Shiroyasha พิมพ์ว่า:
ผมคาดเดาว่าโซลชาร์น่าจะใช้ 4-2-3-1 เป็นแผนหลักแบบที่เห็นๆกัน
อีกแผนรองคือ 3-4-1-2 ไว้เจอนัดใหญ่เหมือนปีก่อนๆ โดยขยับชอว์ไปเล่นเซนเตอร์ด้านซ้าย จึงเป็นที่มาว่าทำไมทีมกำลังจะดีลตัวอเล็กซ์ เตเยสมาเล่นวิงแบ็คซ้าย ผมคิดว่าโซลชาร์เล็งไว้แค่ 2 แผนแบบนี้
ส่วนไดม่อนด์ผมคิดว่าเป็นแทคติคที่เล่นยาก ในทีมที่ผู้เล่นไม่เนี้ยบ ไม่เข้าใจแทคติคทั้งหมด จัดระเบียบแผนการเล่นไม่ดี ผลลัพท์จะออกมาไม่ดี
1. วิงแบ็คในระบบไดม่อนด์จะต้องขึ้นไป contribute เกมรุกอย่างมาก ทำให้พื้นที่ด้านข้างจะเปิดเยอะกว่าปกติ ทำงานเกมรุกทดแทนปีกที่หายไป โดยยังต้อง cover งานของฟูลแบ็คเหมือนเดิม
ผมไม่คิดว่าแบคในทีมคนไหนจะเล่นได้ดีตามนี้
2. เซนเตอร์ทั้งสองคนในระบบไดม่อนด์จะต้องเจอการดวลจากตัวรุกตลอดเวลา เพราะวิงแบ็คจะลอยสูงตลอดนั่นแหละ ไม่สามารถแบ่งเล่น 1 stopper 1 cover ได้ แต่แมคไกวช้าเล่น stopper ไม่ได้
3. ไม่มีตัว pivot หรือมิดฟิลด์ตัวล่างสุดขึ้นเกม มีแค่มาติชที่เล่นตำแหน่งนี้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่มาติชก็ไม่ใช่สไตล์คนที่ออกบอลไว ออกบอลได้เปรียบบ่อย
4. ตัวรุกในระบบไดม่อนด์จะน้อยกว่าแผนอื่นๆ มีแค่ 3 ตัวด้านบนที่จะเล่นกัน ต้องเล่นแบบ individual play เยอะมากกว่าเดิม กองกลางตัวรุกต้องเป็นพวกเลี้ยงบอลกินตัวได้ดีอีก ซึ่งบรูโน่ แฟร์นันเดสไม่ได้เก่งด้านนี้เท่าไหร่
แมนฯยูไนเต็ดเคยลองเล่นไดม่อนด์เหมือนกัน ไม่ประสบความสำเร็จ ลองในยุคเฟอร์กี้นัดเจอเอฟเวอร์ตั้นปี 2012-2013 ที่จับรูนี่ย์ไปเล่นกองกลางผลคือเสมอ 0-0
มายุคฟานกัลลองอีกรอบนัดเจอเลสเตอร์ ให้ดาลี่ย์ บลินด์เป็นตัว pivot ที่ดิมาเรียยิงชิพสวยๆ แต่แพ้ 5-3 เกมรับโดนเผายับๆ วาร์ดี้แจ้งเกิดนัดนั้นแหละ
ทีมที่มันเล่นได้ผลดีอย่างมิลานช่วงประมาณปี 2005 ชุดแพ้ที่อิสตันบูล มันมีปิร์โล่เป็นตัว pivot ตัวรุกเป็นกาก้า เชฟเชนโก้ เครสโป้ แผงแนวรับเป็นเนสต้า มัลดินี่ คาฟู สตั้ม คิดว่าผู้เล่นของยูไนเต็ดตอนนี้จะมีคุณภาพพอเล่นได้หรือเปล่า?
