เล่าเรื่องที่บ้านเป็นขนมหวาน
พอดี วันนี้ได้โทรศัพท์คุยกับที่บ้านครับ ก็เลยได้ลองคุยเพื่อทำความเข้าใจคนที่เป็นสลิ่มดูซึ่งก็เป็นพ่อแม่ผมเอง
ทำให้รู้เลยว่าความคิดสลิ่มนี่เปลี่ยนยากมากจริงๆครับ ต่อให้หาเหตุผลไรมาดีแค่ไหนแทบไม่มีทางเลย โคตรเศร้า
อย่างเเรกเค้ายังคงคิดว่ามีคนอยู่เบื้องหลังม๊อปอยู่เลย ความคิดคือคนที่ได้ประโยชน์ครั้งนี้มีแต่นักการเมืองเพราะเราไม่สามารถมีสิทธิ์มีเสียงในสภาได้เป็นแค่คนธรรมดา สุดท้ายนักการเมืองที่เลวๆเจ้าเดิมก็เข้ามาตักตวงผลประโยชน์อยู่ดี นี่ผมก็อธิบายไปต่างๆนาๆแล้วว่าตอนนี้ กฎเลือกตั้งมันไม่เป็นธรรมทำให้พรรคเล็กพรรคน้อยมันมาตักตวงประโยชน์ได้ ทุกอย่างจะดีขึ้นถ้ากฎมันเป็นธรรมมาสู้กันอย่างเท่าเทียม แต่ก็นะก็เท่านั้น
สองคือยังมองว่าลุงของเราเป็นคนดี ใสกิ้ก ที่ต้องทำแบบนั้นเพราะนักการเมืองเลวมาเข้าร่วมทำให้ต้องเอาใจนักการเมืองเหล่านั้น และมองว่าทหารมายุ่งการเมืองดีแล้วเพราะไม่งั้นเดี๋ยวไม่สงบ สุดท้ายก็วนมาเพราะนักการเมืองไม่ดี ทหารเลยจำใจต้องเข้ามา
ความคิดที่มองคนว่าไม่มีวันเท่ากันครับ ที่เราเรียกร้องความเท่าเทียมนั้นมันปลอม ก็อาจจะถูกตามหลักความจริงนะครับที่ทุกคนไม่มีทางเท่ากัน มีรวย จน ประเด็นเรืองการเลือกตั้งที่มองว่าต่างหวัดซื้อเสียง คนต่างจังกวัดขาดความรู้ โดนหลอกง่าย แบบที่ กุปัปัสุ ใช้เหยียด ซึ่งมันไม่ถูกไงแต่อธิบายไปก็เท่านั้น
เรื่องนักศึกษาที่เรียกร้อง สิ่งที่รออยู่คือคุก เพราะ ปวศ. ไม่เคยมีครั้งไหนที่ม๊อปชนะหรือคนไปม๊อปได้ดี ผมบอกให้ดูสุเทพกับ รมต.ศึกษา เค้าก็เงียบ ละก็มาบอกให้รู้หน้าที่ ก้มหน้าทำงานไป ก้มหน้าอ่านหนังสือไป สอบราชการซะจะได้สบาย เด็กสมัยนี้ไม่รู้จักหน้าที่ จะเรียกร้องสิทธิ์อย่างเดียว
ต่อมาเรื่องของคนคนนั้นอันนี้เค้าบอกว่าเฟคนิวครับ พิมพ์แค่นี้พอ....
แล้วก็แถม เรื่องนักการเมืองหน้าใหม่เค้าบอกว่าจะให้มาบริหารประเทศหรอ โดนยุบง่ายๆจากการให้ยืมเงิน ไม่รู้จักตรวจสอบไรให้ดีก่อน กระจอกก......ว่าซั่นนน
ก็อยากจะบอกครับว่าบางที ความเชื่อที่มันฝังมานานแล้วมันก็ไม่สามารถแก้ไขได้ครับ ผมอธิบายเหตุผลต่างๆไปเกือบโดนไล่ออกจากบ้าน สิ่งที่ควรทำก็คือไม่ต้องอธิบายครับ ไม่ต้องพูด ปล่อยไปเถอะ ผมก็ยอมแพ้ละ
สุดท้ายอยากจะบอกว่าศึกนี้เราอาจจะแพ้ครับ แต่เราขอชนะเเค่ครั้งเดียวพอ ผมเชื่อว่ามันจะจบในสมัยเรานี่ล่ะ สู้สู้ครับทุกคน