ตามหัวช้อครับ

ลดการแซะ แต่เน้นเหตุและผลมากขึ้น
ทำให้เขารู้ว่า วุฒิภาวะมันสวนทางกับอายุ

ต้องเเน่วเเน่ในจุดยืนดิ อย่าไปกลัว วัยรุ่น

เหตุผลเฉพาะคนที่ควรได้รับเหตุผล

ไม่เห็นด้วยทั้งสองโหวต

ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องไปสนใจพวกมัน

สิ่งที่การต้่อสู้ของฝ่ายปชต.ต้องการมากที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่การทำลายฝ่ายตรงข้าม แต่เป็นการเพื่มแนวร่วม และ เพิ่มความชอบธรรมในการออกมาเรียกร้อง

จะเห็นได้จากการที่น้องมายด์ ออกรายการคุณจอมขวัญเมื่อวาน ว่าออกมาเพื่อเพิ่มแนวร่วม ไม่ใช่เอาชนะสะใจกองเชียร์แบบ ปาร๊ณา

ตอบโต้ ตอกหน้า เสียดสี ได้สะใจกองเชียร์ แต่ไม่ได้แนวร่วมเพิ่ม ไม่มีประโยชน์ครับ

คิดเหมือนเล่นบอร์ดบอลอ่ะฮะ

เคยโดนอะไรมาแล้วไม่ชอบก็อย่าไปทำ ไม่งั้นมันก็ไม่จบ สะสมความแค้น ติดลูปไปเรื่อยๆ

คือการสุภาพผมก็มั่นใจว่าเปลี่ยนใจคนฝั่งตรงข้ามไม่ได้หรอก..hater gonna hate ทุกยุคทุกสมัยแหละ

เพียงสังคมมันเทาๆ และมันยังมีกลุ่มคนที่ไม่ได้เลือกข้างแบบชัดเจนสุดทาง หรือ swing ข้างได้แล้วแต่สถานการณ์

และกลุ่มคนพวกนี้ (เป็นกลุ่มที่ใหญ่นะฮะ..คนชอบเรียกว่าพลังเงียบ) ก็จะเอนเอียงไปทางฝั่งที่เค้าเห็นว่าพฤติกรรมน่าสนับสนุนมากกว่า..

ซึ่งความสุภาพ ใช้เหตุใช้ผลมันมีน้ำหนัก ดึงดูดคนกลุ่มนี้ได้

การแสดงความรัก
กับการแสดงความเกลียดชัง

นี่มันคนละเรื่องกันเลยนะ

เบื้องต้นเลย ถ้าแค่การแสดงความรักเฉยๆ
มันไม่กระทบความรู้สึกใครทั้งนั้น
ตราบเท่าที่มันเป็นแค่การแสดงความรัก
ไม่ลากออกไปหาคนอื่นว่าต้องรักด้วย

แต่แสดงความเกลียดชังนี่มันคนละเรื่อง
ชีวิตนี้ผมก็เคย เกลียดใครเนี่ย ปุถุชนมากๆ
แต่ไอ้เรื่องจะไปชี้หน้าด่า หรือตะโกนด่า
ทำไม่เห็น และคงไม่ผึกหัดหรือลองทำ
ผมว่ามันออกจะไร้มารยาท

แต่ไอ้ที่ฮึ่มๆกันขนาดนี้ เอาล่ะ อาจมีคนบอกว่า เพราะคนกลุ่มหนึง "โหน"
แล้วก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่ง บอกว่าทนไม่ไหว เพราะมีคนกลุ่มหนึ่ง "โยง"

สองคำนี้ตีกันตลอดอ่ะ "โหน" กับ "โยง"

ถ้าจะบอกว่าหยุด มันก็ควรต้องหยุดทั้งคู่
ทั้งพวกโหนและพวกโยงอ่ะ จะบอกให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหยุดฝ่ายเดียว
มันไม่ได้ ถ้าจะบอกว่าพักก่อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
มันก็ควรจะต้องไปพักก่อนทั้งคู่นั่นแหละ

ไม่ชอบใคร ก็แค่ Avoid แค่นั้น
จะนินทาก็อยู่ในกลุ่มตัว ไม่ต้องตีฆ้องร้องป่าว
นินทามันเรื่องปกติมนุษย์ อันนี้เข้าใจได้
มันก็จะไม่กระทบความรู้สึกใคร

ยิ่งจะไปทู่ซี้บอกคนนั้นคนนี้
ว่าควรจะรักหรือเกลียดใคร
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันใดนี่
แบบนี้ผมเรียกว่าเจ๋อ

ต่อให้จะเลี่ยงบาลีไปใช้คำว่า Educate
แต่การกระทำมันก็ไม่พ้นคำว่าเจ๋อ

เอาจริงๆสิ่งที่เด็กๆทำถือว่าอารยะมากๆแล้วนะ ความรุนแรงไม่มีขนาดเสื้อเหลืองฝ่าวงเข้าไปชูป้ายยังไม่มีใครไปยุ่งเลย

