิจัยร่วมกันอย่างต่อเนื่องหลายปี ได้ยืนยันว่าประเทศไทยมีความพร้อม ในการผลิต โดยมีโรงงานที่ได้มาตรฐาน และทำเลที่ตั้งของไทย ถือเป็น Hub ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นั่นทำให้บริษัท AstraZeneca ตัดสินใจตอบตกลง และทำสัญญากับประเทศไทย

5) ในสัญญาระบุว่า ประเทศไทยจะรับเทคโนโลยีจาก AstraZeneca แล้วจะผลิตวัคซีนเป็นจำนวน 200 ล้านโดส โดยประเทศไทยจะได้รับการการันตี ว่าจะได้วัคซีนแน่นอน จำนวน 26 ล้านโดส ส่วนอีก 174 ล้านโดส จะเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท AstraZeneca ในการไปกระจายให้กับประเทศใดก็ได้ สำหรับมูลค่าที่รัฐบาลไทย เซ็นสัญญากับบริษัท AstraZeneca ในการซื้อต่อเทคโนโลยี และซื้อวัคซีนจำนวน 26 ล้านโดส เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 6 พันล้านบาท

6) ในการฉีดวัคซีนนั้นต่อประชากร 1 คน ต้องใช้วัคซีนจำนวน 2 โดส เท่ากับว่าเราได้วัคซีน 26 ล้านโดส ก็จะสามารถสร้างวัคซีนให้ประชากรได้ทั้งหมด 13 ล้านคนในประเทศไทย ซึ่งแม้จะไม่ครอบคลุมทั้งประเทศ แต่ก็ถือว่าเป็นจำนวนที่มากพอสมควร ถ้าเทียบกับความต้องการวัคซีนอันมหาศาลของทั้งโลกในปีนี้ การได้วัคซีนมาครองถึง 26 ล้านโดส ยังไม่นับที่เจรจากับบริษัทอื่นอีก ถือว่าเป็นเลขที่ดีเกินกว่าที่คาด

7) AstraZeneca เป็นวัคซีนตัวแรกที่รัฐบาลอังกฤษ อนุมัติให้ใช้กับมนุษย์ได้ โดยประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิดอยู่ที่ 70.4% ซึ่งมีตัวเลขเหนือกว่า Sinovac จากจีน แต่เป็นรอง Pfizer (95%) และ Moderna (94.5%) แต่จุดเด่นคือ AstraZeneca สามารถเก็บในตู้เย็นที่มีอุณหภูมิ 2-8 องศาได้ ไม่จำเป็นต้องเก็บในความเย็น -70 องศาเซลเซียสเหมือนของ Pfizer

นอกจากนั้นยังมีราคาถูกกว่า โดยของ Pfizer มีราคาราว 20 ดอลลาร์ต่อ 1 โดส (600 บาท) แต่ของ AstraZeneca มีราคาราว 4 ดอลลาร์ต่อ 1 โดส (120 บาท) เท่านั้น

8) บริษัท AstraZeneca ยินดีจะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ แต่มีเงื่อนไขคือทางบริษัทที่อังกฤษ จะขอเลือกห้องแล็บที่ไทยเอง โดยจะพิจารณาว่าห้องแล็บไหนที่มีอุปกรณ์ และมีบุคลากรที่มีความสามารถมากพอ จะผลิตวัคซีนได้ตามมาตรฐานของ AstraZeneca ซึ่งสุดท้ายบริษัทที่อังกฤษเลือก คือ บริษัท Siam Bioscience (สยามไบโอไซเอนซ์) โดย Siam Bioscience มีโรงงานที่ได้มาตรฐาน และเคยมีประสบการณ์ในการตัดแต่งพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตมาแล้ว ซึ่งตรงกับแนวทางในการสร้างวัคซีนของ AstraZeneca ที่ใช้การดัดแปลงพันธุกรรมเช่นเดียวกัน ดังนั้นทาง AstraZeneca จึงตัดสินใจร่วมมือกับ Siam Bioscience โดยคาดว่าจะผลิตวัคซีนออกมาแล้วเสร็จล็อตแรก ในเดือนพฤษภาคม 2564

