[RE: ยึดตามสัญญาเดิม! “ทรู” ยันถ่ายทอดสดไทยลีกแค่ 25 ตุลาเท่านั้น]
pedestrians พิมพ์ว่า:
Kaito Daiki พิมพ์ว่า:
bee!!bee!! พิมพ์ว่า:
Kaito Daiki พิมพ์ว่า:
vullope พิมพ์ว่า:
เรื่องนี้ เจ็บทุกฝ่าย
ทรู ก็เสียหาย เพราะช่วงไม่มีบอลแข่ง ต้องเอารายการอื่นมาฉายแทน คนดูน้อย สปอนเซอร์กะค่าโฆษณาก็ลด จะให้ทรูจ่ายเงินตามสัญญาโดยบอลไม่แข่งไม่ครบ ก็ไม่แฟร์กับทรู
สโมสรก็เสียหาย เพราะไม่มีบอลแข่ง ไม่มีค่าขายตั๋ว กะ ค่าขายของที่ระลึก แต่ยังต้องจ่ายเงินนักเตะและทีมงาน นี่ยังต้องรายได้ลดลงเพราะ ค่าลิขสิทธิ์ลดลงอีก
ผมเสียดายอย่างเดียว สมาคมจัดประชุมทุกสโมสรเมื่อเมษา มีมติเลื่อนแข่งเป็นกันยา แต่ทรูไม่ได้มาประชุมด้วย หากทรูมาประชุม เรื่องอาจไม่ลงเอยแบบนี้
มติในที่ประชุม อาจเลื่อนแข่งไปจนกว่าจะดีขึ้น แล้วนัดประชุมใหม่เป็นระยะๆ เพื่อหาทางแข่งต่อเร็วสุด
เพราะเดือนมิถุนายน รัฐก็ให้แข่งได้แล้ว
ต้น กรกฎา กกท ก็ให้แข่งได้
หากประชุมเร็วกว่านี้ อาจได้แข่งในเดือนสิงหาคม สโมสรก็จะได้เงินค่าถ่ายทอดเพิ่มขึ้นจากจำนวนนัดที่ลงแข่งเพิ่มขึ้น
เอาจริงๆอะ มันไม่ควรประกาศโต้งๆไปขนาดนั้นด้วยซ้ำว่าเตะกันยา เพราะสถานการณ์มันยังไม่ชัดเจน และไม่มีลีกไหนในโลกเขาประกาศวันรีสตาร์ทเลย เขามีแต่เลื่อนไม่มีกำหนดกันทั้งนั้น แล้วสมาคมบอลไทยไปประกาศรีสตาร์ท 12 กันยา ทั้งๆที่ตอนนั้นสถานการณ์ก็ยังวิกฤติอยู่ได้ยังไง และพอสถานการณ์คลี่คลาย มันก็หน้าที่สมาคมไม่ใช่เหรอที่จะต้องรีบทำแผนให้เร็วที่สุด มันหน้าที่สมาคมเต็มๆเลยที่ต้องทำแผนแข่งขันแผนรีสตาร์ทเสนอ ศบค. แล้วรีบแจ้ง แต่ตัวเองดันช้าเพราะอยากจะเตะ 12 กันยาตามแผนเดิมไง คือก็ไม่เข้าใจสมยศแกเหมือนกันว่าการกลับคำพูดตัวเองตอนแรกไปมันมีปัญหาอะไร
แล้วถามว่า ทรูผิดอะไรที่ไม่ถ่ายต่อ คือทุกคนคิดแต่ว่าสมาคมทำไรไร้การวางแผนแบบนี้คือถูกต้อง แล้วทรูต้องมาเอาใจแฟนบอลด้วยการยอมถ่ายต่อจนจบฤดูกาล ใช่หรือไม่ ทั้งๆที่เคสนี้มันเตะให้เร็วขึ้นได้
เรื่องของเรื่องคือทางสมาคมฯ จะให้รีบกลับมาเตะแต่ในแบบปิดสนามเตะครับ แต่สโมสรแทบจะทั้งไทยลีกบอกว่าเตะแบบปิดไม่ได้
เพราะจะขาดรายได้จากตั๋วเข้าชมและของที่ระลึก ทางสมาคมฯ จึงให้มาหารือกันว่าจะเอายังไง สุดท้ายสมาคมฯ กับสมาชิกสโมสร
หารือและตกลงกันได้ว่าจะกลับมาเตะ 12 ก.ย. แบบเปิดสนาม ( ปักหมุดวันนี้ไว้ก่อนขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ) แต่วันนั้นที่เค้าประชุมกัน
ทางทรูวิชั่นส์กลับไม่ได้มาเข้าร่วมประชุม และจนปล่อยเวลามาเนิ่นนานเอาป่านนี้ ก็จึงได้มีเรื่องราวให้ได้แก้กันอย่างงี้นี่แหละครับ
เรื่องนี้ถามว่าใครเจ็บสุด สโมสร ทรู นักเตะ สมาคม?????
