บทความต่อไปนี้แปลคร่าวๆมาจาก Guardian นะครับ ใส่คำอธิบายนิดหน่อย กล่าวถึงความรู้สึกของผู้หญิงคนนึงที่ถูกกระทำ

อยากให้อ่านให้จบนะครับแฟนเชลซี จะได้เข้าใจถึงหัวอกของคนๆนึง ถ้าไม่ชอบยังไง อ่านเอาจากต้นฉบับได้นะครับ..

ในวันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2010 ชีวิตของ Vanessa ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อศาลในกรุงลอนดอนปฏิเสธคำขอ ไม่ให้เปิดเผยเรื่องราวชีวิตส่วนตัวของเธอและของคู่กรณี, John Terry

ย้อนไป วาเนสซ่าโตมาในฝรั่งเศสแต่เธอก็มาอยู่ในอังกฤษได้ 11 ปีแล้ว และได้แต่งงานกับเวย์นบริจด์ในปี 2005 ยังไงก็ตามสุดท้ายได้แยกทางกันในปี 2009 และมีบุตรชาย 1 คน อายุได้ 3 ขวบ

เธอเล่าเรื่องนี้ให้ Guardian ฟัง โดยไม่ได้เงินสักแดงเดียว ซึ่งแตกต่างกับเรื่องที่พวกเราได้ยินมาอย่างสิ้นเชิง

"เมื่อตอนที่ฉันยังอยู่กับเวย์น พวกเราเคยได้รับการเสนอเงิน 50K/100K เพื่อให้ตีพิมพ์เรื่องราวของเรา แต่เราก็ปฏิเสธไป เพราะเวย์นไม่สะดวกใจ และเราชอบที่จะอยู่แบบเป็นส่วนตัวมากกว่า ไม่ได้ต้องการที่จะมีชื่อเสียงอะไร"

"มีครั้งนึงที่นักข่าวมาที่ประตูบ้าน และกล่าวว่าเขามีข้อมูลที่ฉันไปนอนกับคนอื่น ฉันเลยบอกไปว่ามึงมันมั่ว ถ้าลงข่าวนี้ เดี๋ยวแม่จะฟ้องให้ดู สักพักไอ้คนเดิมก็กลับมาอีก พร้อมบอกว่าจะไม่ลงข่าวนี้ถ้าฉันตกลงที่จะกล่าวหา Lampard ว่าเคยคิดจะซัดฉัน ฉันเลยด่าไปอีกรอบว่า มึงมันบ้า!!"

แต่เรื่องกับเทอรี่ เธอกล่าวว่าเธอตัดสินใจผิดที่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์แบบเอ๊กซ์คลูซีฟในทันที เนื่องจากเธอทำตัวไม่ถูก ซึ่งทำให้กองทัพนักข่าวมาถล่มกันที่หน้าบ้านของเธอ

"นักข่าวมากันเยอะมากที่หน้าบ้าน เอาแต่กดออดซ้ำๆไปมา พวกเขายื่นข้อเสนอเป็นเงินเพื่อให้ฉันพูด ลูกของฉันได้แต่ถามว่าคนพวกนี้เป็นใคร ทำไมเอาแต่ถ่ายรูปพวกเรา ฉันได้แต่พยายามทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น"

เป็นเวลา 6 วันที่เธอโดนถล่มด้วยเรื่องอื้อฉาวเหล่านี้ สุดท้ายเธอออกมาพูดว่า เธอไม่มีอะไรจะมาขายข่าว และแค่นั้นเอง เรื่องราวก็กลายเป็นเละเทะไป นสพ.ที่พยายามซื้อข่าวจากเธอกลับออกมากล่าวหาว่าเธอไม่รับเงินนสพ.เพราะรับเงินเทอรี่มาแล้ว

The Times บอก 400K NewsofTheWorld บอก 750K Evening Standard มาเหนือกว่าพวก บอก 800K แต่ความเป็นจริงคือ เธอไม่ได้ขายข่าวให้ใครสักคน ที่เธอมาสัมภาษณ์ตอนนี้กับ Guardian มันบอกทุกอย่างแล้ว (ฟรี)

"ฉันไม่ได้รับสัก 1 ปอนด์จากเทอรี่"