9) Siam Bioscience เป็นบริษัทที่ก่อตั้งในปี 2552 โดยพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพของคนไทย โดยนำเงินจากทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มาเปิดบริษัทขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 4,800 ล้านบาท สร้างโรงงานวิจัยที่มีคุณภาพสูงสุด โดยผลงานของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา ผลิตยามาแล้วหลายตัว เช่นยาเพิ่มเม็ดเลือดแดง และ ยาเพิ่มเม็ดเลือดขาว เป็นต้น

บริษัท Siam Bioscience มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาต่อเนื่อง เช่นยาชีววัตถุรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์, ยาสำหรับโรคสะเก็ดเงิน รวมถึงชีวเวชสำอางเป็นต้น โดยในปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 157 ล้านบาท

10) หลังจากในหลวงรัชกาลที่ 9 สวรรคต ในหลวงรัชกาลที่ 10 รับ Siam Bioscience ไปดูแลต่อ ในฐานะบริษัทที่อยู่ภายใต้ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ดังนั้น วัคซีนที่จะผลิตโดยใช้เทคโนโลยีของบริษัท AstraZeneca จึงถูกเรียกในชื่อเล่นว่า "วัคซีนพระราชทาน" นั่นเพราะ ถ้าหากในหลวงรัชกาลที่ 9 ไม่มีดำริตั้งบริษัท Siam Bioscience ขึ้นมาเมื่อปี 2552 ปัจจุบันประเทศไทยอาจจะยังไม่มีโรงงานที่มีเทคโนโลยีสูงพอ ที่จะผลิตวัคซีนด้วยตัวเองได้

11) สถานการณ์ล่าสุด กระบวนการผลิตยังดำเนินต่อไป โดยคาดว่าจะมีวัคซีนให้คนไทยได้ใช้ในเดือนพฤษภาคมนี้ ขณะที่ นายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติชี้แจงเพิ่มเติมว่า Siam Bioscience เป็นโรงงานเดียวในประเทศที่มีศักยภาพ "ถึงเกณฑ์" ที่จะผลิตวัคซีนของ AstraZeneca ได้ ซึ่งคุณภาพของโรงงานนั้น แม้แต่องค์การเภสัชกรรมของกระทรวงสาธารณสุขก็ยังเทียบไม่ได้ ซึ่งจริงๆแล้วทาง AstraZeneca มีตัวเลือกหลายประเทศ ที่ยื่นข้อเสนอขอซื้อเทคโนโลยีมาผลิตวัคซีน แต่ทาง AstraZeneca ตัดสินใจเลือกไทยเพราะมีโรงงานที่พร้อมที่สุด

#workpointTODAY
#สาระความรู้เพื่อวันนี้

ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

https://www.facebook.com/workpointTODAY/photos/a.153956988306921/1517107181991888/?type=3

สำนักข่าวworkpointยังอธิบายได้ดีกว่ารัฐบาลที่เอาแต่อีโมเข้าว่า โหนกลับไปถึง100ปี แม้ว่าจะมีจุดโต้แย้งอยู่มาก แต่ถ้ารัฐบาลพูดแบบนี้แต่แรกก็จะทำให้คนเข้าใจมากขึ้น ควรจ้างworkpointไปทำprให้นะ

ประเด็นที่มีปัญหาก็ยังคงเหมือนเดิม จากแถลงของกระทรวงสาธารณสุขก็คือการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเดียวหรือไม่



คือ ที่จริงแล้วก็ไม่ได้พร้อม แต่รัฐบาลเอาเงินไปช่วยจัดเตรียมความพร้อมจนเข้าเกณฑ์ให้ได้รับคัดเลือก แล้วคู่แข่งรายอื่นๆทำไมไม่ได้รับโอกาสที่เท่าเทียม ไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลบ้าง การที่เป็นบริษัทของร.10 ไม่มีผลต่อการคัดเลือกจริงหรือ นี่เป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ดีลนี้จะพลิกจากขาดทุนเป็นกำไรมหาศาล

เราจะอยู่กันแบบพิงหลังไว้กับคำว่าพระราชทานจริงหรือ แสดงว่ารัฐบาลของเรากระจอกสิ้นดี เอะอะอะไรก็ต้องขอความช่วยเหลือไปยังสถาบันตลอด ถ้าเราไม่มีสิ่งของพระราชทาน โครงการหลวงต่างๆ บ้านเมืองเราจะพัฒนาต่อไปไม่ได้เลยใช่มั้ย ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นพระมหาการุณาธิคุณ ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทตลอดเวลา หรือแค่ใช้มันเพื่อเอื้อประโยชน์ให้อำนาจกับตัวเอง โดยจับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นตัวประกันเท่านั้นเอง

โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jul 2009
ตอบ: 6044
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 20, 2021 12:42
Top Comment [RE: Workpointอธิบายเรื่องวัคซีน]
อธิบายได้ดี

แต่สุดท้ายก็มีข้อพิพาทเหมือนที่เจ้าของกระทู้ว่า เอาเงินจำนวนหลัก 100 ล้านจัดการซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อให้ Siam Bio ได้มีคุณสมบัติที่เพียบพร้อม ซึ่ง Siam Bio เป็นเอกชน แต่รัฐออกมาสนับสนุนเต็มสูบ โดยไม่มองไปยังที่อื่นเลย

มันคือ Conflict of Interest ไงครับ

มองจากดาวอังคาร เป็นนักลงทุน หรือคนอื่นๆ แค่คิดก็น่าสงสัยมากขนาดไหนแล้วในเรื่องดีลครั้งนี้ ความโปร่งใสในการเลือก, การดีลระดับ 1000 ล้านกับ AZ, การต่อรองวัคซีนกับหลายๆ เจ้าที่เลือกที่จะตัดหมด เทหน้าตักแค่ AZ เพื่อเทคโนโลยีและการผลิต แต่ไม่จัดสรรอันอื่นเพิ่มเติม แต่ค่อยมาเพิ่ม Sinovac ตอนช่วง 3-4 เดือนก่อนหน้านี้

และอีกอย่าง เราต้องตกอยู่ที่ว่า “พระราชทาน” อย่างเดียวเลยหรือครับ? แถมไม่สามารถตั้งคำถามได้ด้วย ทั้งๆที่ส่วนหนึ่งในงบประมาณของรัฐ ก็ได้ให้ไปกับสถาบันตั้งกี่ล้าน

ขอตอกย้ำอีกเรื่องราคาวัคซีน Pfizer เสนอราคา “พิเศษ” มาให้ และพร้อมขาย 13 ล้านโดส แต่เราไม่เอา



ผมทำ Consult อุตสาหกรรมยา ผมได้ยินแบบนี้ผมยังขมวดคิ้วเลยโชคดีที่ไม่ได้ทำตลาดไทย ไม่งั้นคงปวดหัวตาย

เห็นคนแผล่บเยอะ ผมเพิ่มข้อสันนิฐานและความคิดเห็นเพิ่มเติมใน Logic นี้นะครับ

1. รัฐจัดสัมปทานวัคซีน และต่อรอง AZ
2. SBS ได้รับเลือก โดย SCG และ รัฐบาลไทยช่วยในการดีล
3. รัฐจัดสรรอุปกรณ์ให้ครบคุณสมบัติ
4. SBS ได้รับอุปกรณ์และงบเพิ่มจาก SCG
5. ผลิต 26 ล้านโดส (หรืออาจจะมากกว่า) เพื่อให้คนไทยได้ฉีดทุกคนภายใน พ.ค.64 (ซึ่งผมการันตีเลยว่าเลทกว่านี้แน่ๆ ถ้า Trials ไม่เสร็จ)
6. กรณีมีการล่าช้า รัฐสามารถหาวัคซีนตัวอื่นมาแทนได้ทันหรือไม่ เพราะรัฐก็เป็นคนบอกเองว่า มีลูกค้าเจรจาอยู่ในมือ (ซึ่งผมเชื่อว่ามีคน Offered มา เช่น Pfizer, แต่รัฐไม่ต้องการเสียเงินเยอะ เพราะจะมีค่าจัดเก็บเพิ่ม)
7. ขายให้กับประเทศเพื่อนบ้านและ Asia Pacific
8. กำไรและเงินที่ขายได้จะเข้า SBS
9. รัฐได้ส่วนแบ่งจากตรงนี้หรือไม่ อย่างไร เพราะรัฐบาลเป็นคนจัดสรรงบประมาณที่ทำให้ AZ มาผลิตที่ไทย และโอนถ่าย Technology ให้กับ บริษัทเอกชนอย่าง SBS
10. สัญญาระหว่าง SBS และ รัฐบาลไทยที่เกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศจากวัคซีนตัวนี้ รัฐบาลไทย ได้รับ Profit ตรงไหนอย่างไร

