เทพกี้พาแซง!มาเน่โค้งๆ 'หงส์' โดนไวไล่แซงสาลิกา 3-1 จบ 99 แต้ม
ดไวท์ เกล ยังเป็นตัวแสบของลิเวอร์พูลต่อไป เมื่อยิงนำตั้งแต่ 30 วินาทีแรก ก่อนที่เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ โขกตามตีเสมอแล้วก็ต้องถึงตีน ดิว็อค โอริกี้ ตะบันงามพาสาวกชาบู สุดท้ายเป็น ซาดิโอ มาเน่ ปั่นโค้งปิดกล่องชนะ 3-1 จบฤดูกาลด้วยการคว้า 99 แต้มแบบสวยงามเป็นสถิติสโมสร
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
Starting Formation: 3-5-2
28.
แดนนี่ โรส
74'
6
24.
มิเกล อัลมิร่อน
70'
6
42.
นาบิล เบนทาเล็บ
49'
6
10.
อัลแล็ง แซงต์-แม็กซีแม็ง
46'
6
12.
ดไวท์ เกล
70'
7
ตัวสำรอง
14.
ไอแซค เฮย์เดน
70'
6
36.
ชอน ลองสต๊าฟฟ์
49'
6
49.
เคลแลนด์ วัตต์ส
74'
6
7.
แอนดี้ แคร์โรลล์
70'
6
9.
โชเอลินตอน
46'
6
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค
อาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม 2563
กรรมการ แอนโธนี่ย์ เทย์เลอร์
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
1
3
ลิเวอร์พูล
1-1 เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ 38'
1-2 ดิว็อค โอริกี้ 59'
1-3 ซาดิโอ มาเน่ 89'
ทั้งสองทีมไม่ได้มีลุ้นอะไรแล้วแต่นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เหมือนส่งทีมเต็มลงสนาม นำมาโดยจอนโจ้ เชลวี่ย์ คุมทัพแดนกลางแล้วให้อัลแล็ง แซงต์-แม็กซีแม็งและดไวท์ เกล ตัวแสบที่ชอบยิงลิเวอร์พูล ค้ำแดนหน้า ส่วนเยอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนหลายตำแหน่งเลยโดยเฉพาะแนวรุกตัวจริงไม่มาทั้ง 3 คน ใช้บริการของโอริกี้, มินามิโนะและแชมเบอร์เลน ขณะที่นาบี เกอิต้า, เจมส์ มิลเนอร์และจอร์จินิโอ้ ไวจ์นาลดุม คุมแดนกลาง ส่วนเนโก วิลเลี่ยมส์ ได้ประจำการตำแหน่งแบ็คขวาตัวจริง
ไอ้จ้อนเล่นเร็ว!เกลตัวแสบยิงหงส์ 1-0
ผ่านไปแค่ 30 วินาที นิวคาสเซิ่ล ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน เมื่อฉวยโอกาสเล่นฟรีคิกเร็วกลางสนามเป็นเชลวี่ย์ ตักบอลยาวไปให้เกลเกี่ยวบอลหลุดเดี่ยวไปจิ้มสวนตัวของอลิสซอน เข้าไปไม่เหลือ
หงส์ครองเกมหมดแต่ไม่ได้ยิง
ลิเวอร์พูล ครองบอลได้แทบจะทั้งหมดแต่ยังไม่สามารถหาช่องเจาะแนวรับของเจ้าถิ่นที่ถอยลงไปเล่นเกมรับได้อย่างแน่นหนา ทำให้ช่วงที่ผ่านมายังไม่มีโอกาสยิงประตูกันเลย
ทาคิลองตะบันไกล
โอกาสแทบจะหนแรกของ หงส์แดง เป็นจังหวะที่มิลเนอร์ไหลบอลต่อไปให้มินามิโนะ ลองส่องไกลด้วยขวาระยะไกลกว่า 35 หลาแต่ก็ไม่ผ่านมือของดูบราฟก้ารับสบาย
เฟอร์นานเดสเติมมายิง
กลับมาเป็นนิวคาสเซิ่ลได้โอกาสบ้าง เมื่อเฟอร์นานเดสเติมขึ้นมาทางขวาก่อนได้ตวัดวอลเล่ย์เต็มๆ แล้วบอลเหมือนไปแฉลบบล็อคของโรเบิร์ตสันก่อนหลุดออกหลังไป
เกอิต้ากดไกลไม่ได้ลุ้น
หงส์แดง บุกขึ้นมาอีกหน บอลไหลกลับมาเข้าทางของเกอิต้า ได้บอลนอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนตัดสินใจยิงไกลทันทีแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
