แมทช์เดย์ !! วันนี้สาวกเร้ดเดวิลล์มีนัดกันเวลาตี 2
เราจะเปิดใช้โอลด์แทรฟฟอร์ดเป็นครั้งสุดท้ายในฤดูกาลนี้ (หลังจากนี้จะไปแข่งสนามกลางที่โคโลญจน์ ประเทศเยอรมัน) เพื่อปิดจ็อบ LASK หลังจากนัดแรกเราชนะมา 5 - 0
ทาย 11 ตัวจริงคาดการณ์ คืนนี้โอเล่บอกว่าน่าจะไม่แตกต่างจากนัดแรกมากผมเลยเดาว่าประมาณนี้ครับ
Media brief - The walk away from the table -Poker Face
แทคติคดั้งเดิมที่ใช้ประจำในการบรัฟต่อรองของทีมซื้อขายยูไนเต็ดสำหรับบิ๊กดีล ในการพยายามขอลดค่าตัว
ตัวอย่างตามลิงค์ครับ
Harry Maguire:
Bruno Fernandes:
Jadon Sancho:
Nothing more than a mufc club brief.
เพิ่มให้ครับลูปของข่าวบิ้กดีลของยูไนเต็ด
> สื่อ Gossip และ tier ต่ำโหมว่าปิดดีล
> tier ระดับสูงบอกว่าสนใจจริงแต่ยังไม่มีการยื่นข้อเสนอ
> โรมาโน่เผยว่ามีการเจรจากัน
> Gossip และ tier ต่ำโหมว่าปิดดีล ข้อตกลงส่วนตัวโอเคแล้วใกล้ปิดเต็มที่
> tier ระดับสูงบอกว่าคุยยังไม่ลงตัวพร้อมไปหาเป้าหมายใหม่
> Gossip และ tier ต่ำโหมว่าดีลมีความเสี่ยงจะล่ม
> Here we go !!
ส่วนอันนี้เป็นของเพจดูบอลกับแนท ลงแทบจะพร้อมกับที่ผมโพสลงเพจเลย หรือเราสองคนก็โดนยูไนเต็ดบรีฟมาเหมือนกัน
ลิงค์โพสเพจผม
https://www.facebook.com/111844807168012/posts/156861452666347/
ลิงค์โพสดูบอลกับแนท
https://www.facebook.com/1642712996030734/posts/2408676822767677/
#ไขข้อข้องใจ
#หลังสื่อระดับสูงตีกันเองกลางดึก
#และรู้เท่าทันการPRของสื่อสโมสร
ขณะที่ผมกำลังกลับจากการไปจัดรายการที่คลื่น FM99 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
อยู่ดีๆ ก็เกิดสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในทวิตครับ นั่นคือ ผู้สื่อข่าว Tier 1 เกิน 5 คน ทวิตข่าวเจดอน ซานโช่ 'พร้อมกัน'
กองทัพ English Tier1s (ผู้สื่อข่าวอังกฤษ Tier 1) ที่รายงานข่าวนี้ได้แก่ Simon Stone (BBC) , Simon Peach (PA) , James Ducker (Telegraph)
หรือแม้แต่ , David Ornstein (The Athletic , Tier 2) , Laurie Whitwell (The Athletic , Tier 3) , James Robson (Evening Standard , Tier 4) ก็รายงานลงเว็บไซต์พร้อมกันไปด้วย
เพราะอะไรนักข่าวเหล่านี้ถึงได้โพสเนื้อหา 'แบบเดียวกัน' และ พร้อมกัน ... ท่านที่เข้าใจผม น่าจะต้องอยู่ด้วยกันเมื่อคืนนี้ครับ เพราะเวลาการโพสต์มันพร้อมกันเหมือนนัดกันมา
แบบนี้แน่นอนว่าแก๊ง Tier1s (ขออนุญาตเรียกแบบนี้) คงไม่ได้รับข่าวนี้มาจากการหาข่าวของตัวเอง แต่มาจากการให้ข้อมูล (briefing) จากแหล่งเดียวกัน
ซึ่งเมื่อดูใจความสำคัญที่แก๊ง Tier1s (เติม s เพราะมีหลายคน) รายงานตรงกันคือ 'อีกไกลมากกว่าราคาค่าตัวจะตกลงกันได้ ถ้าดอร์ทมุนด์ไม่ลดราคาลงมา ยูไนเต็ดจะขอเดินออกจากดีล (Walk away) ไป'
ผมย้ำอีกครั้งว่า Status หรือสถานการณ์ที่แก๊ง Tier1s รายงานตรงกัน ไม่ได้เรียกว่า 'ดีลล่ม' นะครับ เพราะถ้าดีลล่ม จะต้องมีประโยคที่ว่า 'Negotiations breaks down' หรือ 'Deal falls through' อันนี้คือจบแน่นอน ล้มกระดาน แต่คำว่า Far apart in valuation หรือการหาจุดดุลยภาพระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่ยังไม่เจอ นั่นคือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมานานมากแล้ว
ถ้าถามผมว่าทำไมสโมสรถึงต้องทำ Media Briefing หรือให้ข้อมูลกับนักข่าวอังกฤษทุกคน ผมคิดว่าสาเหตุคือ...
