โคตรดราม่า! P$G ยิงแซง 2 ลูกทดเจ็บดับฝัน 'อตาฯ' 2-1 ลิ่วตัดเชือก
อตาลันต้า ที่ทำดีมาทั้งเกมและขึ้นนำมาตลอด 90 นาที มาโดนทีเด็ดของแชมป์จากลีกเอิง อย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยิงแซง 2 ลูกรวดช่วงนาทีสุดท้ายของเกมจาก มาร์ควินญอส และ ชูโป-โมติง กลายเป็นฝ่ายเฉือนชนะ 2-1 เข้าไปสู่รอบ 4 ทีมสุดท้าย เข้าไปพบผู้ชนะระหว่าง แอร์เบ ไลป์ซิก และ แอตเลติโก้ มาดริด
อตาลันต้า
Starting Formation: 3-4-2-1
19.
เบรัต ดิมซิติ
60'
6.5
10.
อเลฮานโดร โกเมซ
59'
7
88.
มาริโอ ปาซาลิช
70'
7.5
91.
ดูวาน ซาปาต้า
82'
6.5
ตัวสำรอง
6.
โฮเซ่ ปาโลมิโน่
60'
6
9.
หลุยส์ มูเรียล
70'
5.5
18.
รุสลาน มาลินอฟสกี้
59'
6
20.
ยาโกโป ดา รีวา
82'
6
21.
ทิโมธี่ คาสตาญ
82'
6
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย
สนาม เอสตาดิโอ ดา ลุซ (สนามกลาง)
พุธ ที่ 12 สิงหาคม 2563
กรรมการ แอนโทนี่ เทย์เลอร์
อตาลันต้า
1
2
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
1-1 มาร์ควินญอส 90'
1-2 เอริค มักซิม ชูโป-โมติง 90+3 '
เกมประเดิมนัดแรกของศึกแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีม รูปแบบใหม่ที่จะเตะตัดสินกันแบบนัดเดียวที่สนามเอสตาดิโอ ดา ลุซ เมืองลิสบอน อตาลันต้า ที่ฟอร์มแรงจากอิตาลี จะพบกับแชมป์จากฝรั่งเศสอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งจะเป็นการพบกันครั้งแรกของทั้งสองทีม
อตาลันต้า จะไม่มี ปิแอร์ลุยจิ กอลลินี่ ผู้รักษาประตูตัวจริงที่ได้รับบาดเจ็บ รวมไปถึง โยซิป อิลิซิช ที่มีปัญหาส่วนตัวไม่ได้ช่วยทีมมาร่วม 2 เดือน
ส่วนทางเปแอสเช จะได้คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ดาวยิงตัวความหวังหายเจ็บกลับมามีชื่อเป็นตัวสำรอง แต่จะขาดมาร์โก แวร์รัตติ ที่มีอาการบาดเจ็บ และอังเกล ดิมาเรีย ที่ติดโทษแบน
โกเมซ ได้ซัดท้าทายก่อนเข้าซอง นาบาส
เริ่มเกมมาเป็นอตาลันต้า ได้ทักทายก่อน ซาปาต้า ทางฝั่งซ้ายแต่บอลต่อมาให้ โกเมซ หน้ากรอบได้ซัดด้วยซ้ายบอลไปตรงตัว นาบาส รับไว้ไม่มีปัญหา
เนยมาร์ หลุดไปชัดนิ่มๆ บอลหลุดกรอบ!
จังหวะต่อเนื่องส่วนกลับขึ้นมา อิคาร์ดี้ แตะบอลจากกลางสนามลากมาจ่ายให้ เนย์มาร์ ได้หลุดไปคนเดียวกลางประตูตั้งแต่เกือบ 30 หลา ก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะยิงข้ามตัว สปอร์ติเอลโล่ แต่บอลโค้งหลุดเสาขวาออกไปน่าตาเฉย
ฮาเตบัวร์ สอดมาโขกเน้นๆ นาบาส ต้องซุปเปอร์เซฟ!
