ลาก่อน...'อันโตนิโอ' เหมาเรียบส่งขมิ้นพ่ายค้อน 4-0 ตกชั้นทีมแรก
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
บอกลา นอริช ซิตี้ แบบเป็นทางการหลังถูก มิเคอิล อันโตนิโอ รับเหมายิงคนเดียว 4 ตุงพ่ายต่อ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4-0 ทำให้พวกเขาตกชั้นเป็นทีมแรกหลังจมบ๊วยมีแค่ 21 คะแนนและห่างโซนตกชั้น 13 แต้มโดยเหลือเกมให้เล่นอีกแค่ 3 นัดเท่านั้น
นอริช ซิตี้
Starting Formation: 4-2-3-1
27.
อเล็กซานเดอร์ เท๊ทเทย์
5.0
8.
มาริโอ วรานซิช

83'
5.0
18.
มาร์โก้ สตีเปอร์มันน์

69'
5.0
17.
เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย

70'
5.5
11.
โอเนล เอร์นานเดซ

70'
6.0
22.
ตีมู ปุ๊กกี้

69'
5.5
ตัวสำรอง
7.
ลูคัส รุปป์

70'
5.5
14.
ทอดด์ แคนท์เวลล์

69'
5.5
23.
เคนนี่ แม็คลีน

83'
-
35.
อดัม ไอดาห์

69'
5.5
56.
จอช มาร์ติน

70'
5.5
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
สนาม แคร์โรว์ โร้ด
วันที่ 11 กรกฎาคม 2563
กรรมการ เควิน เฟรนด์
นอริช ซิตี้
0
4
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
0-1 อันโตนิโอ 11'
0-2 อันโตนิโอ 45+1'
0-3 อันโตนิโอ 54'
0-4 อันโตนิโอ 74'
นอริช ไม่ได้เปลี่ยนไลน์อัพจากเกมนัดก่อน ถึงอย่างนั้น ฟาร์เก้ ให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่ายอมรับสภาพหนีไม่รอดการตกชั้น
เวสต์แฮม ยังต้องดิ้นรนต่อไปเพราะเหนือโซนตกชั้นแค่ 3 คะแนนและมีการปรับไลน์อัพเล็กน้อย ให้ โนเบิล ลงเป็นตัวจริงและดร็อป ยาร์โมเลนโก้ ไปนั่งสำรอง
ช่วงแรกต่างฝ่ายต่างผลัดกันได้ลุ้น
เกมค่อนข้างเปิดตั้งแต่แรกต่างฝ่ายต่างผลัดกันบุกมาลุ้น มีทั้งจังหวะที่ ซูเช็ค โฉบถึงบอลพยายามหลบผู้รักษาประตูแล้วยิงแต่เข้าข้างตาข่าย รวมถึงการยิงนอกจากนอกเขตโทษของ วรานซิช ที่ไม่ตรงกรอบ
ค้อนเฮแล้ว! เตะมุม ดิย็อป โหม่งเช็ด อันโตนิโอ ยิงจ่อๆส่งนำ
แล้ว เวสต์แฮม ก็ได้ประตูออกนำเรียบร้อยแล้วด้วยเตะมุมจากทางขวา โบเว่น เปิดมาเสาแรกมี ดิย็อป โหม่งเช็ดมาถึง อันโตนิโอ หน้าประตูยิงจ่อๆไม่กี่หลาไม่เหลือ เวสต์แฮมออกนำเลย 1-0
ขมิ้นลุยกลับ ปุ๊กกี้ โหม่งหลุดเสา
นอริช บุกกลับทวงประตูตีเสมอแล้วก็ได้โอกาสลุ้นจาก ลูวิส เติมมารับบอลทางซ้ายก่อนครอสให้ ปุ๊กกี้ เป็นคนโหม่งส่งบอลหลุดเสาแรกไปหน่อย
ขมิ้นลุ้นอีกที ลูวิส เปิดเรียดให้ เอร์นานเดซ ยิงออกหลัง
ครบครึ่งชั่วโมงแล้ว นอริช ได้ลุ้นอีกครั้งหลัง เอร์นานเดซ เกี่ยวบอลลงในเขตโทษได้แล้วจ่ายออกซ้ายให้ ลูวิส เปิดเรียดกลับคืนมาถึง เอร์นานเดซ ยิงไม่จับบอลหลุดเสาไปหน่อย
ค้อนลุยกลับ โบเว่น ซัดหน้าเขตโทษเฉี่ยวเสาสอง
