1. มาร์โค รอยส์
มีหลายเหตุการณ์มอบเสื้อที่น่าประทับใจ
แต่แฟนบอลคนนี้ทำให้มันยิ่งดูขลังไปอีก
ดอร์ทมุนด์มีกองเชียร์ที่กระหึ่มดังที่สุดทีมหนึ่ง
เรามาลองจินตนาการว่า เราเป็นชายคนนี้ดูสิ



2. ฟรานเชสโก้ คาปูโต้
ในสถานการณ์ภัยร้ายโควิด-19
คาปูโต้ขอส่งข้อความผ่านแฟนบอลทุกคน
ภายหลังหัวหอกซาสซูโอโล่ทำประตูได้
เขาวิ่งไปหน้ากล้องพร้อมข้อความในกระดาษ

"ทุกอย่างจะเรียบร้อย ขอให้ทุกคนปลอดภัยครับ"



3. ลีโอเนล เมสซี่
เด็กหนุ่มคนหนึ่งในหมู่บ้านแสนยากไร้
เขาชื่นชอบการเล่นฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ
และทุกคนต่างรู้ว่าใครกันคือ ต้นแบบของเขา

เมื่อ'เสื้อทำเอง'กลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์
'นักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลก'จึงส่งสิ่งที่มีค่าที่สุดไปให้เขา



4. คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ไม่ว่าเงินประมูลรองเท้าทองคำกว่า 48 ล้านบาท
หรือเสื้อที่ใส่แข่งถูกขายในราคา 1.2 ล้านบาท
ทั้งหมดนี้เขาบริจาคให้มูลนิธิทั้งหมด

ยังไม่รวมที่เขามอบส่วนตัวให้เหล่าเด็กๆ
ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งหรือช่วยเหลือครอบครัวที่ทนทุกข์
เขาคือ นักฟุตบอลที่ตอบแทนสังคมที่สุดที่เรารู้จัก
เพราะผมไม่สามารถอธิบายทั้งหมดได้จริงๆ

การเติบโตมาอย่างยากลำบาก
ทำให้โรนัลโด้เข้าใจความหมายของชีวิต
คำว่า 'CR7' อาจแปลว่า 'มนุษยธรรม' ก็ได้นะ



5. มาร์คัส แรชฟอร์ด
เขาถูกเด็กๆหูหนวกขอเชิญตัวไป
เพื่อตัดสินผลการเขียนบทกวีในโรงเรียน
ซึ่งแรชฟอร์ดลงทุนไปเรียนภาษามือเพื่อเด็กๆ
และมอบรางวัลผู้ชนะด้วยตัวเอง

อันที่จริง นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย
เพราะแรชฟอร์ดตอบแทนสังคมมาโดยตลอด
ไม่ว่าจะเยี่ยมผู้ป่วยจากเหตุก่อการร้ายในแมนเชสเตอร์
หรือการสนับสนุนโครงการช่วยคนไร้บ้านช่วงคริสมาสต์

ซึ่งในสถานการณ์โควิด
เขายังรณรงค์ขอให้รัฐบาลแจกข้าวฟรี
เพราะมันไม่ใช่แค่การเมือง แต่คือมนุษยธรรม
ทำให้นายกเมืองผู้ดีตัดสินใจยืดเวลาโครงการออกไป



6. คาร์สัน พิคเก็ตต์
กองหลังตัวเก่งของออร์แลนโด้ ไพรด์
คือตัวอย่างของยอดแรงบันดาลใจให้กับผู้คน
เธอไม่เคยเอาปมด้อยมาเป็นเครื่องบั่นทอนตัวเอง
กลับกัน เธอเก่งถึงขนาดที่เคยติดทีมชาติชุดเล็กด้วย

รูปนี้ เธอถ่ายกับแฟนบอลวัย 22 เดือน
ซึ่งเธอเชื่อว่า เธอมีอิมแพ็คที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้

"พ่อแม่ฉันบอกเสมอให้ใช้ในสิ่งที่พระเจ้าให้เรามา"



7. เจอร์แมน เดโฟ
Bradley Lowery ป่วยเป็นมะเร็งเยื่อประสาท
เด็กคนนี้เป็นแฟนบอลตัวยงของซันเดอร์แลนด์
ครอบครัวเขาต้องการเงินรักษา 700,000 ปอนด์
ทำให้แฟนบอลและหลายสโมสรช่วยกันบริจาค

แน่นอน ทุกคนหวังปาฏิหาริย์เพื่อให้เขาอยู่รอด
แต่มันอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรสำหรับน้องเลย
เพราะตั้งแต่วินาทีที่ได้เจอกับไอดอลสุดที่รัก
เขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา

แม้สุดท้ายมัจจุราชจะพรากน้องแบรดลี่ย์ไป
จนทำให้มีการตั้งมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือเด็กขึ้น
แต่เขาก็ได้มอบความสุขให้ทุกคนผ่านรอยยิ้ม
ให้กำลังใจผู้ใหญ่หลายคนว่า'ต้องสู้กันต่อไปนะ'

ในฐานะที่เป็นไอดอลเบอร์หนึ่งของแบรดลี่ย์
และชายที่พยายามหาเวลาไปเยี่ยมน้องอยู่เสมอ
เดโฟกลั้นน้ำตาไม่อยู่กับการจากไปของเพื่อนตัวน้อย

"เขาจะอยู่ในใจของผมตลอดไป"

นี่แหละที่ทำให้โลกน่าอยู่

Retrospect

Defoe สุดยอด

ชอบๆๆครับ ชอบกระทู้แบบนี้ ได้เห็นความเป็นมนุษย์ของนักบอล