โกเมซ จากทางฝั่งซ้ายโยนบอลเข้ามาให้ ฮาเตบัวร์ ที่เสาสองได้สอดเข้ามาโขกหน้าเสาเต็มๆ บอลพุ่งตรงกรอบแต่ นาบาส ยังกระโดดซุปเปอร์เซฟปัดออกหลังได้หวุดหวิด
ดิมซิติ ได้โขกอีก แต่บอลยังหลุดกรอบ
อตาลันต้า ยังคงโหมบุกแล้วมีโอกาสได้ลุ้นต่อเนื่อง จังหวะนี้ โกเมซ เปิดฟรีคิกจากทางซ้ายเข้ามาให้ ดิมซิติ ได้โหม่งที่เสาแรก แต่บอลยังหลุดเสาซ้ายออกไป
เนยมาร์ ลากมาคนเดียวกลางสนาม แต่เปิดออกหลังไปเฉย
เนย์มาร์ มีจังหวะแตะบอลหลุดมาตั้งแต่กลางสนามฝั่งซ้าย ได้ลากมาคนเดียวจนถึงในกรอบ แต่จังหวะสุดท้ายเลือกเปิดเข้ากลางแต่ไม่มีเพื่อนร่วมทีมสักคนบอลหลุดออกหลังไปแบบงงๆ
ปาซาลิช ได้โหม่งบ้าง! ก็ยังไม่ผ่านมือ นาบาส
อตาลันต้า ยังคงมีโอกาสลุ้นจากจังหวะเปิดลูกตั้งเตะ โกเมซ เปิดฟรีคิกทางฝั่งซ้ายเข้ามาคราวนี้เป็น ปาซาลิช ได้ขึ้นโหม่งกลางประตูแต่บอลยังเบา นาบาส กระโดดรับติดมือสบาย
ปาซาลิช ปั่นโค้งๆหายเลย! อตาฯ นำแล้ว 1-0
จากจังหวะบุกขึ้นมาของอตาลันต้า บอลมาถึง ซาปาต้า หน้ากรอบตรงกลางโดนสกัดบอลก่อนจะหลุดมาเข้าทาง ปาซาลิช ในกรอบฝั่งขวาได้วางเท้าปั่นด้วยซ้ายเน้นๆ บอลโค้งหนี นาบาส เสียบมุมไม่เหลือ อตาลันต้า ขึ้นนำจนได้
เนย์มาร์ ลากโซโล่ มาซัดบอลหลุดเสานิดเดียว!
เนย์มาร์ มีจังหวะได้ลากจากทางซ้ายเกือบ 35 หลาฝ่าเข้ามาคนเดียวก่อนจะได้ซัดหน้ากรอบ บอลหลุดเสาซ้ายออกไปนิดเดียว ถือว่าได้ลุ้น
เนย์มาร์ ได้ปั่นฟรีคิกเข้ามือ สปอร์ติเอลโล่
เปแอสเช ได้ฟรีคิกหน้ากรอบเยื้องซ้ายระยะไม่ถึง 30 หลา แล้วเป็น เนย์มาร์ อาสาปั่นด้วยขวา บอลโค้งเกือบมุดคานเข้าประตูแต่ สปอร์ติเอลโล่ ยังกระโดดตะปบบอลติดมือ
เนย์มาร์ ส้มหล่นหลุดเดี่ยวอีก แต่ก็ยังยิงหลุดกรอบ!
เนย์มาร์ เก็บตกบอลจาก ฮาเตบัวร์ ที่จ่ายคืนหลังพลาดลากเข้าไปถึงในกรอบฝั่งซ้าย ก่อนจังหวะสุดท้ายจะยิงด้วยซ้ายบอลหลุดออกไปไกลไม่ได้ลุ้น
จบครึ่งแรกโอกาสลุ้นประตูพอกัน แต่อตาลันต้า ทำได้ดีกว่าและขึ้นนำก่อน 1-0
ครึ่งแรกเป็นฝั่งอตาลันต้า ทำเกมรุกได้ต่อเนื่องกว่า และใช้โอกาสของพวกเขาเปลี่ยนเป็นประตูขึ้นนำจากลูกยิงสุดสวยของ ปาซาลิช ส่วนฝั่ง เปแอสเช ถือเป็นฝันร้ายของเนย์มาร์ ที่พลาดโอกาสจ่อๆไปหลายครั้ง
เดอ รอน ส่องไกลนอกกรอบบอลหลุดไปไกล
เรื่มครึ่งหลังมากว่า 10 นาที ทั้งสองฝั่งผลัดกันบุกและได้เตะมุมหลายครั้ง จังหวะนี้เป็นเตะมุมฝั่งขวาของอตาลันต้า บอลมาถึง เดอ รอน ได้เก็บตกหน้ากรอบด้วยขวา แต่บอลหลุดออกไปไกล
ดิมซิติ หวดหน้าเสาบอลหลุดไปนิดเดียว!
จังหวะฟรีคิกฝั่งซ้ายของอตาลันต้า เปิดเข้ามา บอลสุดท้ายมาถึงเสาขวา ดิมซิติ ได้วิ่งมาซัดกดลงพื้นหน้าเสาซ้าย บอลหลุดออกไปนิดเดียวเกือบได้อีกลูก
เปแอสเช อยู่เฉยไม่ได้! ต้องเปลี่ยน เอ็มบัปเป้ ลงสนาม
เปแอสเช เลือกส่ง เอ็มบัปเป้ ตัวความหวังที่เพิ่งหายเจ็บลงสนามแทน ซาราเบีย ที่วันนี้แทบไม่มีบทบาทในเกม
ครึ่งหลังเริ่มปะทะกันมากขึ้น แต่สองทีมยังไม่มีโอกาสลุ้นประตูเพิ่ม
เกมครึ่งหลังสองทีมค่อนข้างจะเซฟจังหวะ และมีจังหวะปะทะกันมากขึ้น แต่ทั้งสองทีมก็ยังไม่มีโอกาสได้ลุ้นแบบจะๆ แม้จะพาบอลเข้าพื้นที่อันตรายได้บ่อยครั้งก็ตาม
เอ็มบัปเป้ ลากมาซัดในกรอบติดเซฟ สปอร์ติเอลโล่ เต็มๆ!
