ก่อนจะตัดสินใจขายหรือจะทำต่อ ลองวิเคราะห์แต่ละปัญหาก่อนครับ ทำไมลูกจ้างออกบ่อย อยู่ได้ไม่ทน เพราะอะไร เงินน้อย งานหนัก งานไม่ตรงหน้าที่ เลิกไม่เป็นเวลา บางทีเราอาจจะมองข้ามรายละเอียดเล็กๆน้อยๆไปครับ พนักงานเป็นส่วนสำคัญนะ ถ้าเขาอยู่ได้ คุณก็อยู่ได้ ถ้าชีวิตเขาดีขึ้น ธุรกิจคุณก็จะยิ่งดีขึ้นมากไปอีก

ส่วนตัดราคา แย่งลูกค้า ลูกค้าเรื่องมาก มีทุกสายอาชีพครับไม่ว่าคุณจะทำอะไร เรื่องพวกนี้ต้องค่อยๆแก้ไขกันไปทีละเรื่อง เพราะเราไม่รู้หรอกครับว่าจะเจอปัญหาพวกนี้ตอนไหน เวลาไหน เตรียมตัวไว้ก่อน คิดเผื่อไว้ ก็ไม่เสียหายครับผม อย่างที่คุณพ่อ จขกท ไม่ยอมขึ้นราคาก็คงจะกลัวลูกค้าหลุดหรือเปล่าครับ ต้องไปอธิบายท่านให้เข้าใจว่าการที่เราขึ้นราคา ลูกค้าและตัวเราจะได้อะไร เสียอะไร หาปัญหาของลูกค้าและวิธีแก้ปัญหาให้เขา แต่ต้องแก้ปัญหาที่ตัวเราก่อนนะครับ อย่างเรื่องลูกจ้างไม่มี

เป็นกำลังใจให้ครับผม

ลองคำนวณกำไรอย่างละเอียดดูรึยังครับ ว่ามันเท่าไหร่ มันคุ้มมั้ย

ถ้าอยากขึ้นจริงๆ ลองปรับอะไรบางอย่างดู ให้มันดูดีขึ้นเพื่อปรับราคาไรงี้

อย่าหนีปัญหา ครับ นายต้องแก้ปัญหา

มีกิจการของตัวเองแล้ว

ลองวิเคราะห์ปัญหาดูก่อนครับ อย่าเพิ่งหนีปัญหา

1.ต้นทุน - ค่าใช้จ่าย

2.ลูกจ้าง

ลูกค้าที่เราตกลงราคาไว้แล้ว มันแก้ไม่ยากคับ

ตรึงราคาไว้ภายในกำหนดที่เราแจ้งไป

ส่ง 10 บาทจนถึงเดือนไหนก็ว่าไป แล้วหลังจากนั้นค่อยขึ้นราคา แต่ต้องแจ้งลูกค้าเก่าให้รอปรับตัวได้ครับ

เห็นเพื่อนผมที่รับกิจการต่อจากครอบครัวส่วนใหญ่ก็ทำแบบนี้

แต่ต้องพยายามอธิบายกับพ่อว่า ทำไมต้องขึ้น ลิสๆ ไปเลย หาเหตผลให้ได้มากที่สุดเอา

ค่าขนส่ง ค่าไฟ ค่าจ้าง ค่าอื่นๆ อะไรพวกนี้ที่จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นครับ

น้ำดื่ม ตั้งแต่ผลิตเอง ยันส่ง end user เลยแบบนี้

สานต่อดีกว่านะครับ

ลองจดต้นทุนหากำไรคร่าวๆดู ว่าต้องยังไงต่อบ้าง

ผมไม่รู้ว่า มีสายส่งประจำด้วยรึป่าว

พยายามสู้ดูครับ

ถ้าขึ้นราคาไม่ได้ ก็เพิ่มยอดขายครับ เปิดลูกค้าใหม่เพิ่ม

เปลี่ยนการขายเดิมๆจากแค่น้ำถัง เพิ่มน้ำขวด น้ำถ้วย ส่งร้านค้า

แก้ปัญหาหลักก่อนเลยคือ คนงาน

คุณให้ค่าจ้างไม่คุ้มกับงานหรือเปล่าถึงอยู่กันไม่ยืด สวัสดิการไม่ดีพอที่จะรั้งไว้หรือไม่

