[RE: สรุปดราม่า Drew Brees]
taMoN พิมพ์ว่า:
Vitas พิมพ์ว่า:
taMoN พิมพ์ว่า:
Vitas พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
ElPhaldominal พิมพ์ว่า:
ผมไม่เข้าใจความหมายของประโยคที่เขาพูดง่า
รบกวนผู้รู้ ชี้แนะทีครับ
หลักก็ตอนนี้อเมริกาลุกเป็นไฟเพราะคดี George Floyd ที่ถูกตำรวจ"ฆาตกรรม" อย่างโหดร้าย (ลองไปค้นหาดูนะแต่ใจไม่แข็งหดหู่ง่ายก็อย่าไปดู)
ทำให้เกิดกระแสต่อต้าน กลายเป็นชุมนุม กลายเป็นความรุนแรง วุ่นวายสุดๆ
(ผมว่าหนักกว่าช่วง Black matter นะ ช่วงนั้นไม่หนักเท่านี้)
คราวนี้มันก็มีคนที่ประท้วงด้วยความสงบ ไม่ได้ออกไปลงถนน
ของ Kapernick แกคุกเข่าตอนเคารพธงชาติเป็นการประท้วงเรื่องเหยียดผิว
ดูบรี บอกว่านี้คือ disrespect the flag
คนก็เลยลงแขก ซึ่งก็จริงนะ น่าโดนด่า คือเขาคุยกันเรื่องหนึ่ง มึงก็ไปโยงอีกเรื่องหนึ่ง
แล้วประเด็นของKapernick มันคือ Kneeling ความหมายมันลึกกับเหตุการณ์ตอนนี้
ซึ่งการที่ดูบรีออกมาพูดแบบนี้ เอาจริงๆนะ ผมว่าแกไม่ได้สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนผิวดำอย่างที่แกพูดจริงๆหรอก
ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัย
ผมว่าแกเหมือนที่เลอบรอนบอก ว่าแกไม่เข้าใจนัยยะของเรื่องราวจริงๆ
https://profootballtalk.nbcsports.com/2020/06/03/drew-brees-still-doesnt-agree-with-kneeling-during-national-anthem/amp/?__twitter_impression=true
ลองไปอ่านนะครับ
ผมว่าเค้าพูดโคตรธรรมดา
เค้าเข้าใจที่คาปานิคสื่อแต่เค้าไม่เห็นด้วยกับวิธีการ
เค้าคิดว่าการเคารพธงแล้วร่วมมือกันแก้ปัญหาจะดีกว่า
ถ้าความเห็นแค่นี้ทำให้คนต้องโกรธขนาดนี้ รุมกดดันให้เค้ามาขอโทษ
ผมว่าเมกาแก้ปัญหาเรื่องเหยียดเชื้อชาติอะไรไม่ได้หรอก
อันนี้ผมมองอีกมุมนะครับ ที่ผมบอกว่าเขาไม่เข้าใจนัยยะของการคุกเข่า
เพราะในมุมผม บรีเข้าใจถึงสารที่จะสื่ออกมา แต่บรีไม่เข้าใจเหตุและแรงผลักดันที่ทำให้แสดงออกแบบนี้
ผมคิดว่าแคปคิดแล้วว่าสำหรับเขาไม่มีวิธีการอื่นแล้วที่แสดงออกให้ผู้คนเห็นถึงปัญหาได้ดีกว่าสิ่งที่เขาทำ
ที่ผ่านมาการเคารพธงแล้วร่วมมือกันแก้ปัญหาก็ทำกันอยู่ตลอดแต่สังคมก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากเพียงพอ
เท่าที่ผู้คนในกลุ่มของเขา(คนผิวสี)รู้สึกว่าเท่าเทียม
สำหรับผม ผมยอมรับได้ที่บรีไม่เห็นด้วยในประเด็นนี้ผมแค่คิดว่าเหตุผลที่เขาไม่เห็นด้วยเป็นเพราะเขาไม่เข้าใจ