ทั้งหมดนี้คือข้อสงสัย ที่เป็น 1 ใน Point หลักที่ธนาธรได้กล่าวถึงไปเมื่อตอน Live สด แต่ก็ยังไม่มีใครลงประเด็นนี้ นอกจากว่า "ทำไมต้องสงสัยกับวัคซีนพระราชทาน, ทำไมต้องทำให้แตกแยก"
แก้ไขล่าสุดโดย pikzygunz เมื่อ Wed Jan 20, 2021 15:56, ทั้งหมด 2 ครั้ง
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Sep 2005
ตอบ: 1277
ที่อยู่: BKK
โพสเมื่อ: Wed Jan 20, 2021 13:05
Top Comment [RE: Workpointอธิบายเรื่องวัคซีน]
ขอตอบในฐานะที่ทำงานในวงการการผลิตยาปราศจากเชื้อนะครับ
อันนี้คือมุมมองส่วนตัว ซึ่งก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า ผมไม่ใช่คนที่ชื่นชอบรัฐบาล

อันดับแรก รัฐบาล โดยเฉพาะ อ.ย. ต้องทำให้ประชาชนทราบก่อนว่า
การผลิตยานั้น เวลาเขาอนุญาต เขาไม่ได้อนุญาตให้ผลิตยาทุกประเภท
แต่จะให้อนุญาตในรูปแบบเภสัชภัณฑ์นั้นๆ เช่น เม็ด, น้ำ, ยาปราศจากเชื้อ, ชีววัตถุ ฯลฯ
ซึ่งไอ่เจ้าวัคซีนนี่มันเป็นเภสัชภัณฑ์รูปแบบหนึ่งของชีววัตถุ ซึ่งมีกระบวนการผลิต
ที่แตกต่างจากยาประเภทอื่นโดยสิ้นเชิงครับ

โรงงานผลิตยาภายในประเทศมีหลักหลายสิบ แต่ที่ได้รับอนุญาตการผลิตยาประเภทชีววัตถุนั้นน้อยมาก
่ซึ่งไม่ถึงหลักสิบด้วยซ้ำ เช่น GPO-Merieux, สภากาชาดไทย เป็นต้น
ของเอกชนก็จะมี Bionet-Asia, Siam bioscience เป็นต้น

ที่นี้เราก็ต้องมาดูเหตุผลในแต่ละประเภทก่อน เนื่องจากการผลิตวัคซีนนั้น ใช้ไลน์การผลิตเดียวกันหมด
ดังนั้นบางโรงงาน จำเป็นต้องคงการผลิตเพื่อใช้ผลิตวัคซีนจำเป็นในประเทศ โดยเฉพาะของรัฐเอง
ดังนั้นถ้าจะจัดสรรให้โรงงานผลิตของรัฐไปเดินหน้า COVID เต็มสูบ มันอาจจะส่งผลกระทบต่อ
วัคซีนอื่นๆ ภายในประเทศได้ อีกอย่างวัคซีนมันอายุไม่ยืน ดังนั้นถ้าเร่งการผลิตเพื่อวัคซีน COVID
มันก็อาจจะมีปัญหาอื่นตามมาได้

ดังนั้น หวยมันเลยมาลงที่ Siam bioscience เพราะอะไร? เนื่องจากบริษัทนี้เป็นบริษัทที่ยังเปิดไม่นาน
และไม่ได้เน้นการทำวัคซีน แต่ Siam bioscience ผลิต"ยา" ที่เป็นชีววัตถุ ซึ่งยาประเภทนี้
ไม่ใช่ว่าผลิตแล้วจะสามารถขายเลย ยาชีววัตถุที่เป็นตัวเลียนแบบเราจะเรียกว่า Biosimilar
ซึ่งจะมีโครงสร้างสามมิติที่แตกต่างจากยาชีววัตถุต้นแบบ ดังนั้น Biosimilar ผลิตมาแล้ว
ก็ต้องนำไปทดสอบการใช้ในมนุษย์ที่เรียกว่า Clinical trials อีกทีอยู่ดี