ในระหว่างนั้น นสพ.ยังเล่นข่าวไม่เลิก กล่าวหาว่าเธอจัดไป 5 คนในทีมเชลซี นสพ.อีกเจ้าไม่น้อยหน้า เพิ่มเป็น 8 คนไปเลยสะใจกว่า ส่วนเจ้าเก่าที่ออกมาแฉคนแรกจัดเต็มสุดบอกว่า หาเหยื่อตามที่มีโปรแกรมบอลเตะเลย

"มันน่าขยะแขยงสุดๆ ฉันมีลูกอายุ 3 ขวบที่จะอ่านข่าวพวกนี้เมื่อโตขึ้น เรื่องพวกนี้ตอแหลทั้งสิ้น แต่คุณจะไปสู้กับสื่อได้ยังไงล่ะ? คุณจะทำอะไรได้?"

"ไม่มีใครสนใจ พวกนสพ.ไม่มีใครอยากจะลงว่าข่าวของตัวเองมันไม่จริง ที่พวกเขาต้องการได้ยินก็คือฉันมันร่านไปทั่ว เพื่อเขาจะขายข่าวได้ พอฉันปฏิเสธว่ามันไม่จริง และไม่ให้สิ่งที่พวกเขาต้องการ (ขายข่าวปลอมเอาเงิน) นั่นคือฉันที่โดนลงโทษโดยสื่อ (ไร้จรรยาบรรณ) เหล่านี้

Source: https://www.theguardian.com/media/2010/apr/10/vanessa-perroncel-interview

จบ...บทสรุปเรื่องนี้คือ

- นสพ.ที่ออกมาแฉคนแรกๆก็ลงขอโทษแล้ว (News of the world/Mail on Sunday) แต่ผู้คนก็ไม่สนใจที่จะฟัง ยังยืนยันบอกว่าผู้หญิงคนนี้และเทอรี่ผิดจริง

- Perroncel claims that she is back on good terms with Bridge, who "now knows the truth". We talk all the time, she said. สรุปว่าพี่เวย์นเข้าใจแล้ว (MAY 2010)

Source: https://www.theguardian.com/media/greenslade/2010/may/19/john-terry-medialaw



ผมหวังว่าหลายท่านโดนเฉพาะแฟนเชลซีจะได้เข้าใจสักที แต่ถ้าท่านยังยืนยันตามที่ท่านเชื่อ อันนั้นก็แล้วแต่

ผมคืนความเป็นธรรมให้เทอรี่และผู้หญิงคนนี้ได้เพียงเท่านี้

ส่วนคนที่พอจะเห็นด้วยกับผมก็อย่าให้ประวัติศาสตร์ถูกบิดเบือนเขียนโดยสื่อไม่กี่เจ้าเลย
.
.
.
.
People hearing without listening...

อ่านไปอ่านมา นางก็ไม่ได้ปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นชู้นะ แค่มาบอกว่านักข่าวโกหกเรื่องรับเงิน

ส่วนผมมีคำตอบในใจอยู่ล่ะ ไม่งั้นบ้านไม่แตกหรอก

ขึ้นชื่อว่าสื่ออังกฤษนี่ บอกเลย ประวัติแย่ๆเสียๆหายๆนี่มานมนานตั้งแต่สมัยไหนแล้ว
สื่ออังกฤษมันไม่สนอะไร ยิ่งความเป็นส่วนตัวนี่ตัดทิ้งไปได้เลย
ขอแค่ "ข่าวขายได้"เท่านั้นแหละ
สื่อบ้านเรานี่กระจอกไปเลย

เชื่อเถอะนี่ขนาดจากปากคนเสียหาย คนมันไม่เชื่อมันก็ไม่เชื่อหรอก
คนที่ซวยคือ เทอรี่กับวาเนสซ่า ที่โดนสังคมประนามไปแล้ว
เรื่องจริงเป็นไงไม่รู้แต่สังคมก็ตัดสินคนสองคนว่าเลวไปแล้ว
ตามข่าวที่เสนอมาก่อนหน้าจนถึงตอนนี้