OX กระชาก!VvD โขกหายหงส์ไล่ตี 1-1
หลังจากบุกอยู่นาน ลิเวอร์พูล มาได้ประตูตีเสมอจนได้ ต้องชมแชมเบอร์เลนกระชากหนีโรสหายไปสุดเส้นหลังด้านขวาก่อนตวัดเข้ากลางไปเข้าหัวของฟาน ไดจ์ที่โดนประกบสองคนแต่ไม่อยู่บอลย้อยเสียบใต้คานเข้าไปสวยงาม
OX ขอลองส่องไกล
แชมเบอร์เลนลูกนี้ขอยิงบ้าง เป็นจังหวะที่รับบอลมาจากไวจ์นาลดุมก่อนส่องด้วยขวานอกกรอบทันทีบอลพุ่งแรงแล้วแต่หลุดเสาซ้ายมือออกไป
VvD โขกเบาเกินไป
จังหวะคอนเนอร์ของลิเวอร์พูล เป็นทางมิลเนอร์ โยนบอลไปทางเสาไกลเป้าหมายคือฟาน ไดจ์ที่เทคตัวสูงกว่าเฟอร์นานเดสได้โขกแต่เบาเกินไปเข้ามือของดูบราฟก้า
ลองสต๊าฟฟ์ตะบันไกล
ลองสต๊าฟฟ์เพิ่งลงมาได้ลุ้นเลย โชเอลินตอนได้บอลริมเส้นด้านซ้ายก่อนจ่ายมาให้เชลวี่ย์แล้วไหลต่อมาถึงลองสต๊าฟฟ์ตะบันไกลทันทีบอลพุ่งน้ำหนักดีแล้วแต่หลุดเสาออกไป
จงบูช้า!!!เทพกี้ตะบันตูมหงส์แซง 2-1
หงส์แดง แซงนำจนได้เริ่มจากฟาน ไดจ์โยนยาวจากแดนหลังมาถึงโรเบิร์ตสัน แต่งต่อให้โอริกี้จังหวะเดียวก่อนลากหนีมานกีโญ่แล้วก้มหน้าอัดด้วยขวาบอลพุ่งหนีดูบราฟก้าตุงตาข่ายสไตล์เทพ 2-1!!!
ซาลาห์หลุดเฟอร์นานเดสยังมาทัน
ฟิร์มิโน่วางบอลยาวจากกลางสนามไปให้ซาลาห์หลุดเดี่ยวเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วแต่จังหวะยิงยังมีเฟอร์นานเดสเข้ามาปั๊มเอาไว้ไม่งั้นเสียประตูแน่ๆ
ซาลาห์หวดไม่จับข้ามคานไกล
เกอิต้าพยายามลากแหวกเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่โดนดักเอาไว้บอลกระดอนมาเข้าทางซาลาห์วิ่งมายิงด้วยซ้ายไม่จับบอลข้ามคานออกไปไกล
หงส์ครองเกมหมดจด
เข้าสู่ช่วงท้ายเกมแล้ว ลิเวอร์พูลยังครองเกมหมดจดไม่ปล่อยให้เจ้าถิ่นได้บุกเลยครึ่งสนามมาเลย แต่จังหวะสุดท้ายของทีมเยือนก็ยังไม่คมเท่าไหร่
มาเน่ปั่นสวยงามหงส์หนี 3-1
ลิเวอร์พูลมาได้อีกลูก เป็นความสามารถของมาเน่ ที่ได้บอลนอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนลากหนีลาซาดร่ก่อนปั่นโค้งงามๆ เข้าไปทางเสาไกล 3-1
หงส์แซงชนะ 3-1
หมดเวลาการแข่งขัน ลิเวอร์พูลคว้าชัยส่งท้ายสมการเป็นแชมป์ปิดซีซั่นไปด้วยการคว้า 99 คะแนน สมใจแฟนๆ
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
76.
เนโก วิลเลี่ยมส์
84'
6
8.
นาบี เกอิต้า
84'
6.5
15.
อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน
64'
6.5
18.
ทาคุมิ มินามิโนะ
64'
6.5
27.
ดิว็อค โอริกี้
64'
7
ตัวสำรอง
66.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
84'
6
48.
เคอร์ติส โจนส์
84'
6
9.
โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่
64'
6.5
10.
ซาดิโอ มาเน่
64'
7
11.
โมฮาเหม็ด ซาลาห์
64'
6
แก้ไขล่าสุดโดย เบน ฟรีคิก เมื่อ Mon Jul 27, 2020 02:47, ทั้งหมด 18 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