[RE: ศ. ศิวลักษณ์ กับปรีดีย์เเละการสวรรค์คต]
KingBoB-Z- พิมพ์ว่า:
GeneralAK พิมพ์ว่า:
เอาจริงๆ เรื่องนี้ พ่อผมแกเคยศึกษาอย่างจริงจัง แกเป็นบรรณารักษ์ด้วย และทำงานราชการระดับสูงหน่อยๆ ด้วย (แกเป็นซ้ายด้วย อยู่กลุ่มแกนนำนักศึกษาสมัย 6 ตุลา)
แกเคยไปศึกษาข้อมูลพวกนี้จริงจังมากๆ ได้มีโอกาสเห็นหนังสือที่น่าสนใจหลายเล่มในหอสมุดแห่งชาติ เกี่ยวกับกรณีนี้ แกเล่าให้ฟังว่า วันหนึ่ง เนื่องจากแกไปที่นั่นบ่อย และยืมหนังสือมาอ่านหลายเล่มในเรื่องนี้ จนวันหนึ่งมีคนมานั่งที่โต๊ะด้วย เป็นคนดูแลของหอสมุดนั้น หม่อมสักคนที่นามสกุล มาลากุล มาแนะนำตัว (พ่อจำชื่อไม่ได้ บ้านนี้ชื่อคล้ายๆ กัน ชื่อ ป) แล้วนั่งคุยกับพ่อว่า เรื่องบางเรื่องรู้ไปก็เป็นประโยชน์ เรื่องบางเรื่องรู้ไปก็ไม่เป็นประโยชน์ มีแต่เป็นโทษกับตัวเอง คุณยังหนุ่มเอาแรงไปทำอย่างอื่นดีกว่า แล้วก็ลุกไป
ตอนนั้นผมยังเด็กมาก พ่อได้ยินเค้าพูดแบบนั้นก็เป็นห่วง และเลิกศึกษาเรื่องนี้อีก แต่ระหว่างนั้นแกก็ได้ข้อสัณนิษฐานของแกนะว่าใคร เคยเล่าให้ฟังแบบไล่พยานหลักฐานเท่าที่บันทึก แต่ไม่ใช่คนที่เดาๆ กันในนี้หรอกแต่ก็เป็นคนใกล้ตัว แต่หลักฐานแกมันก็ไม่ได้มัดแน่นมากอะไร เลยไม่ค่อยน่าสนใจที่จะทำออกมาเป็นอีกทฤษฏี เอาไว้เล่าฟังกันในบ้านก็พอ ว่าทำกันไปได้ยังไง
ยังไงตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็คงตายไปหมดละ คงยากที่จะได้ความจริงจากคนที่รู้เหตุการณ์จริงๆ
ข้อมูลของคุณน่าสนใจมากครับถ้าเป็นไปได้อยากจะขอข้อมูลส่วนนี้เพิ่มเติมได้มั้ยครับ ผมเองเคยหาข้อมูลหลักฐานส่วนนี้จากหลายแหล่งแล้วเคยได้ฟังจากปากผู้ใหญ่ท่านนึงปัจจุบันท่านอายุ 90 กว่าแล้ว ท่านก็เคยให้ข้อมูลในเรื่องนั่นไว้ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่างออกไป ถ้าไม่สะดวกหลังไมมาก็ได้ครับ
ผมจำเรื่องแบบครบๆ ไม่ได้ครับ จำได้แค่ว่าพ่อแกให้น้ำหนักหลักฐานมาจากข่าวสารบ้านเมืองช่วงนั้น ประกอบกับคำให้การและคำพูดของแต่ละคนในที่เกิดเหตุหลังพบศพ แกสัณนิษฐานว่าเป็นคนในครอบครัวนั่นแหละ โดยอยู่ที่คำพูดแรกๆ หลังพบศพ และแรงจูงใจอยู่ที่สภาพความกดดันที่โดนบีบมาจากการพยายามทำอะไรของผู้ตายก่อนจะตาย นัยว่าทำเพื่อรักษาทั้งหมดไว้ และน่าจะทำด้วยความสับสนและกดดันครับ
แต่ก็อย่างที่บอกข้างบนครับ แต่ข้อสัณนิษฐานของคนที่อ่านเยอะและ "อิน" ไปกับเหตุการณ์ครับ
และพ่อผมถูกกดดันให้ออกจากการหาข้อมูลก่อนที่จะได้ข้อมูลมากพอด้วยครับ เลยสรุปได้แต่คร่าวๆ แบบนี้