ผมมองว่าฝั่งตรงข้ามควรปรับตัวมากกว่า ไม่ใช่คลั่งไปทำร้ายร่างกายเค้าเพียงเพราะเค้าพูดไม่เข้าหู

เรื่องการกวน แขวะ แซว มันเป็นวิธีแสดงออกอย่างนึงเพื่อให้เกิดอารมณ์ร่วม ดึงดูดความสนใจมวลชนได้มากกว่า คนจำได้ดีกว่าการมาพูดแบบท่องสคริปท์

ส่วนเรื่องคำหยาบถ้าไม่เดินในทุ่งลาเวนเดอร์ก็รู้กันดีว่าพูดกันอยู่ทุกวัน เป็นภาษาที่เป็นกันเองและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นมากที่สุด ไม่ขอยกตัวอย่างม็อบที่ผ่านๆมาว่าสุภาพมากน้อยแค่ไหนนะปล่อยผ่านไปเถอะ

มวลชนที่มีอารมณ์ร่วมและจำนวนขนาดนั้นถ้าไปดูต่างประเทศเรื่องคำหยาบคายมันเป็นส่วนหนึ่งของม็อบทั่วไปไปแล้ว จะให้มา policing กันเรื่องหยุมหยิมขนาดไม่ให้มีคำหยาบในการชุมนุมเลยคงเฟ้อฝันกันอยู่

ทั้งนี้อย่าตกหลุมพรางของอีกฝั่งที่พยายามหาความชอบธรรมโดยหยิบเรื่องเล็กๆน้อยๆเหล่านี้มาลดเครดิตของเด็กๆเลย ถ้าเด็กไม่พูดหยาบ เดี๋ยวก็หาเรื่องอื่นมาเล่นได้อยู่ดี ถ้าขอแต่ให้เด็กถอยๆลงไปเรื่อยๆอีกหน่อยก็คงไม่ต้องมีชุมนุมอยู่บ้านท่องหนังสือเป็นเด็กดีให้ผู้ใหญ่ชื่นชมอย่างเดียวดีกว่า


หยุดโทษผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกายเลยว่าถ้าไม่พูดแบบนี้คงไม่โดน แต่ช่วยกันประนามพวกที่ใช้ความรุนแรงไม่ดีกว่าหรอ เราไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อนใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาอย่างเดียว

เหมือนแต่ก่อนที่ชอบบอกผญ.ที่โดนข่มขืนก็เพราะแต่งตัวโป๊เอง

พวกคนรุ่นอายุเยอะบางท่าน ไม่ได้รับข่าวสารเหมือนคนรุ่นนี้
จากที่ได้ยินเค้าจับกลุ่มคุยกัน
คือเข้าใจว่าวัยรุ่นจะไม่ให้มีสถาบัน จะเอาที่ไหนยึดเหนี่ยว
จะทำลายสถาบัน เค้าไม่รับรู้ว่าเราต้องการอะไร
พูดคุยกันด้วยน้ำเสียงแบบมีอารมณ์
แล้วก็อีกนั้นและ ถ้าเจอจะตบให้ ถ้าเป็นลูกหลานจะตีให้หนัก

ปัญหาคือ ไม่รับรู้ข่าวสาร เชื่อในสิ่งที่เชื่อมาตลอดว่าถูกต้อง
อาจต้องอาศัยเวลาเป็นตัวเปลี่ยนผ่านความเชื่อของคนบางรุ่น


ปล.ฟังแล้วอยากจะชู 3 นิ้วใส่ แต่ทำไม่ได้ป้าแถวบ้าน

ลดการแซะได้ก็ต้องลดครับแต่ไม่ได้หมายถึงหยุดพูด อย่าลืมรัฐคุมสื่อหลักอยู่ คนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเขาเห็นเฉพาะภาพการแซะที่สื่อเลือกนำเสนอ หลายคนไม่คิดสนใจเนื้อหาเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นเราควรไปพูดถึงเนื้อหาเยอะๆว่าทำไมควรปฏิรูป โดยเฉพาะการยกเนื้อหาที่เป็นรูปธรรม เช่น การแก้ รธน.60 หลังผ่านประชามติ การโอนกำลังพล การตั้งหน่วยงานเองไม่ขึ้นต่อรัฐ การออก พรบ.ทรัพย์สินธ์ การมีชื่อถือหุ้นไทยพาณิชย์และSCG ซึ่งหลักเดิมเป็นของรัฐ การได้งบที่มากเกินตัวเปรียบเทียบกับชาติอื่นๆ เป็นต้น

จะทำได้เหรอ เอาการกระทำให้ตรงกับปากก่อนดีไหมครับบบบ

แต่ถ้ามาตบผม ผมสวนนะ ผมไม่ยอมหรอกอันนี้บอกเลย

ข้อแรกแหละ ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าตอนนี้เราต้องการพรรคพวกมากกว่าความสะใจ

ทั้งแซะทั้งมีหลักการแบบอ.ปวิณครับ

พูดแต่วิชาการก็ไม่เข้าสมองคนบางคน
กลับกันพูดแต่แซะก็ไม่เข้าสมองบางกลุ่ม