น่าห่วงมากกว่า “ฟอร์ม” คือ “ผี” จะเอาดีทางไหน?
ถ้าจะบอกว่า แมนฯยูไนเต็ด ลงสนามชนิดที่เสียเปรียบทีมอื่นๆเพราะฤดูกาลที่ผิดเพี้ยนจากซีซั่นก่อนทำให้ต้องเปิดสนามหลังชาวบ้าน 1 สัปดาห์
เกมอุ่นเครื่อง การ build up เรียกความฟิตช่วงปรีซีซั่นที่ไม่ปกติทำให้เราเห็น match fitness ระหว่างทั้ง 2 ทีมที่ยังเหลื่อมๆกันอยู่
แต่การยกประเด็นดังกล่าวอาจดูเบาบางและเร้ดอาร์มี่ไม่ได้ให้น้ำหนักใดๆเพราะการเล่นของ “ปีศาจแดง” มันฟ้องอยู่ในตัวว่าวันนี้สภาพทีมเน่าจนไม่รู้จะพูดถึงส่วนไหนก่อนกัน
วิลเฟร็ด ซาฮา, จอร์แดน อายิว , แอนดรอส ทาว์นเซ่น และ เจฟฟรีย์ ชลุปป์ เพียงแค่ 4 คนนี้สามารถสร้างปัญหาให้แนวรับ “ปีศาจแดง” ทั้งแผนจนไม่รู้ว่าใครมีตัวมากกว่าใครด้วยซ้ำ
Speed บอลที่ช้าและไร้ความซับซ้อนในการตั้งเกมขึ้นมาทำให้ พาเลซ ของ ”ปู่รอย” ที่ขึ้นชื่อลือชาอยู่แล้วว่าเกิดมาเพื่อเล่นสวนกลับจึงเอาอยู่ทุกกระบวนท่า
ตั้งแต่เกมรุกริมเส้นโดยเฉพาะฝั่งขวาที่ ดาเนี่ยล เจมส์ ที่หมดมุกไปตั้งนานแล้ว ไม่สามารถกระชากหนีใครได้เลยแถมน่าจะเป็นหนึ่งในปีกที่คืนหลังให้เพื่อนบ่อยเอามากๆ ไม่แปลกใจเลยที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เปลี่ยนตัวออกแล้วส่ง เมสัน กรีนวูด ตั้งแต่ลงสนามครึ่งหลัง
เกมยุคใหม่ที่หลายๆทีมหันมาใช้แบ็คเป็นตัวรุกพิเศษแต่ “ปีศาจแดง” เสียเปรียบคู่แข่งเมื่อ ทิโมธี โฟซู-เมนซาห์ ไม่สามารถช่วยอะไรได้
ในขณะที่ “ประตูเครื่องหมายการค้า” ที่ได้บ่อยมากในฤดูกาลก่อนคือลูกลากตัดเข้าในของ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อ็องโธนี่ มาร์กซิยาล ถูก “ปู่รอย” ทำการบ้านมาดีมาก
คือทุกๆครั้งที่ 2 ตัวนี้ได้บอลบริเวณด้านข้างของเขตโทษจะมีตัวรองไว้บล็อกลูกตัดเข้าใน พอเจอแบบนี้บ่อยเข้า ยูไนเต็ด ยิ่งเกมตันจนต้องออกบอลแบบฝืนธรรมชาติและจังหวะบ่อยครั้งจนถูกสวนกลับ
ภาษากายของแนวรับ ยูไนเต็ด บอกเลยครับว่าเหนื่อยหน่ายเหลือเกินไม่ว่าจะเป็นการก้มหน้าเสยผมของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ หลังโดนป่วนแล้ว พาเลซ ยิงออกหลังไปเอง หรือการช่วยสกัดของ ลินเดอเลิฟ พร้อมหน้าเหนื่อยใจ
อีกจุดที่ทำให้เจ้าบ้านกระอักกระอ่วนดูท้อแท้คือทุกๆครั้งที่พยายามตั้งเกมจากแนวรับขึ้นมาจะเจอกับฝูงไฮยีน่า ซาฮา,อายิว, ทาว์นเซ่นและ ชลุปป์ รุมแย่งและทำแบบนี้ได้บ่อยด้วย
เรียกว่า ทาว์นเซนด์ ยิงประตูขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 7 “ปีศาจแดง” ยังตั้งเกมและพาบอลมาไม่ถึงระยะอันตรายของทีมเยือนเลยด้วยซ้ำ
แดนกลางที่เคยแบกทีมจนผลงานดีต่อเนื่องหลังกลับมา restart เมื่อซีซั่นที่แล้วอย่าง บรูโน่ ก็หายไปตามองค์ประกอบทีม