เป็นการกดดันโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โดยให้สื่อทางการที่น่าเชื่อถือได้มาก (BBC ของสโตน , PA ของพีช และ Telegraph ของ Ducker) เป็นผู้ที่รายงาน 'ข้อความ' ที่ว่า .... อย่าเยอะนะเสือเหลือง เดี๋ยวสักแดงเดียวก็จะไม่ได้ ตัวนักเตะก็อยากย้ายเต็มแก่แล้ว
(เข้าตำราที่เราเคยคุยกันว่า ยูไนเต็ดใช้วิธีเดินดีลแบบ Vampire คือดูดเลือดฝั่งตรงข้าม หรือในที่นี้คือ ดูดใจนักเตะให้อยากย้ายมาเล่นให้เราเต็มแก่ และท้ายที่สุดตัวนักเตะจะช่วยบีบให้ดีลเกิดขึ้นด้วย)
ซึ่งในเวลานี้ผมเชื่อว่า ซานโช่ ไม่ต่างอะไรกับดีลของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ บรูโน่ เฟอร์นานเดส ... ยูไนเต็ดจะพยายามคลุกกระแสข่าวให้กลิ่นหอมที่สุด แต่ตัวนักเตะก็จะคิดว่า 'ทำไมไม่ย้ายสักที'
แต่ดีลนี้ดอร์ทมุนด์รู้ดีครับว่าพวกเขารอแพ้อยู่แล้ว เพราะอำนาจสำคัญในการเจรจา อยู่ที่ฝั่งยูไนเต็ด เพราะตัวของซานโช่เอง 'อยากย้ายทีม'
ยูไนเต็ด เลยมั่นใจที่จะเดินเกมนี้ และใช้สื่อแก๊ง Tier1s ในการกดดันดอร์ทมุนด์ เป็นระลอกสุดท้าย
ถามว่าทำไม ผู้ชายที่เนื้อหอมที่สุดในโลกตลาดซื้อขายอย่าง Fabrizio Romano ถึงไม่โดน Brief ?
