ด้วยวัยนักศึกษาและม็อบด้วยแหละครับ มันทำให้แฟนคุณ relate กับสิ่งที่เกิดขึ้นในการเมืองได้มาก และช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่คนรุ่นใหม่หันมาสนการเมืองเยอะขึ้นมากๆ เขาจะพูดถึงบ่อยๆก็ไม่แปลก และเขาจะถกเถียงกันในกลุ่มเพื่อนๆเป็นเรื่องปกติด้วย สมัยผมเรียนอยู่ในกลุ่มคนสนการเมืองก็เป็นอย่างนี้ หากคิดในมุมนี้คุณอาจจะพอเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมแฟนคุณถึงพูดบ่อยๆ

แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าไม่อยากคุย ก็ต้องทำความเข้าใจกันนะครับ แต่ก่อนอื่นผมว่าจขกท.ต้องไปเคลียร์กับตัวเองให้ชัดๆก่อนว่า "ทำไมถึงไม่อยากให้คุยการเมือง" เพราะรำคาญคนไม่รู้จริงพูดมาก หรือเพราะจะพูดทำไมบ่อยๆเปิดข่าวมาก็เจอแล้ว หรือจริงๆแล้วก็ไม่ชอบสิ่งที่เป็นอยู่แต่ก็ต้องทำเป็นว่าชอบเดี๋ยวโดนแบน หรือเหตุผลอะไรต่างๆผมไม่รู้นะแต่จขกท.น่าจะรู้ดีกว่า เอาให้ชัด เวลาจะบอกแฟนคุณว่าไม่อยากคุยการเมืองจะได้บอกถูก

ผมว่าเรื่องนี้เรื่องใหญ่อยู่ครับ คุณยังดีมีแฟนคิดตรงกัน สมัยก่อนผมเคยมีแฟน คิดตรงข้ามกับ เวลาคุยการเมืองทีก็พยายามคุยให้มันวิชาการ แต่สุดท้ายคนเรามันก็มีสิ่งที่เชื่อกันอะครับ คุยไปคุยมาก็เกิดอารมณ์เดือดๆกันบ้าง หลังๆผมเลือกเลี่ยงๆไม่คุยดีกว่า สุดท้ายก็ไปกันไม่รอดครับ(แต่ก็มีอีกหลายปัจจัยนะ) ในมุมเค้าคืออยากคุยกับผมได้ทุกเรื่อง แต่ในมุมผมก็คืออยากเลี่ยงไม่อยากทะเลาะกันไรงี้ กลายเป็นว่าอึดอัดกันแทน

'ถ้าต่อต้านไม่ได้ ก็ให้เข้าร่วมครับ'

ในความหมายของผมคือ ถ้าทนที่เค้าพูดเรื่องการเมืองไม่ได้ ที่เค้าอาจจะรู้ไม่จริงหรือผิวเผิน ก็พูดหรือคุยเรื่องการเมืองไปแบบฮาร์ดคอร์ เอาข้อมูลที่ท่านรู้ มาแชร์กับแฟนท่านไปเลยครับ คุยกันแบบเอาให้มันส์ถึงพริกถึงขิงไปเลยครับท่าน ไหนๆก็ไหนๆละ

เหมือนคุณจะเป็นพวกไม่สนใจนะ(ถ้าในใจไม่ได้แอ๊บจริงๆ) สังคมเรียกคนแบบท่านว่าอิกนอแรนซ์ ก็น่าเสียดายที่เป็นแบบนี้ แต่ก็เข้าใจได้ ไม่ผิดอะไร

แต่การที่แฟนท่านตระหนักถึงความสำคัญของประชาธิปไตย ผมว่าท่านในฐานะอิกนอแรนซ์ไม่มีความชอบธรรมไปบ่นให้เค้าเลิกพูดถึงเลิกสนใจนะครับ(แต่สิทธิ์ในฐานะแฟนก็อีกเรื่องนึง)
ท่านบอกว่าแฟนท่านรู้หลวมๆ ข้อมูลไม่แน่น ก็เป็นเรื่องของความรู้ครับ ซึ่งมันสร้างกันได้ เอาจริงๆคนที่รู้ไม่ได้ลึกมากก็ไม่น้อย แต่รู้บ้างและตระหนักก็เพียงพอ มีคนที่รู้เยอะกว่าคอยส่งต่อความรู้อยู่แล้ว