เอ็มบัปเป้ มีโอกาสได้โชว์ทักษะกระชากบอลจากฝั่งซ้ายเข้ามาถึงหน้าเสา ก่อนจังหวะสุดท้ายจะไปติดเซฟ สปอร์ติเอลโล่ ปลายท้ายนิดเดียว
เนย์มาร์ ลากจี้เข้ามาซัดในกรอบ ก็ยังไม่ผ่าน สปอร์ติเอลโล่
เนย์มาร์ มีจังหวะได้ลากจี้เข้ามาก่อนจะได้จบในกรอบฝั่งซ้าย แต่บอลสุดท้ายก็ยังเบาไปตรงตัว สปอร์ติเอลโล่ ล้มตัวรับสบาย
เปแอสเช เซ็งอีก! นาบาส เจ็บแฮมสตริง เล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนออก
เปแอสเช ต้องมาเสียนักเตะสำคัญไปอีกหลังจาก นาบาส ที่มีจังหวะเจ็บแฮมสตริงมาสักพักใหญ่ เล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยน ริโก้ ลงมาเฝ้าเสาแทน
เอ็มบัปเป้ ได้หลุดเข้ามาอีกแต่ยังยิงไปติดบล็อค
เอ็มบัปเป้ มีจังหวะหลุดเข้ามาหน้าเสาซ้ายอีกครั้ง แต่จังหวะสุดท้ายจะง้างยิงยังไปติดบล็อค ปาโลมิโน่ ออกหลังเป็นเตะมุม
ชูโป-โมติง ได้ขึ้นโขกบอลยังข้ามคาน
จังหวะเตะมุมฝั่งขวาของ เปแอสเช ดรักซ์เลอร์ เปิดเข้ามาให้ ขูโป-โมติง ได้ขึ้นโขกกลางประตู แต่บอลก็ยังหลุดข้ามคานออกไปอยู่ดี
เปแอสเช เอาจนได้! มาร์ควินญอส จิ้มตีเสมอ 1-1
ชูโป-โมติง ลากบอลมาจากทางซ้ายก่อนจะเปิดเข้ามาให้ เนย์มาร์ หน้าเสาซ้าย เปิดต่อมาให้ มาร์ควินญอส หน้ากรอบไม่ถึง 5 หลาจิ้มเข้าไปไม่เหลือ เปแอสเช เริ่มมีความหวัง
ชูโป-โมติง ฮีโร่! เปแอสเช ยิงเฮแซงทดเจ็บ 2-1
เนย์มาร์ หน้ากรอบจ่ายบอลหลุดเข้ามาให้ เอ็มบ๊าปเป้ ได้ลากไปสุดเส้นซ้ายก่อนจะเปิดเข้ามาตรงกลางให้ ชูโป-โมติง จิ้มเข้าไปไม่เหลือกลายเป็นลูกยิงปาฏิหาริย์ แซงขึ้นนำจนได้
ชูโป-โมติง ฮีโร่ยิงทดเจ็บ เปแอสเช ทะลุเข้ารอบ 4 ทีม
เปแอสเช ได้ประตูสุดเหลือเชื่อช่วงท้ายเกมจาก มาร์ควินญอส และ ชูโป-โมติง ช่วยให้พวกเขา ทะลุเข้าไปสู่รอบ 4 ทีมสุดท้าย เข้าไปพบผู้ชนะระหว่าง แอร์เบ ไลป์ซิก และ แอตเลติโก้ มาดริด
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
Starting Formation: 4-3-3
1.
เคย์เลอร์ นาบาส
79'
6.5
21.
อันเดร์ เอร์เรร่า
72'
6.5
27.
ไอดริสซ่า เกย์
72'
6.5
19.
ปาโบล ซาราเบีย
60'
6
18.
เมาโร อิคาร์ดี้
79'
6.5
ตัวสำรอง
16.
เซร์กิโอ ริโก้
79'
6
7.
คิลิยัน เอ็มบัปเป้
60'
7
8.
เลอันโดร ปาเรเดส
72'
6.5
17.
เอริค มักซิม ชูโป-โมติง
79'
7
23.
ยูเลียน ดรักซ์เลอร์
72'
6.5
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Thu Aug 13, 2020 06:40, ทั้งหมด 52 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