คำตอบคือ Romano ไม่ได้เป็นนักข่าวที่มี Contact โดยตรงกับสโมสร งานของเขาคือการพบเจอเอเยนต์ , พบเจอ ผอ. กีฬา และพยายามหาข่าวจากท้องถนน (Street News Reporter) จริงๆ
ฉะนั้นเมื่อคืน Fabrize เป็นคนเดียวที่ยังยืนยันว่า การเจรจาของยูไนเต็ดกับดอร์ทมุนด์ แม้จะยังไม่ลุล่วงหรือ Done deal แต่ยังคงอยู่ใน Advanced stage (การเจรจาคืบหน้าไปมากแล้ว)
Fabrize รู้จากเอเยนต์ของซานโช่ นั่นคือ Emeka Obasi และรู้จากสายข่าวของทั้งฝั่งดอร์ทมุนด์ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งตัวเขา ไม่ได้โดนให้ข้อมูล (Briefing) จากตัวแทนของสโมสร เหมือนกับแก๊งอังกฤษ Tier1s
เช่นเดียวกับ Jan Aage Fjortoft (Tier 2 , ViaSport) และ Christian Falk (Tier 2) ที่ยืนยันเหมือนกับ Fabrize และอยู่ข้างเดียวกัน ทั้งคู่บอกว่า ดอร์ทมุนด์ต้องการเงินรวม 120 ล้านยูโร แต่โต๊ะเจรจายังไม่ล่มแน่ๆ
และดอร์ทมุนด์ยังรอให้ ยูไนเต็ด Creating a deal (ออกแบบดีลนี้) ให้ตรงใจทั้งสองฝ่าย จะผ่อนจ่าย , จะมี Add-Ons ก็ว่าไป
แต่เป็น 'ปีศาจแดง' เรานี่แหละครับ ที่งัดไม้ตายในการต่อราคา โดยใช้วิธีบรีฟสื่อพร้อมกันในเวลาราว ตี 4 ของเมื่อคืนวันอังคาร
ย้ำอีกครั้งว่า ก่อนจะผมจะกดโพสต์ไม่กี่นาที Romano ยังตื่่นมาทวิตว่า 'ทั้งสองสโมสรยังคงเจรจากันอยู่'
เมื่อวานมีน้องกันต์ แฟนเพจท่านหนึ่งทักมาถามผม ผมเลยตอบไปว่า ในมุมผมมันคือ 'บรูโน่โมเดล' ที่ยูไนเต็ดพยายามใช้วิธีต่างๆ ในการต่อราคากับดอร์ทมุนด์
แต่ท้ายที่สุด ทุกฝ่ายรู้ว่าดีลต้องเกิดขึ้นครับ แต่ใครจะเป็นฝ่ายชนะในดีลนี้ (ได้ประโยชน์มากกว่า ; จ่ายน้อย หรือ โก่งได้เยอะ) ต้องรอดูครับ
ผมสรุปได้แค่ว่า งานนี้ Tier1s ต้องเขียนข่าวตามที่สโมสรบรีฟมา แต่พวกเขาไม่ได้บอกว่า ดีลล่มนะครับ แค่บอกว่า 'ผีพร้อมจะไปแล้วนะ และตอนนี้คนซื้อกับคนขายยังตกลงกันไม่ได้' แต่ดูจากทางข่าวมันทำให้แฟนบอลตกใจเล่นไปอย่างนั้นเอง
โพสต์เมื่อคืนตี 4 ผมถึงสะกิดแฟนบอลทุกท่านให้ไปนอนไงครับ อย่ากังวลเลย
#แนทดูบอลกับแนท
โชคดีแองเจิ้ล โกเมส !!
Once a Red always Red
แองเจิ้ล โกเมสที่หมดสัญญาไปเมื่อวันที่ 30 มิย ที่ผ่านมาบรรลุข้อตกลงในการไปร่วมทีมลีลล์ ของฝรั่งเศส โดยเซ็นกัน 5 ปี และ ในฤดูกาล 2020/21 จะเป็นการยืมตัวไปเล่นให้กับเบาวิสต้าลีกโปรตุเกสที่เป็นพันธมิตรกับทีมลีลล์
โดยหลังจากโกเมสได้โพสขอบคุณและอำลายูไนเต็ด มีเพื่อนพี่น้องที่มาจากอะคาเดมี่มาร่วมคอมเม้นต์อำลากันอย่างอบอุ่นหลายคนเลยครับ ทั้งแมคซอส เมสัน แบรนดอน โฟซู เลด เทเดน การ์เนอร์ เลวิท เทเลอร์ เมลเลอร์ รวมถึงรุ่นพี่ในทีมอย่าง ดาโลท มาต้าด้วยครับ
เปิดดูคลิปจากเว็บเฟสบุค
โรมาโน่ยังไม่ Here we go โอเล่เลยพูดเองตอนจบเพรสคอนมันซะเลย