จะให้แกทำอะไรได้ในเมื่อคู่แข่งยืนรับเกะกะแน่นๆมันต้องเล่นให้ไวหรือปีกต้องทำงานแต่ไม่มีใครขยับหรือหาช่องให้ ยิ่งโดนนำ 1-0 พาเลซ เป็นจงอางหวงไข่ยิ่งไม่ยอมออกจากพื้นที่หนักกว่าเดิม
แต่ที่เหมือนภาระและทำให้เกมเสียคือ ป็อกบา ครับ วันนี้โดยเฉพาะครึ่งหลังจ่ายบอลเสียง่ายๆเยอะมาก เข้าใจว่าเพิ่งหายจากโควิดและน่าจะไม่ฟิตแต่ปัญหาคือโค้ชรีบร้อนส่งมาในสภาพนี้ได้ยังไง
ทำให้ทุกๆจุดในสนามของ ยูไนเต็ด เกมนี้ดูเป็นรอง พาเลซ ไปซะหมดจนกระทั่ง ฟาน เดอ บีค ต้องถูกส่งลงมาแทนในนาที 67
การขาดความเข้าใจเกมของนักเตะ ยูไนเต็ด เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้สภาพทีมไม่ดีขึ้นเช่นจังหวะบ้ายิงส่งเดชทั้งๆที่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ก็ทำเวลาถูกเผาไปเรื่อยๆโดยเปล่าประโยชน์
ซ้ำร้ายวันนี้ “ปีศาจแดง” กลายเป็นเหยื่อของกฏใหม่ทั้งการทำแฮนด์บอลของ ลินเดอเลฟ จนทำให้ มาร์ติน แอ็ตกินสัน ผู้ตัดสินต้องไปดูมอนิเตอร์ด้วยตัเวอง รวมถึงการเซฟจุดโทษของ เด เกอา กลายเป็นโมฆะจากกรณีที่ขาทั้ง 2 ข้างออกมาจากเส้น
ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค ยิงประตู on debut เหมือนหญิงสาวที่มาให้ความหวังจากสกอร์ไล่มา 2-1 แต่ 5 นาทีต่อมาความงุ่นง่านของ ลินเดเลิฟ ทำให้ ซาฮา ยิงปิดเกมและยิงเบิ้ลใส่ทีมเก่าหลังก่อนหน้านี้เป้าสะอาดมา 9 นัดรวด
ระบบการเล่น, ความเข้าใจเกมของนักเตะ, ความผิดพลาดส่วนตัว และผู้จัดการทีมแก้เกมไม่เก่ง+ไร้แท็คติกส์ ยิ่งเป็นตัวฉุดให้ “ปีศาจแดง” พ่ายยับเปิดสนาม 3-1
ผมเชื่อว่า เร้ดอาร์มี่ “รับได้” ถ้าจะแพ้แบบ positive คือเล่นดีกว่ารูปเกมดีกว่าแต่จบไม่ลงกันเอง ถ้าลงเอยแบบนี้นัดต่อไปแค่ยิงเน้นๆ เล่นให้ละเมียดขึ้น เห็นแก่ตัวให้น้อยลง มันก็ยังพอเห็นทางไปต่อ
แต่ ณ เวลานี้ แมนฯยูไนเต็ด ยุค “น้าโอเล่” ดูไร้ทิศทางและความชัดเจนจริงๆครับเพราะบทจะฟอร์มดีก็ดีแบบไม่มีหางเสียงชนิดไร้พ่ายเป็นสิบๆนัดแต่ถึงคราวออกทะเลก็ไร้เสียงเตือนใดๆ
หรือบอร์ดต้องการให้ทีมวนลูปไปแบบนี้โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันไหนเวลาไหนจะกลับมาเป็นแบบเดิม แล้วจะให้แก้จุดไหนดีละครับถ้าอีหรอบนี้
การเค้นศักยภาพของนักเตะที่แอบมีแวว หรือ ดึงแข้งโนมเนมจากทีมรองมาปั้นและดังเป็นพลุแตกเหมือนหลายๆทีมเขาทำกันเป็นเรื่องที่เหมือนเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับการเล่นที่ไร้ระบบของ ยูไนเต็ด ในเวลานี้
คำถามคือเล่นแบบนี้ไม่รู้เลยครับต้องเสริมอีกกี่ตัวถึงจะเพียงพอเพราะมันดูรวนหลายตำแหน่งเหลือเกินแถมในสถานการณ์ covid จะถลุงเงินได้มากแค่ไหนกันเชียว?
อยากวัดกึ๋นผู้จัดการทีมเพื่อให้ธรรมชาติคัดสรร ผมว่าช่วงนี้น่าจะเหมาะที่สุดแล้วครับ...
แก้ไขล่าสุดโดย เบน ฟรีคิก เมื่อ Sun Sep 20, 2020 13:45, ทั้งหมด 2 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