สิ่งสำคัญคือแฟนท่านก็ยังตระหนักถึงประชาธิปไตย ไอที่ไม่รู้ ค่อยๆเรียนรู้ต่อไปได้ ไอเรื่องความตระหนักเนี่ย สร้างยากกว่ากันเยอะ (คิดสภาพหากผมบอกให้ท่านสนใจและมาออกแอคชั่นทางการเมืองสิครับ พนัน 100 เอาบาทเดียวพอว่าท่านทำไม่ได้หรอก)
เรื่องวัยไม่ใช่ปัญหาเลย ต่อให้เพิ่งลืมตาดูโลกถ้าตอนนั้นมีสตินึกคิดแล้วก็สามารถตระหนักถึงประชาธิปไตยได้ คุณคิดว่าวุฒิภาวะของแฟนท่านยังไม่ถึงหรอครับ?
เรื่องการเรียน กระทบไหมล่ะครับ ถ้ากระทบก็เตือนได้เป็นเรื่องที่ดี แต่สุดท้ายแล้วมันก็อยู่ที่แฟนท่านช่างน้ำหนักเอา

สรุปแล้วท่านเตือนได้ ถ้าท่านรำคาญจริงๆท่านก็ปรามได้ในฐานะแฟน แต่ถ้าพยายามหาความชอบธรรมให้ใจตัวเอง อยากรู้สึกดีขึ้นที่อิกนอแรนซ์แล้วห้ามแฟนตัวเองแบบนี้ บอกเลยว่ามันไม่มีหรอกครับ ต่อให้มาหาพวกในนี้มันก็ไม่มีหรอกครับ

คำถามแรกครับเท่าๆที่ท่านตามข่าวต่างๆ ท่านเห็นด้วยกับม๊อบไหมครับ

คำถามที่ 2 ท่านรำคาญแฟนพูดเรื่องม๊อบ หรือท่านหงุดหงิดเวลาได้ยินเรื่องม๊อบครับ (คนอื่นพูดก็หงุดหงิด ปล. ต้องพูดในมุมเดียวกับแฟนท่านนะครับ) เเล้วเรื่องที่หงุดหงิดคือเรื่องอะไร

ปล. อันนี้จะเป็นคำถามเช็คเลยนะครับว่าท่านอยู่ฝ่ายไหน 555+ เป็นกลางไม่มีอยู่จริงครับ ignolance ก็ไม่ถือว่าถือว่ากลางครับมันแปลว่าท่านไม่เห็นด้วยเลยไม่เข้าร่วม

ตามที่ผมตอบคหก่อนหน้านี้ไปนะครับ คือผมแค่ไม่อยากคุยเรื่องนี้กับแฟนครับ จริงๆผมก็ไม่ได้รู้เยอะ ผมก็มาอ่านจาก ss ด้วยบ้าง

ผมเข้าใจครับ คือคนอื่นอ่านอาจจะไม่เข้าใจ เพราะอ่านผ่านๆ

ผมจับ keywords ได้ 2-3 คำ คือ
1. คุณตามข้อมูลของม็อบอยู่แล้ว
2. แฟนคุณไม่ได้รู้เรื่องอะไรมาก ไม่ได้ทำการบ้านมาก ได้ข่าวอะไรมาก็เอามาพูด มาปรึกษาตลอดเวลา/บ่อยครั้ง
3. สุดท้ายแฟนคุณต้องมาถามคุณว่าอะไรจริงหรือไม่

ผมไม่มีคำแนะนำให้นะ สุดท้ายผมว่าไม่น่าใช่เรื่องใหญ่อะไร น่าจะปรับความเข้าใจกันได้

ผมเองก็เป็นคนขี้รำคาญ เวลาใครไม่ได้รู้อะไรจริงจัง แต่พูดเยอะ พูดมาก ไม่ว่าจะฝั่งไหนก็ตาม จริงๆทไม่ต้องเรื่องการเมืองก็ได้ เรื่องอื่นก็เป็น

แต่พอเป็นเรื่องการเมืองแล้วเนี่ย ถ้าพูดแบบ pc คือเราไม่มีสิทธิ์ไป ห้ามคิด ห้ามถาม ห้ามสงสัย เราทำได้แค่ไม่สนใจหรือเดินหนี ให้ดีก็ควรอธิบาย

นั้นคือคำพูดสวยหรู แต่พอมันเป็นคนใกล้ตัวที่ต้องคอยฟังทุกวัน อธิบายทุกวัน มันน่ารำคาญ ลองคิดว่าเป็นอาจารย์ที่ต้องมีหน้าที่สอนอยู่แล้ว แต่ลูกศิษย์เป็นเจ้าหนูจำไมกันทั้งห้อง เจอทุกวัน ผมว่าก็มีประสาทแดกกันบ้างแหละ

ผมว่าคุณตีความอคติเกินไปนะครับ พวกอิกนอร์ที่ไม่สนใจฟังเพราะรู้สึกไกลตัว ไม่ได้รับผลนั้นก็มีอยู่จริง ประเด็นที่บอกว่าไม่เห็นด้วยเลยไม่เข้าร่วมมันก็ขัดกันเองในความหมายอยู่แล้ว เพราะถ้าไม่เข้าร่วมเพราะไม่เห็นด้วย แบบนั้นอิกนอแรนซ์ก็จะถูกผลักออกจากทั้งสองฝั่งอยู่ดี เนื่องจากไม่ได้เข้าฝ่ายไหนเลย