ดังนั้นถ้าเราเช็ค product pipeline (ความคืบหน้าของผลิตภัณฑ์ของบริษัท)
จะเห็นในชาร์ตว่ายาแต่ละผลิตภัณฑ์ของบริษัทดำเนินไปถึง phase ไหนแล้วของ Clinical trials
(ผมว่าลิงค์ไม่เจอ เดี๋ยวถ้าเจอจะแปะให้)
ซึ่งถ้าเข้าไปดูจะเห็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตให้ขายแล้วคือ ยาเพิ่มเม็ดเลือดและยามะเร็ง 1 ตัว
ถ้าให้ผมเดา ไลน์การผลิตจะค่อนข้างว่าง เนื่องจากยาในกลุ่มนี้ อาจมีการใช้ไม่เยอะ
ดังนั้น มันจึงไม่แปลกที่หวยจะตกมายังที่บริษัทนี้ เพราะบริษัทเองได้รับอนุญาตในการผลิตยาชีววัตถุมานานแล้ว
ไม่ใช่เพิ่งได้รับอนุญาต

ดังนั้น ทางรัฐควรให้ความเข้าใจประชาชนก่อน ไม่ใช่แก้ต่างโดยดึงสถาบันลงมา
เพราะความซวยอย่างนึงมันคือ บริษัทนี้เจ้าของคือบริษัทในเครือของสถาบันพระมหากษัตริย์
ซึ่งกำลังถูกสังคมวิพากษ์อย่างหนักหน่วง ทีนี้พอข่าวมันมา คนก็เลยพากันกระหน่ำโจมตี

ดังนั้นเพื่อป้องกันเรื่องการใช้ภาษี หรือ Conflict of interest ดังนั้นภาครัฐ
ควรจัดการให้ดี โดยเฉพาะเรื่องสัญญาจ้างอะไรพวกนี้
รอโดนตบหน้า ... อิอิ

http://www.soccersuck.com/boards/topic/1559750/2

---------------------------------------------------------------


http://www.soccersuck.com/boards/topic/1710866/2
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Nov 2005
ตอบ: 11359
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 20, 2021 12:32
Top Comment [RE: Workpointอธิบายเรื่องวัคซีน]
รัฐบาลแม่งโง่เอง ตอบคำถามไม่เปน

ไอตู่ เสี่ยหนู แต่ละคน มีความรู้เรื่องวัคซีนที่ไหน
ออกมาโหน เป็นอย่างเดียว
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Nov 2005
ตอบ: 11359
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 20, 2021 12:32
[RE: Workpointอธิบายเรื่องวัคซีน]
รัฐบาลแม่งโง่เอง ตอบคำถามไม่เปน

ไอตู่ เสี่ยหนู แต่ละคน มีความรู้เรื่องวัคซีนที่ไหน
ออกมาโหน เป็นอย่างเดียว
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 1933
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 20, 2021 12:33
ถูกแบนแล้ว
[RE: Workpointอธิบายเรื่องวัคซีน]
อยากให้พวกลุงตู่ตั้งใจตอบคำถามแบบหาข้อมูลมาแถลง ไม่เอาแบบโหน
แก้ไขล่าสุดโดย NeeIAM เมื่อ Wed Jan 20, 2021 12:34, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 875
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 20, 2021 12:35
[RE: Workpointอธิบายเรื่องวัคซีน]
แค่ตอบคำถามให้ดี ตอบให้ละเอียด ตอบให้ได้ว่าเพราะอะไร นี่พี่เล่นโหนกันอย่างเดียวบวกับประวัติเก่า ๆ ก็ไม่แปลกหรอกที่เขาจะสงสัยว่าเอื้อประโยชน์กันเอง
แก้ไขล่าสุดโดย lorf เมื่อ Wed Jan 20, 2021 12:36, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
JKJ
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 13891
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 20, 2021 12:37
[RE: Workpointอธิบายเรื่องวัคซีน]
อยู่ประเทศนี้จะสงสัยอะไรนักหนา ปั๊ดโธ่!!!!
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Sep 2007
ตอบ: 30860
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 20, 2021 12:38
[RE: Workpointอธิบายเรื่องวัคซีน]
โอเค ..
ต่อไปก็อยากรู้ว่าราคาทุนโดสละเท่าไหร่ แล้วจะเอาออกมาขายเท่าไหร่
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Mar 2020
ตอบ: 20353
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 20, 2021 12:41
[RE: Workpointอธิบายเรื่องวัคซีน]
เอาจริงๆเลยนะ ยังไงก้เอื้อผลประโยช
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

