ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:

: 0 ใบ

: 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 9317
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jun 29, 2020 05:07
[RE: 2 โขก 2 ตุง! 'งู' โกงความตาย 10 นาทีท้ายยิงแซง ปาร์ม่า 2-1 ]
ช่วงนี้ เป็นภาวะติดหล่มอีกครั้งของอินเตอร์ คือ
ภาพรวมไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีมากเหมือนกัน มันทำให้ลังเลว่าจะเปลี่ยนแปลงบางอย่างเลยดีไหม หรือจะรอดูก่อน เผื่อดีขึ้น
1) สำหรับแผนใหม่ 3-4-1-2 เป็นอีกครั้งที่บอลบุกจากตรงกลาง ยังเงียบเกินไป บอลบุกต้องออกริมเส้นอยู่หลายครั้ง ถึงแม้ว่าจะมีการขยับอีริคเซนลงมาต่ำกว่าเดิมประมาณ 3-5 หลา แล้วก็ตาม
2) บอลบุกที่ออกริมเส้น หลายๆครั้ง ไม่ได้ลุ้นอย่างที่ควรจะเป็น เป้าในการเปิด มันก็พอมีอยู่ แต่ไม่เสถียร บางจังหวะก็ดูอันตราย บางจังหวะก็เสียแบบงงๆ
3) หลายครั้งที่บอลย้อนกลับมาที่กองกลาง (บาเรลล่า-กาญาดินี่) มีความพยายามสร้างเกมจากกองกลาง / มีลูกครอสไกลหลายครั้ง ซึ่งมักไม่ได้ลุ้น / มีความพยายามลากบอลเข้าไปบ้าง ก็ไม่ได้ลุ้นเท่าไหร่ / มียิงไกลบ้าง พอได้ลุ้นอยู่
4) ต่อเนื่องจากข้อ 3 วันนี้ อีริคเซนเงียบมาก ไม่มีจังหวะสำคัญจากอีริคเซนเลย โดยเฉพาะการจ่ายบอล นอกจากจังหวะยิงนอกกรอบเขตโทษ 1 ครั้ง ข้อ 4 รวมกับข้อ 3 ทำให้เกมบุกตรงกลางง่อยไปหมด
น่าแปลกใจจริงๆ ว่าทำไมอีริคเซนเงียบเกินไปขนาดนี้ จังหวะได้บอลก็น้อย จังหวะส่งบอลก็น้อย จังหวะส่งสำคัญเลยไม่มีซักครั้ง
5) อเล็กซิส คือความแตกต่าง
เขาถูกส่งลงมาเล่นในตำแหน่งเดียวกับอีริคเซ่น ด้วยแผนเดียวกัน แต่ความแตกต่างเกิดขึ้นจากส่วนบุคคล
เราจะเห็นเลยว่า อเล็กซิส มีการเคลื่อนที่ที่กระตือรือล้นกว่ามาก ตรงไหนมีช่องที่จะรับบอลได้ หรือตรงไหนเป็นช่องที่ถ้าวิ่งไปตรงนั้น แล้วถ้าเพื่อนส่งมาให้ ทีมจะได้เปรียบ
จังหวะพวกนี้ อเล็กซิสจะวิ่งสับๆๆโดยทันที เพื่อไปให้ถึงจุดที่ได้เปรียบนั้น
นี่คือความแตกต่างเดียวจริงๆ และเป็นเหตุผลว่า ทำไมพออเล็กซิสลงมา บอลตรงกลางดูวูบวาบขึ้น อย่างน้อยที่สุดคือ มันมีการเชื่อมและประสานงานกับบอลบุกตรงกลางมากขึ้น
อีริีคเซ่นขาดการเคลื่อนที่ในลักษณะนี้ ทำให้เขาไปอยู่ในจุดบอด จุดมืดเกือบตลอด เพื่อนส่งให้ยาก โดนบังทางบอล ผลสุดท้ายคือ เขาจะจมหายไปกับกระแสเกม
ที่น่ากังวลอีกอันคือ ตอนใช้อีริคเซ่นเล่น 3-5-2 ก็มีปัญหาในลักษณะนี้เช่นกัน
นี่กลายเป็นว่า เริ่มจะใช้งานอีริคเซ่นยากขึ้นเสียแล้ว
6) ลูกากูในแผนใหม่ มีการใช้ประโยชน์จากเขาได้น้อยลง
ความอันตราย ความวูบวาบ หายไปเยอะ เขาจะไปได้บอลในจุดที่ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แล้วเกมนี้ กว่าจะได้ยิงเน้นๆครั้งแรก ก็เกือบนาทีที่ 80 แล้วมั้ง
7) เกมรับ ก็ยังเป็นปัญหาเดิมๆ มันจะมีจังหวะที่ตัวรุกของปาร์ม่า ลากๆเลี้ยงๆเข้ามา ไถมาเร่ื่อยๆ แล้วเอาไม่อยู่
หลายครั้งตัดเข้าใน แล้วได้เปิด ได้ยิง แบบกดดันหลายครั้ง (แผนใหม่ ตั้งรับ 5+2+1 ส่วนแผนเดิมจะเป็น 5+3 หรือ 5+3+1)
จังหวะพวกนี้ ถ้าเป็นทีมโหดๆ คงโดนไปหลายลูกแล้ว
เป็นปัญหาของแผนใหม่ ที่ยังแก้ไม่ได้ และดูแล้ว มันจะมีแบบนี้เรื่อยๆ ถ้ายังใช้แผนนี้ ฉะนั้น สำหรับยูโรป้า ต้องชั่งน้ำหนักให้ดีๆเลย ถ้าจะใช้แผนนี้ต่อ
ส่วนลูกที่เสีย ไม่เกี่ยวกับระบบเท่าไหร่ ค่อนข้างเป็นความสามารถส่วนบุคคล
8) ย้อนกลับมาสู่ 3-5-2 อาจเป็นคำตอบที่น่าสนใจ
ตอนใช้ 3-5-2 บางเกมเนี่ย เกมบุกมันจะตึงมาก จะอึดอัดกว่านี้ ถ้าเทียบกับแผนใหม่
อย่างเกมนี้ ถ้าเป็นแผนเดิม บอลจะตึงมาก อาจจะไม่มีจังหวะได้ลุ้น
แต่เกมรับ ไม่ว่าจะนัดไหนๆ จะเสถียรและแน่นอนกว่าแผนใหม่มาก จะไม่มีจังหวะโดนตัดเข้าในลากเข้ามายิง เข้ามาเปิดแบบง่ายๆ แบบที่เจออยู่ (แถมบางที ก็ชอบเสียประตูแบบง่ายๆงงๆ อยู่แล้วด้วย)
ถ้ากลับไปเล่น 3-5-2 จริง สิ่งเดียวที่ขอให้มีเหมือนเดิม คือ การใช้เซนเตอร์แบ๊ค เติมเกม ดันสูงไปเล่นร่วมกับวิงแบ๊คเหมือนที่เล่นอยู่ในตอนนี้ ไม่แน่ว่า เกมบุกของ 3-5-2- อาจจะไม่ตึงเหมือนเดิมแล้วก็ได้
อยากดู อยากเห็น อยากให้ลอง
9) เรื่องจิตใจ ยังถือว่าใช้ได้ ถึงแม้ว่า มีการบ่นกันเองแบบแปลกๆในบางจังหวะ
แก้ไขล่าสุดโดย Contingency เมื่อ Mon Jun 29, 2020 05:44, ทั้งหมด 3 ครั้ง