ค่ำคืนนี้ แมนยูธยาจักกลับมายิ่งใหญ่
เมื่ออรุณรุ่ง ท้องฟ้าเปิดกว้าง สาดแสงสว่างสีเหลืองเรืองทอง
ส่องลงกลางกรุงแมนยูธยา ศรีสนามเทพนคร อันเป็นไปตาม
โหนหลวงได้กล่าวทำนายทายทักไว้ ว่า "เมื่ออรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน
ออกหากินร่าเริงแจ่มใส เราเบิกบาน รีบมาเร้วไว ยิ้มรับวันใหม่ ยิ้มให้แก่กัน"
เป็นฤกษ์งามที่แผ่นดินแมนยูธยา จะได้ฟื้นคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครา
เพราะหัวเมืองใหญ่อย่างสิงหนครและ หัวเมือง จิ้กจอกสยามนั้น
ครานี้ได้พ่ายแพ้หมดสิ้นแก่หัวเมืองน้อย เละเทะ ยุ่ยเป็นกระดาษ
เช็ดชู่ในน้ำกะทิป้าเจียมที่แอบใส่ขายในตลาด สะใจข้าเป็นอย่างยิ่ง
ในเมืองจิ้งจอกสยามนี้ ยังมียอดฝีมืออยู่ ยอดขุนศึกผู้ที่เคยพาหัวเมือง
สยามคว้าถ้วยเบญจรงค์ แห่งสงครามสยามประเทศมาแล้ว
นามชื่อรือนาม ขุนหลวงวันดี ผู้ชาญชัย เก่งทั้งสรรพวุธและแม่ไม้มวยไทย
จากไอหนุ่มบ้านนอกคอกนา ก้าวสู่ยอดทหารเอก ข้านับถือเป็นยิ่งนัก
แบกอยู่ตัวเดียวอะ กล้ามเนื้อหลังอักเสบแล้วกระมัง ข้าได้ยินแต่ชื่อ
เจ้าขุนวันดี เจ้าขุนวันดี ตลอดการรบ ส่วนนายทวารของเมืองจิ้งจอกนั้นรือ
สั้นๆเลยนะ "กระจ๊อกแท๊" ผู้เป็นบิดาชื่อเสียงเป็นตำนวน ส่วนบุตรชายบอกเลยทำใจ
พญาตองมูน้องข้า เจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ ฝีมือการทำศึกของเจ้าถึงแม้น
จักไม่เยี่ยมยอดเหมือนสมัยก่อน แต่ก็มิเคยปราชัยให้กับหัวเมืองใหญ่ง่ายๆ
เมืองไก่ของเจ้า กำชัยเหนือเมืองปืนได้นั้น ข้าต้องชมเชยเจ้า ที่ไปยืนเคี้ยวเหงือ
อยู่ข้างสนามรบ ถ้าง่วงก็ไปนอนนะ ไอหนุ่มตี๋แดนโสมนี้ก็วิ่งเป็นม้าพยศเลย ข้านี้หยั่งชอบ
ค่ำคืนนี้ หล่าไพร่แมนยูธยา เกียมตัวเลย เราจะกลับขึ้นไปอยู่ต่ำแหน่ง ๓ อย่างแน่นวล
อ้ายบุญโนนของข้า จักต้องยิงจนเจ็บตีน ฟันจนเจ็บมือเป็นแน่แท้ ทำใจสบายๆ เดินยืดได้เลย
มีเรือนขายเรือน มีเกวียนขายเกวียน เราจักเสพสุข เหล้ายานารีอย่าให้ขาด ลุย