เมื่อไหร่โดนบังคับให้ไม่พูดสิ่งที่ควรพูด ถือว่าเราตายไปแล้ว :D
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jul 2009
ตอบ: 6044
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 20, 2021 12:42
[RE: Workpointอธิบายเรื่องวัคซีน]
อธิบายได้ดี

แต่สุดท้ายก็มีข้อพิพาทเหมือนที่เจ้าของกระทู้ว่า เอาเงินจำนวนหลัก 100 ล้านจัดการซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อให้ Siam Bio ได้มีคุณสมบัติที่เพียบพร้อม ซึ่ง Siam Bio เป็นเอกชน แต่รัฐออกมาสนับสนุนเต็มสูบ โดยไม่มองไปยังที่อื่นเลย

มันคือ Conflict of Interest ไงครับ

มองจากดาวอังคาร เป็นนักลงทุน หรือคนอื่นๆ แค่คิดก็น่าสงสัยมากขนาดไหนแล้วในเรื่องดีลครั้งนี้ ความโปร่งใสในการเลือก, การดีลระดับ 1000 ล้านกับ AZ, การต่อรองวัคซีนกับหลายๆ เจ้าที่เลือกที่จะตัดหมด เทหน้าตักแค่ AZ เพื่อเทคโนโลยีและการผลิต แต่ไม่จัดสรรอันอื่นเพิ่มเติม แต่ค่อยมาเพิ่ม Sinovac ตอนช่วง 3-4 เดือนก่อนหน้านี้

และอีกอย่าง เราต้องตกอยู่ที่ว่า “พระราชทาน” อย่างเดียวเลยหรือครับ? แถมไม่สามารถตั้งคำถามได้ด้วย ทั้งๆที่ส่วนหนึ่งในงบประมาณของรัฐ ก็ได้ให้ไปกับสถาบันตั้งกี่ล้าน

ขอตอกย้ำอีกเรื่องราคาวัคซีน Pfizer เสนอราคา “พิเศษ” มาให้ และพร้อมขาย 13 ล้านโดส แต่เราไม่เอา



ผมทำ Consult อุตสาหกรรมยา ผมได้ยินแบบนี้ผมยังขมวดคิ้วเลยโชคดีที่ไม่ได้ทำตลาดไทย ไม่งั้นคงปวดหัวตาย

เห็นคนแผล่บเยอะ ผมเพิ่มข้อสันนิฐานและความคิดเห็นเพิ่มเติมใน Logic นี้นะครับ

1. รัฐจัดสัมปทานวัคซีน และต่อรอง AZ
2. SBS ได้รับเลือก โดย SCG และ รัฐบาลไทยช่วยในการดีล
3. รัฐจัดสรรอุปกรณ์ให้ครบคุณสมบัติ
4. SBS ได้รับอุปกรณ์และงบเพิ่มจาก SCG
5. ผลิต 26 ล้านโดส (หรืออาจจะมากกว่า) เพื่อให้คนไทยได้ฉีดทุกคนภายใน พ.ค.64 (ซึ่งผมการันตีเลยว่าเลทกว่านี้แน่ๆ ถ้า Trials ไม่เสร็จ)
6. กรณีมีการล่าช้า รัฐสามารถหาวัคซีนตัวอื่นมาแทนได้ทันหรือไม่ เพราะรัฐก็เป็นคนบอกเองว่า มีลูกค้าเจรจาอยู่ในมือ (ซึ่งผมเชื่อว่ามีคน Offered มา เช่น Pfizer, แต่รัฐไม่ต้องการเสียเงินเยอะ เพราะจะมีค่าจัดเก็บเพิ่ม)
7. ขายให้กับประเทศเพื่อนบ้านและ Asia Pacific
8. กำไรและเงินที่ขายได้จะเข้า SBS
9. รัฐได้ส่วนแบ่งจากตรงนี้หรือไม่ อย่างไร เพราะรัฐบาลเป็นคนจัดสรรงบประมาณที่ทำให้ AZ มาผลิตที่ไทย และโอนถ่าย Technology ให้กับ บริษัทเอกชนอย่าง SBS
10. สัญญาระหว่าง SBS และ รัฐบาลไทยที่เกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศจากวัคซีนตัวนี้ รัฐบาลไทย ได้รับ Profit ตรงไหนอย่างไร