ส่วนตัว ยังไงเทอรี่ก็คือสุดยอดกัปตัน สุดยอดนักเตะสำหรับผมเสมอจนถึงตอนนี้

ขนาด วิลฟรีด ซาฮา ยังมีข่าวไปซัดลูกสาวมอยส์เลย โคตรเพี้ยน

คนที่รู้ความจริงที่สุดน่าจะเป็นบริดจ์ เทอรรี่และวาเนสซ่า ชู้หรือป่าวไม่รู้ แต่บริดจ์ไม่จับมือเทอร์รี่ คล้ายกับแม็กซี่ไม่จับมืออิคาร์ดี้ คนเลยเชื่อไปว่าน่าจะจริง

มองในแง่ร้ายคือ เจทีแอบจ่ายใต้โต๊ให้ผู้หญิงคนนั้น เพื่อหลุดข่าวฉาวเพื่อให้ตนเองบริสุทธิ์

ส่วนความจริงหากตามนี้ก็โคตรซวยเลย คนเขาตัดสินจากข่าวทีแรกแล้ว

เทอร์รี่เป็นคนเทาๆ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

ขอมองอีกมุม นะครับ ไม่ได้อคติ หรือ เข้าข้างใครนะครับ

ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง จริงนะครับ

ทำไม เทอรี่ และ ผู้หญิงคนนี้ ไม่ขึ้นศาล ฟ้องหนังสือพิมพ์ เลยหล่ะ ครับ

เทอรี่ ก็รวย และ มีผู้สนับสนุนเป็นล้านๆคน ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง ทำเสียชื่อเสียงขนาดนี้ ไม่มีทางที่ปล่อยลอยนวล หรอกครับ

ตราบใดที่ยังไม่จบในศาลใครพูดอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ

แต่จากที่บริดจ์ไม่จับมือเทอรรี่ด้วยเหตุผลอะไรก็เถอะ มันก็มาจากเรื่องนี้แหละ ‘ไม่มีมูลหมาไม่ขี้’

แต่ได้ข่าวตอนนี่เทอรรี่ไปซื้อแมนชั่นอยุ่ใกล้บริดจ์เลยหนิ
หวังว่าจะไม่จ๊ะเอ๋เจอกันนะติดกันขนาดนั้น xD

ผมว่ามันก็ไม่น่าจะมีอะไรหรอก เพียงแต่เอาคำคนมาเขียนนินทาว่าร้ายเค้ามากกว่า

ถามว่าทำไมไม่ฟ้องเหรอ มันก็เหมือนเราจะฟ้องตำรวจ/อัยการ/ศาลนั้นแหละครับ

ฟ้องไป ผลดีก็ไม่ใช่ตกกับตัวเองนะ ดีไม่ดีโดนขุดยันชาติหน้าเลยก็เป็นได้

สุดท้ายก็ทำได้แค่แบนหรือบอยคอตสื่อกากๆพวกนี้ได้อย่างเดียว

แม้แต่คนสนใจอ่านยังน้อยเลยครับ

นึกถึงพี่ที่ทำงานโรงแรมเลย มีนักข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นมาไถตังตลอด ครั้งละเป็นหมื่น(สมัยยี่สิบปีที่แล้วล่ะ) มากินเหล้าที่บาร์ฟรีอีก โดยแลกเปลี่ยนกับการที่เขาจะไม่เขียนข่าวถึงโรงแรมแบบเสียหาย ไม่เกี่ยวกับข่าวเทอร์รี่หรอกแต่แค่นึกถึงว่าอิทธิพลของคนข่าวนี่ไม่เบา

คนเค้าจะมองเทอร์รี่ว่าซัดเมียเพื่อนไปแล้ว เอาหลักฐานไรมาอ้างมันก็ไม่เชื่อหรอก ความเห็นแบบกำปั้นทุยดินข้างๆคูๆอย่างถ้าไม่จริงทำไมไม่ฟ้องกลับก็ยังแถกต่อไปได้

คนที่ถามว่าไม่ขริงทำไมไม่ฟ้องกลับ ผมมองว่าอาจจะยังมีประสบการณ์ชีวิตไม่เยอะนะ ไม่เหมือนเด็กๆที่ฟ้องครูได้ทุกอย่าง

แต่ชีวิตจริง สิ่งที่เจอมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

อ่านแล้วงง สรุป เธอกับเทอรี่ไม่ได้เล่นชู้กันเหรอ แล้วเวนบริดมันโกรธเทอรี่ทำไมอ่ะ