ปัญหาคือบรีเป็นบุคคลสาธารณะความคิดเห็นเขาจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ทั้งยอมรับความเห็นของเขาได้และยอมรับไม่ได้ สุดท้ายมันก็จะวนกลับไปที่ปัญหาที่คุณยกขึ้นมาครับ ว่าบรีจะยอบรับทุกผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นได้ไหม
ถ้าความเห็นแค่นี้ทำให้คนต้องโกรธขนาดนี้ รุมกดดันให้เค้ามาขอโทษ
ผมว่าเมกาแก้ปัญหาเรื่องเหยียดเชื้อชาติอะไรไม่ได้หรอก
ประเด็นนี้ผมขอแย้งดังนี้นะครับ
ต้องแยกประเด็นเรื่องแรงกดดันจากมวลชนออกจากปัญหาชาติพันธุ์ก่อน
เรื่องแรงกดดันของมวลชนเป็นพฤติกรรมพื้นฐานของมนุษย์ที่รวมเป็นสังคม
ปัญหาเรื่อง Wisdom of the crowd มันมีมาตั้งแต่มนุษย์เริ่มรวมกลุ่มกันเป็นสังคมแล้วครับ
เกิดขึ้นกับในทุกเรื่องทุกประเด็นที่กระทบเป็นวงกว้างแหละครับ โดยเฉพาะเราเข้าสู่ยุคที่มวลชน
สามารถส่งสารไปถึงเป้าหมายได้โดยง่าย ความกดดันของผู้ที่สร้างผลกระทบต่ออารมณ์ของสังคม
ก็จะเกิดขึ้นง่ายยิ่งกว่าเดิม ดังนั้นพฤติกรรมแบบนี้จะไม่มีทางหายไปจากมนุษย์ตราบใดที่คนยังรู้สึก
ว่าเมื่อเกิดความเห็นร่วมแล้วสิ่งที่ตนเองคิดกลายเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ผมว่าเค้าไม่ได้โง่นะที่จะไม่เข้าใจ แต่เค้ามองวิธีแก้ปัญหาอีกแบบมากกว่าซึ่งเค้าก็อธิบายไปแล้ว
ถ้าเค้าไม่เข้าใจเค้าไม่รีบออกมาขอโทษหรอกครับ เค้าจะตีมึนไปก็ได้
สามเดือนก่อนเค้าบริจาคห้าล้านดอลให้รัฐ Louisiana ไปช่วยคนช่วงโควิท สีผิวไหนก็ได้รับหมด
คุณว่าเค้าไม่เข้าใจ ไม่รับรู้เรื่องคนอื่นขนาดนั้นเลยหรอ
คำถามคือวิธีคุกเข่าถ้ามีคนคิดว่าเป็นทางออกสุดท้ายที่จะแสดงออกได้
คนอื่นที่คิดว่ามันมีทางออกอื่น วิธีอื่นทำไมถึงกลายเป็นเรื่องร้ายแรง ทำไมถึงผิด
ส่วนที่คุณแย้งผม ผมว่าคุณไม่ได้เข้าใจที่ผมจะสื่อเลย
มันไม่เกี่ยวกับว่ามันเป็นพฤติกรรมพื้นฐาน มีมานานแค่ไหน มีจนโลกแตกไปเลยก็ช่าง
ผมพูดว่ามันต้องปรับ คนที่บอกว่าอยากแก้ปัญหาจริงๆต้องปรับ ไม่ปรับมันก็คุยกันไม่ได้
ผมถึงบอกไงครับว่าความเห็นผมมาจากอีกมุมนึง คือคุณกับผมเรายืนอยู่คนละมุม
ถ้าเราเถียงกันโดยจะเอาถูกผิดให้ได้ตามตรรกะ
งั้นคุณคิดว่าแคปเขาไม่คิดหรอว่าการคุกเข่าของเขามันมีผลกระทบยังไง
กระทบต่อหน้าที่การงานกระทบต่อสังคมในวงกว้างยังไง เขาไม่คิดทบทวนหรอ
มันมีทางเลือกอื่นอีกทางเลือกที่ในมุมคนอื่นมันดีกว่านี้ นักกีฬาซึ่งผ่านการเรียนคอลเลคมาแล้ว
ไม่ใช่คนไม่มีการศึกษา เขาจะไม่เข้าใจเหตุผลนี้จริงๆหรอ แต่สุดท้ายเขาก็เลือกทำเพราะ