ทั้งหมดนี้คือข้อสงสัย ที่เป็น 1 ใน Point หลักที่ธนาธรได้กล่าวถึงไปเมื่อตอน Live สด แต่ก็ยังไม่มีใครลงประเด็นนี้ นอกจากว่า "ทำไมต้องสงสัยกับวัคซีนพระราชทาน, ทำไมต้องทำให้แตกแยก"
แก้ไขล่าสุดโดย pikzygunz เมื่อ Wed Jan 20, 2021 15:56, ทั้งหมด 2 ครั้ง
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Apr 2014
ตอบ: 27110
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 20, 2021 12:43
[RE: Workpointอธิบายเรื่องวัคซีน]
นักธุรกิจได้ผลประโยชน์ ได้คำว่าพระราชทานด้วย (ทั้งที่เงินก่อตั้งบริษัท ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง)
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Apr 2009
ตอบ: 8289
ที่อยู่: Stamford Bridge
โพสเมื่อ: Wed Jan 20, 2021 12:45
[RE: Workpointอธิบายเรื่องวัคซีน]
ในขณะที่องค์การเภสัชกรรมมีโรงงานวัคซีนอยู่แล้วด้วย แถมไม่ใช่มาตรฐานกระจอก ๆ แต่ร่วมมือกับ Sanofi-pastueur

ต่อให้มีประสบการณ์เรื่องการตัดแต่งพันธุกรรมสิ่งมีชีวิต แต่ไม่มีประสบการณ์การทำวัคซีนเลย ประเด็นที่ควรออกมาตอบคือผ่านแต่แรกหรือผ่านเพราะเงินอัดฉีด

เพราะถ้าผ่านแต่แรกมันควรเริ่มผลิตได้แล้ว ไม่ใช่เริ่ม พ.ค.


เรื่องวัคซีน Sinovac อีกประเด็นนึง ไปเอามาแล้วอ้างว่าความสัมพันธ์ไทยจีน แต่บ. ที่ รบ. จียสนับสนุนคือ Sinopharm ที่ออกมาแจกให้กัมพูชา 1 ล้านโดส หลังสมเด็จฮุนเซ็นออกมาบอกว่าไม่เอา Sinovac แต่ รบ. ก็ยังจะซื้อ แถมหลังจากนั้น CP ประกาศซื้อหุ้น 15%
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
GNR
คอมเมนเตเตอร์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Nov 2020
ตอบ: 6260
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 20, 2021 12:46
[RE: Workpointอธิบายเรื่องวัคซีน]
เนี่ย ขอแค่ ตอบคำถามออกมาแบบนี้ จะได้เอามาถกทีละประเด็นให้กระจ่าง ไม่ใช่เอะอะอะไร ล้ม เจ้าชังชาติ





ข้อนี้ ผมมองว่า บริษัท ของไทยไม่ได้ มีความพร้อมแต่แรกเลย เพราะ ใช้เวลาอีกเกือบปี กว่าจะพร้อมผลิต

นั้นหมายถึงว่า ระยะเวลาตั้ง 1ปี บวกเดือนเงินรัฐอีกตั้ง 600 ล้านเนี่ย มันสามารถทำให้ที่ไหนพร้อมก็ได้



แล้ว ควรมีความโปร่งใสมากกว่านี้ ต่อให้บอกไม่ได้แสวงหากำไร ก็ควรบอกด้วยว่า ค่าจ้าง บริษัทนี้ได้ไป มูลค่าเท่าไหร่ในการใช้ เป็นฐานการผลิต


และอีกข้อนึง ควรตอบให้ได้ว่า กว่า จะผลิตและฉีดได้ ล่อไป เกือบกลางปี ทำไมระหว่างนี้ถึงไม่มี

วัคซีนทางเลือกให้ประชาชน เช่นการนำเข้าวัคซีนเจ้าอื่นหรือ เปิดเสรีให้เอกชนนำเข้า เพื่อเป็นทางเลือก
ให้ประชาชน สามารถเข้าถึงได้ก่อนที่เจ้า นี้จะเสร็จ อันนี้ที่ประชาชนอยากรุ้


