เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา Matt Hancock รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและการดูแลสังคมของอังกฤษ ได้ออกมาพูดกดดัน ให้นักเตะ Premier League ทำหน้าที่ของตัวเองโดยให้ยอมหั่นค่าเหนื่อย 30% ท่ามกลางการระบาดของไวรัส

แต่กระแสนั้นถูกตีกลับโดยนักเตะ เพราะมองว่า ค่าเหนื่อย 30% นั้น จะย้อนกลับไปที่เจ้าของสโมสรมากกว่าที่จะได้นำไปช่วยองค์กร NHS (National Health Service) ของอังกฤษ ที่กำลังทำการรักษาผู้ป่วยจาก covid-19 จำนวนมาก



เสี่ยหมูรูน ได้เป็นแกนนำในการออกมาพูดถึง เรื่องที่ Matt Hancock นั้นได้ออกมาบีบให้นักเตะนั้นสละค่าเหนื่อย 30%

โดยเสี่ยหมูมองว่า ตัวนักเตะเองได้มีแผนการปรึกษาหารือกันอยู่ด้วยแล้ว ถึงการตั้งกองทุน #PlayersTogether ซึ่งยังไม่ได้ถูกประกาศออกมาอย่างเป็นทางการในเวลานั้น

พร้อมกับแสดงความเห็นว่า ไม่ใช่นักเตะทุกคน ที่พร้อมจะสละค่าเหนื่อย 30% โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักเตะดาวรุ่งที่มีรายได้ไม่ต่างไปจากพนักงานเงินเดือนปกติ หรือนักเตะแอฟริกันที่ต้องการจะช่วยเหลือประเทศบ้านเกิดของเขามากกว่า เช่น Sadio Mane ที่กำลังจะเปิดตัว รพ ที่ได้เริ่มสร้างไว้ที่บ้านเกิดใน 6 เดือนข้างหน้านี้

อ่านตัวเต็มคำสัมภาษณ์เสี่ยหมูที่ link นี้ http://www.soccersuck.com/boards/topic/1870728

และความจริงแล้ว ความเห็นของ Matt Hancock นั้นไม่แฟร์เลย กับการพุ่งเป้าไปที่นักเตะ เพราะตามสถิติผู้ที่มีรายได้มากกว่า 1 ล้านปอนด์ต่อปีในอังกฤษแล้ว ผู้เล่นใน Premier League นั้นเป็นสัดส่วนเพียงแค่ 2% เท่านั้นเอง

นักเตะทั้งหลายนั้น มีจำนวนมากเลย ที่พื้นฐานชีวิตเติบโตมาจากความยากจน และอาชีพการค้าแข้งนั้นสั้น หากแขวนสตั๊ดไปแล้ว ก็ไม่มีโอกาสได้มีรายได้ฟู่ฟ่าในระดับนี้อีกแล้ว

พร้อมกับที่นักเตะทั้งหลาย ได้มีการร่วมมือบริจาคให้กับองค์กรการกุศลอยู่อย่างต่อเนื่องเป็นประจำอยู่แล้ว มันจึงไม่แฟร์มากๆ ที่จะไปตีตรากับผู้เล่น หากจะไม่ยอมสละค่าเหนื่อย

และยิ่งกว่านั้น การหั่นค่าเหนื่อยของนักเตะ จะทำให้รายได้ของรัฐจากภาษีค่าเหนื่อยนักเตะ กลับลดลงอีกด้วย

ดังนั้นกระแสจึงถูกตีกลับไปที่ตัวรัฐมนตรี นักการเมืองและนักธุรกิจทั้งหลาย ที่กำลังใช้ชีวิตหรูหรา ว่าทำไมถึงไม่เป็นผู้เสียสละบ้าง

อ้างอิง https://www.chroniclelive.co.uk/sport/football/football-news/stat-proves-matt-hancock-wrong-18051544



จากโครงการ #PlayersTogether ที่ได้ประกาศเมื่อคืนตามเวลาที่อังกฤษ เป็นโครงการที่กัปตันทีม Premier League ได้เป็นตัวตั้งตัวตี ในการจัดตั้งขึ้นมาร่วมมือกับ NHS

ข่าว #PlayersTogether http://www.soccersuck.com/boards/topic/1871610

โครงการได้ถูกจัดตั้งหลังจากการพูดคุยกับผู้เล่นจำนวนมาก ในการจะกระจายเงินที่รวบรวมจากผู้เล่น ด้วยความสมัครใจ ไม่บังคับจำนวนเงิน จึงเป็นทางเลือกที่ยืดหยุ่นกว่า ให้สำหรับผู้เล่นที่มีความพร้อมในการช่วยเหลือ

หลังจากได้มีการประกาศโครงการนี้ Matt Hancock ได้มีท่าที ในเชิง ชุบมือเปิบ เหมือนว่าตนเองเป็นคนทำให้เกิดโครงการนี้ขึ้นมา

"ยินดีรับโครงการแบบนี้ พร้อมบอกว่า นักเตะทั้งหลาย คุณกำลังทำหน้าที่ของคุณ"

แต่ James Pearce นักข่าววงในของ Liverpool ได้มาตอกกลับว่า นักเตะทั้งหลาย ได้พร้อมจะทำหน้าที่ในส่วนของเขาอยู่แล้ว

และก่อนจัดตั้งกองทุนนี้ ได้มีการพูดคุยระหว่างนักเตะร่วมอาทิตย์แล้ว ไม่ใช่ออกมาเพียงเพราะการพูดกดดันของ Matt Hancock

นักเตะส่วนใหญ่ ได้มีการช่วยเหลือพื้นที่ท้องถิ่นของเขาอยู่แล้ว คุณควรจะไปสนใจพวกคนที่สามารถช่วยได้ แต่ตัดสินใจจะไม่ช่วย มากกว่าที่จะมาแสดงความเห็นแบบไม่บันยะบันยังแบบนี้

ผมว่าจัดตั้งเป็นกองทุนที่ให้ร่วมบริจาคตามความสมัครใจแบบนี้แหละ ดีกว่าหักค่าเหนื่อย 30% เยอะ

เพราะนักเตะแต่ละคนก็มีความจำเป็นของเขาเหมือนกัน

อยากได้ซีนแต่ไม่ละเอียด555

รมต.สาธารณสุขกากๆแบบนี้ ผมก็เคยเห็นครับ

ชื่นชมครับ

Matt Hancock
ตอนเด็ก: โตมาในครอบครัวทำธุรกิจพัฒนา Software
มหาลัย: ป.ตรี การเมืองการปกครอง ป.โท พัฒนาธุรกิจ
เรียนจบ: ทำงานแบงค์ที่ Bank of England. และเล่นการเมืองท้องถิ่น
แต่: ได้เป็น รมต.สาธารณะสุข

พอร์ตเรื่องเหมือนประเทศใกล้ๆบ้านเราเลย

ดีกว่าของเราเยอะ