เหตุผลในแง่ของเขา
สุดท้ายมันก็จะวนมาที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีเหตุผล ไม่มีใครทำอะไรโดยไม่มีเหตผลเลย
ความจริงผมแค่พยายามอธิบายหลักในการคิดของผม ว่าผมคิดแบบนี้มีหลักและเหตุผลยังไง
ผมบอกไว้อยู่ว่าผมไม่ได้ตัดสินว่าใครผิด คุณกับผมคือตัวอย่างของการที่แนวคิดไม่ตรงกัน
แต่เราคุยกันด้วยเหตุผลไง คำถามคือคุณไม่เข้าใจผมหรือผมไม่เข้าคุณจริงๆหรอ
ความจริงคือเรารู้แนวคิดของทั้ง 2 ฝ่ายถูกไหม แต่คนเรามีพื้นฐานความเชื่อหรือเรื่องราวพื้นหลังไม่เหมือนกัน
ทำให้สุดท้ายเราไม่ต้องเลือกยืนอยู่ในด้านเดียวกันของความคิดก็ได้ แต่เราสามารถแสดงความเห็นของเราได้
ถูกไหม ผมไม่ได้ไปตัดสินว่าความเห็นของคุณไม่ถูกต้องเลยนะ
ส่วนที่คุณแย้งผม ผมว่าคุณไม่ได้เข้าใจที่ผมจะสื่อเลย
มันไม่เกี่ยวกับว่ามันเป็นพฤติกรรมพื้นฐาน มีมานานแค่ไหน มีจนโลกแตกไปเลยก็ช่าง
ผมพูดว่ามันต้องปรับ คนที่บอกว่าอยากแก้ปัญหาจริงๆต้องปรับ ไม่ปรับมันก็คุยกันไม่ได้
คุณจะสื่อว่าถ้าแค่คนๆนึงออกมาแสดงความเห็นแล้วสังคมยังสร้างแรงกดดันขนาดนี้
ต่อไปสังคมจะปรับตัวเองได้ยังไงจะยอมรับความแตกต่างของผู้คนได้ยังไงถูกไหม
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงมาตลอดในสังคมของมนุษย์ คือเมื่อสังคมเริ่มเกิดการเปลี่ยน
จะเกิดสิ่งที่เรียกว่าแรงกดดันทางสังคมขึ้นเสมอ เพราะความเปลี่ยนแปลงจะกระทบต่อความคิดและความเชื่อ
ของผู้คนจำนวนมากทางสังคม มันส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองของสังคม
ต่อจากนั้นมันจะส่งแรงกระเพื่อมทางความคิด ยิ่งช่วยให้ผลักดันในเกิดการเปลี่ยนแปลงทางแนวคิดของกลุ่มสมาชิกในสังคม ดังนั้นผมจึงแย้งคุณที่คุณบอกว่าอเมริกาจะไม่มีทางขจัดการแบ่งแยกผิวสีได้
ถ้าพฤติกรรมแบบนี้ไม่หมดไป เพราะผมเชื่อในพื้นฐานของพฤติกรรมมนุษย์ไงว่าแรงกดดันทางสังคม
เป็นสิ่งที่ต้องเกิดตามธรรมชาติอยู่แล้ว จากนั้นมนุษย์จึงจะเริ่มเปลี่ยนแปลง
ทีนี้คำถามของผมคือผมคิดและเชื่อไม่เหมือนกันคุณ คุณยอมรับความคิดของผมได้ไหมช
ถ้าคุณยอมรับได้ก็ถือว่าเราสองคนแลกเปลี่ยนเหตุผลในการคิดของอีกฝ่ายกัน
เพื่อให้คนที่อยู่อีกด้านทางความคิดเข้าใจมากขึ้นว่าแนวคิดอีกฝั่งเป็นอย่างไร
แต่ถ้าคุณคิดว่าแนวคิดของผมยอมรับไม่ได้ ผมก็ขอจบการพูดคุยแล้ว เพราะผมอธิบายเหตุผลของผมไปแล้ว
ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงให้ความคิดของผมเป็นที่ยอมรับของคุณได้แล้ว