ผมว่าที่คุณกล่าวมาว่าแทคติคไดม่อน จำเป็นต้องใช้แบ็คขึ้นเกมส์รุกเก่งๆ เพราะแบ็คสองข้างต้อง overload เกมส์รุกและรับมาก ต้องขึ้นลงทั้งเกมส์นั้น ถึงจะเล่นแผนนี้ได้ ไม่งั้นเกมส์รุกริมเส้นจะเล่นไม่ได้ และจะรับไม่ดีเพราะแบ็คลอยสูง ผมว่าอันนี้น่าจะเป็นการมองไดม่อนแบบด้านเดียวไปนิด
ไดม่อนสามารถเล่นเกมส์รุกได้หลายรูปแบบกว่านั้น ยกตัวอย่างเช่น
1. การขึ้นเกมส์ริมเส้น โดยให้กองหน้าสองตัวเล่น wide forward บางครั้งเพื่อทดแทนเกมส์รุกริมเส้น แล้วให้ กลางรุกสอดขึ้นมาเข้าทำ เช่น ถ้าหน้าใช้ แรส กับ เที่ยว สองคนนี้ถ่างออกด้านกว้างไปเล่นริมเส้นได้แล้วให้กลางรุกอย่าง เดอเบ็ค หรือบรูโน่ เติมมาเข้าทำได้เพราะกองหน้าลากเซ็นเตอร์ฮาฟคู่แข่งที่ตามประกบถ่างออกมาแล้ว
แต่เวลาบุกอีกรูปแบบโดยเข้าทำโดยเจาะตรงกลาง ก็เจาะตามการยืนปกติ กองหน้ายืนชิดกัน เพราะทำชิ่งง่ายและยืนตรงช่องระหว่างกองหลังสองตัว ให้กลางรุกแทงตามช่องเพื่อเข้าทำ และด้านข้างให้แบ็คเติมมาริมเส้น การบุกสองรูปแบบนี้สามารถสลับรูปแบบการเข้าทำได้ทั้งเกมส์
2. เกมส์รับเวลาแบ็คเติม กลางรับสามารถถอยลงมายืนเป็นเซ็นเตอร์ตัวที่ 3 ได้ โดยมาติชก็ลงมาเป็นเซ็นเตอร์ตัวที่สามร่วมกับแม็คไกว ไบยี่ ปัจจุบันเองแผนโซลชาก็ทำแบบนี้บ่อย เพื่อ overload แดนกลาง หรือเวลาเจอทีมเล็กที่ต้องบุกเยอะแล้วกลัวรับรั่ว ซึ่งก็ทำอยู่แล้วนะ
3. ตัว pivot เกมส์ ทุกวันนี้จะเห็นได้ว่าเราใช้ มาติชอยู่แล้วจะไปแตกต่างอะไรซึ่งมาติชก็ทำหน้าที่นี้ได้ดี และงานจะง่ายขึ้นอีกแน่นอนถ้ากลางเรามีทางเลือกเยอะมากขึ้นงานก็ยิ่งง่ายขึ้นสำหรับมาติช มองขึ้นไป เจอทั้งป็อก เบ็ค บรูโน่ ออกบอลง่ายมาก
ทั้งสองรูปแบบนี้ ดูแล้วคล้ายกับแผนปัจจุบัน แต่จุดที่แตกต่างที่ผมอยากให้เกิดขึ้นคือ การที่ ป็อก บรูโน่ และ เดอเบ็ค สามารถลงพร้อมกันได้โดยเกมส์รับไม่รั่ว ก็ต้องใส่ มาติชลงไปทำหน้าที่รับเต็มตัว โดยเอาปีกง่อยๆของเราออก ผมว่ากลางสามตัว ป็อก บรูโน่ เดอเบ็ค ถ้าจูนกันติด เกมส์รุกเราจะอันตรายมาก เพราะทั้งคลาสบอลแต่ละคนสูงหมด แผนถ้าจูนให้ดีให้นักเตะเล่นกันบ่อยๆ นักเตะระดับนี้เล่นได้หมดแหละ
4. ถ้าแมนยูได้ ซานโช่มายืนขวา และปีกซ้ายเก่งๆ อีกตัว ผมก็อยากให้เล่นแผน 4-2-3-1 นั่นแหละเพราะปีกกลับมาใช้งานได้ดีแล้ว
แต่เหตุผลที่ผมเสนอให้ลองเล่นไดม่อนดูเพราะคิดในกรณีที่ไม่ได้ใครมาเลยครับต้องใช้ตัวเดิมๆ ปีกไม่มี แล้วยังไปดันทุรังใช้แผนที่ต้องใช้ปีกอยู่อีก แล้วมันจะไปเล่นดีได้ไงแค่นั้นเองครับ