เพราะถ้าไม่ตอบข้อนี้ มันส่อได้ วัน พวกเองจะไม่เอาใครเลยนอกจากเจ้าที่พวกเองเลือกมา ซึ่งแต่ละเจ้าเกี่ยวข้อง กับ เรืองของผลประโยชน์กลุ่มทุนทั้งนั้น เพราะงั้นใครก็สามารถมองเจตนาเป็นแบบนี้ได้

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status: ความพยายามไม่เคยทรยศใคร
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 15584
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 20, 2021 12:52
[RE: Workpointอธิบายเรื่องวัคซีน]
กระดุมเม็ดแรกมันผิด พยายามจัดยังไงก็เละครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Oct 2006
ตอบ: 1944
ที่อยู่: เดนมาร์ก
โพสเมื่อ: Wed Jan 20, 2021 12:55
[RE: Workpointอธิบายเรื่องวัคซีน]
สงสัยอ่ะว่าเงิน 6 พันล้านที่จ่าย Az นี่คือ?
จ่ายซื้อสิทธิ + ซื้อ 26 ล้านโดส
แปลว่าโดสละ 230 บาทละ

ได้มา 26 ล้านโดส เนี่ย ต้องจ่าย Siam Bio เพิ่มอีกไหม? โดสละเท่าไหร่?
แล้วสิทธิการผลิต เป้นของ รบ.ไทย หรือบริษัท
แล้วค่าใช้จ่ายในการผลิต (วัตถุดิบ) ใครจ่าย?
แล้วที่เหลือ 174 ล้านโดส ที่เป็นสิทธิของ Az นั่นคือต้องให้ Az ฟรี หรือขาย เงินเข้าใคร?

ไอ้เรื่องเอาเงิน 7 ร้อยล้านไปถมให้บริษัทมีความพร้อมเนี่ย
เห็นชัดๆ คงไม่ต้องตั้งคำถามเพิ่ม (มั้ง)
แก้ไขล่าสุดโดย Adios2nd เมื่อ Wed Jan 20, 2021 12:57, ทั้งหมด 1 ครั้ง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 3954
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 20, 2021 12:56
[RE: Workpointอธิบายเรื่องวัคซีน]
"AstraZeneca ยินดีจะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ แต่มีเงื่อนไขคือทางบริษัทที่อังกฤษ จะขอเลือกห้องแล็บที่ไทยเอง โดยจะพิจารณาว่าห้องแล็บไหนที่มีอุปกรณ์ และมีบุคลากรที่มีความสามารถมากพอ จะผลิตวัคซีนได้ตามมาตรฐานของ AstraZeneca"

ผมอ่านความคิดเห็นของหมอหวาย ว่าองค์กรเภสัชน่าจะมีความพร้อมกว่าเพราะมีโรงงานผลิตวัคซีนเป็นของตัวเองอยู่แล้ว แต่นี่ต้องรออีก 4 เดือนถึงพร้อมผลิต ตกลงความคิดเห็นของหมอหวายไม่ถูกต้องหรือยังไงหว่า


0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 5511
ที่อยู่: Emirate stadium
โพสเมื่อ: Wed Jan 20, 2021 12:58
[RE: Workpointอธิบายเรื่องวัคซีน]
ผลิต 200 ให้ไทย 26 แล้วอีก 174 ให้คนอื่น

แล้วค่าจ้างผลิต ใครได้ หรือผลิตให้ฟรี ? รัฐใช้ภาษีลงทุนควรได้รับผลตอบแทนนรึปล่าวนอกจากวัคซีนราคาถูก ดอกเบี้ยได้หรือไม่ ?

พอคืนทุนแล้ว เท่ากับบริษัทก็ได้อุปกรณ์ไปฟรีๆแบบไม่ต้องลงทุนรึปล่าว ไปรับงานผลิตอื่นๆต่อได้ไหม ? ทำไมไม่ให้สิ่งของที่ลงทุนเป็นของรัฐ จะได้นำกำไรไปต่อยอด?

แก้คำผิด
แก้ไขล่าสุดโดย แมวมอง เมื่อ Wed Jan 20, 2021 13:00, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel