ปีนั้น ชนะอองรี ที่ได้แชมป์ไร้พ่าย ด่วย
เสียดายแทนอองรี  

เอาเฉพาะที่ยูเว่
ถ้าซีดานคือ กลางระดับทอปสุดๆของยุคนั้น
เนดเวดก็คือคนที่มาแทนซีดาน ชนิดที่ว่าแฟนๆยูเว่ไม่ได้อาลัยอาวรณ์หรือคิดถึงซีดานอีกต่อไป นั่นแหละคือประสิทธิภาพของเนดเวด

โดยเฉพาะ 2 ปีแรกของเนดเวดที่ยูเว่ (2001-02 / 2002-03 ได้บัลลงดอร์ ในปี 2003)
ลิปปี้ โค้ชในตอนนั้น สามารถจูนแผนที่ลงตัวได้ คือแผน 4-3-1-2 โดยเนดเวดจะเล่นตรงเลข 1

หลังจากนั้นปีอื่นๆ โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2004 ขึ้นมา
ทั้งโค้ชใหม่อย่างคาเปลโล่ / หรือสมัยเล่นในเซเรีย บี /หรือตั้งแต่เลื่อนชั้นกลับขึ้นมา ไปจนกระทั่งเนดเวดแขวนสตั๊ดเนี่ย ยูเว่จะอยู่ในโครงสร้างแผน 4-4-2 เกือบตลอดเลยก็ว่าได้ โดยเนดเวดจะเล่นตรงริมเส้นฝั่งซ้าย แต่ก็พร้อมตัดเข้าในได้เสมอ
เนดเวดในช่วงอายุเยอะๆ เรื่องการโซโล่ การเลี้ยง ความคล่องตัวหายไปเยอะแล้ว แต่เทคนิคยังสุดยอดอยู่ การจ่าย การยิงยังไว้ใจได้ ที่สำคัญคือความฟิต ความอึด ไม่ตกลงไปตามอายุเลยแม้แต่น้อย


ความฟิต ความอึด นี่เป็นข้อดีที่พิเศษมากๆ
เพราะพวกตัวเทคนิค มักจะไม่ฟิต ไม่อึดแบบนี้ ในทางกลับกัน พวกตัวฟิตๆตัวอึดๆ ก็จะไม่มีเทคนิคสูงเท่าเนดเวด โค้ชเลยใช้งานเนดเวดได้ง่ายและหลากหลายมากๆ และนั่นยังรวมถึงการมีส่วนร่วมในเกมรับด้วย
เขาเป็นปีกที่เล่นเป็นเพลย์เมคเกอร์ได้ หรือพูดกลับกันก็ได้ว่า เป็นเพลย์เมคเกอร์ที่เล่นเป็นปีกได้ หรือจะให้เล่นเป็นกองกลางตัวกลาง ก็ไม่ใช่อุปสรรค
จากคุณสมบัติทั้งหมด ผู้เล่นในยุคนี้ ที่ดูใกล้เคียงสุด คือ เดอ บรอย (ที่ไปยืนฝั่งซ้าย + ตัดเข้าใน)

เพิ่มเติม สเน่ห์อีกอันของเนดเวด คือ ทรงผม
แต่ก่อนจอทีวี จะไม่ใหญ่มากหรอก 20 นิ้วงี้ หรือใครเงินน้อย บางทีก็จอแค่ 14 นิ้ว
เวลาดูบอล การจะมองว่าใครเป็นใคร เลยต้องใช้เวลาซักพัก นอกจากจะจำตำแหน่งให้แม่นแล้ว ยังต้องใช้เวลาเพ่งซักพักว่า อ๋อ ตรงนี้ เป็นคนนี้แน่ๆ
แต่เนดเวดนี่ไม่ต้องนะ ไม่ต้องพยายามมองหาหรอก เด่วก็เห็นเอง พอกล้องจับภาพมุมกว้างๆ แล้วมีใครหัวทองๆ วิ่งหัวกระเซิงๆโผล่มา ก็นั่นแหละ เนดเวด
 

เอาเฉพาะที่ยูเว่
ถ้าซีดานคือ กลางระดับทอปสุดๆของยุคนั้น
เนดเวดก็คือคนที่มาแทนซีดาน ชนิดที่ว่าแฟนๆยูเว่ไม่ได้อาลัยอาวรณ์หรือคิดถึงซีดานอีกต่อไป นั่นแหละคือประสิทธิภาพของเนดเวด

โดยเฉพาะ 2 ปีแรกของเนดเวดที่ยูเว่ (2001-02 / 2002-03 ได้บัลลงดอร์ ในปี 2003)
ลิปปี้ โค้ชในตอนนั้น สามารถจูนแผนที่ลงตัวได้ คือแผน 4-3-1-2 โดยเนดเวดจะเล่นตรงเลข 1

หลังจากนั้นปีอื่นๆ โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2004 ขึ้นมา
ทั้งโค้ชใหม่อย่างคาเปลโล่ / หรือสมัยเล่นในเซเรีย บี /หรือตั้งแต่เลื่อนชั้นกลับขึ้นมา ไปจนกระทั่งเนดเวดแขวนสตั๊ดเนี่ย ยูเว่จะอยู่ในโครงสร้างแผน 4-4-2 เกือบตลอดเลยก็ว่าได้ โดยเนดเวดจะเล่นตรงริมเส้นฝั่งซ้าย แต่ก็พร้อมตัดเข้าในได้เสมอ
เนดเวดในช่วงอายุเยอะๆ เรื่องการโซโล่ การเลี้ยง ความคล่องตัวหายไปเยอะแล้ว แต่เทคนิคยังสุดยอดอยู่ การจ่าย การยิงยังไว้ใจได้ ที่สำคัญคือความฟิต ความอึด ไม่ตกลงไปตามอายุเลยแม้แต่น้อย


ความฟิต ความอึด นี่เป็นข้อดีที่พิเศษมากๆ
เพราะพวกตัวเทคนิค มักจะไม่ฟิต ไม่อึดแบบนี้ ในทางกลับกัน พวกตัวฟิตๆตัวอึดๆ ก็จะไม่มีเทคนิคสูงเท่าเนดเวด โค้ชเลยใช้งานเนดเวดได้ง่ายและหลากหลายมากๆ และนั่นยังรวมถึงการมีส่วนร่วมในเกมรับด้วย
เขาเป็นปีกที่เล่นเป็นเพลย์เมคเกอร์ได้ หรือพูดกลับกันก็ได้ว่า เป็นเพลย์เมคเกอร์ที่เล่นเป็นปีกได้ หรือจะให้เล่นเป็นกองกลางตัวกลาง ก็ไม่ใช่อุปสรรค
จากคุณสมบัติทั้งหมด ผู้เล่นในยุคนี้ ที่ดูใกล้เคียงสุด คือ เดอ บรอย (ที่ไปยืนฝั่งซ้าย + ตัดเข้าใน)

เพิ่มเติม สเน่ห์อีกอันของเนดเวด คือ ทรงผม
แต่ก่อนจอทีวี จะไม่ใหญ่มากหรอก 20 นิ้วงี้ หรือใครเงินน้อย บางทีก็จอแค่ 14 นิ้ว
เวลาดูบอล การจะมองว่าใครเป็นใคร เลยต้องใช้เวลาซักพัก นอกจากจะจำตำแหน่งให้แม่นแล้ว ยังต้องใช้เวลาเพ่งซักพักว่า อ๋อ ตรงนี้ เป็นคนนี้แน่ๆ
แต่เนดเวดนี่ไม่ต้องนะ ไม่ต้องพยายามมองหาหรอก เด่วก็เห็นเอง พอกล้องจับภาพมุมกว้างๆ แล้วมีใครหัวทองๆ วิ่งหัวกระเซิงๆโผล่มา ก็นั่นแหละ เนดเวด