แบบนี้เรียกว่าไม่มีจุดยืนทางการเมืองดีกว่าครับ ไม่ใช่ยืนตรงกลางด้วยนะ แต่ไม่มีจุดยืนเลย

ผมกำลังคิดว่าเราโดนเอาเปรียบจากคนที่รวยระดับโลกอยู่ครับ ผมคิดว่าสิ่งที่ม็อบทำอยู่ถูกแล้วครับ
ถ้าไม่มีใครทำอะไรเลย มันก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่พอมีม็อบมันทำให้สื่อต่างชาติเห็นด้วย
ส่วนตัวผมอยากไปม็อบนะครับ แต่ด้วยผมอยู่ตจว จะให้ผมเสียค่าเครื่องไปคงเป็นไปไม่ได้ครับ

ท่านก็เคลียร์กับแฟนท่านได้นั่นแหละครับ ว่าอยากให้สถานารณ์ในบ้านเป็นแบบไหน อย่างที่ผมบอกไปยังไงท่านก็คือแฟน
ผมแค่กล่าวเพิ่มถึงในกรณีที่หากท่านคิดว่าการห้ามปรามไม่ให้แฟนท่านพูดถึงนี่มันดีแล้วหรือไม่

เป็นแฟนกันก้ต้องหาจุดกึ่งกลางอะ เขาอยากพูดเราไม่อยากฟัง แก้ทีใครดีละทีนี้ ระหว่างให้เขาหยุดพูดกับเรายอมให้เขาพูด สำหรับผมเรื่องที่เขาพูดมันไม่ได้ไร้สาระก็ฟังไปดีกว่า

อันที่จริงถ้ามันเป็นtopicสำคัญๆมาคุยผมไม่มีปัญหานะครับ แต่จะให้ผมมาพูดเรื่องที่ มันไม่ได้อะไรขนาดนั้นผมไม่ค่อยอยากพูดครับ

ชวนเค้าคุยเองดิ หาเรื่องไปคุย ไม่งั้นถ้าเค้าพูดอยู่ฝั่งเดียวยังไงมันก็หลุดมาแน่นอน

คงประมาณว่า แฟนท่านอ่านเจอพวกข่าวลือข่าวซุบซิลใส่ไข่ในเฟซ-ทวิตไรพวกนี้ ก็เอามาเล่าต่อ เพราะอยากแชร์ อยากถามความเห็นของท่านมั้ง

ทีนี้ ถ้าตัวท่านไม่ใช่สลิ่ม ไม่ใช่อิกนอแรนซ์ แล้วรู้เยอะกว่า ลึกกว่า มีหลักฐานหรือหลักการเหตุผลที่ฟังได้ ทำไมไม่อธิบายกันไปดีๆ หล่ะ

แล้วก็สอนบแบบห่วงใยไปว่า พวกข่าวการเมืองต่างๆ ต้องอ่านแบบใช้วิจารณญาณมากๆ ฟังหูไว้หู การเมืองก็อินได้ แต่ควรพอดี หมกมุ่นมากไปมันก็ไม่ดี แฟนกันมีเรื่องอื่นให้คุยกันอีกเยอะ ถ้าอยากคุยการเมือง ค่อยคุยในประเด็นใหญ่ๆ แบบคนมีหลักการหรือหลักฐานอะไรแบบนี้ก็ได้

เดี๋ยวแฟนท่านก็จะเข้าใจแหละว่า ท่านไม่ได้ห้าม แต่กำลังแนะนำให้ติดตามการเมืองแบบคนมีความคิด

เข้าร่วมของผมไม่ได้แปลว่าต้องออกไปม๊อบนะครับ เข้าร่วมของผมมันหมายถึงว่าท่านเข้าไปอยู่ฝ่ายใดฝ่ายนึงมีอารมร์ร่วมกับมันครับ เห็นด้วยกับฝ่ายใดฝ่ายนึงนะครับ ถ้าคนที่ตามข่าวไม่มีใคร ignorance ครับมันจะมีเหตุผลในหัวของตัวเองอยู่แล้วครับว่าคุณชอบฝ่ายไหน ยกเว้นแต่คุณไม่ตามข่าวไม่ได้รับรู้ครับ ต่อให้คนที่ไม่สนใจยังไงถ้าได้รับรู้มันจะมีส่วนนึงในใจที่เลือกชอบเหตุผลฝั่งไหนอยู่แล้วครับ

เข้าใจครับ ก็คงต้องปรับความเข้าใจกันแหละ อธิบายดีๆ ในมุมของท่าน จะมาทะเลาะอะไรกันรุนแรงเพราะเรื่องแค่นี้ก็ไม่ใช่เรื่องนะผมว่า

ส่วนพวกที่มากล่าวหาว่าเป็นสลิ่มอะไร ก็ไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ ผมว่าท่านค่อนข้างชัดเจนในตัวเองอยู่แล้ว