เวสต์แฮม บุกกลับมาบ้างและเกือบมีประตูเพิ่ม หลังโต้กลับ อันโตนิโอ ตวัดต่อให้ โบเว่น เลี้ยงหลบมาหน้าเขตโทษแล้วซัดหักข้อหลุดเสาสอง
ยังไม่สอง! โนเบิล ครอสถึง ซูเช็ค ยิงเจอปัดข้ามคาน
เข้าช่วงท้ายครึ่งแรก เวสต์แฮม บุกมาลุ้นหาประตูสองต่อจากจังหวะเคาะกลับมาให้ โนเบิล ครอสเข้าไปในเขตโทษจบด้วย ซูเช็ค วิ่งมาตวัดยิงแต่โดนปัดข้ามคาน
ค้อนทิ้งห่าง! โนเบิล ครอสเข้าหัว อันโตนิโอ โหม่งเสียบเสาสอง
ก่อนหมดครึ่งแรก เวสต์แฮม ได้ประตูเพิ่มอีกหนึ่งด้วยฟรีคิกทางด้านซ้าย โนเบิล เป็นคนครอสเข้าไปจบด้วยการโหม่งของ อันโตนิโอ ส่งเข้าเสาไกลกลายเป็น 2-0
จบแล้วจ้า! อันโตนิโอ แฮตทริกรอเขี่ยขมิ้นตกชั้น
กลับมาครึ่งหลัง เวสต์แฮม เดินหน้าบุกต่อเนื่องแล้วก็มีเพิ่มเรียบร้อย ด้วยการโต้กลับ โนเบิล ตวัดเปิดจากกลางสนามขึ้นหน้าให้ อันโตนิโอ หลุดมาถึงเขตโทษยิงทีแรกไม่ผ่านแต่เด้งมาให้ อันโตนิโอ โหม่งซ้ำเข้าประตู เวสต์แฮมสบายๆ 3-0 นอริช ท่าจะไม่รอด
ขมิ้นยังไม่ยอมแพ้ เอร์นานเดซ ยิงหน้าเขตโทษโดนรับได้
นอริช ยังไม่ยอมถอดใจลองมาอีกสักทีแล้วก็ได้ลุ้นจาก บูเอนเดีย จ่ายให้ สตีเปอร์มันน์ จ่ายต่อถึง เอร์นานเดซ พยายามพลิกหาช่องยิงเรียดแต่โดนรับเอาไว้
ขมิ้นมาอีก วรานซิช โหม่งออกหลัง
นกขมิ้น ขอลุ้นอีกทีกับจังหวะออกมาทางขวาให้ อารอนส์ เป็นคนครอสเข้าไปในเขตโทษ จบด้วย วรานซิช โหม่งย้อนออกทางเสาแรก
ค้อนลุ้นลูกสี่ ฟอร์นาลส์ เลี้ยงตัดมายิงหน้าเขตโทษออกหลัง
ขุนค้อน ลุยกลับมาเกือบได้เพิ่มอีกลูก เป็น ฟอร์นาลส์ ทางซ้ายพาบอลมาแล้วเลี้ยงตัดมาหน้าเขตโทษก่อนส่องหลุดออกทางเสาสอง
ฝังกลบมิด! เฟรเดริคส์ จ่ายให้ อันโตนิโอ ชาร์จจ่อๆตุงสี่
เล่นไปเล่นมา เวสต์แฮม ได้เพิ่มอีกและก็เป็นคนเดิมเสียด้วย กับจังหวะ โนเบิล ชิพให้เฟรเดริคส์ ทางขวาตามบอลเข้าเขตโทษก่อนจ่ายมาเสาแรก อันโตนิโอ คนเดิมชาร์จตุงตาข่ายกลายเป็น 4-0
จบเกม นอริช เป็นฝ่ายพ่ายต่อ เวสต์แฮม 4-0 เท่ากับว่าพวกเขาตกชั้นอย่างเป็นทางการหลังไม่มีทางทำคะแนนไล่ทันแล้วใน 3 นัดสุดท้าย
ส่วน เวสต์แฮม ชนะแบบนี้ทำให้พวกเขาใกล้หนีพ้นการตกชั้นมากขึ้นหลังนำหน้า บอร์นมัธ อันดับ 18 อยู่ 6 คะแนน
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
Starting Formation: 4-2-3-1
21.
อันเจโล่ อ๊อกบอนน่า

87'
6.5
16.
มาร์ค โนเบิล

77'
8.5
18.
ปาโบล ฟอร์นาลส์

83'
6.0
17.
จาร์ร็อด โบเว่น

83'
7.0
30.
มิเคอิล อันโตนิโอ

78'
10.0
ตัวสำรอง
26.
อาร์ตูร์ มาซูอาคู

83'
-
4.
ฟาเบียน บัลบูเอน่า

87'
-
19.
แจ๊ค วิลเชียร์

77'
-
7.
อันดรีย์ ยาร์โมเลนโก้

83'
-
22.
เซบาสเตียน อัลแลร์

78'
-
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Sat Jul 11, 2020 21:14, ทั้งหมด 7 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