ผมมองว่า
1.ขายถังละ 10 บาท คือจุดแข็งของธุรกิจคุณเลยเพราะถูกที่สุด แต่คุณมองว่าได้กำไรน้อยไม่คุ้ม ถ้าคุณชูเรื่องราคา ขยายฐานลูกค้าเก็บกำไรน้อยแต่ฐานลูกค้าเยอะ กินทั้งเขต ทั้งอำเภอ คู่แข่งคุณก็ต้องลดราคามาสู้กับคุณไม่งั้นเขาก็อยู่ไม่ได้

2.คุณมองว่าคนงานอยู่ได้ไม่นานมันเป็นปกติของแรงงานอยู่แล้วต้องมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับแต่อย่าลืมคนที่หางานก็ไม่น้อยเผลอๆเยอะมากด้วยแต่คุณมองไม่เห็น

3.อาจต้องปรับแพ็คเกจให้ดูใหม่สะอาด ดูดี มีมาตราฐาน ถ้าเป็นถังแบบเก่าสีขาวขุ่น ผมจะเลือกถังใสแบบใหม่แม้ราคาจะสูงกว่าแต่ผมมองว่าต่างไม่มาก เอาแบบใหม่ดีกว่า

ตอนนี้คุณมองปัญหาไม่เต็มที่เพราะยังมีงานประจำอยู่ ถ้าอยากทำจริงๆต้องลงมาดูเต็มตัว ผมว่าคุณจะเจอปัญหาและแก้ได้แน่นอน

แก้ปัญหาคนงานด้วยเครื่องจักรมั้ยละครับ อย่างขนขึ้นรถลงทุนสายพานหน่อย ขนลงก็ไม่ต้องแบกลงแต่มีลิฟท์ (คล้ายๆ ส่งคนพิการ) ใส่ล้อแล้วเข็นเอา ลงทุนครั้งแรกอาจแพงหน่อยหลักแสน (กู้ธนาคารมาใช้ในกิจการผ่านไม่ยาก)

ส่วนเรื่องราคา อันนี้ผมขอเล่าประสบการณ์ตรงเลยละกัน ที่โรงงานผมมีงานชุดนึง เสี่ยงขาดทุนมาก (ถ้ามีงานเสียซัก 5% คือขาดทุนเลย) แต่พ่อผมไม่เคยยอมให้ขึ้นราคา หวังเอากำไรงานอีกตัวที่ลูกค้าเจ้าเดียวกันสั่งมาโป๊ะ ผมก็เตือนแกว่าถ้าตัวที่กำไรมันดรอปเราจะเข้าเนื้อเยอะ ประกอบกับผมเบรกดาวน์ต้นทุนทุกอย่างเป็นเอกสารใบเดียวยื่นให้แกเลยว่าราคาต้องประมาณไหน ผลคือต้องขึ้นราคาประมาณ 20-30% แกก็เอาไปดูนะ แต่ก็ไม่ว่าอะไร พอถึงช่วงหมดไตรมาส ลูกค้าต้องมีการอัพเดทราคา ผมใส่ราคาใหม่ให้เค้าพิจารณาไปเลย เค้าก็โอเคกับราคา ยอดก็ไม่ตก เพราะลูกค้าก็เข้าใจ งานตัวนี้ทำมา 10 กว่าปีไม่ขึ้นราคามันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

ผมอยากเสนออยู่ 3 อย่าง
1. เรื่องแรงงาน ถ้าหาไม่ได้ลงทุนกับเครื่องจักรซะ เดี๋ยวนี้พวกสายพานหรือลิฟท์ยกไม่ได้แพงเท่าไหร่เลย
2. เอา fact ไปคุยกับพ่อว่าทำไมถึงอยากขึ้นราคา เขียนต้นทุนทุกอย่างลงในกระดาษ เอาให้ละเอียดที่สุดให้เค้าพิจารณา รวมค่าโสหุ้ย, เงินเดือนพนักงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต, เงินเดือน พ่อ-แม่, ภาษีต่างๆ และค่าขนส่ง ลงไปด้วย เฉลี่ยให้เป็นราคาต่อ 1 หน่วย
3. ทำผลิตภัณฑ์ใหม่ซะ แล้วไปเอากำไรเพิ่มจากตัวนั้น

แก้ราคา พูดให้พ่อเข้าใจ ขายแบบปลีก ส่ง เช่น สั่งปกติ12 เอาตามที่ท่านบอกมานะที่บอกเจ้าอื่นขึ้นราคา ท่านจะเปลี่ยนราคาก็ได้

สั่ง10ถังขึ้นลด ถังละบาท สั่ง15ขึ้นลดเหลือ10บาท ตามพ่อท่าน ผมไม่รู้ว่าคนสั่งปกติเค้าสั่งกันเฉลี่ยกี่ถัง ท่านลองเอาไปคุยกับพ่อ

แล้วปรับตามที่ท่านคิดว่ากำไร แต่ในนั้นต้องคงราคา10บาทเอาไว้

เรื่องคนงานต้องใจเย็นๆ ช่วงนี้หายากแต่ไม่นานคงหาได้เองกับเหตุการปัจจุบัน โชคดีครับ

ท่านต้องเข้าใจความแตกต่างของสินค้าท่านกับคู่แข่งก่อนครับปัจจัยที่ทำให้คนมาซื้อของจากท่านไม่ใช่จากคู่แข่งคืออะไร ความสะอาด คุณภาพหรือราคา
แล้วถ้าบอกว่าไม่คุ้มไม่คุ้มส่วนไหน Fix หรือ Variable Cost แก้ปัญหาได้ด้วยวิธีไหนบ้างต้องลดราคาอย่างเดียวเหรอหรือจุดแข็งธุรกิจท่านสามารถนำไปหาลูกค้าเพิ่มเติมเพื่อประหยัด Cost ได้มั้ย บางทีอาจไม่ต้องขึ้นราคาอย่างเดียวก็ได้ครับ เพราะเวลาขึ้นราคามันส่งผลต่อยอดออเดอร์ทุกครั้งนะครับ อันนี้ผมกล้าพูดจากประสบการณ์มันไม่ง่ายเลยฮะถ้าขึ้นไปแล้วทำ CRM ได้ไม่ดีพอ

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ครับ

ผมไม่รู้ว่าธุรกิจมันเป็นยังไงนะครับ แต่ถ้าไม่อยู่ในมือเราก็ช่วงนี้ทำงานหาทุนมาทำ วางแผนหาทางทำให้ดีขึ้นครับ ถ้ามันถึงมือเราแล้วทำซัก 1 ปีมาประเมินใหม่ ปีต่อปี ไตรมาสต่อไตรมาส แล้วว่ากันจะขายไม่ขาย

กับวางแผนขยายตลาดใหม่เช่น ทำน้ำได้ทำน้ำแข็งได้หรือเปล่า ขายน้ำเราเอง แล้วเรารับโซดาจากเจ้าอื่นมาขายด้วย ?

ส่วนเรื่องพนักงานก็ต้อง Research จริง ๆ แหละครับว่าทำไมออก ค่าจ้าง ? ถ้าเป็นผมถอาจจะสร้าง Self belonging ให้กับพนักงานด้วยแต่นั้นแหละก็มีต้นทุน

ส่วนเครื่องจักรผมว่าต้นทุนแพงไหนจะตัวเครื่องจักรเอง ค่า MA ลฯ หากตัวเลขยังไม่บวกหรือมีทิศทางที่ดีผมว่าก็ไม่ควรสร้างหนี้เพิ่ม

ถ้าอยากทำเองลองเสนอแผนของตัวเองหรือที่คิดคร่าวๆอธิบายให้คุณพ่อคุณแม่ฟังได้ไหม อารมณ์แบบจะสานต่อธุรกิจละผมจะทำแบบนี้ๆ

งัดกับที่บ้านนี่ ผมไม่งัดนะ
ไม่คุยเลย เลิกทำด้วย