ขนาดเมืองนอกมันยังเตะแบบสนามเปิดไม่ได้กันเลย แล้วสโมสรคิดอะไรกันอยู่ถึงจะให้มาเตะตอนสนามเปิด เอาจริงๆอะ มันไม่ควรไปฟันธงล่วงหน้าเลยว่าจะกลับมาเตะวันไหน ทำแบบลีกอื่นทั่วโลก ที่ปิดไม่มีกำหนดแล้ววางแผนรีสตาร์ทกันแบบเร่งด่วน ไม่ใช่ประกาศว่าจะเตะ 12 กันยา แล้วจะไม่ยอมปรับแผนหรือเลื่อนอะไรเลย
เอาจริงๆ สมาคมก็ไม่น่ารีบประกาศวันรีสตาร์ทเลย เพราะตอนนั้นมันก็ยังไม่มีความแน่นอนอะไรสักอย่าง นี่คือบทเรียนครั้งสำคัญเลยว่าถ้าอะไรที่มันไม่แน่นอนสักอย่าง ไม่ควรรีบกำหนดวันเลยไม่ว่าจะเหตุผลใด
เท่าที่ผมสรุปได้ใจความเคาะเป็นช่วงกันยา เพราะ
1.ปัญหาเรื่องนักเตะต่างชาติที่ออกจากประเทศเราไปก่อนที่จะปิดประเทศ ซึ่งอันนี้ไม่รู้ว่าทำไมแต่ละทีมถึงปล่อยกลับไปได้
2.เนื่องจากนักเตะต่างชาติกลับไปแล้ว ทำไรไม่ได้ จึงต้องมีการคาดการณ์เดือนที่จะกลับมาจัดการแข่งขัน ทำเรื่องนักเตะเข้าประเทศ กักตัว และ กลับมาฟื้นฟูความฟิตอีก
3.เวลานั้นผมว่าแต่ละสโมสรคงไม่ได้คาดคิดว่าจะมีปัญหาเรื่องทรูขนาดนี้ แล้วทรูเองก็ตอบช้า ทั้งๆที่เคาะเดือนกลับมาเตะตั้งแต่เมษา แต่ทรูกลับมาแจ้งตอนมิถุนา ตอนที่ ศคบ อนุญาต
ผมว่าก็เห็นใจทั้ง2ฝ่าย ปีนี้ทรูเองก็หนัก ไตรมาสแรกก็ขาดทุนแล้ว ไม่ได้ลิขสิทธิ์ต่อเขาก็มูฟออนไปนานแล้ว จะมาเปลี่ยนสัญญาขอขยายเวลาถ่ายทอดสดมันก็ไม่ใช่
ที่ต้องปล่อยนักเตะไปก็ต้องคิดถึงใจเขาใจเราครับ เพราะประเทศเราจำกัดคนไม่ให้เข้ามา ทำให้นักเตะเขาต้องกลับไปดูแลครอบครัว เป็นใครก็อยากจะกลับไปดูแลที่บ้านนะ ทีนี้ปัญหาคือตอนกลับมานี่แหละทั้งกักตัวทั้งต้องมาเรียกความฟิตกันอีก
ทีนี้เรื่องยืดเวลามันอาจจะนานไปหน่อยแต่ก็เอาชัวร์ ตอนนี้บางลีคยังตรวจพบนักเตะติดเชื้ออยู่เลย แต่ไอ้เรื่องที่ว่ายืดเพื่อเอื้อให้บางทีมที่มีตัวต่างชาติเก่งๆอันนี้ก็น่าจะใช่แหละแต่มันก็ใช้นักเตะต่างชาติกันทุกทีมนั่นแหละ ถ้าหารือกันแล้วกำหนดกันเรียบร้อยก็แค่ทำไปตามนั้น
เรื่องขาดทุน ถ้าใครที่เป็นนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ได้ดูงบการเงินบริษัททรูจะทราบดีว่าบริษัทนี้ทำธุรกิจแบบไม่มีกำไรมาเนิ่นนานแล้ว เหมือนเน้นซัพพอร์ทธุรกิจอื่นในเครือ CP เป็นหลักมากกว่า แล้วก็ที่สามารถขาดทุนได้นานเพราะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับการสื่อสารและเทคโนโลยี ซึ่งธุระกิจแบบนี้เมื่อไหร่ทำให้เกิดการผูกขาดได้แล้วก็จะกลับมามีกำไรมหาศาลเอง ซึ่งมันเริ่มมามีกำไรเหมือนกันนะตอนปี 60-62 นี่กำไรรวมกัน 3 ปี 15,000 ล้าน (แต่ขาดทุนสะสมอยู่ประมาณ 70,000 ล้าน) ที่บอกว่าไตรมาสแรกขาดทุน มันก็ขาดทุนทั้งตลาดอ่ะไม่ใช่แค่ทรูเจ้าเดียวที่ขาดทุน และที่ขาดทุนไม่ใช่เพราะไม่ได้ถ่ายทอดฟุตบอล แต่มันเพราะหน่วยธุรกิจอื่นมากกว่า ทรูวิชั่นลูกค้าก็ยังจ่ายเต็มเหมือนเดิมรึเปล่า ที่สำคัญสุดๆเลยคือในอนาคตอาจจะขาดทุนเพิ่มขึ้นอีกถ้ามีการลงทุนหรือเพิ่มการลงทุนในธุรกิจอื่นๆลงไปอีก เรียกว่าขาดทุนกันยาวๆไปเลยกับบริษัทนี้
ยิงตรงรับกระฉอก ยิงออกปัดเข้า ลูกออกทำพุ่ง ลูกตุงยืนมอง
ผู้ตัดสินดูนกหวีด เป่านาฬิกาหมดเวลา